รู้จักนวัตกรรมตึงกระชับ ‘อัลเทอร่า’ คืออะไร ช่วยอะไรได้บ้าง
เมื่ออายุมากขึ้น ปัญหาผิวหนังหย่อนคล้อยคงกลายเป็นหนึ่งในเรื่องปวดหัวของใครหลายคน ซึ่งเมื่อลองค้นหาวิธีแก้ปัญหาผิว ก็อาจพบกับตัวเลือกมากมาย ทำให้เกิดคำถามคาใจว่า เราควรเลือกรักษาด้วยวิธีไหนดี แต่รู้หรือไม่ว่า หนึ่งในเทคโนโลยีที่มีการพูดถึงมากที่สุด นั่นก็คือเทคโนโลยี “Ulthera” แต่จะสามารถช่วยแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยอย่างเห็นผลได้จริงหรือไม่ บทความนี้จะพาไปไขข้อข้องใจ ก่อนตัดสินใจเลือกใช้บริการกัน
รู้จักเทคโนโลยียกกระชับผิวแบบไม่ต้องผ่าตัด Ulthera คืออะไร?
Ulthera (อัลเทอร่า) คือหนึ่งในเทคโนโลยียกกระชับผิว “Non-Invasive” ซึ่งเป็นการส่งคลื่นพลังงานเข้าสู่ชั้นผิวหนัง โดยไม่ต้องผ่าตัด ทำให้ผิวไม่เกิดบาดแผล จึงไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตประจำวันตามปกติได้ทันทีหลังรับการรักษา โดย Ulthera เป็นนวัตกรรมกระชับผิวหน้าและลำคอที่ผ่านการรับรองจาก FDA สหรัฐอเมริกา ที่จะทำการรักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (High Intensity Focused Ultrasound) ในการปล่อยพลังงานลงลึกสู่ชั้นผิวหนังอย่างแม่นยำ จึงเข้ารักษาได้อย่างตรงจุด เพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ส่งผลให้ผิวหน้าเต่งตึง ยกกระชับ ริ้วรอยตื้นขึ้น และดูอ่อนเยาว์ลงหลักการทำงานของ Ulthera
การทํา Ulthera มีหลักการทำงาน คือการใช้พลังงานคลื่นอัลตราซาวนด์แบบพิเศษที่เรียกว่า Micro-Focused Ultrasound (MFU) ซึ่งเป็นคลื่นเสียงอัลตราซาวนด์ความถี่สูง (High Intensity Focused Ultrasound) ที่สร้างความร้อนประมาณ 60-70°C เพื่อยิงจุดโฟกัสขนาดเล็กประมาณ 1 มม. ลงลึกสู่ชั้นผิวหนัง SMAS (Superficial Musculo-Aponeurotic System) ทำให้ชั้นเนื้อเยื่อเกี่ยวพันตึงกระชับมากขึ้น อีกทั้งยังเข้าไปกระตุ้นให้เซลล์ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) สร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ใต้ชั้นผิวหนังผลลัพธ์ที่ได้จากการทำ Ulthera
- เมื่อรู้ถึงหลักการกันไปแล้ว หลายคนอาจสงสัยว่าการทำอัลเทอร่า ช่วยอะไรบ้าง ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้จากการทำ Ulthera ได้แก่
- ผิวหน้าเต่งตึง ดูกระชับ
- ลดเลือนริ้วรอยให้ดูตื้นขึ้น
- รูขุมขนเล็กลง
- ปรับรูปหน้าให้ดูเรียวขึ้น
ข้อดีของ Ulthera
- พลังงานลงลึกสู่ผิวหนังชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่ศัลยแพทย์ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้า จึงเห็นผลลัพธ์ได้โดยไม่ต้องผ่าตัด
- ช่วยควบคุมความร้อนและพลังงานได้อย่างแม่นยำด้วยเทคโนโลยี MFU
- มีหน้าจอแสดงผลชั้นผิวแบบ Real-Time ทำให้แพทย์สามารถเห็นสภาพผิวหนังที่กำลังรักษา เพื่อดูระดับความลึกของจุดที่ยิงลงไปได้แบบเรียลไทม์ จึงสามารถยิงพลังงานลงไปได้ถูกจุด
- หัวยิงสำหรับส่งคลื่นเสียงมีหลายขนาด ซึ่งแต่ละขนาดจะลงลึกถึงชั้นผิวที่แตกต่างกัน จึงสามารถรักษาได้อย่างครอบคลุมในหลายบริเวณ ดังนี้
- หัวขนาด 1.5 มม. ยกกระชับผิวชั้นบน ลดเลือนริ้วรอยตื้น
- หัวขนาด 3.0 มม. ยกกระชับผิวหย่อนคล้อย กระชับไขมัน
- หัวขนาด 4.5 มม. ยกกระชับผิวชั้นลึก หรือชั้น SMAS มักใช้ในการยกแก้ม เหนียง ลำคอ
- ใช้เวลาในการทําทั่วใบหน้าเพียง 30-60 นาที
- เนื่องจากเป็นการยกกระชับผิวแบบ Non-Invasive จึงไม่มีบาดแผล ไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติทันที
Ulthera เจ็บไหม?
หนึ่งในคำถามยอดฮิตของการทำอัลเทอร่า คือข้อสงสัยว่าเจ็บไหม ซึ่งระหว่างทำ Ulthera อาจเกิดความรู้สึกอุ่นร้อนในระดับที่สามารถทนได้และเจ็บจี๊ดอยู่บ้าง ซึ่งปฏิกิริยาอุ่นร้อนที่เกิดขึ้น เป็นสิ่งที่ยืนยันว่ากำลังมีความเปลี่ยนแปลงที่ชั้นใต้ผิว อย่างไรก็ตาม ระดับรู้สึกอาจขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล โดยจะขึ้นอยู่กับพลังงานที่ใช้ บริเวณที่ทำการรักษา รวมถึงความไวต่อความรู้สึกของผู้รับการรักษา จึงสามารถแจ้งแพทย์ผู้ทำการรักษาเพื่อให้ปรับระดับพลังงานของ Ulthera ให้เหมาะสมกับสภาพผิวและความไวต่อความรู้สึกของผู้เข้ารับการรักษาได้Ulthera ปลอดภัยไหม?
Ulthera เป็นเทคโนโลยียกกระชับผิวหน้าและร่างกายที่ได้รับความนิยม โดยมีการใช้งานมานานกว่า 10 ปี ได้รับการรับรองจาก FDA ทั้งในอเมริกา ไทย เอเชีย และยุโรปว่าปลอดภัย เป็นการใช้คลื่นเสียงอัลตราซาวนด์ความถี่สูงลงสู่ผิวชั้นลึกโดยไม่ส่งผลต่อเนื้อเยื่อข้างเคียง รวมถึงได้รับการพัฒนาและทดสอบมาอย่างยาวนานโดยแพทย์สามารถควบคุมความลึกและความเข้มข้นของพลังงานได้ จึงช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงสามารถทำ Ulthera บริเวณไหนได้บ้าง?
- หน้าผาก
- คิ้ว
- แก้ม
- ใต้ตา
- ร่องแก้ม
- รอบปาก
- กรอบหน้า
- เหนียง
- ลำคอ
การเตรียมตัวก่อนทำ Ulthera
- ปรึกษาแพทย์เพื่อแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับโรคประจำตัวและหัตถการที่เคยทำมา เพื่อประเมินความเหมาะสมในการวางแผนปรับรูปหน้าว่าควรทำกี่ Line หรือกี่ Shot จึงจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจน
- หลีกเลี่ยงการออกแดดแรง หรือการทำกิจกรรมกลางแจ้งที่อาจทำให้ผิวบอบบางลงได้
- งดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่
ผลลัพธ์หลังทำ Ulthera
หลังจากการทำอัลเทอร่า จะเห็นผลลัพธ์ผิวหน้าตึงกระชับขึ้น รูขุมขนเล็กลง ริ้วรอยตื้นขึ้น ประมาณ 30% จากนั้นจะเห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจนมากขึ้นเรื่อย ๆ และจะเห็นผลลัพธ์ได้ดีที่สุดภายในระยะเวลา 3 เดือน โดยผลลัพธ์ที่ได้จากการทำ Ulthera จะคงอยู่ได้นาน 1 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลควรทำ Ulthera กี่ครั้ง
ดังที่กล่าวไปว่าการทำ Ulthera จะให้ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 1 ปี ซึ่งการทำ Ulthera ทุก 1-2 ปี ก็สามารถเห็นถึงผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงของผิวได้อย่างชัดเจนแล้ว จึงแนะนำให้เข้ามาทำอย่างต่อเนื่องปีละ 1 ครั้ง เพื่อคงผลลัพธ์ผิวตึงกระชับให้อยู่ได้อย่างยาวนานยิ่งขึ้นการดูแลตัวเองหลังทำ Ulthera
การทำ Ulthera มีการปฏิบัติตัวที่ทำได้ง่าย หากมีรอยบวมแดงเกิดขึ้น โดยทั่วไปแล้วอาการจะค่อย ๆ หายไปภายใน 24-48 ชั่วโมง แต่สามารถดูแลตัวเองในเบื้องต้นเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ดีที่สุด ดังนี้- ประคบเย็นบริเวณที่ทำ โดยใช้ผ้าขนหนูห่อก้อนน้ำแข็ง ประคบประมาณ 10-15 นาที เพื่อลดอาการบวมแดง ช่วยให้รู้สึกสบาย
- ทำความสะอาดหน้าด้วยน้ำเปล่า
- สามารถทาครีมบำรุงผิวและครีมกันแดดได้ตามปกติ
- หลีกเลี่ยงการออกแดดแรง ป้องกันผิวจากแสงแดด
- งดดื่มแอลกอฮอล์ ยาแก้ปวด ยาต้านการอักเสบ 1 สัปดาห์หลังทำ เนื่องจากยาบางชนิดอาจทำให้เกิดอาการบวมแดง หรือมีเลือดออก
- งดใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของ AHA, BHA เป็นเวลา 1 สัปดาห์หลังทำ เนื่องจากกรด AHA, BHA อาจทำให้ผิวระคายเคือง
- สามารถทำกิจวัตรและกิจกรรมต่าง ๆ ได้ตามปกติ
- สังเกตอาการหลังทำ หากมีความผิดปกติ เช่น บวมแดงมาก คัน ร้อน หรือมีเลือดออก ควรแจ้งแพทย์ทันที
ข้อห้ามและข้อควรระวังในการทำ
การทำอัลเทอร่าอาจไม่เหมาะกับผู้ที่มีเงื่อนไขด้านสุขภาพบางประการ เนื่องจากคลื่นพลังงานอาจส่งผลข้างเคียงที่อาจทำให้เกิดอาการเจ็บป่วย หรืออาการแทรกซ้อนได้ ผู้ที่มีเงื่อนไขด้านสุขภาพเหล่านี้จึงมีข้อควรระวังที่ต้องปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับการรักษา เช่น- ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์
- คุณแม่ที่อยู่ระหว่างการให้นมบุตร
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวบางชนิด เช่น โรคหัวใจ โรคลมชัก โรคติดเชื้อ
- ผู้ที่อายุมากกว่า 70 ปีขึ้นไป เนื่องจากอาจไม่เห็นผลลัพธ์หลังรักษาเท่าไรนัก
- ผู้ที่มีรอยแผลเป็น คีลอยด์ หรือรอยสักบริเวณที่ต้องการทำ
- ผู้ที่ทานยาบางชนิด เช่น ยาแอสไพริน ยาต้านการอักเสบ
- ผู้ที่ฝังอุปกรณ์โลหะหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ (Pacemaker) ไว้ในบริเวณที่ทำการรักษา
Ulthera ต่างจาก Sofwave และ Thermage อย่างไร
ด้วยตัวเลือกในการยกกระชับผิวหน้าที่มีอยู่มากมายในปัจจุบัน จึงอาจทำให้คนที่กำลังหาข้อมูลว่าอัลเทอร่า คืออะไร ช่วยอะไรบ้าง เกิดความสงสัยว่าหากเทียบกับเทคโนโลยียกกระชับหน้าอื่น ๆ แล้ว การทำ Ulthera จะให้ผลลัพธ์แตกต่างอย่างไร จึงได้นำเทคโนโลยียอดนิยมอย่าง Sofwave และ Thermage มาสรุปเปรียบเทียบกันไว้ ดังนี้- Ulthera คือการใช้พลังงานคลื่นอัลตราซาวนด์แบบพิเศษที่เรียกว่า Micro-Focused Ultrasound (MFU) ปล่อยพลังงานลงสู่ชั้นผิวหนัง SMAS (Superficial Musculo-Aponeurotic System) จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอยลึก ต้องการยกกระชับผิวหน้าอย่างมีประสิทธิภาพ โดยผลลัพธ์อยู่ได้นาน 1-2 ปี
- Sofwave คือการใช้พลังงานคลื่นอัลตราซาวนด์แบบพิเศษที่เรียกว่า Synchronous Ultrasound Parallel Beam Technology (SUPB) ปล่อยพลังงานลงสู่ชั้นผิวหนังหลายชั้น จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย รูขุมขนกว้าง ต้องการปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ โดยผลลัพธ์อยู่ได้นาน 1 ปี
- Thermage คือการใช้พลังงานคลื่นวิทยุแบบ Monopolar ในการปล่อยพลังงานลงสู่ชั้นผิวหนังหลายชั้น จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอย ต้องการยกกระชับผิวหน้าและลำคอ โดยผลลัพธ์อยู่ได้นาน 1-2 ปี
Ulthera | Sofwave | Thermage | |
คลื่นพลังงาน | คลื่นอัลตราซาวนด์ | คลื่นอัลตราซาวนด์ | คลื่นความถี่วิทยุ |
การส่งพลังงานลงชั้นผิว | ชั้น SMAS (กล้ามเนื้อ) | ชั้นหนังแท้ | ชั้นกำพร้า ชั้นหนังแท้ ชั้นไขมัน |
ผลลัพธ์ |
|
|
|
ระยะเวลาของผลลัพธ์ | 1 ปี | 1 ปี | 1 ปี |
จุดเด่น |
|
|
|
เหมาะสำหรับ | ผู้ที่ต้องการยกกระชับใบหน้า และต้องการให้กรอบหน้าชัด | ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย มีริ้วรอย ร่องลึก ต้องการให้ผิวดูกระชับและเรียบเนียน | ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย มีไขมันเยอะบริเวณแก้มและใต้คาง |
เลือกเข้ารับบริการ Ulthera ที่ไหนดี
เมื่อตัดสินใจได้แล้วว่าจะทำ Ulthera สิ่งต่อไปที่ควรคำนึงถึงคือ การเลือกว่าจะใช้บริการที่ไหนดีให้ปลอดภัยและได้รับผลการรักษาที่พึงพอใจที่สุด ซึ่งควรเลือกคลินิกด้วยความพิถีพิถัน โดยพิจารณาจากปัจจัยเหล่านี้- เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ปลอดภัย มีใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล
- เลือกคลินิกที่ให้บริการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการอบรมและมีประสบการณ์ใช้เครื่อง Ulthera โดยเฉพาะ
- เลือกคลินิกที่ใช้เครื่อง Ulthera แท้ นำเข้าจากสหรัฐอเมริกา สามารถตรวจสอบได้จากการสแกน QR Code ที่เครื่อง หรือสามารถตรวจสอบการรับรองเครื่องแท้ได้จากเว็บไซต์
- เลือกคลินิกที่สามารถขอคำปรึกษาปัญหาผิวหน้ากับแพทย์ก่อนทำ เพื่อที่แพทย์จะประเมินปัญหาและออกแบบการรักษาให้ตรงกับความต้องการของเรามากที่สุด
Author
-
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณและเลเซอร์ จบการศึกษาจากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต (เกียรตินิยมอันดับ 2) ผ่านการฝึกอบรมด้านการออกแบบใบหน้า จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รวมถึงการฝึกอบรมด้านการเติมเต็มและปรับรูปหน้าจาก 2 สถาบันที่มีชื่อเสียงระดับโลก อย่าง Merz Aesthetics และ Allergan Medical
View all posts