Skip to content

TEL : 081-841-5075, 02-258-4050

Facebook Instagram YouTube
Privato Clinic – Innovation Of Beauty  |  Bangkok
  • หน้าหลัก
  • เกี่ยวกับพรีวาโต
  • บริการทั้งหมดExpand
    • ชะลอวัย
    • ยกกระชับผิวExpand
      • XERF
      • Potenza
      • Sofwave
      • Ulthera
      • Thermage-FLX
    • รักษาสิว
    • เลเซอร์
    • โปรแกรมฉีด
    • บำรุงผิว
  • บทความExpand
    • สิว
    • ยกกระชับ
    • ดูแลผิว
    • ทำเลเซอร์
  • ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว
  • โปรโมชั่น
  • ผลลัพธ์การรักษา
  • วิดีโอรีวิวจากเคสจริง
  • สาขาของเรา
  • ไทยExpand
    • ไทย
    • English
    • 中文 (中国)
  • ปรึกษาแพทย์
Privato Clinic – Innovation Of Beauty  |  Bangkok
Consult a Doctor
Lifting

ข้อเสียของการทำ Thermage: รอยแดง บวม ผิวไหม้ เกิดขึ้นจริงไหม?

Byadmin พฤศจิกายน 5, 2025พฤศจิกายน 5, 2025
By แพทย์หญิงนัชชนก หุ่นวิจิตร Updated on พฤศจิกายน 5, 2025
✦ Medically reviewed by  นายแพทย์เลอพงษ์ กรุดเงิน
ข้อเสียของการทำ Thermage: รอยแดง บวม ผิวไหม้ เกิดขึ้นจริงไหม?

ข้อเสีย การทํา thermage ที่พบได้บ่อยคืออาการบวมแดงเล็กน้อยซึ่งมักหายไปใน 24-48 ชั่วโมง ส่วนความเสี่ยงรุนแรงอย่างผิวไหม้หรือรอยดำนั้นพบได้น้อยกว่า 1% และมักเกิดจากเทคนิคที่ไม่เหมาะสมหรือเครื่องที่ไม่ได้มาตรฐาน

Table of Contents

Toggle
  • ผลข้างเคียงที่พบบ่อยจากการทำ Thermage
    • อาการบวม แดง หรือรู้สึกร้อนใต้ผิวหนัง
    • ความเสี่ยงเรื่องผิวไหม้และรอยดำหลังการอักเสบ
    • ผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่คาดหวังหรือไม่เห็นการเปลี่ยนแปลง
  • ใครไม่ควรทำ Thermage? ข้อห้ามและกลุ่มเสี่ยงที่ต้องระวัง
    • ผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือภาวะผิวหนังบางชนิด
    • สตรีมีครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร
    • ผู้ที่ใส่อุปกรณ์โลหะหรือเครื่องกระตุ้นไฟฟ้าในร่างกาย
  • เปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสีย: Thermage กับ Ulthera ต่างกันอย่างไร
    • ความแตกต่างของเทคโนโลยีและชั้นผิวที่รักษา
    • ระดับความเจ็บและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
    • ผลลัพธ์ที่ได้และกลุ่มผู้ที่เหมาะสมกับแต่ละเทคโนโลยี
  • ปัจจัยสำคัญก่อนตัดสินใจทำ Thermage
    • การเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
    • การใช้เครื่อง Thermage ของแท้และจำนวนช็อตที่เหมาะสม
    • การประเมินสภาพผิวและเป้าหมายการรักษาที่สมจริง
  • วิธีลดความเสี่ยงและดูแลตัวเองหลังทำ Thermage
    • การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการรักษา
    • ข้อควรปฏิบัติเพื่อฟื้นฟูผิวและลดอาการบวมแดง
  • คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับข้อเสียของ Thermage
    • ทำ Thermage เจ็บไหม?
    • Thermage ไม่เหมาะกับใครบ้าง?
    • ผลข้างเคียงของ Thermage จะหายไปเมื่อไหร่?
    • หลังทำ Thermage หน้าจะบวมกี่วัน?
    • ทำไมทำ Thermage แล้วไม่เห็นผล?
  • References:

ผลข้างเคียงที่พบบ่อยจากการทำ Thermage

อาการบวม แดง หรือรู้สึกร้อนใต้ผิวหนัง

อาการบวม แดง หรือรู้สึกร้อนใต้ผิวหนัง เป็นผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยหลังทำ Thermage แต่โดยทั่วไปจะมีอาการเพียงเล็กน้อยและหายไปเองอย่างรวดเร็ว โดยอาการเหล่านี้มักจะหายไปภายในระยะเวลาดังนี้

  • อาการแดง: มักจะหายไปภายในไม่กี่ชั่วโมงหรือภายในวันเดียวกัน
  • อาการบวม: โดยทั่วไปจะหายไปภายใน 24-48 ชั่วโมง แต่อาจคงอยู่นานถึง 3-5 วันในผู้ที่มีผิวบอบบาง
  • ความรู้สึกร้อนใต้ผิว: เป็นความรู้สึกอุ่นๆ ที่จะค่อยๆ หายไปเองภายใน 2-3 วัน

ความเสี่ยงเรื่องผิวไหม้และรอยดำหลังการอักเสบ

ความเสี่ยงเรื่องผิวไหม้และรอยดำหลังการอักเสบ (PIH) จากการทำเทอร์มาจนั้นต่ำมาก โดยผลข้างเคียงรุนแรงเหล่านี้พบได้น้อยกว่า 1% และมักเกิดจากการใช้เทคนิคที่ไม่เหมาะสม

  • ผิวไหม้ (Burns): ภาวะแทรกซ้อน เช่น ผิวไหม้ พุพอง หรือแผลเป็นนั้นพบได้ยากมาก หากเกิดขึ้นก็มักเป็นแผลตื้นๆ ที่สามารถหายได้เองภายในไม่กี่วันถึงสองสามสัปดาห์ ความเสี่ยงจะลดลงอย่างมากเมื่อทำโดยผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการรับรอง
  • รอยดำหลังการอักเสบ (PIH): เทอร์มาจมีความเสี่ยงต่ำในการเกิดรอยดำ เนื่องจากพลังงานคลื่นวิทยุ (RF) จะส่งผ่านไปยังผิวชั้นหนังแท้โดยไม่กระทบกระเทือนเซลล์เม็ดสีในชั้นหนังกำพร้า หากมีการเปลี่ยนแปลงของสีผิวเล็กน้อย ก็มักจะมีอาการไม่รุนแรงและจะจางหายไปเองในไม่กี่สัปดาห์

ผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่คาดหวังหรือไม่เห็นการเปลี่ยนแปลง

ใช่ครับ เป็นไปได้ที่ผู้รับบริการบางรายอาจไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน หลังทำเทอร์มาจ

โดยเฉพาะในผู้ที่มีความหย่อนคล้อยของผิวหนังอย่างรุนแรง ซึ่งอาจเหมาะกับการผ่าตัดมากกว่า เนื่องจากเทอร์มาจให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดกับผู้ที่มีความหย่อนคล้อยระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง การจัดการความคาดหวังจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะผลลัพธ์จะเป็นการกระชับผิวอย่างค่อยเป็นค่อยไปและดูเป็นธรรมชาติ ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนเหมือนการผ่าตัด

ใครไม่ควรทำ Thermage? ข้อห้ามและกลุ่มเสี่ยงที่ต้องระวัง

ผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือภาวะผิวหนังบางชนิด

ผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือภาวะผิวหนังบางชนิด ไม่ควรทำ Thermage โดยเฉพาะผู้ที่ใส่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ฝังในร่างกาย สตรีมีครรภ์หรือให้นมบุตร และผู้ที่มีการติดเชื้อที่ผิวหนังในบริเวณที่จะทำ

กลุ่มผู้ที่ไม่เหมาะกับการทำ Thermage หรือต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ ได้แก่

  • ผู้ที่ใส่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในร่างกาย: เช่น เครื่องกระตุ้นหัวใจ (Pacemaker) เนื่องจากคลื่นวิทยุอาจรบกวนการทำงานของอุปกรณ์
  • สตรีมีครรภ์และให้นมบุตร: เนื่องจากยังไม่มีการศึกษาด้านความปลอดภัยที่เพียงพอ
  • ผู้ที่มีการติดเชื้อที่ผิวหนัง: บริเวณที่จะทำต้องไม่มีแผลเปิด สิวอักเสบรุนแรง หรือการติดเชื้อใดๆ
  • ผู้ที่เป็นโรคแพ้ภูมิตัวเองบางชนิด: เช่น โรค SLE หรือโรคหนังแข็ง (Scleroderma) เพราะอาจส่งผลต่อการฟื้นฟูของผิว
  • ผู้ที่มีประวัติเป็นแผลเป็นคีลอยด์: เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในการเกิดแผลเป็นนูน
  • ผู้ที่มีโลหะฝังอยู่ในบริเวณที่ทำ: เช่น แผ่นโลหะหรือสกรูในกระดูกใบหน้า เพราะโลหะอาจนำความร้อนและทำให้เนื้อเยื่อโดยรอบเสียหายได้

สตรีมีครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร

โดยทั่วไปแล้วไม่แนะนำให้ทำ Thermage ในสตรีมีครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร เนื่องจากยังไม่มีการศึกษาทางคลินิกที่ยืนยันความปลอดภัยของการทำ Thermage ต่อทารกในครรภ์หรือทารกแรกเกิด ดังนั้นผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่จึงแนะนำให้หลีกเลี่ยงการทำหัตถการในช่วงเวลานี้เพื่อความปลอดภัยสูงสุด

ผู้ที่ใส่อุปกรณ์โลหะหรือเครื่องกระตุ้นไฟฟ้าในร่างกาย

ผู้ที่ใส่อุปกรณ์โลหะหรือเครื่องกระตุ้นไฟฟ้าในร่างกายไม่สามารถทำเทอร์มาจได้ เนื่องจากเป็นข้อห้ามที่สำคัญ

  • เครื่องกระตุ้นไฟฟ้า: ผู้ที่ใส่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ (Pacemaker) หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ที่ฝังในร่างกาย ไม่สามารถทำเทอร์มาจได้โดยเด็ดขาด เพราะพลังงานคลื่นวิทยุ (RF) อาจรบกวนการทำงานหรือสร้างความเสียหายให้กับอุปกรณ์ได้
  • อุปกรณ์โลหะ: ผู้ที่มีโลหะฝังอยู่ในบริเวณที่ต้องการทำทรีตเมนต์ เช่น แผ่นโลหะหรือสกรูที่กระดูกใบหน้า ไม่สามารถทำเทอร์มาจได้ เพราะโลหะอาจนำความร้อนและทำให้เนื้อเยื่อโดยรอบไหม้ได้

เปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสีย: Thermage กับ Ulthera ต่างกันอย่างไร

Thermage และ Ulthera แตกต่างกันที่เทคโนโลยีและระดับความลึกของชั้นผิวที่ใช้ในการรักษา โดย Thermage ใช้คลื่นวิทยุ (RF) เพื่อกระชับผิวชั้นบน ในขณะที่ Ulthera ใช้คลื่นอัลตราซาวด์ (MFU-V) เพื่อยกกระชับผิวในชั้นที่ลึกกว่า

ตารางเปรียบเทียบข้อแตกต่างที่สำคัญ:

หัวข้อ Thermage Ulthera (Ultherapy)
เทคโนโลยี คลื่นวิทยุ (Monopolar RF) คลื่นอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูง (MFU-V)
ระดับความลึก ผิวชั้นบนและชั้นหนังแท้ (ลึกประมาณ 3.0 มม.) ผิวชั้นลึกถึงชั้น SMAS (ลึกถึง 4.5 มม.)
ผลลัพธ์หลัก กระชับผิว (Tightening) ปรับปรุงคุณภาพผิว ลดริ้วรอยเล็กๆ ยกกระชับ (Lifting) ปรับกรอบหน้าให้คมชัดขึ้น
ระดับความเจ็บ รู้สึกอุ่นถึงร้อน แต่เจ็บน้อยกว่า เจ็บมากกว่า อาจรู้สึกเหมือนมีเข็มเล็กๆ ทิ่มลึกๆ
ผลข้างเคียง บวมแดงเล็กน้อย ซึ่งมักหายไปใน 1-2 วัน อาจมีอาการบวม ช้ำ หรือเจ็บระบมได้นานกว่า และมีความเสี่ยงที่ไขมันจะฝ่อ (พบน้อย)
ระยะเวลาเห็นผล เห็นผลเต็มที่ในเวลาประมาณ 5-6 เดือน เห็นผลชัดเจนในเวลาประมาณ 2-3 เดือน
ความคงทน ประมาณ 1-2 ปี ประมาณ 1.5-2 ปี หรือนานกว่า
เหมาะสำหรับ ผู้ที่ต้องการปรับปรุงคุณภาพผิวโดยรวม ลดความหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง และริ้วรอยตื้นๆ ผู้ที่ต้องการยกกระชับใบหน้าส่วนล่าง เช่น กรอบหน้า คาง และลำคอที่หย่อนคล้อย

ความแตกต่างของเทคโนโลยีและชั้นผิวที่รักษา

เทอร์มาจใช้เทคโนโลยีคลื่นวิทยุความถี่สูงขั้วเดียว (Monopolar RF) ในขณะที่อัลเทอร่าใช้เทคโนโลยีคลื่นอัลตราซาวด์แบบเฉพาะเจาะจง (Micro-focused Ultrasound) ซึ่งส่งผลให้ชั้นผิวที่รักษาแตกต่างกัน

  • เทอร์มาจ (Thermage): ใช้คลื่นวิทยุส่งความร้อนไปยังชั้นหนังแท้ (Dermis) และชั้นไขมันใต้ผิวหนังส่วนบน (ลึกประมาณ 3 มม.) เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวแน่นและเรียบเนียนขึ้น
  • อัลเทอร่า (Ulthera/Ultherapy): ใช้คลื่นอัลตราซาวด์ที่สามารถส่งพลังงานลงไปได้ลึกถึงชั้น SMAS (ลึกประมาณ 4.5 มม.) ซึ่งเป็นชั้นพังผืดที่รองรับเนื้อเยื่อผิวหนังและเป็นชั้นเดียวกับที่ศัลยแพทย์ทำการผ่าตัดดึงหน้า จึงให้ผลลัพธ์ในด้านการ “ยกกระชับ” ที่ชัดเจนกว่า

ระดับความเจ็บและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น

ระดับความเจ็บของ Thermage อยู่ในระดับที่ทนได้ โดยจะรู้สึกอุ่นๆ ที่ผิว ส่วนผลข้างเคียงที่พบบ่อยคืออาการบวมและแดงเล็กน้อยซึ่งจะหายไปเองอย่างรวดเร็ว คนส่วนใหญ่จะรู้สึกอุ่นลึกๆ ที่ผิวเป็นช่วงสั้นๆ ในขณะที่ปล่อยพลังงาน ซึ่งเครื่องรุ่นใหม่จะมีระบบสั่นและให้ความเย็นเพื่อช่วยลดความรู้สึกไม่สบายตัว

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้แก่:

  • อาการบวมและแดง: เป็นผลข้างเคียงที่พบบ่อยที่สุด มักเกิดขึ้นทันทีหลังทำและจะค่อยๆ หายไปเองภายในไม่กี่ชั่วโมงถึง 1-2 วัน
  • รู้สึกอุ่นหรือยิบๆ ที่ผิว: เป็นความรู้สึกปกติหลังทำและจะหายไปในเวลาไม่นาน
  • ผลข้างเคียงที่พบได้ยาก: อาการผิวไหม้ พุพอง หรือแผลเป็นนั้นพบได้น้อยมาก (ต่ำกว่า 1%) และมักเกิดจากการใช้เทคนิคที่ไม่ถูกต้องโดยผู้ที่ไม่เชี่ยวชาญ

ผลลัพธ์ที่ได้และกลุ่มผู้ที่เหมาะสมกับแต่ละเทคโนโลยี

Thermage เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับปรุงคุณภาพผิว ลดริ้วรอย และกระชับผิวโดยรวม ในขณะที่ Ultherapy เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยในระดับลึก โดยเฉพาะบริเวณกรอบหน้าและลำคอ

  • Thermage
  • ผลลัพธ์: เน้นการกระชับผิว (tightening) ปรับปรุงคุณภาพผิวให้เรียบเนียน และลดริ้วรอยตื้นๆ เหมาะสำหรับแก้ปัญหาผิวขาดความกระชับและผิวเหี่ยวย่น (crepey skin)
  • กลุ่มที่เหมาะสม: ผู้ที่มีอายุ 30-50 ปี ที่มีสัญญาณความหย่อนคล้อยในระยะเริ่มต้นถึงปานกลาง และต้องการปรับสภาพผิวโดยรวม สามารถทำได้ทั้งใบหน้า (รวมถึงเปลือกตา) และลำตัว เช่น หน้าท้อง หรือต้นแขน
  • Ultherapy (Ulthera)
  • ผลลัพธ์: เน้นการยกกระชับ (lifting) ผิวในชั้นลึก ทำให้สามารถยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยได้อย่างชัดเจน เช่น การยกคิ้ว กรอบหน้า และลำคอ
  • กลุ่มที่เหมาะสม: ผู้ที่มีความหย่อนคล้อยระดับปานกลาง โดยเฉพาะบริเวณกรอบหน้า ใต้คาง และลำคอที่หย่อนคล้อยอย่างเห็นได้ชัด และต้องการผลลัพธ์การยกกระชับที่ชัดเจน

ปัจจัยสำคัญก่อนตัดสินใจทำ Thermage

การเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

การเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อทั้งความปลอดภัยและประสิทธิภาพของการทำ Thermage เนื่องจากเป็นหัตถการที่ต้องอาศัยเทคนิคและความชำนาญสูง

แพทย์ที่มีประสบการณ์จะสามารถประเมินสภาพผิวและปรับตั้งค่าพลังงานได้อย่างเหมาะสม ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง เช่น แผลไหม้หรือภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ และทำให้มั่นใจได้ว่าพลังงานถูกส่งลงไปในผิวอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ได้ผลลัพธ์การรักษาที่ดีที่สุด การเลือกรักษากับแพทย์ผิวหนังหรือศัลยแพทย์ตกแต่งที่ได้รับการรับรอง (Board-certified) และมีประสบการณ์ในการใช้เครื่อง Thermage โดยตรงจึงเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่ง

การใช้เครื่อง Thermage ของแท้และจำนวนช็อตที่เหมาะสม

การใช้เครื่อง Thermage ของแท้และจำนวนช็อต (shots) ที่เหมาะสม เป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งต่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการรักษา เพื่อให้แน่ใจว่าการรักษาจะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียง

  • การใช้เครื่องและอุปกรณ์ของแท้: ควรตรวจสอบว่าคลินิกใช้เครื่อง Thermage FLX ของแท้และหัวทิป (Tip) ที่เป็นของใหม่แบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง ซึ่งจะบรรจุในกล่องที่ปิดสนิท คลินิกที่ได้มาตรฐานมักจะมีใบรับรอง “Thermage Genuine User” เพื่อยืนยัน การใช้เครื่องปลอมหรือหัวทิปที่ใช้ซ้ำอาจส่งผลให้พลังงานไม่เสถียร ไม่ได้ผล และอาจเป็นอันตรายได้
  • จำนวนช็อตที่เหมาะสม: จำนวนช็อตที่ใช้ในการรักษามีผลโดยตรงต่อผลลัพธ์ หากใช้จำนวนช็อตน้อยเกินไปอาจทำให้เห็นผลไม่ชัดเจน โดยทั่วไป การทำ Thermage บริเวณทั่วใบหน้าและลำคอมักจะใช้ประมาณ 900 ช็อต แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะประเมินและใช้จำนวนช็อตที่เหมาะสมกับบริเวณที่ทำการรักษาเพื่อให้ครอบคลุมและได้ประสิทธิภาพสูงสุด

การประเมินสภาพผิวและเป้าหมายการรักษาที่สมจริง

การประเมินสภาพผิวอย่างละเอียดและการตั้งเป้าหมายที่เป็นจริง เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ผลลัพธ์ของ Thermage ประสบความสำเร็จและสร้างความพึงพอใจสูงสุด

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะทำการประเมินความหย่อนคล้อย ความหนา และสภาพผิวโดยรวมของคนไข้ เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสมและยืนยันว่า Thermage เป็นทางเลือกที่ถูกต้อง นอกจากนี้ แพทย์จะอธิบายให้คนไข้เข้าใจว่าผลลัพธ์จะค่อยๆ ปรากฏขึ้นในช่วงหลายเดือน และเป็นการยกกระชับที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงที่เหมือนกับการผ่าตัดดึงหน้า การจัดการความคาดหวังที่ชัดเจนนี้จะช่วยหลีกเลี่ยงความผิดหวัง โดยเฉพาะในผู้ที่มีความหย่อนคล้อยรุนแรงซึ่งอาจไม่เหมาะกับการรักษานี้

วิธีลดความเสี่ยงและดูแลตัวเองหลังทำ Thermage

วิธีลดความเสี่ยงและดูแลตัวเองหลังทำ Thermage คือ การใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่อ่อนโยน ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวอย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงความร้อนและแสงแดดจัด เพื่อให้ผิวฟื้นตัวได้ดีที่สุดและส่งเสริมการสร้างคอลลาเจน

คำแนะนำในการดูแลตัวเองมีดังนี้:

  • ประคบเย็น: ในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรก สามารถใช้การประคบเย็นเพื่อช่วยลดอาการบวมแดงได้
  • หลีกเลี่ยงความร้อน: งดการอาบน้ำร้อน ซาวน่า และการออกกำลังกายหนักๆ ที่ทำให้เหงื่อออกมากเป็นเวลาอย่างน้อย 48 ชั่วโมง
  • ทาครีมบำรุงและกันแดด: เน้นทามอยส์เจอไรเซอร์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น และทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไปทุกวัน
  • ใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน: ในช่วงสัปดาห์แรก ให้งดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารผลัดเซลล์ผิว เช่น กรดต่างๆ หรือเรตินอยด์
  • ดูแลสุขภาพโดยรวม: การดื่มน้ำให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่จะช่วยให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น
  • สังเกตอาการ: หากมีอาการผิดปกติ เช่น เกิดแผลพุพอง เจ็บปวดรุนแรง หรือรอยแดงไม่หายไป ควรปรึกษาแพทย์ทันที

การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการรักษา

การเตรียมตัวก่อนทำ Thermage ที่สำคัญคือ การหลีกเลี่ยงแสงแดดจัด หยุดใช้ยาหรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวบางชนิด และมาเข้ารับการรักษาด้วยใบหน้าที่สะอาดปราศจากเครื่องสำอาง

เพื่อลดความเสี่ยงและให้ผลการรักษาที่ดีที่สุด ควรปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้:

  • ป้องกันแสงแดด: หลีกเลี่ยงการเผชิญแสงแดดโดยตรงและทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไปเป็นประจำ 1-2 สัปดาห์ก่อนทำ
  • งดยาและอาหารเสริม: หยุดรับประทานยาหรืออาหารเสริมที่ทำให้เลือดบาง เช่น แอสไพริน น้ำมันปลา วิตามินอี ประมาณ 7-10 วันก่อนทำ (ควรปรึกษาแพทย์ก่อนหยุดยา)
  • ปรับการดูแลผิว: งดใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง เช่น สครับ ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิว และเรตินอยด์/เรตินอล ประมาณ 2-3 วันก่อนทำ
  • แจ้งประวัติสุขภาพ: หากมีประวัติเป็นโรคเริมบริเวณริมฝีปาก ควรแจ้งให้แพทย์ทราบล่วงหน้า
  • ในวันนัด: มาด้วยใบหน้าที่สะอาดปราศจากเครื่องสำอาง โลชั่น หรือครีมใดๆ และถอดเครื่องประดับที่เป็นโลหะทั้งหมดออก

ข้อควรปฏิบัติเพื่อฟื้นฟูผิวและลดอาการบวมแดง

การประคบเย็นและหลีกเลี่ยงความร้อนเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการช่วยฟื้นฟูผิวและลดอาการบวมแดงหลังทำเทอร์มาจ

เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้ในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรก

  • ประคบเย็น: ใช้แผ่นเจลเย็นหรือผ้าชุบน้ำเย็นประคบเบาๆ บริเวณที่ทำ เพื่อช่วยลดความร้อนและอาการบวม
  • หลีกเลี่ยงความร้อน: งดการอาบน้ำร้อน ซาวน่า และกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมากเป็นเวลาอย่างน้อย 2 วัน
  • ดูแลผิวอย่างอ่อนโยน: ใช้ผลิตภัณฑ์ให้ความชุ่มชื้นและหลีกเลี่ยงการใช้สครับหรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมรุนแรง เช่น เรตินอยด์ ประมาณ 1 สัปดาห์
  • ป้องกันแสงแดด: ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไปเป็นประจำ
  • นอนหนุนหมอนสูง: ในคืนแรกหลังทำ การนอนหนุนหมอนให้ศีรษะสูงขึ้นเล็กน้อยจะช่วยลดอาการบวมได้

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับข้อเสียของ Thermage

ทำ Thermage เจ็บไหม?

การทำ Thermage จะทำให้รู้สึกร้อนและเจ็บ แต่เป็นความเจ็บในระดับที่สามารถทนได้ ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักอธิบายความรู้สึกว่าเหมือนมีความร้อนสั้นๆ จี๊ดๆ เกิดขึ้นใต้ผิวหนังในแต่ละครั้งที่ปล่อยพลังงาน อย่างไรก็ตาม เครื่องรุ่นใหม่ๆ จะมีเทคโนโลยีความเย็นและการสั่นเพื่อช่วยลดความรู้สึกไม่สบายผิวระหว่างทำ ซึ่งโดยทั่วไปถือว่าเจ็บน้อยกว่าการทำ Ultherapy

Thermage ไม่เหมาะกับใครบ้าง?

Thermage ไม่เหมาะกับผู้ที่ฝังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในร่างกาย สตรีมีครรภ์หรือให้นมบุตร ผู้ที่มีการติดเชื้อที่ผิวหนัง และผู้ที่มีโลหะฝังอยู่ในบริเวณที่จะทำ นอกจากนี้ยังมีกลุ่มอื่นๆ ที่ควรปรึกษาแพทย์อย่างละเอียดก่อนตัดสินใจทำ

กลุ่มที่ไม่เหมาะกับการทำ Thermage หรือควรใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ ได้แก่:

  • ผู้ที่ฝังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทางการแพทย์: เช่น เครื่องกระตุ้นหัวใจ (Pacemaker) หรือเครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดฝัง (ICD)
  • สตรีมีครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร: เนื่องจากยังไม่มีการศึกษาด้านความปลอดภัยในกลุ่มนี้
  • ผู้ที่มีการติดเชื้อที่ผิวหนัง: เช่น มีแผลเปิด สิวอักเสบรุนแรง หรือเริมในบริเวณที่จะทำ ควรรักษาให้หายก่อน
  • ผู้ที่มีโลหะฝังอยู่ในบริเวณที่ทำ: เช่น แผ่นโลหะหรือสกรูทางการแพทย์ (ไม่รวมการอุดฟันหรือจัดฟัน)
  • ผู้ที่เป็นโรคแพ้ภูมิตัวเองบางชนิด: เช่น โรค SLE หรือโรคหนังแข็ง ซึ่งอาจส่งผลต่อการฟื้นฟูของผิว
  • ผู้ที่มีประวัติเป็นแผลเป็นคีลอยด์ง่าย: เพราะมีความเสี่ยงที่ผิวจะเกิดแผลเป็นนูนผิดปกติได้
  • ผู้ที่มีความคาดหวังไม่สมจริง: Thermage ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ จึงไม่เหมาะกับผู้ที่มีความหย่อนคล้อยรุนแรงมากและคาดหวังผลลัพธ์เทียบเท่าการผ่าตัด

ผลข้างเคียงของ Thermage จะหายไปเมื่อไหร่?

ผลข้างเคียงส่วนใหญ่ของ Thermage เช่น รอยแดงและอาการบวมเล็กน้อย มักจะหายไปเองภายใน 24-48 ชั่วโมง โดยทั่วไปแล้วรอยแดงจะจางลงในวันเดียวกัน ส่วนอาการบวมมักจะหายไปภายใน 1-2 วัน และน้อยมากที่จะคงอยู่นานเกิน 3-5 วัน ผลข้างเคียงเหล่านี้ไม่รุนแรงและเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว ทำให้ผู้รับบริการส่วนใหญ่สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ทันที

หลังทำ Thermage หน้าจะบวมกี่วัน?

โดยทั่วไปแล้ว อาการบวมหลังทำ Thermage จะหายไปภายใน 1-2 วัน (ประมาณ 24-48 ชั่วโมง)

อาการบวมส่วนใหญ่มักไม่รุนแรงและเป็นเพียงอาการบวมเล็กน้อยเท่านั้น สำหรับผู้ที่มีผิวบอบบางมาก อาการอาจคงอยู่นานถึง 3-5 วัน แต่ก็พบได้ไม่บ่อยนัก และหลายคนอาจไม่มีอาการบวมที่สังเกตเห็นได้ชัดเจนเลย

ทำไมทำ Thermage แล้วไม่เห็นผล?

การทำ Thermage แล้วไม่เห็นผลอาจเกิดจาก การเลือกผู้ที่ไม่เหมาะกับการรักษา โดยเฉพาะผู้ที่มีความหย่อนคล้อยของผิวที่รุนแรงเกินไป ซึ่งเทคโนโลยีนี้อาจให้ผลลัพธ์ที่ไม่ชัดเจนเท่าที่ควร

สาเหตุอื่นๆ ที่ทำให้ Thermage ไม่เห็นผล ได้แก่:

  • ความหย่อนคล้อยที่รุนแรง: Thermage เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยในระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง หากผิวหย่อนคล้อยมากเกินไป ผลลัพธ์ที่ได้อาจไม่ชัดเจน และอาจเหมาะกับการผ่าตัดมากกว่า
  • การคาดหวังผลลัพธ์ที่ไม่สมจริง: ผลลัพธ์ของ Thermage จะค่อยๆ ปรากฏขึ้นอย่างช้าๆ ในช่วง 2-6 เดือน และเป็นการยกกระชับที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนเหมือนการผ่าตัด
  • เครื่องมือหรือจำนวนช็อตที่ไม่ได้มาตรฐาน: การใช้เครื่องปลอมหรือการใช้จำนวนพลังงาน (ช็อต) ที่ไม่เพียงพอต่อบริเวณที่ทำการรักษา จะทำให้การกระตุ้นคอลลาเจนไม่มีประสิทธิภาพ
  • เทคนิคและประสบการณ์ของผู้ทำ: ความเชี่ยวชาญของผู้ให้บริการเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อผลลัพธ์และความปลอดภัย หากเทคนิคไม่ถูกต้อง พลังงานอาจส่งลงไปได้ไม่สม่ำเสมอหรือไม่ลึกพอ

References:

  1. DermNet NZ. (n.d.). Radiothermoplasty and Thermage: Side Effects and Complications. DermNet New Zealand Trust. dermnetnz.org
  2. Thermage. (n.d.). Important Safety Information and Contraindications. Solta Medical (Thermage Official). thermage.com
  3. AlluraDerm. (n.d.). Is Thermage Safe for All Skin Types? Skin Treatment Safety Information. alluraderm.com
  4. Dermatology and Laser Group. (n.d.). Ultherapy vs Thermage: Treatment Comparison. Clinical Guidance. dermatologyandlasergroup.com
  5. Michele Green, MD. (n.d.). Thermage FLX and Ultherapy Skin Tightening Comparison. Dermatology Practice Resources. michelegreenmd.com

แนะแนวเรื่อง

Previous Previous
Ultraformer MPT คืออะไร? ต่างจาก Ultraformer III อย่างไร?
NextContinue
Ulthera vs HIFU ต่างกันอย่างไร? เปรียบเทียบราคาและผลลัพธ์

สาขาพรีวาโต คลินิก

    สาขาอโศก ตั้งอยู่ที่ ชั้น 2 อาคารมิดทาวน์
    Phone: 02-258-4050 , 081-841-5075
    สาขาสีลม ตั้งอยู่ที่ ชั้น 1 อาคารซี.พี.ทาวเวอร์
    Phone: 02-780-2011 , 098-272-5244
    สาขาราชพฤกษ์ ตั้งอยู่ที่ ชั้น 2 ศูนย์การค้า เดอะคริสตัล เอสบี (ด้านบนร้านสตาร์บัคส์)
    Phone: 02-102-2778 , 098-272-5244

ติดต่อเรา

    Facebook: Privato Clinic
    Messenger: Privato Clinic
    Instagram: privatoclinic
    Email: privatoclinic@gmail.com
    Line: @privatoclinic

Copyright© 2022-2024. All Rights Reserved

Scroll to top
  • หน้าหลัก
  • เกี่ยวกับพรีวาโต
  • บริการทั้งหมด
    • ชะลอวัย
    • ยกกระชับผิว
      • XERF
      • Potenza
      • Sofwave
      • Ulthera
      • Thermage-FLX
    • รักษาสิว
    • เลเซอร์
    • โปรแกรมฉีด
    • บำรุงผิว
  • บทความ
    • สิว
    • ยกกระชับ
    • ดูแลผิว
    • ทำเลเซอร์
  • ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว
  • โปรโมชั่น
  • ผลลัพธ์การรักษา
  • วิดีโอรีวิวจากเคสจริง
  • สาขาของเรา
  • ไทย
    • ไทย
    • English
    • 中文 (中国)
  • ปรึกษาแพทย์
Facebook Instagram YouTube