Sofwave กับ Ulthera เทียบให้ชัดเรื่องราคา ความลึก และความเจ็บ
![Sofwave กับ Ulthera [2568] เทียบให้ชัดเรื่องราคา ความลึก และความเจ็บ](https://privatoclinic.com/wp-content/uploads/2025/10/sofwave-กับ-ulthera.jpg)
การทำ Sofwave กับ Ulthera คือเทคโนโลยียกกระชับผิวด้วยอัลตราซาวด์ที่ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนโดยไม่ต้องผ่าตัด ซึ่งแม้จะเจ็บน้อยกว่าแต่ Sofwave จะเน้นจัดการริ้วรอยตื้นที่ความลึก 1.5 มม. ในขณะที่ Ulthera จะยกกระชับผิวชั้นลึก (SMAS) ให้ผลลัพธ์คงอยู่นานสูงสุด 2 ปี
Sofwave และ Ulthera คืออะไร: รู้จักเทคโนโลยีอัลตราซาวด์ยกกระชับ
Sofwave และ Ulthera คือ เทคโนโลยียกกระชับผิวด้วยอัลตราซาวด์ ที่ใช้พลังงานความร้อนกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนังเพื่อยกกระชับและฟื้นฟูผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด แต่ทั้งสองมีความแตกต่างกันที่ระดับความลึกและเป้าหมายการรักษา
- Sofwave ใช้เทคโนโลยี SUPERB™ (Synchronous Ultrasound Parallel Beam) ส่งพลังงานลงไปที่ความลึก 1.5 มม. ในชั้นหนังแท้ส่วนกลาง เหมาะสำหรับการลดเลือนริ้วรอยตื้นๆ และปรับปรุงคุณภาพผิว
- Ulthera ใช้เทคโนโลยี MFU-V (Microfocused Ultrasound with Visualization) ส่งพลังงานลงได้หลายระดับความลึก (1.5, 3.0, และ 4.5 มม.) จนถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นพังผืดที่รองรับผิว เหมาะสำหรับการยกกระชับโครงสร้างผิวที่หย่อนคล้อยอย่างเห็นได้ชัด
หลักการทำงานของ Sofwave: เทคโนโลยี SUPERB™
เทคโนโลยี SUPERB™ ของ Sofwave ทำงานโดยการปล่อยคลื่นอัลตราซาวด์แบบขนาน (Parallel Beam) 7 ลำแสงพร้อมกัน เพื่อส่งพลังงานความร้อนลงไปที่ความลึก 1.5 มิลลิเมตรในชั้นหนังแท้ส่วนกลาง (Mid-dermis) อย่างแม่นยำ
หลักการทำงานดังกล่าวทำให้เกิดโซนความร้อนที่ควบคุมได้ในชั้นผิวที่อุดมด้วยคอลลาเจน ซึ่งกระตุ้นกระบวนการซ่อมแซมของร่างกายให้สร้างคอลลาเจนและอีลาสตินขึ้นมาใหม่ ส่งผลให้ริ้วรอยลดลงและผิวมีความกระชับขึ้น นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีทำความเย็น Sofcool™ เพื่อปกป้องผิวชั้นนอก ทำให้ปลอดภัยสำหรับทุกสภาพผิว
หลักการทำงานของ Ulthera: เทคโนโลยี MFU-V
Ulthera ใช้เทคโนโลยี Microfocused Ultrasound with Visualization (MFU-V) ซึ่งเป็นการส่งพลังงานอัลตราซาวด์แบบเฉพาะเจาะจงเป็นจุดเล็กๆ ไปยังชั้นผิวหนังได้หลายระดับความลึก เทคโนโลยีนี้สามารถส่งพลังงานไปถึงชั้นผิวหนังตั้งแต่ 1.5 มม., 3.0 มม. ไปจนถึง 4.5 มม. ซึ่งเป็นระดับความลึกของชั้น SMAS (Superficial Musculoaponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นพังผืดที่รองรับโครงสร้างใบหน้า
การส่งพลังงานลงไปจะสร้างจุดความร้อนขนาดเล็ก (Thermal Coagulation Points) ในเนื้อเยื่อ ทำให้เกิดการหดตัวและกระตุ้นกระบวนการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ นอกจากนี้ ส่วนสำคัญของเทคโนโลยีคือ “Visualization” ที่ช่วยให้แพทย์มองเห็นภาพชั้นผิวหนังแบบเรียลไทม์ขณะทำการรักษา ทำให้สามารถส่งพลังงานได้อย่างแม่นยำและปลอดภัย ส่งผลให้ผิวเกิดการยกกระชับและแน่นขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
ตารางเปรียบเทียบ Sofwave vs Ulthera แบบหมัดต่อหมัด
ระดับความลึกของพลังงาน: ผิวชั้นกลาง vs ชั้น SMAS
Sofwave ส่งพลังงานลงไปที่ความลึกคงที่ 1.5 มม. ในชั้นหนังแท้ตอนกลาง ในขณะที่ Ulthera สามารถส่งพลังงานลงไปได้หลายระดับความลึกจนถึงชั้น SMAS ที่ 4.5 มม. ความแตกต่างนี้ส่งผลต่อผลลัพธ์การรักษาโดยตรง
- Sofwave มุ่งเน้นการรักษาที่ชั้นหนังแท้ตอนกลาง (Mid-dermis) ซึ่งเป็นชั้นที่อุดมไปด้วยคอลลาเจน จึงเหมาะสำหรับการลดเลือนริ้วรอยเล็กๆ และปรับปรุงคุณภาพผิวให้เรียบเนียน
- Ulthera สามารถเข้าถึงได้หลายชั้นผิว ตั้งแต่ 1.5 มม., 3.0 มม. ไปจนถึง 4.5 มม. ซึ่งเป็นที่อยู่ของชั้น SMAS (ชั้นพังผืดที่รองรับผิว) การรักษาที่ชั้นลึกนี้ทำให้ Ulthera สามารถยกกระชับโครงสร้างผิวที่หย่อนคล้อยได้ดีกว่า
ผลลัพธ์ที่คาดหวัง: ลดริ้วรอย vs ยกกระชับโครงหน้า
Sofwave เน้นการลดเลือนริ้วรอยตื้นๆ และปรับปรุงคุณภาพผิว ในขณะที่ Ulthera เน้นการยกกระชับโครงสร้างผิวที่หย่อนคล้อยในระดับลึก เนื่องจากทั้งสองเทคโนโลยีใช้พลังงานลงไปที่ความลึกของชั้นผิวที่แตกต่างกัน
- Sofwave เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยเล็กน้อยถึงปานกลางและความหย่อนคล้อยที่ไม่รุนแรง โดยจะช่วยให้ผิวเรียบเนียนและกระชับขึ้น จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการจัดการกับสัญญาณแห่งวัยในระยะเริ่มต้น
- Ulthera เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับโครงสร้างใบหน้าอย่างเห็นได้ชัด เช่น ยกแก้มที่หย่อนคล้อย ทำให้กรอบหน้าคมชัดขึ้น หรือยกผิวบริเวณคิ้วและลำคอที่หย่อนยาน เนื่องจากสามารถส่งพลังงานลงไปถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นพังผืดที่รองรับผิว
ความรู้สึกระหว่างทำ: ใครเจ็บกว่ากัน?
Ulthera (อัลเทอร่า) เป็นที่ทราบกันว่าเจ็บกว่า Sofwave เนื่องจากเป็นการส่งพลังงานลงไปในชั้นผิวที่ลึกกว่าและมีความเข้มข้นของพลังงานสูงกว่า
โดยทั่วไปแล้ว ความรู้สึกระหว่างทำ Sofwave จะเป็นเพียงความรู้สึกอุ่นๆ หรือจี๊ดๆ เล็กน้อยซึ่งสามารถจัดการได้ด้วยยาชาเฉพาะที่ ในขณะที่ Ulthera มักทำให้รู้สึกร้อนลึกๆ หรือเหมือนมีอะไรมาทิ่มแทง ซึ่งบ่อยครั้งจำเป็นต้องใช้ยาแก้ปวดชนิดรับประทานหรือยาชาเฉพาะจุดเพื่อช่วยบรรเทาความเจ็บปวด
ระยะเวลาในการทำและผลลัพธ์ที่คงอยู่
Sofwave ใช้เวลาทำ 30-45 นาที และผลลัพธ์คงอยู่ประมาณ 6-12 เดือน ในขณะที่ Ulthera ใช้เวลา 60-90 นาที และผลลัพธ์คงอยู่นานกว่าที่ 1-2 ปี
โดยทั่วไป Sofwave จะเห็นผลด้านผิวเรียบเนียนได้เร็วกว่าภายใน 1-2 สัปดาห์ และเห็นผลเต็มที่ใน 3 เดือน ส่วน Ulthera ผลลัพธ์จะเริ่มชัดเจนขึ้นในช่วง 2-3 เดือนหลังทำ ด้วยเหตุนี้ การทำทรีตเมนต์เพื่อคงผลลัพธ์จึงแตกต่างกัน โดย Sofwave มักแนะนำให้ทำซ้ำทุกปี ในขณะที่ Ulthera แนะนำให้ทำซ้ำทุก 1.5-2 ปี
ความปลอดภัยและมาตรฐานการรับรอง (FDA Cleared)
ทั้ง Sofwave และ Ulthera เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (U.S. FDA-cleared) ว่ามีความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการยกกระชับผิว
- Ulthera (Ultherapy): เป็นเครื่องแรกที่ได้รับการรับรองจาก FDA สำหรับการยกกระชับผิวบริเวณคิ้ว, ใต้คาง, ลำคอ และลดเลือนริ้วรอยบริเวณเนินอก (Décolletage)
- Sofwave: ได้รับการรับรองจาก FDA ในปี 2019 สำหรับการลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้า และต่อมาในปี 2021 ได้รับการรับรองเพิ่มเติมสำหรับการยกกระชับผิวบริเวณคิ้ว, ใต้คาง และลำคอ ซึ่งเป็นบริเวณสำคัญเช่นเดียวกับ Ulthera
ทั้งสองเทคโนโลยีมีความปลอดภัยสูง สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว และผลข้างเคียงที่พบส่วนใหญ่มักไม่รุนแรงและหายได้เอง เช่น อาการบวมแดง หรือความรู้สึกเจ็บเล็กน้อย ซึ่งจะหายไปในเวลาสั้นๆ
ใครเหมาะกับ Sofwave และใครเหมาะกับ Ulthera
ลักษณะผิวและปัญหาที่เหมาะกับ Sofwave
Sofwave เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง มีริ้วรอยตื้นๆ และต้องการปรับปรุงคุณภาพผิวโดยรวม โดยทั่วไปมักเป็นผู้ที่อยู่ในช่วงอายุ 30-50 ปี ที่เริ่มสังเกตเห็นสัญญาณแห่งวัยระยะเริ่มต้น เช่น คิ้วตกเล็กน้อย แก้มเริ่มหย่อนคล้อย หรือมีริ้วรอยตื้นๆ บริเวณใบหน้าและลำคอ
นอกจากนี้ยังเหมาะกับผู้ที่ต้องการกระตุ้นคอลลาเจนเพื่อชะลอวัย หรือปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนและกระชับขึ้น โดย Sofwave สามารถใช้ได้กับทุกสีผิวอย่างปลอดภัย
ลักษณะผิวและปัญหาที่เหมาะกับ Ulthera
Ulthera เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยระดับปานกลางถึงรุนแรง ซึ่งต้องการการยกกระชับที่เห็นผลชัดเจนแต่ไม่ต้องการผ่าตัด โดยทั่วไปมักเป็นผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป
ปัญหาผิวที่เหมาะกับการรักษาด้วย Ulthera ได้แก่:
- คิ้วตก หรือหนังตาตก
- ผิวใต้คางและลำคอหย่อนคล้อย หรือมีเหนียง
- กรอบหน้าไม่คมชัดเนื่องจากแก้มหย่อน (Jowls)
- ความหย่อนคล้อยบริเวณใบหน้าส่วนล่างและลำคอ
ข้อควรระวังและผู้ที่ไม่เหมาะกับการรักษาทั้งสองแบบ
ผู้ที่ไม่เหมาะกับการรักษาคือผู้ที่มีการติดเชื้อที่ผิวหนัง มีอุปกรณ์โลหะฝังในร่างกาย หรือกำลังตั้งครรภ์ ส่วนข้อควรระวังจะเกี่ยวข้องกับผู้ที่เพิ่งทำหัตถการอื่น ๆ หรือมีภาวะสุขภาพบางอย่าง
ผู้ที่ไม่เหมาะกับการรักษา (Contraindications)
- มีการติดเชื้อที่ผิวหนัง มีแผลเปิด หรือเป็นสิวอักเสบรุนแรงในบริเวณที่จะทำ
- มีอุปกรณ์การแพทย์หรือโลหะฝังอยู่ในบริเวณที่จะทำ เช่น เครื่องกระตุ้นหัวใจ
- กำลังตั้งครรภ์
- มีโรคประจำตัวรุนแรงที่ยังควบคุมอาการไม่ได้
- มีประวัติการเกิดแผลเป็นคีลอยด์ได้ง่าย
- มีการฝังซิลิโคนหรือฉีดฟิลเลอร์ชนิดถาวรในบริเวณที่จะทำ
ข้อควรระวัง (Precautions)
- เพิ่งทำหัตถการอื่น ๆ บนใบหน้า เช่น ผ่าตัดดึงหน้า หรือฉีดฟิลเลอร์ ควรเว้นระยะเวลาตามคำแนะนำของแพทย์
- ผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยรุนแรงมาก อาจไม่เห็นผลลัพธ์ที่ต้องการ
- กำลังรับประทานยาบางชนิด เช่น ยารักษาสิวในกลุ่ม Isotretinoin หรือยาละลายลิ่มเลือด
- ผู้ที่สูบบุหรี่จัดหรือมีผิวที่ถูกทำลายจากแสงแดดมาก อาจส่งผลต่อการสร้างคอลลาเจน
เปรียบเทียบราคา Sofwave และ Ulthera: ปัจจัยกำหนดค่าใช้จ่าย
อัตราค่าบริการ Sofwave โดยประมาณต่อครั้ง
อัตราค่าบริการ Sofwave โดยประมาณต่อครั้งอยู่ที่ 15,000–30,000 บาท ซึ่งราคานี้มักครอบคลุมการทำทั่วใบหน้าและลำคอ โดยอาจแตกต่างกันไปตามชื่อเสียงของคลินิกและโปรโมชัน ณ ขณะนั้น
อัตราค่าบริการ Ulthera โดยประมาณต่อไลน์ (Line)
อัตราค่าบริการ Ulthera โดยประมาณอยู่ที่ 80–120 บาทต่อไลน์ โดยราคาจะขึ้นอยู่กับจำนวนไลน์ที่ทำ ซึ่งแพ็กเกจที่มีจำนวนไลน์สูงกว่ามักจะมีราคาต่อไลน์ที่ถูกลง
ปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจเลือกระหว่าง Sofwave กับ Ulthera
การประเมินสภาพผิวและเป้าหมายโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
การประเมินโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมีความสำคัญอย่างยิ่งเพื่อวิเคราะห์ปัญหาผิวและเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล แพทย์จะตรวจประเมินความยืดหยุ่นของผิว, ระดับความหย่อนคล้อย, และความลึกของริ้วรอย เพื่อแนะนำการรักษาที่ตรงจุด เช่น อาจแนะนำ Ulthera สำหรับผู้ที่มีปัญหาแก้มหรือคอหย่อนคล้อยมาก ในขณะที่แนะนำ Sofwave สำหรับผู้ที่ต้องการลดริ้วรอยตื้นๆ และแก้ปัญหาผิวที่ไม่กระชับในระยะเริ่มต้น เพื่อให้แผนการรักษามีความปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
การเตรียมตัวก่อนทำและการดูแลผิวหลังการรักษา
การเตรียมตัวก่อนทำและการดูแลผิวหลังการรักษา เกี่ยวข้องกับการเตรียมผิวให้พร้อมและหลีกเลี่ยงปัจจัยที่อาจรบกวนกระบวนการฟื้นฟูผิว โดยทั้งสองหัตถการมีข้อปฏิบัติที่คล้ายคลึงกัน
การเตรียมตัวก่อนทำ
- งดแต่งหน้าหรือทาครีมบำรุงผิวในวันที่เข้ารับการรักษา
- หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง เช่น สครับ, เรตินอยด์ หรือกรดผลัดเซลล์ผิว 2-3 วันก่อนทำ
- เจ้าหน้าที่จะทำความสะอาดผิวและทายาชาให้ก่อนทำประมาณ 30 นาที
- สำหรับ Ultherapy อาจมีการให้ยาแก้ปวดหรือยาคลายกังวลเพื่อช่วยลดความรู้สึกไม่สบายผิวระหว่างทำ
การดูแลหลังทำ
- สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันและแต่งหน้าได้ตามปกติ
- ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไปอย่างสม่ำเสมอ
- หลีกเลี่ยงความร้อน เช่น การเข้าซาวน่า หรือการออกกำลังกายอย่างหนักประมาณ 24 ชั่วโมง
- งดใช้ผลิตภัณฑ์ที่อาจระคายเคืองผิว เช่น สครับ หรือกรดผลัดเซลล์ผิว 1-2 วัน
ความเข้าใจผิดที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Sofwave และ Ulthera
ความเข้าใจผิดที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Sofwave และ Ulthera ได้แก่ ความเชื่อที่ว่าไม่สามารถทำร่วมกันได้, ความกังวลเรื่องความเจ็บปวดและระยะเวลาพักฟื้น, ความคาดหวังว่าผลลัพธ์จะถาวร, และการมองหาว่าเครื่องไหน “ดีกว่า” กันอย่างสิ้นเชิง
- การทำร่วมกัน: หลายคนเข้าใจว่าต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่ความจริงแล้วทั้งสองเครื่องสามารถทำร่วมกันได้อย่างปลอดภัยเพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้น เนื่องจากเป็นการดูแลผิวในระดับความลึกที่แตกต่างกัน
- ความเจ็บปวดและการพักฟื้น: มีความเข้าใจว่าต้องเจ็บมากและพักฟื้นนาน แต่ในความเป็นจริง ความเจ็บอยู่ในระดับที่จัดการได้ (Sofwave เจ็บน้อยกว่า Ulthera) และแทบไม่มีระยะเวลาพักฟื้น อาจมีเพียงรอยแดงหรืออาการบวมเล็กน้อยชั่วคราวเท่านั้น
- ผลลัพธ์และอายุที่เหมาะสม: ผลลัพธ์ไม่ได้คงอยู่ถาวร โดยทั่วไปผลของ Ulthera อยู่ได้ 1-2 ปี และ Sofwave ประมาณ 1 ปี จึงต้องมีการทำซ้ำเพื่อคงสภาพ ส่วนอายุที่เหมาะสมนั้นแตกต่างกันไป โดย Sofwave มักเหมาะกับผู้ที่เริ่มมีปัญหาริ้วรอยและความหย่อนคล้อยเล็กน้อย ในขณะที่ Ulthera เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาความหย่อนคล้อยที่ชัดเจนกว่า
- เครื่องไหนดีกว่ากัน: ไม่มีเครื่องไหนดีกว่าอย่างชัดเจน แต่แต่ละเครื่องมีความเหมาะสมต่างกัน Ulthera เหมาะกับการยกกระชับผิวชั้นลึกและแก้ปัญหาความหย่อนคล้อยมาก ส่วน Sofwave เหมาะกับการลดเลือนริ้วรอยตื้นๆ และปรับสภาพผิว
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับ Sofwave และ Ulthera
Sofwave กับ Ulthera ทำพร้อมกันได้ไหม?
Sofwave และ Ulthera สามารถทำร่วมกันได้ และการทำเช่นนั้นอาจช่วยเสริมประสิทธิภาพการรักษาให้ดียิ่งขึ้นสำหรับผู้ที่เหมาะสม เนื่องจากทั้งสองเทคโนโลยีทำงานในชั้นผิวที่แตกต่างกัน
- Ulthera เน้นการยกกระชับในชั้นผิวลึก (SMAS) เพื่อแก้ปัญหาความหย่อนคล้อยของโครงสร้างใบหน้า
- Sofwave เน้นการฟื้นฟูผิวในชั้นหนังแท้ส่วนกลาง (mid-dermis) เพื่อลดเลือนริ้วรอยและปรับปรุงคุณภาพผิว
การรักษาแบบผสมผสานนี้จึงช่วยฟื้นฟูผิวได้อย่างครอบคลุม โดยควรปรึกษาแพทย์ผู้มีประสบการณ์เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสม
ทำ Sofwave หรือ Ulthera เจ็บมากไหม?
Sofwave เจ็บน้อยกว่า Ulthera อย่างเห็นได้ชัด โดยทั่วไป Sofwave ให้ความรู้สึกอุ่นๆ และเจ็บเล็กน้อย ซึ่งสามารถจัดการได้ด้วยการทายาชาเฉพาะที่ ในขณะที่ Ulthera ซึ่งส่งพลังงานลงไปลึกกว่า จะทำให้รู้สึกเจ็บแปลบๆ หรือร้อนลึกๆ ได้มากกว่า ทำให้ในหลายกรณีอาจต้องใช้ยาแก้ปวดร่วมด้วยเพื่อช่วยบรรเทาความรู้สึกไม่สบายตัว
ผลลัพธ์ของ Ulthera อยู่ได้นานแค่ไหน?
โดยทั่วไปแล้ว ผลลัพธ์ของ Ulthera อยู่ได้นานประมาณ 1-2 ปี ซึ่งหลังจากนั้นผิวจะค่อยๆ กลับสู่สภาพเดิมตามกระบวนการแก่ชราตามธรรมชาติ ทั้งนี้ระยะเวลาของผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น อายุ สภาพผิว และไลฟ์สไตล์ โดยส่วนใหญ่แนะนำให้ทำซ้ำทุกๆ 1.5-2 ปี เพื่อคงสภาพผลลัพธ์ไว้
Sofwave เหมาะกับคนอายุเท่าไหร่?
Sofwave เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุช่วงปลาย 20 ถึง 50 ปี ที่เริ่มมีสัญญาณแห่งวัยในระยะแรก เช่น ริ้วรอยตื้นๆ และความหย่อนคล้อยเล็กน้อย นอกจากนี้ยังสามารถทำเพื่อป้องกันและชะลอการเกิดความหย่อนคล้อยในอนาคตได้อีกด้วย
หลังทำต้องพักฟื้นนานหรือไม่?
ใช้เวลาพักฟื้นน้อยมากหรือไม่ต้องพักฟื้นเลย เนื่องจากทั้งสองหัตถการไม่มีการผ่าตัดหรือทำให้เกิดแผล ผู้รับบริการจึงสามารถกลับไปทำกิจกรรมต่างๆ ได้ตามปกติทันที
- Sofwave: อาจมีรอยแดงเล็กน้อยบนผิว ซึ่งจะหายไปเองภายในไม่กี่ชั่วโมง
- Ulthera: อาจมีอาการบวม กดเจ็บ หรือรอยช้ำเล็กน้อยได้นาน 2-3 วัน แต่โดยทั่วไปไม่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน
ระหว่าง Sofwave กับ Ulthera เลือกอะไรดีที่สุด?
Ulthera เหมาะสำหรับการยกกระชับผิวชั้นลึก ในขณะที่ Sofwave เหมาะสำหรับการลดเลือนริ้วรอยตื้นๆ และปรับปรุงคุณภาพผิว โดยไม่มีเครื่องใดดีที่สุดเพียงหนึ่งเดียว แต่จะขึ้นอยู่กับปัญหาผิวและความต้องการของแต่ละบุคคล
- เลือก Ulthera หากคุณมีปัญหาความหย่อนคล้อยระดับปานกลางถึงมาก เช่น กรอบหน้าไม่ชัดเจน เหนียง หรือคิ้วตก เนื่องจากสามารถส่งพลังงานลงลึกถึงชั้น SMAS เพื่อยกกระชับโครงสร้างผิว
- เลือก Sofwave หากคุณกังวลเรื่องริ้วรอยตื้นๆ ผิวไม่เรียบเนียน หรือความหย่อนคล้อยเพียงเล็กน้อย โดยจะเน้นกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นหนังแท้เพื่อให้ผิวแน่นและดูอ่อนเยาว์ขึ้น
References:
- Keller, G. Sofwave vs. Ultherapy: Understanding the Differences in Non-Invasive Skin Tightening & Lifting Treatments. Gregory Keller Facial Plastic Surgery Blog. gregorykeller.com
- Lowenstein, A. Ultherapy vs Sofwave: Key Differences to Consider in 2025. Montecito Plastic Surgery (Blog). sbplasticsurgeon.com
- Merz Aesthetics. Ultherapy® Non-Invasive Skin Lifting Treatment – FDA Indications and Safety. Ultherapy Official Website. ultherapy.com
- Sofwave Medical Ltd. Sofwave™ Announces FDA Clearance of New Lifting Indications (Eyebrow, Submental, and Neck Areas). Sofwave – News Release. sofwave.com
- Buffalo Plastic Surgery. Ultherapy and Sofwave Combination Treatments for Skin Tightening. Buffalo Plastic Surgery Blog. buffaloplasticsurgery.com
- V Square Clinic. Ulthera ราคาเท่าไหร่? (Ultherapy Cost Breakdown by Area and Lines). V Square Clinic – Pricing FAQ (Thai). vsquareclinic.co
- V Square Clinic. Sofwave vs Ulthera – ต่างกันอย่างไร เครื่องไหนเหมาะกับใคร (Differences and Suitable Candidates). V Square Clinic Blog (Thai). vsquareclinic.com
- Contini, M., Hollander, M. H. J., Vissink, A., et al. A Systematic Review of the Efficacy of Microfocused Ultrasound for Facial Skin Tightening. Int. Journal of Environmental Research and Public Health. researchgate.net
