Skip to content

TEL : 081-841-5075, 02-258-4050

Facebook Instagram YouTube
Privato Clinic – Innovation Of Beauty  |  Bangkok
  • หน้าหลัก
  • เกี่ยวกับพรีวาโต
  • บริการทั้งหมดExpand
    • ชะลอวัย
    • ยกกระชับผิวExpand
      • XERF
      • Potenza
      • Sofwave
      • Ulthera
      • Thermage-FLX
    • รักษาสิว
    • เลเซอร์
    • โปรแกรมฉีด
    • บำรุงผิว
  • บทความExpand
    • สิว
    • ยกกระชับ
    • ดูแลผิว
    • ทำเลเซอร์
  • ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว
  • โปรโมชั่น
  • ผลลัพธ์การรักษา
  • วิดีโอรีวิวจากเคสจริง
  • สาขาของเรา
  • ไทยExpand
    • ไทย
    • English
    • 中文 (中国)
  • ปรึกษาแพทย์
Privato Clinic – Innovation Of Beauty  |  Bangkok
Consult a Doctor
Acne

ลอกสิวเสี้ยน วิธีที่ถูกต้อง ลดความเสี่ยงรูขุมขนกว้าง

Byadmin กันยายน 21, 2025กันยายน 21, 2025
By นายแพทย์เลอพงษ์ กรุดเงิน Updated on กันยายน 21, 2025
✦ Medically reviewed by  นายแพทย์เลอพงษ์ กรุดเงิน

ลอกสิวเสี้ยน อย่างถูกต้องทำยังไง
ลอกสิวเสี้ยนคือการดึงสิ่งอุดตันออกจากรูขุมขนให้ผิวดูเรียบขึ้น โดยยังไม่แก้สาเหตุเช่นต่อมไขมันทำงานเกินและการผลัดเซลล์ผิดปกติ หมอแนะนำให้ทำความเข้าใจว่าการลอกช่วยได้แค่ไหน ชั่งข้อดี–ข้อเสียและความเสี่ยง และดูแลหลังทำอย่างถูกต้อง โดยควบคุมความถี่ไม่เกินสัปดาห์ละ 1 ครั้งเพื่อลดการระคายเคืองและรูขุมขนดูกว้าง.

Table of Contents

Toggle
  • สิวเสี้ยนคืออะไร และการลอกช่วยได้จริงหรือ?
    • ทำความเข้าใจกลไกการเกิดสิวเสี้ยนที่จมูกและคาง
    • การลอกสิวเสี้ยนเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุหรือไม่
  • ข้อดี-ข้อเสียของการลอกสิวเสี้ยน: สิ่งที่ต้องรู้ก่อนทำ
    • ข้อดี: ผลลัพธ์ที่รวดเร็วและมองเห็นได้ทันที
    • ข้อเสียและความเสี่ยง: การระคายเคืองและปัญหารูขุมขน
  • ขั้นตอนการลอกสิวเสี้ยนที่ถูกต้องและปลอดภัย 5 ขั้นตอน
    • ขั้นตอนที่ 1: การเตรียมผิวก่อนลอกสิว
    • ขั้นตอนที่ 2: การใช้ผลิตภัณฑ์ลอกสิวอย่างถูกวิธี
    • ขั้นตอนที่ 3: เทคนิคการดึงแผ่นลอกเพื่อลดการบาดเจ็บ
    • ขั้นตอนที่ 4: การดูแลและปลอบประโลมผิวหลังการลอก
    • ขั้นตอนที่ 5: ความถี่ที่เหมาะสมในการลอกสิวเสี้ยน
  • เปรียบเทียบวิธีลอกสิวเสี้ยนยอดนิยม: แผ่นแปะ โคลน และสูตรธรรมชาติ
    • แผ่นลอกสิวเสี้ยนสำเร็จรูป
    • มาสก์โคลนแบบลอกออก
    • วิธีธรรมชาติ เช่น การใช้ไข่ขาว
    • เกณฑ์การเลือกวิธีที่เหมาะกับสภาพผิวของคุณ
  • จากวิธีลอกสู่การตัดสินใจ: ปัจจัยที่ควรพิจารณา
    • สภาพผิวและความรุนแรงของสิวเสี้ยน
    • ความคาดหวังต่อผลลัพธ์ในระยะยาว
    • การดูแลผิวควบคู่เพื่อป้องกันการเกิดซ้ำ
  • ความเข้าใจผิดและข้อควรระวังในการกำจัดสิวเสี้ยน
    • ความเชื่อที่ว่าการลอกสิวทำให้รูขุมขนกว้างขึ้นถาวร
    • ข้อห้าม: สิ่งที่ไม่ควรทำเมื่อต้องการกำจัดสิวเสี้ยน
  • ทางเลือกอื่นในการรักษาสิวเสี้ยน และเมื่อไหร่ควรพบแพทย์
    • การใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมช่วยผลัดเซลล์ผิว
    • หัตถการในคลินิก: การกดสิวและทรีตเมนต์อื่นๆ
  • คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการลอกสิวเสี้ยน
    • ลอกสิวเสี้ยนบ่อยแค่ไหนถึงจะดี?
    • ใช้แผ่นลอกสิวเสี้ยนแล้วรูขุมขนกว้างขึ้นจริงไหม?
    • หลังลอกสิวเสี้ยนควรดูแลผิวอย่างไร?
    • การลอกสิวเสี้ยนช่วยให้สิวหายถาวรหรือไม่?
    • มีวิธีอื่นในการกำจัดสิวเสี้ยนที่ปลอดภัยกว่าไหม?
    • ควรลอกสิวเสี้ยนตอนเช้าหรือตอนกลางคืน?
  • References:

สิวเสี้ยนคืออะไร และการลอกช่วยได้จริงหรือ?

สิวเสี้ยนคือสิ่งอุดตันในรูขุมขนที่เกิดจากน้ำมันและเซลล์ผิวหนัง และการลอกสิวเสี้ยนเป็นเพียงการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุชั่วคราวเท่านั้น เนื่องจากไม่ได้แก้ไขสาเหตุที่แท้จริง เช่น ต่อมไขมันที่ผลิตน้ำมันมากเกินไป

แม้ว่าการลอกสิวเสี้ยนจะสามารถดึงเอาสิ่งอุดตันและสิ่งสกปรกบนผิวออกมาได้ ทำให้ผิวรู้สึกเรียบเนียนและรูขุมขนดูเล็กลงชั่วคราว แต่รูขุมขนที่ “ว่างเปล่า” ก็สามารถกลับมาเต็มไปด้วยไขมันและก่อตัวเป็นสิวเสี้ยนใหม่ได้ภายในไม่กี่สัปดาห์ ดังนั้น การลอกสิวเสี้ยนจึงเป็นเพียงเครื่องมือด้านความงามเพื่อจัดการกับอาการที่มองเห็น แต่ไม่ใช่วิธีการรักษาให้หายขาด

ทำความเข้าใจกลไกการเกิดสิวเสี้ยนที่จมูกและคาง

สิวเสี้ยนที่จมูกและคางเกิดจาก บริเวณดังกล่าวมีความหนาแน่นของต่อมไขมัน (sebaceous glands) สูง ซึ่งทำให้มีการผลิตน้ำมันออกมามากกว่าบริเวณอื่น เมื่อน้ำมันส่วนเกินนี้รวมตัวกับเซลล์ผิวที่ตายแล้ว จะเกิดการอุดตันในรูขุมขน สาเหตุพื้นฐานที่ทำให้เกิดสิวเสี้ยนคือต่อมไขมันที่ทำงานมากเกินไปและการผลัดเซลล์ผิวที่ผิดปกติ

การลอกสิวเสี้ยนเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุหรือไม่

ใช่ การลอกสิวเสี้ยนเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ เนื่องจากเป็นการกำจัดเฉพาะสิ่งที่มองเห็นได้ แต่ไม่ได้แก้ไขสาเหตุที่แท้จริง เช่น ต่อมไขมันที่ผลิตน้ำมันมากเกินไป หรือการผลัดเซลล์ผิวที่ผิดปกติ หลังจากลอกสิวเสี้ยนออกไปแล้ว รูขุมขนที่ว่างเปล่าสามารถกลับมาเต็มไปด้วยไขมันและก่อตัวเป็นสิวเสี้ยนใหม่ได้ภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์

ข้อดี-ข้อเสียของการลอกสิวเสี้ยน: สิ่งที่ต้องรู้ก่อนทำ

ข้อดี: ผลลัพธ์ที่รวดเร็วและมองเห็นได้ทันที

ข้อดีหลักของการลอกสิวเสี้ยนคือ ให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วและมองเห็นได้ทันที เนื่องจากสามารถดึงเอาไขมันที่อุดตันในรูขุมขนออกมาให้เห็นบนแผ่นลอกได้ทันที ทำให้เกิดความรู้สึกว่ารูขุมขนสะอาด นอกจากนี้ ผิวอาจรู้สึกเรียบเนียนขึ้นและรูขุมขนดูเล็กลงชั่วคราวหลังการใช้งาน

ข้อเสียและความเสี่ยง: การระคายเคืองและปัญหารูขุมขน

ข้อเสียหลักของการลอกสิวเสี้ยนคืออาจทำให้เกิดการระคายเคืองผิวหนัง อักเสบ และอาจทำให้รูขุมขนดูกว้างขึ้น การดึงแผ่นลอกออกอย่างรุนแรงอาจทำให้ผิวหนังและผนังรูขุมขนฉีกขาดจนเกิดรอยแดงหรืออักเสบได้ นอกจากนี้ การใช้บ่อยเกินไปหรือผิดวิธีอาจทำให้รูขุมขนที่ถูกทำร้ายดูใหญ่และเห็นได้ชัดเจนขึ้น และผิวที่ระคายเคืองอาจผลิตน้ำมันออกมามากขึ้น ซึ่งเป็นการซ้ำเติมปัญหาเดิมได้

ขั้นตอนการลอกสิวเสี้ยนที่ถูกต้องและปลอดภัย 5 ขั้นตอน

ขั้นตอนที่ 1: การเตรียมผิวก่อนลอกสิว

ขั้นตอนแรกในการเตรียมผิวคือการทำความสะอาดใบหน้าและใช้ความร้อนเพื่อช่วยเปิดรูขุมขน ซึ่งจะช่วยให้ไขมันที่อุดตันนิ่มลงและลอกออกได้ง่ายขึ้น

  • ทำความสะอาด: ล้างหน้าให้สะอาดและซับผิวให้แห้งเบาๆ เพื่อขจัดความมันและสิ่งสกปรก
  • เปิดรูขุมขน: ใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นประคบบริเวณที่จะลอกสิวไว้สักครู่ เพื่อช่วยให้รูขุมขนเปิดและไขมันนิ่มลง
  • ข้อควรระวัง: ไม่ควรใช้แผ่นลอกสิวบนผิวที่มีแผลเปิด สิวอักเสบ หรือผิวไหม้แดด

ขั้นตอนที่ 2: การใช้ผลิตภัณฑ์ลอกสิวอย่างถูกวิธี

ขั้นตอนที่สองคือการแปะแผ่นลอกสิวหรือทามาสก์ลอกสิว โดยต้องทิ้งไว้ตามระยะเวลาที่ผลิตภัณฑ์กำหนดเท่านั้น

  • สำหรับแผ่นลอกสิว: ทำให้ผิวบริเวณนั้นเปียกน้ำตามคำแนะนำเพื่อให้แผ่นยึดเกาะได้ดี
  • สำหรับมาสก์ลอกสิว: ทาเป็นชั้นสม่ำเสมอในบริเวณที่มีสิวเสี้ยน โดยหลีกเลี่ยงผิวที่บอบบาง เช่น รอบดวงตา
  • ระยะเวลา: ทิ้งไว้ตามเวลาที่แนะนำ (โดยทั่วไป 5-10 นาทีสำหรับแผ่นลอกสิว) จนกว่าผลิตภัณฑ์จะแห้งพอที่จะยึดติดกับสิวเสี้ยน การทิ้งไว้นานเกินไปจะทำให้การลอกออกรุนแรงขึ้นและเสี่ยงต่อการทำร้ายผิว

ขั้นตอนที่ 3: เทคนิคการดึงแผ่นลอกเพื่อลดการบาดเจ็บ

ค่อยๆ ดึงแผ่นลอกออกอย่างช้าๆ และสม่ำเสมอ เพื่อลดการบาดเจ็บของผิวหนัง ไม่ควรกระชากหรือดึงออกอย่างรวดเร็ว หลังจากดึงแผ่นลอกออกแล้ว ไม่ควรใช้แผ่นลอกซ้ำในทันที หากมีคราบกาวติดอยู่ ให้ใช้สำลีชุบน้ำเช็ดออกเบาๆ แทนการขูดออก

ขั้นตอนที่ 4: การดูแลและปลอบประโลมผิวหลังการลอก

ขั้นตอนที่ 4 คือการทาผลิตภัณฑ์ให้ความชุ่มชื้นที่บางเบาและไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน (non-comedogenic) เพื่อเติมน้ำให้เกราะป้องกันผิวและป้องกันไม่ให้ผิวผลิตน้ำมันออกมามากเกินไป

หลังลอกแผ่นลอกสิวเสี้ยนออกแล้ว ควรดูแลผิวตามขั้นตอนต่อไปนี้:

  • เช็ดคราบกาวที่อาจหลงเหลืออยู่ออกเบาๆ ด้วยสำลีชุบน้ำ
  • ทามอยส์เจอไรเซอร์เพื่อคืนความชุ่มชื้นให้ผิว เนื่องจากผิวอาจสูญเสียน้ำมันตามธรรมชาติไป
  • อาจใช้โทนเนอร์ เช่น วิชฮาเซล (witch hazel) เพื่อช่วยกระชับรูขุมขน หรือใช้ผลิตภัณฑ์รักษาสิวอย่างอ่อนโยนเพื่อช่วยให้รูขุมขนสะอาด (ขั้นตอนนี้ไม่จำเป็น)
  • หากต้องออกไปข้างนอก ควรทาครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิวที่บอบบางลงหลังการลอก

ขั้นตอนที่ 5: ความถี่ที่เหมาะสมในการลอกสิวเสี้ยน

ขั้นตอนที่ 5 คือการกำหนดความถี่ในการใช้ โดยทั่วไปแนะนำให้ลอกสิวเสี้ยนไม่เกินสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง เนื่องจากการใช้บ่อยเกินไปจะทำให้ผิวระคายเคืองและอ่อนแอลง ควรทำเป็นครั้งคราวเพื่อทำความสะอาดอย่างล้ำลึก ไม่ใช่การดูแลประจำวัน

เปรียบเทียบวิธีลอกสิวเสี้ยนยอดนิยม: แผ่นแปะ โคลน และสูตรธรรมชาติ

แผ่นลอกสิวเสี้ยนสำเร็จรูป

แผ่นลอกสิวเสี้ยนสำเร็จรูปคือแผ่นแปะที่ตัดสำเร็จรูปสำหรับจมูกหรือใบหน้าซึ่งมีกาวแห้งติดอยู่ โดยต้องทำให้เปียกก่อนแปะลงบนผิวเพื่อดึงสิ่งที่อุดตันในรูขุมขนออกมาเมื่อลอกออก

แผ่นลอกสิวเสี้ยนเป็นวิธีที่ง่ายและรวดเร็วในการกำจัดสิวเสี้ยน โดยมีข้อดีและข้อเสียดังนี้

  • ข้อดี: เห็นผลลัพธ์ได้ทันที ราคาไม่แพงต่อการใช้ และออกแบบมาให้พอดีกับบริเวณที่ใช้ เช่น จมูก
  • ข้อเสีย: สามารถกำจัดได้แค่สิวเสี้ยนและสิ่งสกปรกที่อยู่ตื้นๆ ไม่สามารถดึงสิวเสี้ยนที่อุดตันลึกออกมาได้ และกาวอาจทำให้ผิวระคายเคืองหากใช้ไม่ถูกวิธี

วิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่มีผิวค่อนข้างแข็งแรงและผิวมันที่ต้องการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายมาก

มาสก์โคลนแบบลอกออก

มาสก์โคลนแบบลอกออกคือมาสก์ที่สามารถทาได้ทั่วบริเวณกว้าง ซึ่งมักมีส่วนผสมอย่างถ่านหรือโคลนที่ช่วยดูดซับความมัน เมื่อแห้งแล้วจะลอกออกเพื่อดึงสิ่งอุดตันและเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกจากรูขุมขน

มาสก์ชนิดนี้ทำงานโดยใช้หลักการยึดเกาะเพื่อดึงสิ่งสกปรกออกจากผิว มีข้อดีคือสามารถใช้ได้ทั่วทั้งทีโซน (หน้าผาก จมูก และแก้ม) แต่ก็มีข้อเสียคืออาจเลอะเทอะและใช้เวลาแห้งนานกว่า อีกทั้งยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดการระคายเคืองได้เช่นกัน โดยจะดึงได้แค่สิ่งสกปรกบนผิวชั้นบนและขนอ่อนเป็นหลัก จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีสิวเสี้ยนในบริเวณกว้างและผิวทนต่อความแห้งได้ แต่ไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวแห้งหรือแพ้ง่าย

วิธีธรรมชาติ เช่น การใช้ไข่ขาว

วิธีธรรมชาติอย่างการใช้ไข่ขาวมาร์คหน้าไม่ได้รับการแนะนำโดยแพทย์ผิวหนัง เนื่องจากไม่มีหลักฐานว่าสามารถกำจัดสิวเสี้ยนที่อยู่ลึกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

วิธีนี้มักจะกำจัดได้เพียงสะเก็ดผิวและขนอ่อนบนผิวชั้นนอกเท่านั้น แม้ว่าไข่ขาวจะมีคุณสมบัติสมานผิวเล็กน้อยซึ่งอาจช่วยให้รูขุมขนดูกระชับขึ้นชั่วคราว แต่โดยทั่วไปแล้วไม่ถือว่าเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ได้ผลจริงในการรักษาสิวเสี้ยน และยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดการระคายเคืองหรือการติดเชื้อได้

เกณฑ์การเลือกวิธีที่เหมาะกับสภาพผิวของคุณ

เกณฑ์การเลือกวิธีที่เหมาะกับสภาพผิวคือการพิจารณาจากประเภทของผิว ความรุนแรงและบริเวณที่เป็นสิวหัวดำ และความเสี่ยงต่อการระคายเคือง โดยทั่วไปแล้วควรเลือกวิธีที่ผิวของคุณทนต่อได้และใช้ควบคู่ไปกับการดูแลผิวเพื่อป้องกันการเกิดสิวหัวดำในระยะยาว

  • ผิวแข็งแรงและมัน: สามารถทนต่อการใช้แผ่นลอกสิวเสี้ยนหรือมาสก์ลอกสิวเสี้ยนเป็นครั้งคราวได้ดีกว่า
  • ผิวแพ้ง่ายหรือผิวแห้ง: ควรเลือกวิธีที่อ่อนโยนกว่า เช่น การทำความสะอาดด้วยออยล์ (Oil Cleansing) หรือใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวเคมีอย่างกรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid)
  • สิวหัวดำกระจายเป็นวงกว้าง: มาสก์ลอกสิวเสี้ยนอาจเหมาะสมกว่าแผ่นลอกเฉพาะจุด
  • สิวหัวดำที่ฝังลึกหรือดื้อ: อาจต้องใช้เรตินอยด์ (Retinoids) หรือการกดสิวโดยผู้เชี่ยวชาญ เนื่องจากวิธีลอกที่บ้านอาจไม่ได้ผล

จากวิธีลอกสู่การตัดสินใจ: ปัจจัยที่ควรพิจารณา

สภาพผิวและความรุนแรงของสิวเสี้ยน

การเลือกวิธีรักษาสิวเสี้ยนขึ้นอยู่กับสภาพผิวและความรุนแรงของสิวเสี้ยนเป็นอย่างมาก โดยแต่ละสภาพผิวและความรุนแรงจะเหมาะกับวิธีดูแลที่แตกต่างกันไป

สภาพผิว:

  • ผิวธรรมดาถึงผิวมัน: ผู้ที่มีผิวค่อนข้างแข็งแรงและมัน สามารถใช้แผ่นลอกสิวเสี้ยนหรือมาสก์ลอกหน้าได้เป็นครั้งคราว
  • ผิวแห้งหรือแพ้ง่าย: ควรหลีกเลี่ยงการลอกที่รุนแรง และเลือกใช้วิธีที่อ่อนโยนกว่า เช่น การทำความสะอาดด้วยออยล์ (oil cleansing) หรือใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิว
  • ความรุนแรงของสิวเสี้ยน:
  • สิวเสี้ยนตื้นๆ: วิธีการลอกสิวเสี้ยนที่บ้านสามารถกำจัดสิ่งอุดตันที่อยู่บนผิวชั้นบนได้ดี
  • สิวเสี้ยนอุดตันลึกหรือมีจำนวนมาก: การลอกสิวเสี้ยนด้วยตัวเองอาจไม่ได้ผล และอาจจำเป็นต้องใช้เรตินอยด์หรือเข้ารับการรักษาโดยผู้เชี่ยวชาญ เช่น การกดสิว หรือการทำเคมีคอลพีลลิ่ง

ความคาดหวังต่อผลลัพธ์ในระยะยาว

การลอกสิวเสี้ยน ให้ผลลัพธ์เพียงชั่วคราวและไม่ใช่การแก้ปัญหาระยะยาว เนื่องจากเป็นเพียงการกำจัดสิ่งที่อุดตันที่มองเห็นได้ แต่ไม่ได้แก้ไขสาเหตุที่แท้จริง เช่น การผลิตน้ำมันที่มากเกินไป ด้วยเหตุนี้ รูขุมขนจึงสามารถกลับมาอุดตันและก่อตัวเป็นสิวเสี้ยนใหม่ได้ภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์

หากต้องการผลลัพธ์ที่ยั่งยืน ควรใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ช่วยป้องกันการอุดตัน เช่น กรดซาลิไซลิกหรือเรตินอยด์ ควบคู่กันไป

การดูแลผิวควบคู่เพื่อป้องกันการเกิดซ้ำ

การป้องกันสิวหัวดำเกิดซ้ำที่ดีที่สุดคือ การดูแลผิวอย่างสม่ำเสมอด้วยผลิตภัณฑ์ที่ช่วยแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ เช่น การใช้สารผลัดเซลล์ผิวและเรตินอยด์ ควบคู่ไปกับการทำความสะอาดอย่างอ่อนโยนเป็นประจำ

แนวทางการดูแลผิวเพื่อป้องกันสิวหัวดำมีดังนี้:

  • ใช้สารผลัดเซลล์ผิว (Chemical Exfoliants): กรดซาลิไซลิก (BHA) สามารถซึมเข้าสู่รูขุมขนเพื่อช่วยทำความสะอาดและป้องกันการอุดตัน ส่วนกรดอัลฟ่าไฮดรอกซี (AHA) จะช่วยผลัดเซลล์ผิวชั้นนอก
  • ใช้เรตินอยด์ (Retinoids): ผลิตภัณฑ์กลุ่มอนุพันธ์วิตามินเอ เช่น อะแดพาลีน (Adapalene) ช่วยปรับวงจรการผลัดเซลล์ผิวให้เป็นปกติ ทำให้สิวหัวดำลดลงในระยะยาว
  • ทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ: ล้างหน้าเบาๆ ทุกวันและเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน (Non-comedogenic) เพื่อไม่ให้รูขุมขนอุดตันง่ายขึ้น
  • ใช้ส่วนผสมอื่นๆ: ส่วนผสมอย่างไนอะซินาไมด์ (Niacinamide) สามารถช่วยลดการผลิตน้ำมัน และกรดอะซีลาอิก (Azelaic acid) ก็เป็นอีกทางเลือกที่อ่อนโยนในการช่วยลดการอุดตัน

ความเข้าใจผิดและข้อควรระวังในการกำจัดสิวเสี้ยน

ความเชื่อที่ว่าการลอกสิวทำให้รูขุมขนกว้างขึ้นถาวร

ความเชื่อที่ว่าการลอกสิวทำให้รูขุมขนกว้างขึ้นถาวรนั้น โดยส่วนใหญ่แล้วไม่เป็นความจริง แผ่นลอกสิวเสี้ยนไม่ได้ยืดรูขุมขนให้กว้างขึ้นอย่างถาวรได้ด้วยตัวเอง เนื่องจากรูขุมขนไม่มีกล้ามเนื้อที่จะยืดออกไปได้ อย่างไรก็ตาม การใช้งานที่ไม่ถูกวิธี เช่น การดึงแรงเกินไปหรือใช้บ่อยเกินไป อาจทำให้ผิวระคายเคืองและส่งผลให้รูขุมขนดูใหญ่ขึ้นได้ชั่วคราว

ข้อห้าม: สิ่งที่ไม่ควรทำเมื่อต้องการกำจัดสิวเสี้ยน

ข้อห้ามสำคัญในการกำจัดสิวเสี้ยนคือ การใช้ผลิตภัณฑ์ลอกสิวเสี้ยนบนผิวที่ระคายเคืองหรือเป็นแผล, การใช้งานบ่อยเกินไป, และการดึงแผ่นลอกออกอย่างรุนแรง การกระทำเหล่านี้อาจทำให้ผิวหนังเสียหายและทำให้อาการแย่ลงได้

ข้อควรระวังและสิ่งที่ไม่ควรทำเพิ่มเติมมีดังนี้:

  • ห้ามใช้กับผิวที่มีปัญหา: ไม่ควรใช้แผ่นลอกสิวเสี้ยนบนผิวที่กำลังอักเสบ, เป็นสิวมีหัว, ผิวไหม้แดด, หรือมีแผลเปิด
  • ห้ามใช้งานบ่อยเกินไป: การใช้แผ่นลอกทุกวันหรือหลายครั้งต่อสัปดาห์จะทำให้ผิวระคายเคืองและอาจผลิตน้ำมันมากขึ้น ควรใช้ไม่เกินสัปดาห์ละ 1 ครั้ง
  • ห้ามทิ้งผลิตภัณฑ์ไว้นานเกินกำหนด: การทิ้งแผ่นลอกหรือมาสก์ไว้นานกว่าเวลาที่แนะนำจะทำให้การลอกออกรุนแรงขึ้นและเสี่ยงต่อการทำร้ายผิว
  • ห้ามดึงหรือกระชากแผ่นลอก: ควรลอกออกอย่างช้าๆ และสม่ำเสมอเพื่อลดการบาดเจ็บของผิว
  • ห้ามใช้แผ่นลอกซ้ำในครั้งเดียว: การใช้แผ่นลอกเพียงครั้งเดียวต่อการทำหนึ่งครั้งก็เพียงพอแล้ว การทำซ้ำจะยิ่งสร้างความระคายเคือง
  • ห้ามบีบสิวเสี้ยนด้วยเล็บ: เพราะอาจทำให้เกิดการติดเชื้อและรอยแผลเป็นได้
  • หลีกเลี่ยงวิธี DIY ที่ไม่ได้รับการรับรอง: เช่น การใช้ไข่ขาวหรือกาว ซึ่งไม่มีหลักฐานว่าได้ผลจริงและอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองได้

ทางเลือกอื่นในการรักษาสิวเสี้ยน และเมื่อไหร่ควรพบแพทย์

การใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมช่วยผลัดเซลล์ผิว

การใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมช่วยผลัดเซลล์ผิวเป็นวิธีที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการจัดการสิวหัวดำ เนื่องจากเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุแทนการกำจัดออกเพียงชั่วคราว โดยส่วนผสมที่แนะนำมีดังนี้

  • กรดซาลิไซลิก (BHA) ซึมเข้าสู่รูขุมขนเพื่อช่วยขจัดสิ่งอุดตัน
  • กรดอัลฟ่าไฮดรอกซี (AHA) เช่น กรดไกลโคลิก ช่วยผลัดเซลล์ผิวชั้นนอก ทำให้ปากรูขุมขนสะอาด
  • เรตินอยด์ (Retinoids) ช่วยปรับการผลัดเซลล์ผิวให้เป็นปกติและป้องกันการเกิดสิวหัวดำ
  • กรดอะซีลาอิก (Azelaic acid) เป็นทางเลือกที่อ่อนโยน ช่วยลดการอุดตันและมีคุณสมบัติต้านการอักเสบ

หัตถการในคลินิก: การกดสิวและทรีตเมนต์อื่นๆ

หัตถการในคลินิกสำหรับรักษาสิวหัวดำมีหลายวิธี เช่น การกดสิวโดยผู้เชี่ยวชาญ, การกรอผิว (microdermabrasion), การผลัดเซลล์ผิวด้วยสารเคมี (chemical peels), เลเซอร์, HydraFacial/Aqua peeling และ Agnes RF ซึ่งเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพกว่าการดูแลด้วยตนเอง โดยเฉพาะสำหรับสิวหัวดำที่อยู่ลึกหรือรักษายาก

  • การกดสิว: ผู้เชี่ยวชาญจะใช้เครื่องมือที่ผ่านการฆ่าเชื้อเพื่อกดสิวหัวดำออกอย่างหมดจด โดยไม่ทำให้ผิวบอบช้ำ
  • Microdermabrasion: เป็นการ “กรอ” ผิวชั้นบนออกเพื่อช่วยให้สิวที่อุดตันหลุดออกไป
  • Chemical Peels: แพทย์ผิวหนังจะใช้กรดความเข้มข้นสูงเพื่อลอกผิวชั้นนอกออก ช่วยกำจัดสิ่งสกปรกในรูขุมขน
  • เลเซอร์และแสงบำบัด: เป็นเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ช่วยรักษาสิวหัวดำ เช่น การทำเลเซอร์เพื่อช่วยให้ต่อมไขมันหดตัว
  • HydraFacial/Aqua peeling: ใช้เครื่องดูดสุญญากาศร่วมกับสารละลายที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวเพื่อทำความสะอาดรูขุมขน
  • Agnes RF: เป็นการใช้คลื่นวิทยุผ่านเข็มขนาดเล็กเพื่อทำลายต่อมไขมันที่ทำงานผิดปกติ เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นสิวหัวดำเรื้อรัง

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการลอกสิวเสี้ยน

ลอกสิวเสี้ยนบ่อยแค่ไหนถึงจะดี?

โดยทั่วไปแล้ว ไม่ควรลอกสิวเสี้ยนบ่อยเกินสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เนื่องจากการใช้บ่อยเกินไปอาจทำให้ผิวระคายเคืองและอาจทำให้รูขุมขนดูกว้างขึ้นได้ในระยะยาว

ใช้แผ่นลอกสิวเสี้ยนแล้วรูขุมขนกว้างขึ้นจริงไหม?

โดยส่วนใหญ่แล้ว ไม่ได้ทำให้รูขุมขนกว้างขึ้นอย่างถาวร แต่การใช้ที่ไม่ถูกวิธีอาจทำให้รูขุมขนดูกว้างขึ้นได้ชั่วคราว

การใช้แผ่นลอกสิวเสี้ยนบ่อยเกินไป หรือดึงออกแรงและเร็วเกินไป อาจทำให้ผิวระคายเคือง เกิดการฉีกขาดเล็กน้อย หรือกระตุ้นให้ผิวผลิตน้ำมันมากขึ้น ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้รูขุมขนดูใหญ่และเห็นได้ชัดขึ้นได้

หลังลอกสิวเสี้ยนควรดูแลผิวอย่างไร?

การดูแลผิวหลังลอกสิวเสี้ยนคือการปลอบประโลม เติมความชุ่มชื้น และปกป้องผิว ซึ่งสามารถทำได้ตามขั้นตอนต่อไปนี้

  1. ทำความสะอาดเบาๆ: ล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นเพื่อกำจัดคราบกาวหรือมาสก์ที่ตกค้าง
  2. ปลอบประโลมผิว: ใช้โทนเนอร์ที่ไม่มีแอลกอฮอล์หรือใช้ผ้าชุบน้ำเย็นประคบเพื่อช่วยลดรอยแดงและกระชับรูขุมขน
  3. เติมความชุ่มชื้น: ทามอยส์เจอไรเซอร์ชนิดไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน (non-comedogenic) เพื่อคืนความชุ่มชื้นให้เกราะป้องกันผิว
  4. ปกป้องผิว: หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าหนักๆ หรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่รุนแรง และควรทาครีมกันแดดหากต้องออกแดด เนื่องจากผิวจะไวต่อแสงเป็นพิเศษ

การลอกสิวเสี้ยนช่วยให้สิวหายถาวรหรือไม่?

การลอกสิวเสี้ยนไม่ได้ช่วยให้สิวหายถาวร แต่เป็นการกำจัดสิ่งอุดตันที่มองเห็นได้ชั่วคราวเท่านั้น เนื่องจากรูขุมขนสามารถกลับมาเต็มไปด้วยไขมันและเซลล์ผิวได้อีกครั้งภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์ การลอกสิวเสี้ยนจึงเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ไม่ได้แก้ไขสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดสิวเสี้ยน

มีวิธีอื่นในการกำจัดสิวเสี้ยนที่ปลอดภัยกว่าไหม?

ใช่, มีวิธีอื่นที่ปลอดภัยกว่าการลอกสิวเสี้ยน ซึ่งแพทย์ผิวหนังมักแนะนำมากกว่าการใช้แผ่นลอก

ทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า ได้แก่:

  • การผลัดเซลล์ผิวด้วยสารเคมี: การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมอย่างกรดซาลิไซลิก (Salicylic acid) จะช่วยทำความสะอาดรูขุมขนได้อย่างค่อยเป็นค่อยไป หรือการใช้เรตินอยด์ (Retinoids) จะช่วยควบคุมการผลัดเซลล์ผิวและป้องกันการอุดตัน
  • การกดสิวโดยผู้เชี่ยวชาญ: แพทย์ผิวหนังหรือผู้เชี่ยวชาญสามารถกดสิวเสี้ยนที่ฝังลึกออกได้อย่างปลอดภัยและลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บของผิว
  • การทำความสะอาดด้วยออยล์ (Oil Cleansing): เป็นวิธีที่อ่อนโยนในการค่อยๆ ละลายสิ่งอุดตันในรูขุมขนโดยไม่ทำให้ผิวระคายเคืองจากการดึงหรือลอก

ควรลอกสิวเสี้ยนตอนเช้าหรือตอนกลางคืน?

โดยทั่วไปแล้ว ควรลอกสิวเสี้ยนในตอนเย็น

การลอกสิวเสี้ยนในตอนเย็นจะช่วยให้ผิวมีเวลาฟื้นตัวในชั่วข้ามคืนโดยไม่ต้องสัมผัสกับแสงแดด สิ่งสกปรก หรือการแต่งหน้า ซึ่งอาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้ เมื่อถึงตอนเช้า รอยแดงต่างๆ ก็มักจะลดลงแล้ว

References:

  1. Cleveland Clinic. (n.d.). Blackheads: What They Look Like, Treatment & Prevention. Cleveland Clinic – Health Library. clevelandclinic.org
  2. Ochsner Health. (n.d.). Here’s Why Pore Strips Are a Bad Idea for Your Skin. Ochsner Health Blog. ochsner.org
  3. Palmer, A. (n.d.). Do Pore Strips Actually Work for Blackhead Removal? Verywell Health. verywellhealth.com
  4. Cherney, K. (n.d.). 20 Ways to Treat and Prevent Deep Blackheads. Healthline. healthline.com
  5. Anderson, J. (n.d.). Nose Strips for Blackheads and Pores: Good or Bad? Healthline. healthline.com

แนะแนวเรื่อง

Previous Previous
สิวไม่มีหัว นูนๆ ดูแลและรักษายังไงให้ยุบไว
NextContinue
Zinc ช่วยเรื่องสิวอะไรบ้าง? สามารถลดสิวได้จริงไหม

สาขาพรีวาโต คลินิก

    สาขาอโศก ตั้งอยู่ที่ ชั้น 2 อาคารมิดทาวน์
    Phone: 02-258-4050 , 081-841-5075
    สาขาสีลม ตั้งอยู่ที่ ชั้น 1 อาคารซี.พี.ทาวเวอร์
    Phone: 02-780-2011 , 098-272-5244
    สาขาราชพฤกษ์ ตั้งอยู่ที่ ชั้น 2 ศูนย์การค้า เดอะคริสตัล เอสบี (ด้านบนร้านสตาร์บัคส์)
    Phone: 02-102-2778 , 098-272-5244

ติดต่อเรา

    Facebook: Privato Clinic
    Messenger: Privato Clinic
    Instagram: privatoclinic
    Email: privatoclinic@gmail.com
    Line: @privatoclinic

Copyright© 2022-2024. All Rights Reserved

Scroll to top
  • หน้าหลัก
  • เกี่ยวกับพรีวาโต
  • บริการทั้งหมด
    • ชะลอวัย
    • ยกกระชับผิว
      • XERF
      • Potenza
      • Sofwave
      • Ulthera
      • Thermage-FLX
    • รักษาสิว
    • เลเซอร์
    • โปรแกรมฉีด
    • บำรุงผิว
  • บทความ
    • สิว
    • ยกกระชับ
    • ดูแลผิว
    • ทำเลเซอร์
  • ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว
  • โปรโมชั่น
  • ผลลัพธ์การรักษา
  • วิดีโอรีวิวจากเคสจริง
  • สาขาของเรา
  • ไทย
    • ไทย
    • English
    • 中文 (中国)
  • ปรึกษาแพทย์
Facebook Instagram YouTube