Skip to content

TEL : 081-841-5075, 02-258-4050

Facebook Instagram YouTube
Privato Clinic – Innovation Of Beauty  |  Bangkok
  • หน้าหลัก
  • เกี่ยวกับพรีวาโต
  • บริการทั้งหมดExpand
    • ชะลอวัย
    • ยกกระชับผิวExpand
      • XERF
      • Potenza
      • Sofwave
      • Ulthera
      • Thermage-FLX
    • รักษาสิว
    • เลเซอร์
    • โปรแกรมฉีด
    • บำรุงผิว
  • บทความExpand
    • สิว
    • ยกกระชับ
    • ดูแลผิว
    • ทำเลเซอร์
  • ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว
  • โปรโมชั่น
  • ผลลัพธ์การรักษา
  • วิดีโอรีวิวจากเคสจริง
  • สาขาของเรา
  • ไทยExpand
    • ไทย
    • English
    • 中文 (中国)
  • ปรึกษาแพทย์
Privato Clinic – Innovation Of Beauty  |  Bangkok
Consult a Doctor
Lifting

Ulthera กับ Ultraformer: เปรียบเทียบความแตกต่างทั้งหมดที่คุณต้องรู้

Byadmin สิงหาคม 15, 2025สิงหาคม 15, 2025
By นายแพทย์เลอพงษ์ กรุดเงิน Updated on สิงหาคม 15, 2025
✦ Medically reviewed by  นายแพทย์พนิต อุนรัตน์

Table of Contents

Toggle
  • Ulthera กับ Ultraformer คืออะไร? เปรียบเทียบเทคโนโลยีที่แตกต่างกัน
    • นิยามของ Ulthera: เทคโนโลยียกกระชับ MFU-V
    • นิยามของ Ultraformer: เทคโนโลยี MMFU เพื่อผลลัพธ์ที่หลากหลาย
  • Ulthera กับ Ultraformer แตกต่างกันอย่างไร? 5 ข้อเปรียบเทียบหลัก
    • 1. หลักการทำงานและเทคโนโลยี
    • 2. ระดับความลึกและจุดโฟกัสของพลังงาน
    • 3. หน้าจอแสดงผลแบบ Real-time Visualization
    • 4. ความรู้สึกขณะทำและระดับความเจ็บ
    • 5. ประเทศผู้ผลิตและมาตรฐานการรับรอง
  • การเปรียบเทียบผลข้างเคียง: Ulthera กับ Ultraformer มีข้อเสียอะไรบ้าง?
    • อาการบวมหลังทำ Ulthera กับ Ultraformer แตกต่างกันหรือไม่?
    • ความเสี่ยงและข้อควรระวังของแต่ละเครื่องมือคืออะไร?
  • เปรียบเทียบผลลัพธ์: Ulthera กับ Ultraformer แบบไหนเห็นผลและอยู่นานกว่ากัน?
    • ระยะเวลาที่เริ่มเห็นผลลัพธ์
    • ผลลัพธ์ของ Ulthera อยู่ได้นานแค่ไหน?
    • ผลลัพธ์ของ Ultraformer อยู่ได้นานแค่ไหน?
  • เปรียบเทียบราคา: ค่าใช้จ่ายของ Ulthera กับ Ultraformer แตกต่างกันเท่าไหร่?
    • ปัจจัยที่กำหนดราคาของ Ulthera
    • ปัจจัยที่กำหนดราคาของ Ultraformer
  • ใครเหมาะกับ Ulthera และใครเหมาะกับ Ultraformer?
    • ลักษณะปัญหาผิวที่เหมาะกับการทำ Ulthera
    • ลักษณะปัญหาผิวที่เหมาะกับการทำ Ultraformer
  • References
  • Author

Ulthera กับ Ultraformer คืออะไร? เปรียบเทียบเทคโนโลยีที่แตกต่างกัน

ulthera กับ ultraformer ต่างกันอย่างไร

Ulthera และ Ultraformer คือเทคโนโลยีอัลตราซาวด์เพื่อการยกกระชับผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด ซึ่งมีความแตกต่างกันในด้านเทคโนโลยีหลัก ประเทศผู้ผลิต และการแสดงผลแบบเรียลไทม์

ตารางเปรียบเทียบความแตกต่างที่สำคัญระหว่าง Ulthera และ Ultraformer:

หัวข้อ Ulthera (Ultherapy) Ultraformer
เทคโนโลยีหลัก MFU-V (Micro-focused Ultrasound with Visualization) MMFU (Micro and Macro Focused Ultrasound)
จุดเด่น มีจอภาพแสดงผลแบบเรียลไทม์ (DeepSEE) ช่วยให้แพทย์มองเห็นและรักษาชั้นผิวได้อย่างแม่นยำ ไม่มีจอภาพแสดงผลแบบเรียลไทม์ อาศัยความเชี่ยวชาญของแพทย์ในการกำหนดเป้าหมาย
ระดับความลึก 1.5, 3.0, 4.5 มม. เน้นการรักษาบริเวณใบหน้าและลำคอ มีหัวยิงหลากหลายตั้งแต่ 1.5 มม. ถึง 13 มม. ใช้ได้ทั้งใบหน้าและร่างกาย
ประเทศผู้ผลิต สหรัฐอเมริกา เกาหลีใต้
การรับรอง ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (US FDA) ไม่ได้รับการรับรองจาก US FDA แต่ผ่านการรับรองในเกาหลี (KFDA/MFDS) และยุโรป (CE Mark)

นิยามของ Ulthera: เทคโนโลยียกกระชับ MFU-V

Ulthera คือเทคโนโลยียกกระชับผิวโดยใช้คลื่นอัลตราซาวด์แบบเน้นเฉพาะจุดพร้อมระบบสร้างภาพ (Micro-focused Ultrasound with Visualization หรือ MFU-V) ซึ่งเป็นเครื่องมือยกกระชับผิวแบบไม่ผ่าตัดที่พัฒนาขึ้นในสหรัฐอเมริกา

เทคโนโลยีนี้จะส่งพลังงานอัลตราซาวด์ไปยังชั้นผิวหนังที่ความลึก 1.5, 3.0 และ 4.5 มิลลิเมตร เพื่อสร้างจุดความร้อนในชั้นหนังแท้ส่วนลึกและชั้น SMAS ซึ่งจะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ ทำให้ผิวค่อยๆ ตึงกระชับขึ้น จุดเด่นของ Ulthera คือเทคโนโลยีการสร้างภาพอัลตราซาวด์แบบเรียลไทม์ (DeepSEE) ที่ช่วยให้แพทย์มองเห็นชั้นผิวที่ต้องการรักษาและทำการรักษาได้อย่างแม่นยำและปลอดภัย ทั้งนี้ Ulthera เป็นเครื่อง MFU-V เพียงเครื่องเดียวที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) สำหรับการยกกระชับบริเวณคิ้ว คอ ใต้คาง และลดเลือนริ้วรอยบริเวณเนินอก

นิยามของ Ultraformer: เทคโนโลยี MMFU เพื่อผลลัพธ์ที่หลากหลาย

Ultraformer คือเครื่องมือยกกระชับผิวด้วยเทคโนโลยีคลื่นอัลตราซาวนด์ความเข้มข้นสูง (HIFU) จากประเทศเกาหลีใต้ ที่ใช้เทคโนโลยี MMFU (Micro and Macro Focused Ultrasound) ซึ่งมีความโดดเด่นในการส่งพลังงานได้ทั้งในระดับตื้น (Micro) และระดับลึก (Macro)

เทคโนโลยีนี้ช่วยให้ Ultraformer สามารถดูแลผิวได้หลากหลายวัตถุประสงค์ ตั้งแต่การยกกระชับผิวหน้าและลดเลือนริ้วรอย ไปจนถึงการกระชับสัดส่วนและลดไขมันตามร่างกาย ทำให้เป็นเครื่องมือที่มีความหลากหลายในการใช้งาน

Ulthera กับ Ultraformer แตกต่างกันอย่างไร? 5 ข้อเปรียบเทียบหลัก

Ulthera และ Ultraformer แตกต่างกันที่เทคโนโลยีแสดงผลแบบเรียลไทม์ ประเทศผู้ผลิต การรับรองจาก FDA และความหลากหลายในการใช้งาน โดยมี 5 ข้อเปรียบเทียบหลักดังนี้:

  1. เทคโนโลยี: Ulthera มีเทคโนโลยี MFU-V พร้อมหน้าจอแสดงภาพชั้นผิวแบบเรียลไทม์ (DeepSEE) ทำให้แพทย์ยิงพลังงานได้แม่นยำและปลอดภัยสูง ในขณะที่ Ultraformer ไม่มีหน้าจอแสดงผล จึงอาศัยความเชี่ยวชาญของแพทย์เป็นหลัก
  2. การรับรองและประเทศผู้ผลิต: Ulthera ผลิตในสหรัฐอเมริกา และเป็นเครื่องเดียวที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ (US FDA) สำหรับการยกกระชับ ส่วน Ultraformer ผลิตในเกาหลีใต้ ได้รับการรับรองจาก อย. เกาหลี (KFDA) และมาตรฐานยุโรป (CE Mark) แต่ไม่ผ่านการรับรองจาก US FDA
  3. การใช้งานและหัวยิง: Ulthera เน้นการยกกระชับใบหน้าและลำคอเป็นหลัก แต่ Ultraformer มีความหลากหลายมากกว่า ด้วยหัวยิงหลายระดับความลึกที่สามารถใช้ได้ทั้งยกกระชับใบหน้า ลดริ้วรอยรอบดวงตา และสลายไขมันตามร่างกาย
  4. ผลลัพธ์และระยะเวลา: ผลลัพธ์ของ Ulthera จะเห็นผลเต็มที่ในเวลาประมาณ 6 เดือน และคงอยู่ได้นาน 1-1.5 ปี ในขณะที่ Ultraformer จะเห็นผลเต็มที่ในเวลาประมาณ 3 เดือน และคงอยู่ได้นาน 6-12 เดือน
  5. ค่าใช้จ่าย: โดยทั่วไป Ulthera มีค่าใช้จ่ายสูงกว่าและจัดเป็นทรีตเมนต์ระดับพรีเมียม ส่วน Ultraformer มักมีราคาที่เข้าถึงง่ายกว่า

1. หลักการทำงานและเทคโนโลยี

Ulthera ใช้เทคโนโลยีคลื่นอัลตราซาวด์แบบเฉพาะเจาะจงพร้อมการสร้างภาพ (MFU-V) ในขณะที่ Ultraformer ใช้เทคโนโลยีอัลตราซาวด์แบบ Micro and Macro Focused Ultrasound (MMFU) ซึ่งมีความแตกต่างกันดังนี้

  • Ulthera: มีจุดเด่นคือเทคโนโลยี DeepSEE ซึ่งเป็นหน้าจอแสดงภาพชั้นผิวแบบเรียลไทม์ ทำให้แพทย์สามารถมองเห็นและยิงพลังงานไปยังชั้นผิวหนังแท้และชั้น SMAS ได้อย่างแม่นยำและปลอดภัย เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่สำหรับยกกระชับผิว
  • Ultraformer: ใช้เทคโนโลยี MMFU ที่มีหัวยิงหลากหลายความลึก ตั้งแต่หัวยิงแบบ Micro สำหรับยกกระชับใบหน้า ไปจนถึงหัวยิงแบบ Macro สำหรับสลายไขมันและกระชับผิวตามร่างกาย ทำให้ใช้งานได้หลากหลายกว่า แต่จะไม่มีหน้าจอแสดงภาพแบบเรียลไทม์

เทคโนโลยี MFU-V ของ Ulthera คืออะไร?

เทคโนโลยี MFU-V คือ เทคโนโลยีคลื่นอัลตราซาวด์ที่เน้นพลังงานเป็นจุดเล็กๆ ร่วมกับการแสดงภาพแบบเรียลไทม์ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเครื่อง Ulthera เทคโนโลยีนี้ช่วยให้แพทย์สามารถมองเห็นชั้นผิวเป้าหมายได้ตลอดเวลาขณะทำการรักษาผ่านหน้าจอที่เรียกว่า DeepSEE ทำให้สามารถส่งพลังงานได้อย่างแม่นยำและปลอดภัยยิ่งขึ้น

เทคโนโลยี MMFU ของ Ultraformer คืออะไร?

เทคโนโลยี MMFU (Micro and Macro Focused Ultrasound) คือเทคโนโลยีคลื่นอัลตราซาวด์แบบเฉพาะเจาะจง ที่เครื่อง Ultraformer ใช้เพื่อส่งพลังงานไปยังชั้นผิวต่างๆ สำหรับการยกกระชับผิวและสลายไขมันส่วนเกิน เทคโนโลยีนี้แบ่งออกเป็น 2 รูปแบบหลัก คือ

  • Micro Focused Ultrasound: ส่งพลังงานไปยังชั้นผิวหนังแท้ระดับตื้น (ความลึก 1.5, 3.0, 4.5 มม.) เพื่อกระตุ้นคอลลาเจนและยกกระชับผิวหน้าโดยเฉพาะ
  • Macro Focused Ultrasound: ส่งพลังงานไปยังชั้นไขมันใต้ผิวหนังที่ลึกขึ้น (ความลึก 6, 9, 13 มม.) เพื่อสลายไขมันและกระชับสัดส่วนตามร่างกาย

2. ระดับความลึกและจุดโฟกัสของพลังงาน

Ulthera ส่งพลังงานได้อย่างแม่นยำที่ 3 ระดับความลึก ในขณะที่ Ultraformer มีหัวยิงที่หลากหลายกว่า ครอบคลุมความลึกได้หลายระดับตั้งแต่ผิวชั้นตื้นไปจนถึงชั้นไขมันใต้ผิวหนัง

  • Ulthera: เน้นส่งพลังงานไปที่ความลึก 1.5, 3.0 และ 4.5 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นระดับความลึกถึงชั้นผิวหนังแท้และชั้น SMAS ทำให้เกิดจุดความร้อน (Thermal Coagulation Points) ที่มีขนาดเล็กและสม่ำเสมอ เพื่อการยกกระชับผิวโดยเฉพาะ
  • Ultraformer: ใช้เทคโนโลยี MMFU ที่มีหัวยิงหลายระดับความลึก ตั้งแต่ 1.5 มิลลิเมตร ไปจนถึง 13 มิลลิเมตร ทำให้สามารถใช้ได้ทั้งกับใบหน้า (หัวยิง Micro) และร่างกายเพื่อสลายไขมัน (หัวยิง Macro) นอกจากนี้ยังมีหัวยิงพิเศษ 2.0 มิลลิเมตรสำหรับลดริ้วรอยตื้นๆ รอบดวงตาโดยเฉพาะ

3. หน้าจอแสดงผลแบบ Real-time Visualization

Ulthera เป็นเครื่องเดียวที่มีเทคโนโลยีหน้าจอแสดงผลแบบ Real-time Visualization ซึ่งช่วยให้แพทย์มองเห็นชั้นผิวหนังที่ต้องการรักษาได้แบบเรียลไทม์

เทคโนโลยีนี้มีชื่อว่า DeepSEE® ซึ่งใช้การอัลตราซาวนด์เพื่อแสดงภาพชั้นผิวหนังลึก (SMAS) บนหน้าจอ ทำให้แพทย์สามารถปล่อยพลังงานได้อย่างแม่นยำและปลอดภัย โดยหลีกเลี่ยงโครงสร้างสำคัญ เช่น กระดูก ในทางกลับกัน Ultraformer ไม่มีหน้าจอแสดงผลแบบเรียลไทม์ แพทย์จึงต้องอาศัยความรู้ทางกายวิภาคและเทคนิคในการกำหนดความลึกของการรักษา

4. ความรู้สึกขณะทำและระดับความเจ็บ

ทั้ง Ulthera และ Ultraformer ทำให้เกิดความรู้สึกเจ็บในระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง โดยมักบรรยายความรู้สึกว่าเหมือนมีเข็มร้อนๆ แทงลงไปใต้ผิวหรือรู้สึกปวดลึกๆ ขณะปล่อยพลังงาน

  • Ulthera: ผู้รับบริการมักรู้สึกเจ็บแปลบๆ ร้อนๆ หรือปวดลึกๆ โดยเฉพาะเมื่อใช้หัวยิงที่ลงลึกถึงชั้น SMAS (4.5 มม.) ซึ่งอาจทำให้รู้สึกเจ็บมากกว่าหัวยิงระดับอื่น
  • Ultraformer: ให้ความรู้สึกคล้ายกัน แต่เครื่องรุ่นใหม่ๆ ได้รับการพัฒนาให้ยิงเร็วขึ้นและปรับพลังงานให้เหมาะสม ทำให้เจ็บน้อยลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเทคโนโลยี HIFU รุ่นก่อนหน้า และผู้ใช้บริการบางรายรู้สึกว่าทนได้ง่ายกว่า

เพื่อลดความเจ็บปวด ก่อนทำหัตถการทั้งสองชนิด แพทย์มักใช้ยาชาแบบทาและอาจให้ยาแก้ปวดร่วมด้วย สำหรับ Ulthera ในบางกรณีอาจมีการใช้ยาชาเฉพาะจุด (nerve blocks) หรือยาคลายกังวลสำหรับผู้ที่ไวต่อความเจ็บปวดมาก

5. ประเทศผู้ผลิตและมาตรฐานการรับรอง

Ulthera ผลิตในประเทศสหรัฐอเมริกา ส่วน Ultraformer ผลิตในประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งทั้งสองเครื่องมีมาตรฐานการรับรองที่แตกต่างกัน

  • Ulthera: เป็นเครื่องมือที่พัฒนาในสหรัฐฯ และเป็นเครื่องยกกระชับด้วยคลื่นอัลตราซาวด์เพียงชนิดเดียวที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (U.S. FDA) นอกจากนี้ยังได้รับการรับรองมาตรฐาน CE Mark ในยุโรป และการรับรองจากหน่วยงานด้านสุขภาพในอีกหลายประเทศ เช่น แคนาดา ญี่ปุ่น และจีน
  • Ultraformer: เป็นเครื่องมือที่ผลิตในเกาหลีใต้โดยบริษัท Classys Inc. ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของเกาหลีใต้ (KFDA/MFDS) และจีน (NMPA) รวมถึงมีเครื่องหมาย CE Mark สำหรับใช้ในยุโรป แต่ยังไม่ได้รับการรับรองจาก U.S. FDA

การเปรียบเทียบผลข้างเคียง: Ulthera กับ Ultraformer มีข้อเสียอะไรบ้าง?

ทั้ง Ulthera และ Ultraformer มีผลข้างเคียงที่คล้ายคลึงกันและไม่รุนแรง ซึ่งส่วนใหญ่เกิดขึ้นชั่วคราวและหายได้เอง โดยทั้งสองเครื่องถือว่ามีความปลอดภัยสูงเมื่อทำโดยผู้เชี่ยวชาญ

ผลข้างเคียงที่อาจพบได้มีดังนี้:

  • Ulthera:
  • ผลข้างเคียงทั่วไป: อาการบวมแดงเล็กน้อยหลังทำ ซึ่งจะหายไปเองภายใน 1-2 วัน
  • ผลข้างเคียงที่พบได้น้อย: อาจมีรอยช้ำ อาการชา หรือรู้สึกเจ็บแปลบๆ ชั่วคราว ซึ่งจะหายไปในไม่กี่วันถึงสองสัปดาห์
  • ผลข้างเคียงที่พบได้ยากมาก: อาจเกิดภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรงชั่วคราว (เช่น มุมปากตก) ซึ่งจะหายได้เองใน 1-6 สัปดาห์ หรือรอยไหม้บนผิวหนังหากใช้เทคนิคที่ไม่ถูกต้อง
  • Ultraformer:
  • ผลข้างเคียงทั่วไป: มีอาการบวมแดงเล็กน้อยคล้ายกับ Ulthera และหายได้เองอย่างรวดเร็ว
  • ผลข้างเคียงที่พบได้น้อย: อาจมีอาการปวดระบมในบริเวณที่ทำ มีรอยช้ำ หรืออาการชาชั่วคราว
  • ความเสี่ยงทางทฤษฎี: มีความเสี่ยงที่ไขมันบนใบหน้าอาจฝ่อตัวลงหากใช้พลังงานสูงเกินไปในผู้ที่มีใบหน้าผอมบาง แต่สามารถหลีกเลี่ยงได้ด้วยการใช้เทคนิคที่ถูกต้อง

โดยรวมแล้ว ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงจากทั้งสองเครื่องมือนั้นพบได้น้อยมาก (น้อยกว่า 2%) และมักเกี่ยวข้องกับเทคนิคการรักษาที่ไม่เหมาะสมมากกว่าตัวเครื่องเอง

อาการบวมหลังทำ Ulthera กับ Ultraformer แตกต่างกันหรือไม่?

อาการบวมหลังทำ Ulthera และ Ultraformer ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ โดยทั้งสองเครื่องจะทำให้เกิดอาการบวมเล็กน้อยและรอยแดงได้ชั่วคราว ซึ่งเป็นปฏิกิริยาปกติของผิว อาการบวมมักจะหายไปเองภายใน 1-3 วัน และไม่จำเป็นต้องพักฟื้น ทำให้สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติทันที

ความเสี่ยงและข้อควรระวังของแต่ละเครื่องมือคืออะไร?

ทั้ง Ulthera และ Ultraformer มีความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่คล้ายคลึงกัน โดยส่วนใหญ่เป็นอาการเพียงชั่วคราวและเกิดขึ้นเฉพาะที่ เช่น อาการบวมแดง และพบภาวะแทรกซ้อนรุนแรงได้น้อยมาก (น้อยกว่า 2%) เมื่อทำโดยผู้เชี่ยวชาญ

Ulthera

  • ความเสี่ยงและผลข้างเคียง:
  • อาการทั่วไป: อาการบวม แดง รู้สึกเจ็บแปลบ หรือชาเล็กน้อย ซึ่งจะหายไปเองภายในไม่กี่วันถึงสองสัปดาห์
  • อาการที่พบได้น้อย: กล้ามเนื้ออ่อนแรงชั่วคราว (เช่น มุมปากตก) หรือรอยไหม้บนผิวหนัง ซึ่งมักเกิดจากการใช้เทคนิคที่ไม่ถูกต้องและสามารถป้องกันได้
  • ข้อควรระวัง:
  • ไม่เหมาะกับผู้ที่มีโลหะฝังในร่างกาย (เช่น รากฟันเทียม) สตรีมีครรภ์ ผู้ที่มีแผลเปิดหรือมีการติดเชื้อที่ผิวหนัง
  • ควรระมัดระวังในผู้ที่มีปัญหาการแข็งตัวของเลือด หรือมีผิวที่หย่อนคล้อยรุนแรงมาก

Ultraformer

  • ความเสี่ยงและผลข้างเคียง:
  • อาการทั่วไป: ปวดระบมในบริเวณที่ทำ มีรอยช้ำ หรืออาการชา ซึ่งจะหายไปเองในไม่กี่สัปดาห์
  • อาการที่พบได้น้อย: มีความเสี่ยงที่ไขมันบนใบหน้าอาจฝ่อตัวลงหากใช้พลังงานสูงเกินไปในคนที่มีไขมันน้อย แต่สามารถหลีกเลี่ยงได้ด้วยการเลือกหัวยิงที่เหมาะสม
  • ข้อควรระวัง:
  • ควรหลีกเลี่ยงการทำบริเวณต่อมไทรอยด์โดยตรง และต้องใช้ความระมัดระวังในผู้ที่เป็นโรคหัวใจรุนแรง หรือผู้ที่ใช้ยา Isotretinoin (Accutane)
  • ไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยรุนแรงมาก

เปรียบเทียบผลลัพธ์: Ulthera กับ Ultraformer แบบไหนเห็นผลและอยู่นานกว่ากัน?

โดยทั่วไป Ulthera ให้ผลลัพธ์ที่คงอยู่ยาวนานกว่า คือประมาณ 1-1.5 ปี ในขณะที่ผลลัพธ์ของ Ultraformer จะอยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน ส่วนในด้านการเห็นผล ทั้งสองเครื่องจะเริ่มแสดงผลลัพธ์ที่ชัดเจนในช่วง 2-3 เดือนหลังทำเหมือนกัน

  • Ulthera:
  • การเห็นผล: เริ่มเห็นผลชัดเจนใน 2-3 เดือน และจะเห็นผลลัพธ์เต็มที่ที่สุดในช่วง 6 เดือนหลังทำ
  • ความคงทน: ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 1-1.5 ปี และบางรายอาจนานถึง 2 ปี ทำให้มักแนะนำให้ทำซ้ำทุก 1 ปี หรือ 1.5 ปี
  • Ultraformer:
  • การเห็นผล: อาจเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงได้เล็กน้อยตั้งแต่ 4-6 สัปดาห์ และจะเห็นผลลัพธ์เต็มที่ที่ประมาณ 3 เดือน
  • ความคงทน: ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน และอาจต้องทำซ้ำบ่อยกว่า Ulthera เพื่อคงสภาพผิวไว้

ระยะเวลาที่เริ่มเห็นผลลัพธ์

โดยทั่วไป จะเริ่มเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนในเวลาประมาณ 2-3 เดือนหลังการรักษา สำหรับทั้ง Ulthera และ Ultraformer เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายสร้างคอลลาเจนใหม่อย่างเต็มที่

  • Ulthera: การเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดจะเริ่มปรากฏในช่วง 2-3 เดือน และจะเห็นผลลัพธ์การยกกระชับสูงสุดในเดือนที่ 6
  • Ultraformer: อาจเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยได้ตั้งแต่ 4-6 สัปดาห์แรก และผลลัพธ์จะชัดเจนเต็มที่ในเดือนที่ 3

ผลลัพธ์ของ Ulthera อยู่ได้นานแค่ไหน?

ผลลัพธ์ของ Ulthera อยู่ได้นานประมาณ 1 ปี ถึง 1 ปีครึ่ง แต่ผู้ป่วยบางรายอาจเห็นผลลัพธ์ยาวนานถึง 2 ปี

โดยทั่วไป ผลลัพธ์จะเห็นได้ชัดเจนที่สุดในช่วง 6 เดือนหลังการรักษา และจะค่อยๆ ลดลงเมื่อเวลาผ่านไป ด้วยเหตุนี้ แพทย์ส่วนใหญ่จึงแนะนำให้กลับมาทำซ้ำทุกๆ 1 ปี หรือ 1.5 ปี เพื่อคงสภาพผลลัพธ์ไว้

ผลลัพธ์ของ Ultraformer อยู่ได้นานแค่ไหน?

โดยทั่วไปแล้ว ผลลัพธ์ของ Ultraformer จะอยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและกระบวนการเสื่อมสภาพของผิวในแต่ละบุคคล

ในผู้ป่วยบางรายที่มีสภาพผิวดี ผลลัพธ์อาจอยู่ได้นานถึง 12-18 เดือน โดยเฉพาะเมื่อมีการทำทรีตเมนต์เพื่อคงสภาพผิวร่วมด้วย โดยทั่วไปแล้ว ผู้รับบริการมักจะกลับมาทำซ้ำเมื่อสังเกตเห็นว่าผลการยกกระชับเริ่มลดลง

เปรียบเทียบราคา: ค่าใช้จ่ายของ Ulthera กับ Ultraformer แตกต่างกันเท่าไหร่?

โดยทั่วไปแล้ว Ultraformer มีค่าใช้จ่ายน้อยกว่า Ulthera เมื่อเทียบในบริเวณการรักษาที่ใกล้เคียงกัน

Ulthera ถูกจัดเป็นหัตถการระดับพรีเมียมเนื่องจากต้นทุนของหัวยิงและอุปกรณ์ที่สูงกว่า ในขณะที่ Ultraformer มีราคาที่เข้าถึงง่ายกว่าและมีการแข่งขันในตลาดมากกว่า ปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อราคาสุดท้าย ได้แก่ สถานที่ตั้งของคลินิก ประสบการณ์ของผู้ให้บริการ และจำนวนช็อตที่ใช้ในการรักษา

ปัจจัยที่กำหนดราคาของ Ulthera

ปัจจัยหลักที่กำหนดราคาของ Ulthera คือ ขอบเขตของบริเวณที่ทำ จำนวนไลน์ที่ยิง สถานที่ตั้งของคลินิก และความเชี่ยวชาญของผู้ให้บริการ

ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลต่อราคาโดยตรง ดังนี้:

  • ขอบเขตการรักษาและจำนวนไลน์: การทำทรีตเมนต์ในบริเวณกว้าง เช่น ทั่วใบหน้าและลำคอ จะมีราคาสูงกว่าการทำเฉพาะส่วน เช่น ยกคิ้วหรือใต้คาง เนื่องจากต้องใช้จำนวนไลน์ (shots) ที่มากกว่า
  • สถานที่และผู้ให้บริการ: คลินิกในเมืองใหญ่มักมีราคาสูงกว่าคลินิกในเมืองเล็ก นอกจากนี้ แพทย์ผิวหนังหรือศัลยแพทย์ตกแต่งที่มีชื่อเสียงและประสบการณ์สูงอาจคิดค่าบริการสูงกว่า
  • ต้นทุนของเครื่องและอุปกรณ์: หัวยิง (Transducer) ของ Ulthera เป็นวัสดุสิ้นเปลืองที่มีต้นทุนคงที่จากบริษัทผู้ผลิต ซึ่งคลินิกจะนำต้นทุนส่วนนี้มารวมในราคาค่าบริการ ทำให้เป็นทรีตเมนต์ที่มีราคาสูงโดยธรรมชาติ

ปัจจัยที่กำหนดราคาของ Ultraformer

ปัจจัยหลักที่กำหนดราคาของ Ultraformer คือขอบเขตของพื้นที่ที่ทำการรักษา (จำนวนช็อต), ที่ตั้งทางภูมิศาสตร์และราคาในตลาดท้องถิ่น, และประเภทของคลินิกที่ให้บริการ โดยทั่วไปแล้ว Ultraformer มักมีราคาที่เข้าถึงง่ายกว่า Ulthera สำหรับพื้นที่การรักษาที่เทียบเท่ากัน

ปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อราคา ได้แก่

  • ขอบเขตการรักษา: การรักษาพื้นที่ขนาดใหญ่ เช่น ทั่วใบหน้าและลำคอ จะมีราคาสูงกว่าการรักษาเฉพาะจุด เนื่องจากต้องใช้จำนวนช็อตที่มากกว่า
  • ที่ตั้งและประเภทของคลินิก: ราคาจะแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศและเมือง โดยคลินิกในเอเชียอาจมีราคาที่ต่ำกว่าในยุโรป นอกจากนี้ คลินิกเสริมความงามอาจเสนอราคาโปรโมชั่นที่ต่ำกว่าคลินิกศัลยกรรมพลาสติก
  • แพ็กเกจการรักษา: การซื้อการรักษาเป็นแพ็กเกจสำหรับหลายครั้งมักจะช่วยลดต้นทุนต่อครั้งได้
  • การแข่งขันในตลาด: Ultraformer มีการแข่งขันด้านราคาสูงกว่า ซึ่งมักทำให้ราคาโดยรวมต่ำกว่าเมื่อเทียบกับเครื่องมืออื่น

ใครเหมาะกับ Ulthera และใครเหมาะกับ Ultraformer?

Ulthera เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยอย่างตรงจุดและเห็นผลชัดเจน ในขณะที่ Ultraformer เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาที่หลากหลาย ตั้งแต่ริ้วรอยเล็กๆ ไปจนถึงการกระชับสัดส่วนและลดไขมันเล็กน้อย

ผู้ที่เหมาะกับ Ulthera:

  • ผู้ที่มีปัญหาความหย่อนคล้อยเฉพาะจุดที่เห็นได้ชัด เช่น กรอบหน้าไม่คม แนวคอหย่อน หรือคิ้วตก
  • ผู้ที่มีสัญญาณแห่งวัยในระดับเริ่มต้นถึงปานกลาง และต้องการผลลัพธ์การยกกระชับที่ชัดเจนและเป็นธรรมชาติ
  • ผู้ที่ต้องการการรักษาเพียงครั้งเดียวแต่ให้ผลลัพธ์ยาวนานประมาณ 1 ปี และต้องการหลีกเลี่ยงการผ่าตัด

ผู้ที่เหมาะกับ Ultraformer:

  • ผู้ที่กังวลเรื่องริ้วรอยเล็กๆ ในบริเวณที่บอบบาง เช่น รอบดวงตาและรอบปาก
  • ผู้ที่ต้องการกระชับผิวเล็กน้อยทั้งบนใบหน้าและลำตัว เช่น ต้นแขน หรือหน้าท้อง
  • ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าเล็กน้อย หรือลดไขมันบางส่วน เช่น บริเวณใต้คาง
  • ผู้ที่อาจมีความกังวลเรื่องความเจ็บและมองหาทางเลือกที่สบายผิวกว่า

ลักษณะปัญหาผิวที่เหมาะกับการทำ Ulthera

จากข้อมูลที่ให้มา Ulthera เหมาะที่สุดสำหรับ ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยในระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง ซึ่งต้องการการยกกระชับเฉพาะจุดและป้องกันความหย่อนคล้อยในอนาคต

โดยลักษณะปัญหาผิวที่เหมาะกับการทำ Ulthera ได้แก่:

  • ความหย่อนคล้อยเฉพาะจุด: เช่น คิ้วตก กรอบหน้าไม่คมชัด ผิวบริเวณลำคอและใต้คางหย่อนคล้อย
  • ริ้วรอยเล็กๆ: สามารถช่วยปรับปรุงริ้วรอยและผิวที่เหี่ยวย่นบริเวณเนินอก (Décolletage) ได้
  • สัญญาณแห่งวัยระยะเริ่มต้น: เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มมีแก้มตกหรือผิวคอเริ่มเหี่ยว และต้องการยกกระชับผิว
  • ผู้ที่มีสภาพผิวค่อนข้างดี: ได้ผลดีในผู้ที่มีผิวสุขภาพดีและยังมีความยืดหยุ่นอยู่

ทั้งนี้ Ulthera อาจไม่เหมาะกับผู้ที่มีความหย่อนคล้อยรุนแรงมาก ซึ่งอาจต้องพิจารณาการผ่าตัดเพื่อผลลัพธ์ที่ดีกว่า

ลักษณะปัญหาผิวที่เหมาะกับการทำ Ultraformer

ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง มีริ้วรอยเล็กๆ หรือต้องการปรับกรอบหน้าให้คมชัดขึ้น คือกลุ่มที่เหมาะกับการทำ Ultraformer มากที่สุด

นอกจากนี้ Ultraformer ยังเหมาะสำหรับผู้ที่มีลักษณะปัญหาดังนี้:

  • ริ้วรอยในบริเวณที่บอบบาง: สามารถใช้หัวยิงขนาดเล็กเพื่อลดริ้วรอยตื้นๆ รอบดวงตาและรอบปากได้
  • ความหย่อนคล้อยบริเวณลำตัว: เหมาะกับผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อยบริเวณหน้าท้อง, ท้องแขน หรือหัวเข่า
  • ไขมันสะสมเฉพาะจุด: สามารถช่วยลดไขมันใต้คางหรือตามแนวกราม เพื่อให้กรอบหน้าดูคมชัดขึ้น
  • ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ค่อยเป็นค่อยไป ดูไม่แข็ง และผู้ที่อาจกังวลเรื่องความเจ็บ

References

Peer-Reviewed & Academic Sources

  • de Matos, J.A., Vieira, E.A.C., Carrera, E.T., et al. (n.d.). Important aspects of microfocused ultrasound: literature review. International Journal of Family & Community Medicine, 7, 145–149. MedCrave. https://medcraveonline.com
  • Amiri, M., Ajasllari, G., Llane, A., et al. (n.d.). Microfocused Ultrasound With Visualization Effectiveness and Safety: A Systematic Review and Meta-Analysis. Aesthetic Surgery Journal, 45, NP86–NP94. Oxford University Press. https://academic.oup.com
  • Contini, M., Hollander, M.H.J., Vissink, A., et al. (2023). A systematic review of the efficacy of microfocused ultrasound for facial skin tightening. International Journal of Environmental Research and Public Health, 20(3), 1522. MDPI. https://www.mdpi.com
  • U.S. National Library of Medicine. PubMed Central Database. https://pmc.ncbi.nlm.nih.gov

Manufacturer & Technical Resources

  • Classys Inc. (n.d.). Ultraformer III – Device Specifications Brochure. https://ultraformer.com
  • Merz Aesthetics. (n.d.). Ultherapy Overview. https://www.ultherapy.com

Clinic & Practitioner Articles

  • BalaBala Laser Clinic. (n.d.). Ultraformer MPT vs Ultraformer 3: Which Non-Surgical Facelift Is Right for You? https://balabalalaserclinic.com
  • L’Esprit Medical Clinic. (n.d.). Ulthera vs Ultraformer. https://lespritclinic.com
  • Visodent NYC. (2024). Ultherapy Pain Management Tips. https://visodentnyc.com

Author

  • admin
    admin

    View all posts

แนะแนวเรื่อง

Previous Previous
Ulthera กับ Thermage: เปรียบเทียบความแตกต่าง ข้อดีข้อเสียและราคา
NextContinue
ทำ Ulthera เจ็บไหม? ผลข้างเคียงและการดูแลตัวเอง

สาขาพรีวาโต คลินิก

    สาขาอโศก ตั้งอยู่ที่ ชั้น 2 อาคารมิดทาวน์
    Phone: 02-258-4050 , 081-841-5075
    สาขาสีลม ตั้งอยู่ที่ ชั้น 1 อาคารซี.พี.ทาวเวอร์
    Phone: 02-780-2011 , 098-272-5244
    สาขาราชพฤกษ์ ตั้งอยู่ที่ ชั้น 2 ศูนย์การค้า เดอะคริสตัล เอสบี (ด้านบนร้านสตาร์บัคส์)
    Phone: 02-102-2778 , 098-272-5244

ติดต่อเรา

    Facebook: Privato Clinic
    Messenger: Privato Clinic
    Instagram: privatoclinic
    Email: privatoclinic@gmail.com
    Line: @privatoclinic

Copyright© 2022-2024. All Rights Reserved

Scroll to top
  • หน้าหลัก
  • เกี่ยวกับพรีวาโต
  • บริการทั้งหมด
    • ชะลอวัย
    • ยกกระชับผิว
      • XERF
      • Potenza
      • Sofwave
      • Ulthera
      • Thermage-FLX
    • รักษาสิว
    • เลเซอร์
    • โปรแกรมฉีด
    • บำรุงผิว
  • บทความ
    • สิว
    • ยกกระชับ
    • ดูแลผิว
    • ทำเลเซอร์
  • ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว
  • โปรโมชั่น
  • ผลลัพธ์การรักษา
  • วิดีโอรีวิวจากเคสจริง
  • สาขาของเรา
  • ไทย
    • ไทย
    • English
    • 中文 (中国)
  • ปรึกษาแพทย์
Facebook Instagram YouTube