Skip to content

TEL : 081-841-5075, 02-258-4050

Facebook Instagram YouTube
Privato Clinic – Innovation Of Beauty  |  Bangkok
  • หน้าหลัก
  • เกี่ยวกับพรีวาโต
  • บริการทั้งหมดExpand
    • ชะลอวัย
    • ยกกระชับผิวExpand
      • XERF
      • Potenza
      • Sofwave
      • Ulthera
      • Thermage-FLX
    • รักษาสิว
    • เลเซอร์
    • โปรแกรมฉีด
    • บำรุงผิว
  • บทความExpand
    • สิว
    • ยกกระชับ
    • ดูแลผิว
    • ทำเลเซอร์
  • ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว
  • โปรโมชั่น
  • ผลลัพธ์การรักษา
  • วิดีโอรีวิวจากเคสจริง
  • สาขาของเรา
  • ไทยExpand
    • ไทย
    • English
    • 中文 (中国)
  • ปรึกษาแพทย์
Privato Clinic – Innovation Of Beauty  |  Bangkok
Consult a Doctor
Lifting

ฉีดโบท็อกหน้าผาก ใช้กี่ยูนิต ราคาเท่าไหร่ อยู่ได้นานแค่ไหน? 2568

Byadmin ตุลาคม 2, 2025
By แพทย์หญิงนัชชนก หุ่นวิจิตร Updated on ตุลาคม 2, 2025
✦ Medically reviewed by  นายแพทย์เลอพงษ์ กรุดเงิน
ฉีดโบท็อกหน้าผาก ใช้กี่ยูนิต ราคาเท่าไหร่ อยู่ได้นานแค่ไหน? 2568

การฉีดโบท็อกหน้าผากคือการใช้สารโบทูลินั่ม ท็อกซินประมาณ 10-30 ยูนิตฉีดเข้าไปในกล้ามเนื้อหน้าผาก (Frontalis) เพื่อทำให้ริ้วรอยแนวนอนที่เกิดจากการแสดงสีหน้าเรียบเนียนขึ้น โดยจะเห็นผลเต็มที่ใน 2 สัปดาห์และคงอยู่นาน 3-4 เดือน แต่อาจมีความเสี่ยงเรื่องคิ้วตกหากฉีดผิดตำแหน่ง

Table of Contents

Toggle
  • โบท็อกหน้าผากคืออะไร ช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยได้อย่างไร
    • ใครที่เหมาะกับการฉีดโบท็อกลดริ้วรอยหน้าผาก
    • ข้อควรระวัง: ใครบ้างที่ไม่ควรฉีดโบท็อกหน้าผาก
  • ตอบทุกคำถาม: ปริมาณ ราคา และผลลัพธ์ที่คาดหวังได้
    • ต้องใช้โบท็อกหน้าผากกี่ยูนิตถึงจะเห็นผล
    • ราคาฉีดโบท็อกหน้าผากโดยประมาณ คิดอย่างไร
    • ฉีดแล้วกี่วันเห็นผล และผลลัพธ์อยู่ได้นานแค่ไหน
  • ขั้นตอนการฉีดโบท็อกหน้าผากในคลินิกมาตรฐาน
  • ปัจจัยสำคัญที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจฉีดโบท็อก
    • วิธีเลือกคลินิกและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อความปลอดภัย
    • การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการฉีดโบท็อกหน้าผาก
  • ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นและข้อห้ามหลังฉีด
    • อาการข้างเคียงทั่วไปและวิธีรับมือเบื้องต้น
    • วิธีป้องกันและแก้ไขปัญหาหน้าตึง หนังตาตก หรือคิ้วตก
    • ข้อห้ามสำคัญหลังฉีดโบท็อกที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
  • คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการฉีดโบท็อกหน้าผาก
    • การฉีดโบท็อกซ์บริเวณหน้าผากต้องใช้กี่ยูนิต?
    • ฉีดโบท็อกหน้าผากกี่วันถึงจะเห็นผลชัดเจน?
    • ผลลัพธ์จากการฉีดโบท็อกหน้าผากอยู่ได้นานกี่เดือน?
    • ฉีดโบท็อกหน้าผากอันตรายหรือไม่ มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง?
    • เป็นสิวที่หน้าผากสามารถฉีดโบท็อกได้หรือไม่?
    • หลังฉีดโบท็อกหน้าผาก ห้ามนอนตะแคงกี่วัน?
  • References:

โบท็อกหน้าผากคืออะไร ช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยได้อย่างไร

โบท็อกหน้าผากคือ การฉีดสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เข้าไปในกล้ามเนื้อหน้าผาก (Frontalis) เพื่อทำให้ริ้วรอยแนวนอนเรียบเนียนขึ้น โดยการยับยั้งการหดตัวของกล้ามเนื้อซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดริ้วรอย

โบท็อกจะได้ผลดีที่สุดกับริ้วรอยแบบ Dynamic Wrinkles คือริ้วรอยที่ปรากฏขึ้นเมื่อแสดงสีหน้า (เช่น การเลิกคิ้ว) และจะหายไปเมื่อใบหน้าอยู่ในภาวะปกติ แต่จะได้ผลน้อยกับริ้วรอยแบบ Static Wrinkles ซึ่งเป็นร่องลึกที่มองเห็นได้แม้ไม่ได้แสดงสีหน้า

ใครที่เหมาะกับการฉีดโบท็อกลดริ้วรอยหน้าผาก

ผู้ที่เหมาะกับการฉีดโบท็อกหน้าผากคือคนที่มีริ้วรอยจากการแสดงอารมณ์ (Dynamic Wrinkles) ซึ่งเป็นรอยย่นที่ปรากฏเมื่อขยับกล้ามเนื้อ เช่น การเลิกคิ้ว และจะจางหายไปเมื่อใบหน้าผ่อนคลาย

โดยทั่วไปแล้ว การฉีดโบท็อกหน้าผากเหมาะสำหรับผู้ใหญ่ในกลุ่มต่อไปนี้

  • ผู้ที่อายุ 20 ปลายๆ ถึง 30 ปี: เพื่อป้องกันการเกิดริ้วรอยลึกในอนาคต
  • ผู้ที่อายุ 30-50 ปี: ซึ่งเป็นกลุ่มที่ริ้วรอยจากการแสดงอารมณ์เริ่มปรากฏชัดขึ้น

อย่างไรก็ตาม การฉีดโบท็อกไม่เหมาะกับผู้ที่มีภาวะโรคเกี่ยวกับระบบประสาทและกล้ามเนื้อ, สตรีมีครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร, และผู้ที่มีแผลหรือการอักเสบรุนแรงบริเวณหน้าผาก

ข้อควรระวัง: ใครบ้างที่ไม่ควรฉีดโบท็อกหน้าผาก

ผู้ที่ไม่ควรฉีดโบท็อกหน้าผากคือ ผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับระบบประสาทและกล้ามเนื้อ สตรีมีครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร และผู้ที่มีแผลหรือการอักเสบรุนแรงบริเวณหน้าผาก

กลุ่มบุคคลที่ควรหลีกเลี่ยงหรือปรึกษาแพทย์ด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ ได้แก่:

  • ผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับระบบประสาทและกล้ามเนื้อ: เช่น โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (Myasthenia Gravis), Lambert-Eaton Syndrome หรือ ALS
  • สตรีมีครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร: เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลความปลอดภัยที่เพียงพอ
  • ผู้ที่มีการติดเชื้อหรืออักเสบ: หากมีแผลเปิดหรือการอักเสบอย่างรุนแรงในบริเวณหน้าผาก ควรเลื่อนการฉีดออกไปก่อนจนกว่าจะหายดี

ตอบทุกคำถาม: ปริมาณ ราคา และผลลัพธ์ที่คาดหวังได้

ต้องใช้โบท็อกหน้าผากกี่ยูนิตถึงจะเห็นผล

โดยทั่วไปแล้ว ต้องใช้โบท็อกประมาณ 10 ถึง 30 ยูนิต เพื่อลดเลือนริ้วรอยแนวนอนบนหน้าผาก

ปริมาณที่แน่นอนจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ความลึกของริ้วรอย ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ และเพศ โดยผู้ชายมักต้องการปริมาณที่สูงกว่าผู้หญิง สำหรับกรณีทั่วไปตามคำแนะนำทางการแพทย์มักจะใช้ 20 ยูนิต โดยแบ่งฉีด 5 จุดทั่วหน้าผาก

ราคาฉีดโบท็อกหน้าผากโดยประมาณ คิดอย่างไร

ราคาฉีดโบท็อกหน้าผากโดยทั่วไปจะคิดตามจำนวนยูนิตที่ใช้ ซึ่งปริมาณจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและความลึกของริ้วรอยของแต่ละบุคคล

โดยทั่วไปแล้ว การฉีดโบท็อกบริเวณหน้าผากจะใช้ประมาณ 10-30 ยูนิต ซึ่งตามข้อมูลตัวอย่างในประเทศไทยอาจมีค่าใช้จ่ายประมาณ 4,000 บาท สำหรับ 20 ยูนิต

ฉีดแล้วกี่วันเห็นผล และผลลัพธ์อยู่ได้นานแค่ไหน

โดยทั่วไปแล้ว จะเริ่มเห็นผลลัพธ์ภายใน 2-5 วัน และเห็นผลเต็มที่ใน 2 สัปดาห์ ซึ่งผลลัพธ์จะคงอยู่ประมาณ 3-4 เดือน

คุณจะเริ่มสังเกตเห็นริ้วรอยตื้นขึ้นเล็กน้อยภายใน 2-3 วันหลังฉีด และจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนที่สุดเมื่อครบ 14 วัน (2 สัปดาห์) หลังจากนั้น ผลลัพธ์จะค่อยๆ จางลงเมื่อกล้ามเนื้อเริ่มกลับมาทำงานได้อีกครั้ง โดยสำหรับคนส่วนใหญ่ผลลัพธ์จะอยู่ได้นาน 3-4 เดือน แต่บางคนอาจอยู่ได้นานถึง 5-6 เดือน ในขณะที่ผู้ที่ฉีดครั้งแรกอาจสังเกตว่าผลลัพธ์อยู่ได้สั้นกว่าเล็กน้อย คือประมาณ 2.5-3 เดือน

ขั้นตอนการฉีดโบท็อกหน้าผากในคลินิกมาตรฐาน

ขั้นตอนการฉีดโบท็อกหน้าผากในคลินิกมาตรฐาน ประกอบด้วยการปรึกษา การเตรียมผิว การฉีด การให้คำแนะนำหลังฉีด และการนัดติดตามผล โดยแต่ละขั้นตอนมีรายละเอียดดังนี้

  1. การปรึกษาและประเมิน: แพทย์จะประเมินการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อหน้าผาก ซักประวัติทางการแพทย์ วางแผนจุดที่จะฉีด และให้ผู้รับบริการเซ็นเอกสารยินยอม
  2. การเตรียมผิว: ทำความสะอาดผิวหน้าและลบเครื่องสำอาง อาจมีการทายาชาหรือประคบน้ำแข็งเพื่อลดความรู้สึกเจ็บ แต่ส่วนใหญ่มักไม่จำเป็น
  3. ขั้นตอนการฉีด: แพทย์จะใช้เข็มขนาดเล็กฉีดโบท็อกในปริมาณน้อยๆ เข้าไปในชั้นกล้ามเนื้อตามจุดที่กำหนดไว้ (ประมาณ 4-5 จุดทั่วหน้าผาก) ซึ่งใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที
  4. การดูแลหลังฉีดทันที: แพทย์จะให้คำแนะนำหลังการฉีด เช่น ห้ามนวดหรือถูบริเวณที่ฉีด และแจ้งว่าผลลัพธ์จะยังไม่ปรากฏในทันที ผู้รับบริการสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติโดยไม่มีระยะเวลาพักฟื้น
  5. การนัดหมายเพื่อติดตามผล: โดยทั่วไปจะมีการนัดติดตามผลในอีก 2 สัปดาห์เพื่อประเมินผลลัพธ์สุดท้าย และอาจมีการเติมโบท็อกเพิ่มเล็กน้อยหากจำเป็น

ปัจจัยสำคัญที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจฉีดโบท็อก

วิธีเลือกคลินิกและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อความปลอดภัย

ควรเลือกแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีใบอนุญาตและมีประสบการณ์สูงในคลินิกการแพทย์ที่ได้มาตรฐานและน่าเชื่อถือ เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ฉีดมีความรู้ด้านกายวิภาคบนใบหน้าอย่างลึกซึ้งและสามารถใช้ปริมาณยาได้อย่างเหมาะสม

ข้อควรพิจารณาในการเลือกแพทย์และคลินิกมีดังนี้:

  • ตรวจสอบคุณสมบัติของแพทย์: สอบถามเกี่ยวกับประสบการณ์ของแพทย์ เช่น จำนวนปีที่ทำการรักษาและความถี่ในการฉีดโบท็อกซ์ และสามารถขอดูภาพก่อนและหลังการรักษาของผู้ป่วยรายอื่นได้
  • มาตรฐานของคลินิกและผลิตภัณฑ์: คลินิกควรเป็นสถานพยาบาลที่สะอาดและถูกสุขอนามัย และต้องใช้ผลิตภัณฑ์โบท็อกซ์ของแท้ที่ได้รับการรับรองจากอย. (สามารถขอดูขวดผลิตภัณฑ์เพื่อตรวจสอบได้)
  • หลีกเลี่ยงสถานที่ที่ไม่ใช่สถานพยาบาล: ไม่ควรฉีดโบท็อกซ์ในสถานที่ที่ไม่ใช่สถานพยาบาล เช่น สปา หรือร้านเสริมสวยที่ไม่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญประจำอยู่

การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการฉีดโบท็อกหน้าผาก

การเตรียมตัวก่อนฉีดโบท็อกหน้าผากคือการหลีกเลี่ยงยา อาหารเสริม และแอลกอฮอล์ที่ทำให้เลือดออกง่าย เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดรอยช้ำ

คำแนะนำในการเตรียมตัวเพิ่มเติมมีดังนี้:

  • หลีกเลี่ยงยาหรืออาหารเสริมที่ทำให้เลือดแข็งตัวช้า เช่น ยาต้านการอักเสบ (NSAIDs) น้ำมันปลา และวิตามินอี
  • งดดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24-72 ชั่วโมงก่อนการฉีด
  • ควรดื่มน้ำให้เพียงพอและรับประทานอาหารมาก่อนเข้ารับบริการ
  • ในวันนัดหมาย ควรทำความสะอาดใบหน้าและงดการแต่งหน้าหรือทาครีมบำรุงผิวหนักๆ บริเวณหน้าผาก
  • อาจต้องงดใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง เช่น เรตินอยด์ ก่อนวันนัด 1 วัน

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นและข้อห้ามหลังฉีด

อาการข้างเคียงทั่วไปและวิธีรับมือเบื้องต้น

อาการข้างเคียงที่พบบ่อยที่สุดหลังฉีดโบท็อกซ์หน้าผากคือ รอยช้ำ รอยแดง ปวดศีรษะ หรือรู้สึกตึงบริเวณที่ฉีด ซึ่งโดยทั่วไปอาการเหล่านี้ไม่รุนแรงและจะหายไปเอง

  • รอยช้ำและรอยแดง: เป็นอาการที่พบได้บ่อยที่สุด มักจะหายไปเองภายในหนึ่งสัปดาห์ สามารถใช้เครื่องสำอางปกปิดได้หลังฉีดไปแล้วหนึ่งวัน
  • อาการปวดศีรษะ: อาจเกิดขึ้นได้ในวันแรกหลังฉีด สามารถรับประทานยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอล (Tylenol) เพื่อบรรเทาอาการได้
  • รู้สึกหนักหรือตึงที่หน้าผาก: เป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นได้เมื่อโบท็อกซ์เริ่มออกฤทธิ์ และจะค่อยๆ หายไปเองเมื่อร่างกายปรับตัวได้
  • หนังตาตก (Eyelid Ptosis): เป็นผลข้างเคียงที่พบได้ไม่บ่อยและเกิดขึ้นชั่วคราว หากเกิดขึ้น แพทย์อาจสั่งยาหยอดตา Apraclonidine เพื่อช่วยยกระดับเปลือกตาขึ้นเล็กน้อยในระหว่างที่รอให้โบท็อกซ์หมดฤทธิ์

วิธีป้องกันและแก้ไขปัญหาหน้าตึง หนังตาตก หรือคิ้วตก

วิธีป้องกันปัญหาหน้าตึงหรือคิ้วตกที่ดีที่สุดคือการเลือกผู้ฉีดที่มีประสบการณ์ซึ่งจะปรับเทคนิคและปริมาณยาให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล ส่วนการแก้ไขมักจะต้องรอให้โบท็อกซ์หมดฤทธิ์ไปเอง แต่มีวิธีบรรเทาอาการได้

วิธีป้องกัน:

  • เลือกผู้ฉีดที่เชี่ยวชาญ: ผู้ฉีดที่มีประสบการณ์จะเข้าใจกายวิภาคบนใบหน้าและฉีดโบท็อกซ์ในตำแหน่งที่ถูกต้อง โดยจะฉีดสูงกว่าแนวคิ้วอย่างน้อย 1-2 เซนติเมตร เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ยากระจายตัวไปโดนกล้ามเนื้อที่ใช้ยกเปลือกตา
  • ใช้ปริมาณยาที่เหมาะสม: ผู้ฉีดจะเริ่มต้นด้วยปริมาณยาที่ไม่สูงเกินไป โดยเฉพาะกับผู้ที่ไม่เคยฉีดมาก่อน เพื่อประเมินการตอบสนองของกล้ามเนื้อ
  • ปฏิบัติตามคำแนะนำหลังฉีด: งดการนวดหรือกดบริเวณที่ฉีด และควรตั้งศีรษะตรงเป็นเวลา 3-4 ชั่วโมงหลังฉีด เพื่อป้องกันการเคลื่อนที่ของตัวยา

วิธีแก้ไข:

  • หากรู้สึกหน้าผากตึงหรือหนัก: โดยทั่วไปต้องรอให้อาการดีขึ้นเองเมื่อโบท็อกซ์เริ่มหมดฤทธิ์ ในบางกรณี แพทย์อาจฉีดโบท็อกซ์เพิ่มเล็กน้อยในกล้ามเนื้อส่วนอื่นเพื่อช่วยยกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
  • หากหนังตาตก (Eyelid Ptosis): แพทย์สามารถสั่งยาหยอดตา เช่น Apraclonidine (Iopidine) ซึ่งช่วยกระตุ้นกล้ามเนื้อให้ยกเปลือกตาขึ้นได้ประมาณ 1-2 มิลลิเมตร เพื่อช่วยให้ดูเป็นปกติมากขึ้นระหว่างรอให้โบท็อกซ์หมดฤทธิ์ ซึ่งอาการหนังตาตกนี้จะหายไปได้เองและไม่ถาวร

ข้อห้ามสำคัญหลังฉีดโบท็อกที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

ข้อห้ามสำคัญหลังฉีดโบท็อกคือ การงดนอนราบ งดออกกำลังกายหนัก และหลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือนวดบริเวณที่ฉีด ในช่วง 24 ชั่วโมงแรก เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยากระจายไปยังกล้ามเนื้อส่วนอื่น

ข้อควรปฏิบัติเพิ่มเติมในช่วงแรก ได้แก่:

  • อยู่ในท่าตั้งตรง: ควรรักษาศีรษะให้ตั้งตรงและไม่นอนราบหรือก้มหน้าเป็นเวลาอย่างน้อย 3-4 ชั่วโมงหลังฉีด
  • หลีกเลี่ยงความร้อน: งดการเข้าซาวน่า ห้องอบไอน้ำ หรืออยู่ในที่ร้อนจัดเป็นเวลา 24 ชั่วโมง
  • งดดื่มแอลกอฮอล์: ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันแรกเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดรอยช้ำ

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการฉีดโบท็อกหน้าผาก

การฉีดโบท็อกซ์บริเวณหน้าผากต้องใช้กี่ยูนิต?

โดยทั่วไปแล้ว การฉีดโบท็อกซ์บริเวณหน้าผากต้องใช้ประมาณ 10 ถึง 30 ยูนิต เพื่อลดเลือนริ้วรอยในแนวนอน

ปริมาณที่แน่นอนจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและความลึกของริ้วรอย โดยทั่วไปผู้ชายมักต้องการปริมาณโบท็อกซ์ที่สูงกว่าผู้หญิง เนื่องจากมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงกว่า แพทย์จะเป็นผู้ประเมินและกำหนดปริมาณที่เหมาะสมสำหรับแต่ละบุคคล

ฉีดโบท็อกหน้าผากกี่วันถึงจะเห็นผลชัดเจน?

โดยทั่วไปแล้ว จะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนที่สุดในเวลาประมาณ 14 วัน (2 สัปดาห์) หลังการฉีด

อย่างไรก็ตาม คุณอาจเริ่มสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงเบื้องต้นได้ภายใน 2-5 วันแรก โดยริ้วรอยจะเริ่มดูตื้นขึ้น และจะเห็นผลดีขึ้นอย่างมากเมื่อครบ 1 สัปดาห์ ก่อนที่จะเห็นผลลัพธ์เต็มที่ในสัปดาห์ที่สอง

ผลลัพธ์จากการฉีดโบท็อกหน้าผากอยู่ได้นานกี่เดือน?

ผลลัพธ์จากการฉีดโบท็อกหน้าผากโดยทั่วไปจะอยู่ได้นานประมาณ 3 ถึง 4 เดือน หลังจากผ่านไปประมาณ 3 เดือน คุณจะเริ่มสังเกตเห็นว่ากล้ามเนื้อกลับมาทำงานได้อีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล บางคนอาจอยู่ได้นานถึง 5-6 เดือน ในขณะที่ผู้ที่ฉีดครั้งแรกอาจพบว่าผลลัพธ์จางลงในเวลาประมาณ 2.5-3 เดือน

ฉีดโบท็อกหน้าผากอันตรายหรือไม่ มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง?

การฉีดโบท็อกหน้าผากนั้นมีความปลอดภัยสูงเมื่อทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โดยผลข้างเคียงส่วนใหญ่มักไม่รุนแรงและหายได้เอง โบท็อกได้รับการรับรองจาก FDA และมีการใช้งานมานานหลายสิบปี โดยความปลอดภัยขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญของแพทย์ผู้ฉีดเป็นสำคัญ

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ ได้แก่:

  • ผลข้างเคียงทั่วไป (มักหายได้เองในเวลาไม่นาน):
  • รอยแดง บวม หรือรอยช้ำเล็กน้อยบริเวณที่ฉีด
  • อาการปวดศีรษะเล็กน้อย หรือรู้สึกตึงๆ ที่หน้าผาก
  • อาการเจ็บบริเวณที่ฉีด
  • ผลข้างเคียงที่พบได้ไม่บ่อย (เป็นภาวะชั่วคราว):
  • ความรู้สึกหนักที่หน้าผากหรือคิ้วตก
  • หนังตาตก ซึ่งเกิดจากการฉีดผิดตำแหน่ง แต่จะหายไปเมื่อโบท็อกหมดฤทธิ์ และสามารถบรรเทาได้ด้วยยาหยอดตาบางชนิด

เป็นสิวที่หน้าผากสามารถฉีดโบท็อกได้หรือไม่?

โดยทั่วไปแล้ว สามารถฉีดโบท็อกได้หากมีสิวเล็กน้อยบนหน้าผาก แต่จะขึ้นอยู่กับความรุนแรงและตำแหน่งของสิว

แพทย์จะหลีกเลี่ยงการฉีดลงบนหัวสิวโดยตรงเพื่อป้องกันการติดเชื้อ อย่างไรก็ตาม หากเป็นสิวอักเสบรุนแรงหรือมีการติดเชื้อ ควรเลื่อนการฉีดออกไปก่อนจนกว่าสิวจะหายดี

หลังฉีดโบท็อกหน้าผาก ห้ามนอนตะแคงกี่วัน?

คุณสามารถกลับมานอนตะแคงได้ตามปกติหลังจากวันแรกที่ฉีด โดยในคืนแรกหลังฉีด แพทย์มักแนะนำให้พยายามนอนหงายเพื่อหลีกเลี่ยงการกดทับบริเวณหน้าผาก

ข้อควรระวังที่สำคัญที่สุดคือการงดนอนราบหรือก้มศีรษะเป็นเวลา 3-4 ชั่วโมงหลังฉีดทันที หลังจากนั้นคุณสามารถนอนราบได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงการนอนคว่ำในคืนแรก เมื่อผ่านวันแรกไปแล้ว โบท็อกซ์จะเข้าที่และคุณสามารถนอนในท่าที่ถนัดได้ตามปกติ

References:

  1. StatPearls. (n.d.). Botulinum Toxin. StatPearls Publishing, NCBI Bookshelf. ncbi.nlm.nih.gov
  2. University of Utah Health. (n.d.). Wrinkles & Volume Loss. University of Utah Health. healthcare.utah.edu
  3. StatPearls. (n.d.). Botulinum Toxin Treatment of the Upper Face. StatPearls Publishing, NCBI Bookshelf. ncbi.nlm.nih.gov
  4. Cleveland Clinic. (n.d.). Botox Aftercare: The Do’s, Don’ts and Don’t-Worry-About-Its. Cleveland Clinic – Health Essentials. health.clevelandclinic.org
  5. KKC Clinic. (n.d.). Botox in Bangkok: Reduce Wrinkles & Prevent Fine Lines. KKC Clinic. kkcclinic.com
  6. PlacidWay. (n.d.). How much does Botox cost in Bangkok? PlacidWay Medical Tourism. placidway.com
  7. Gotter, A. (n.d.). Proper Dosage for Botox Treatment on the Forehead, Eyes, and Glabella. Healthline. healthline.com
  8. Radiant Facial Rejuvenation. (n.d.). Eyelid Ptosis After Botox. Radiant Facial Rejuvenation. radiantfr.com

แนะแนวเรื่อง

Previous Previous
ฉีดโบท็อกยกมุมปาก ราคาเท่าไหร่? ต้องใช้กี่ยูนิต? อัปเดต 2568
NextContinue
ฉีดฟิลเลอร์ขมับ กี่ CC ถึงจะเหมาะ? อยู่ได้นานแค่ไหน | ข้อที่ควรรู้

สาขาพรีวาโต คลินิก

    สาขาอโศก ตั้งอยู่ที่ ชั้น 2 อาคารมิดทาวน์
    Phone: 02-258-4050 , 081-841-5075
    สาขาสีลม ตั้งอยู่ที่ ชั้น 1 อาคารซี.พี.ทาวเวอร์
    Phone: 02-780-2011 , 098-272-5244
    สาขาราชพฤกษ์ ตั้งอยู่ที่ ชั้น 2 ศูนย์การค้า เดอะคริสตัล เอสบี (ด้านบนร้านสตาร์บัคส์)
    Phone: 02-102-2778 , 098-272-5244

ติดต่อเรา

    Facebook: Privato Clinic
    Messenger: Privato Clinic
    Instagram: privatoclinic
    Email: privatoclinic@gmail.com
    Line: @privatoclinic

Copyright© 2022-2024. All Rights Reserved

Scroll to top
  • หน้าหลัก
  • เกี่ยวกับพรีวาโต
  • บริการทั้งหมด
    • ชะลอวัย
    • ยกกระชับผิว
      • XERF
      • Potenza
      • Sofwave
      • Ulthera
      • Thermage-FLX
    • รักษาสิว
    • เลเซอร์
    • โปรแกรมฉีด
    • บำรุงผิว
  • บทความ
    • สิว
    • ยกกระชับ
    • ดูแลผิว
    • ทำเลเซอร์
  • ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว
  • โปรโมชั่น
  • ผลลัพธ์การรักษา
  • วิดีโอรีวิวจากเคสจริง
  • สาขาของเรา
  • ไทย
    • ไทย
    • English
    • 中文 (中国)
  • ปรึกษาแพทย์
Facebook Instagram YouTube