Skip to content

TEL : 081-841-5075, 02-258-4050

Facebook Instagram YouTube
Privato Clinic – Innovation Of Beauty  |  Bangkok
  • หน้าหลัก
  • เกี่ยวกับพรีวาโต
  • บริการทั้งหมดExpand
    • ชะลอวัย
    • ยกกระชับผิวExpand
      • XERF
      • Potenza
      • Sofwave
      • Ulthera
      • Thermage-FLX
    • รักษาสิว
    • เลเซอร์
    • โปรแกรมฉีด
    • บำรุงผิว
  • บทความExpand
    • สิว
    • ยกกระชับ
    • ดูแลผิว
    • ทำเลเซอร์
  • ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว
  • โปรโมชั่น
  • ผลลัพธ์การรักษา
  • วิดีโอรีวิวจากเคสจริง
  • สาขาของเรา
  • ไทยExpand
    • ไทย
    • English
    • 中文 (中国)
  • ปรึกษาแพทย์
Privato Clinic – Innovation Of Beauty  |  Bangkok
Consult a Doctor
Skincare

7 วิธีแก้ผิวไหม้แดดเร่งด่วน ลดอาการแสบแดง-ผิวลอก อัปเดต 2568

Byadmin พฤศจิกายน 18, 2025
By แพทย์หญิงนัชชนก หุ่นวิจิตร Updated on พฤศจิกายน 18, 2025
✦ Medically reviewed by  นายแพทย์เลอพงษ์ กรุดเงิน
7 วิธีแก้ผิวไหม้แดดเร่งด่วน ลดอาการแสบแดง-ผิวลอก อัปเดต 2568

ผิวไหม้แดด คือภาวะอักเสบของผิวหนังที่ทำให้เกิดอาการแสบแดงและเจ็บปวด ซึ่งในระดับที่ไม่รุนแรงสามารถดูแลเบื้องต้นได้ด้วยการประคบเย็นเพื่อลดความร้อนและจะหายได้เองภายใน 3-7 วัน

Table of Contents

Toggle
  • ทำความเข้าใจผิวไหม้แดด: อาการและระดับความรุนแรง
    • ระดับที่ไม่รุนแรง: ผิวแดง แสบร้อนเล็กน้อย
    • ระดับปานกลาง: ผิวบวมแดง มีตุ่มน้ำใส
    • ระดับรุนแรง: สัญญาณอันตรายที่ต้องพบแพทย์ทันที
  • 7 วิธีปฐมพยาบาลผิวไหม้แดด ลดการอักเสบและฟื้นฟูผิวเร่งด่วน
    • 1. ประคบเย็นหรืออาบน้ำเย็นเพื่อลดอุณหภูมิผิว
    • 2. ทามอยส์เจอไรเซอร์สูตรอ่อนโยนเพื่อเติมความชุ่มชื้น
    • 3. ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของว่านหางจระเข้หรือคาโมมายล์
    • 4. ดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ
    • 5. พิจารณายาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการ (ปรึกษาเภสัชกร)
    • 6. หลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดเพิ่มเติมโดยเด็ดขาด
    • 7. สวมใส่เสื้อผ้าหลวมๆ เพื่อลดการเสียดสี
  • วิธีดูแลและฟื้นฟูผิวหลังไหม้แดด (ระยะยาว)
    • ผิวไหม้แดดใช้เวลากี่วันจึงจะหายเป็นปกติ?
    • วิธีป้องกันรอยดำและสีผิวไม่สม่ำเสมอหลังผิวหายดี
    • เมื่อไหร่ที่อาการผิวไหม้แดดควรปรึกษาแพทย์ผิวหนัง?
  • ข้อควรระวังและสิ่งที่ไม่ควรทำเมื่อผิวไหม้แดด
    • ห้ามเจาะตุ่มน้ำหรือแกะลอกผิวหนังที่กำลังลอก
    • หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์ น้ำหอม หรือกรดผลไม้
    • งดการสครับหรือขัดผิวบริเวณที่ไหม้แดด
  • คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการดูแลผิวไหม้แดด
    • ใช้ครีมหรือผลิตภัณฑ์อะไรทาผิวไหม้แดดได้บ้าง?
    • ผิวไหม้แดดสามารถอาบน้ำด้วยสบู่ปกติได้หรือไม่?
    • การใช้ว่านหางจระเข้สดจากต้นปลอดภัยหรือไม่?
    • หลังผิวหายไหม้แดดแล้ว จะกลับมาขาวเหมือนเดิมไหม?
    • จำเป็นต้องทาครีมกันแดดบนผิวที่กำลังไหม้แดดหรือไม่?
  • References:

ทำความเข้าใจผิวไหม้แดด: อาการและระดับความรุนแรง

ระดับที่ไม่รุนแรง: ผิวแดง แสบร้อนเล็กน้อย

ผิวไหม้แดดระดับไม่รุนแรง (First-Degree) จะมีลักษณะ ผิวหนังอักเสบเป็นสีแดงหรือชมพู รู้สึกอุ่นเมื่อสัมผัส และมีอาการเจ็บหรือปวดเล็กน้อย อาการเหล่านี้มักปรากฏภายใน 3-5 ชั่วโมงหลังจากโดนแดด และจะรุนแรงที่สุดใน 24 ชั่วโมงแรก โดยจะส่งผลกระทบแค่ผิวหนังชั้นนอกและมักจะหายได้เองภายใน 3-7 วัน ซึ่งอาจมีอาการผิวลอกเล็กน้อยตามมา

ระดับปานกลาง: ผิวบวมแดง มีตุ่มน้ำใส

ผิวไหม้แดดระดับปานกลาง (Second-Degree) จะมีอาการแดงจัด บวม เจ็บปวดอย่างเห็นได้ชัด และมีตุ่มน้ำใสเกิดขึ้น ซึ่งเป็นการบาดเจ็บของผิวหนังที่ลึกกว่าระดับปกติ บริเวณที่ไหม้อาจดูมันวาวหรือชื้น และโดยทั่วไปจะใช้เวลาในการรักษาประมาณ 1–2 สัปดาห์

ระดับรุนแรง: สัญญาณอันตรายที่ต้องพบแพทย์ทันที

สัญญาณอันตรายของผิวไหม้แดดรุนแรงที่ต้องพบแพทย์ทันที ได้แก่ การเกิดตุ่มน้ำพุพองเป็นบริเวณกว้าง มีไข้สูง หนาวสั่น และสับสนมึนงง ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของภาวะเจ็บป่วยจากความร้อน (heat illness) ที่เป็นภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์

อาการที่ต้องสังเกตและควรรีบไปพบแพทย์ มีดังนี้

  • ตุ่มน้ำพุพองกระจายเป็นวงกว้าง
  • มีไข้ (โดยเฉพาะสูงกว่า 39°C) และหนาวสั่น
  • ปวดศีรษะ คลื่นไส้ วิงเวียน หรือสับสนมึนงง
  • อาการขาดน้ำ เป็นลม หรือหมดสติ
  • สัญญาณของการติดเชื้อ เช่น มีหนองในตุ่มน้ำ

7 วิธีปฐมพยาบาลผิวไหม้แดด ลดการอักเสบและฟื้นฟูผิวเร่งด่วน

1. ประคบเย็นหรืออาบน้ำเย็นเพื่อลดอุณหภูมิผิว

การประคบเย็นหรืออาบน้ำเย็น ช่วยลดอุณหภูมิผิวและลดการอักเสบ หลังจากโดนแดดเผาได้

ควรใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำประปาที่เย็น (ไม่ใช่น้ำแข็ง) ประคบบริเวณที่ไหม้ครั้งละ 10-20 นาที หรืออาบน้ำเย็นที่ไม่เย็นจัดเป็นเวลาสั้นๆ ข้อสำคัญคือห้ามใช้น้ำแข็งหรือน้ำที่เย็นจัดโดยตรง เพราะอาจทำให้ผิวหนังเสียหายมากขึ้น หลังจากนั้นให้ซับผิวเบาๆ จนแห้งและหลีกเลี่ยงการถู

2. ทามอยส์เจอไรเซอร์สูตรอ่อนโยนเพื่อเติมความชุ่มชื้น

ควรทามอยส์เจอไรเซอร์สูตรอ่อนโยนที่ปราศจากน้ำหอม เพื่อช่วยปลอบประโลมผิวและฟื้นฟูความชุ่มชื้นหลังจากประคบเย็น

ผลิตภัณฑ์ที่แนะนำ ได้แก่ โลชั่นที่ไม่ก่อให้เกิดการแพ้ (hypoallergenic) หรือเจลที่มีส่วนผสมของว่านหางจระเข้บริสุทธิ์ สารสกัดจากถั่วเหลือง หรือข้าวโอ๊ต เพื่อช่วยลดการอักเสบ การแช่เย็นมอยส์เจอไรเซอร์ก่อนทาจะช่วยเพิ่มความรู้สึกเย็นสบาย และควรทาบ่อยๆ เพื่อให้ผิวชุ่มชื้นอยู่เสมอ ซึ่งจะช่วยลดความแห้งและอาการลอกของผิวได้

3. ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของว่านหางจระเข้หรือคาโมมายล์

ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของว่านหางจระเข้บริสุทธิ์และคาโมมายล์สามารถช่วยปลอบประโลมผิวที่ไหม้แดดได้ เนื่องจากมีคุณสมบัติต้านการอักเสบ

  • ว่านหางจระเข้ (Aloe Vera): เจลว่านหางจระเข้บริสุทธิ์ (ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์หรือน้ำหอม) มีคุณสมบัติต้านการอักเสบและให้ความเย็น ซึ่งช่วยบรรเทาอาการปวดและช่วยในการฟื้นฟูผิว การใช้เจลใสจากต้นสดก็ปลอดภัยเช่นกัน แต่ควรหลีกเลี่ยงยางสีเหลืองที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง
  • คาโมมายล์ (Chamomile): การใช้ผ้าสะอาดชุบชาคาโมมายล์ที่ชงเข้มข้นและปล่อยให้เย็นแล้วมาประคบบริเวณผิวไหม้แดด สามารถช่วยบรรเทาอาการระคายเคืองเล็กน้อยได้ เนื่องจากมีสารฟลาโวนอยด์ที่ช่วยต้านการอักเสบ ควรหลีกเลี่ยงหากมีประวัติแพ้พืชในวงศ์เดียวกับเดซี่หรือเบญจมาศ

4. ดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ

ควรดื่มน้ำให้มากขึ้น เนื่องจากผิวไหม้แดดจะดึงของเหลวไปที่ผิวหนังและทำให้ร่างกายสูญเสียความชุ่มชื้น ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะขาดน้ำ การดื่มน้ำให้เพียงพอจะช่วยควบคุมอุณหภูมิของร่างกายและสนับสนุนกระบวนการฟื้นฟูผิว โดยควรดื่มน้ำเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเวลา 2-3 วัน และหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพราะจะยิ่งทำให้ร่างกายขาดน้ำมากขึ้น

5. พิจารณายาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการ (ปรึกษาเภสัชกร)

สามารถรับประทานยาแก้ปวดที่หาซื้อได้เอง โดยเฉพาะยาในกลุ่มต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) เช่น ไอบูโพรเฟน (ibuprofen) เพื่อช่วยลดอาการปวด บวม และการอักเสบจากผิวไหม้แดด

ยาในกลุ่ม NSAIDs ควรรับประทานโดยเร็วที่สุดหลังมีอาการและอาจต้องทานต่อเนื่อง 48 ชั่วโมงเพื่อควบคุมการอักเสบ หากไม่สามารถใช้ยาในกลุ่มนี้ได้ สามารถใช้พาราเซตามอล (paracetamol) เพื่อบรรเทาอาการปวดแทนได้ แต่ยาชนิดนี้ไม่ช่วยลดการอักเสบ ทั้งนี้ ไม่ควรให้ยาแอสไพรินแก่เด็กหรือวัยรุ่น และควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรหากไม่แน่ใจเกี่ยวกับชนิดหรือขนาดยาที่เหมาะสม

6. หลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดเพิ่มเติมโดยเด็ดขาด

วิธีที่ดีที่สุดในการหลีกเลี่ยงแสงแดดเพิ่มเติมโดยเด็ดขาดคือการอยู่ในที่ร่มและสวมเสื้อผ้าปกปิดผิวหนังบริเวณที่ไหม้ การอยู่ในอาคารเป็นวิธีที่ดีที่สุดจนกว่าผิวจะหายดี หากจำเป็นต้องออกไปข้างนอก ให้ปกป้องผิวด้วยการสวมเสื้อผ้าที่หลวมและระบายอากาศได้ดี หากไม่สามารถปกปิดผิวด้วยเสื้อผ้าได้ ให้ใช้ครีมกันแดดชนิดมิเนอรัล (mineral-based) ที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป ซึ่งจะระคายเคืองผิวน้อยกว่า แต่การใช้สิ่งกีดขวางทางกายภาพ เช่น เสื้อผ้า ยังคงเป็นวิธีที่ดีกว่า

7. สวมใส่เสื้อผ้าหลวมๆ เพื่อลดการเสียดสี

การสวมเสื้อผ้าหลวมๆ ช่วยปกป้องผิวที่ไหม้แดดและป้องกันการระคายเคืองเพิ่มเติม ควรเลือกใช้เสื้อผ้าที่นุ่มและระบายอากาศได้ดี เช่น ผ้าฝ้าย เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียดสี ในขณะที่เสื้อผ้าที่รัดแน่นหรือมีเนื้อหยาบจะทำให้อาการระคายเคืองรุนแรงขึ้น

วิธีดูแลและฟื้นฟูผิวหลังไหม้แดด (ระยะยาว)

การดูแลผิวไหม้แดดในระยะยาวคือ ปล่อยให้ผิวลอกและตุ่มน้ำใสหายเองตามธรรมชาติ หลีกเลี่ยงการขัดถู และป้องกันผิวจากแสงแดดอย่างเคร่งครัดเพื่อป้องกันรอยดำ

เพื่อการฟื้นฟูผิวอย่างเหมาะสม ควรปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้:

  • จัดการผิวลอกและตุ่มน้ำใสอย่างถูกวิธี: ไม่ควรดึงหรือแกะผิวหนังที่กำลังลอกออกเอง ควรปล่อยให้หลุดลอกไปตามธรรมชาติ และห้ามเจาะตุ่มน้ำใสเด็ดขาด เพราะตุ่มน้ำจะช่วยป้องกันการติดเชื้อและทำให้ผิวหนังด้านล่างได้ฟื้นตัว หากตุ่มน้ำแตกเอง ให้ล้างด้วยสบู่อ่อนๆ และน้ำสะอาด ทายาปฏิชีวนะ แล้วปิดแผลด้วยผ้าก๊อซที่สะอาด
  • งดการขัดหรือสครับผิว: ผิวหนังที่สร้างขึ้นมาใหม่หลังไหม้แดดจะบอบบางมาก การใช้สครับหรือผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวจะยิ่งทำร้ายผิวและอาจนำไปสู่การติดเชื้อหรือเกิดแผลเป็นได้
  • ป้องกันรอยดำหลังการอักเสบ (PIH): ผิวที่กำลังฟื้นตัวจะไวต่อแสงแดดมาก ควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไปและเป็นชนิด Broad-spectrum ทุกวัน และสวมเสื้อผ้าปกปิดผิวบริเวณนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้สีผิวคล้ำขึ้นหรือเกิดเป็นรอยด่างดำ
  • ปรึกษาแพทย์ผิวหนังเมื่อมีข้อกังวล: ควรไปพบแพทย์หากผิวไหม้แดดไม่ดีขึ้นภายใน 2 สัปดาห์, มีสัญญาณของการติดเชื้อ (เช่น มีหนอง บวมแดงหรือปวดมากขึ้น), หรือมีความกังวลเกี่ยวกับสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอหรือแผลเป็นที่ยังคงอยู่

ผิวไหม้แดดใช้เวลากี่วันจึงจะหายเป็นปกติ?

ผิวไหม้แดดที่ไม่รุนแรงมักจะหายได้เองภายใน 3-7 วัน ในขณะที่อาการไหม้แดดที่รุนแรงขึ้นซึ่งมีตุ่มน้ำใสอาจใช้เวลาในการฟื้นตัวนานถึง 2 สัปดาห์

โดยทั่วไปแล้ว อาการแดงและปวดจะเริ่มดีขึ้นภายใน 48 ชั่วโมงแรก หลังจากนั้นผิวจะเริ่มลอกในช่วง 3-7 วันหลังเกิดอาการ และจะค่อยๆ หายเป็นปกติ

วิธีป้องกันรอยดำและสีผิวไม่สม่ำเสมอหลังผิวหายดี

วิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันรอยดำและสีผิวไม่สม่ำเสมอหลังผิวไหม้แดดหายดีแล้วคือ การป้องกันผิวจากแสงแดดอย่างเคร่งครัด เนื่องจากผิวที่เพิ่งหายใหม่จะไวต่อรังสียูวีมาก

  • ทาครีมกันแดด: ใช้ครีมกันแดดชนิด broad-spectrum ที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไปทุกวันบนผิวบริเวณที่เคยไหม้แดด
  • ปกป้องผิว: หลีกเลี่ยงการให้ผิวบริเวณนั้นสัมผัสแดดโดยตรง และปกป้องด้วยการสวมเสื้อผ้าหรือหมวก
  • หลีกเลี่ยงการขัดถู: งดการใช้สครับหรือผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวบนบริเวณดังกล่าวจนกว่าผิวจะแข็งแรงเป็นปกติ

เมื่อไหร่ที่อาการผิวไหม้แดดควรปรึกษาแพทย์ผิวหนัง?

ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังหากผิวไหม้แดดไม่ดีขึ้นภายใน 2 สัปดาห์, มีสัญญาณของการติดเชื้อ, หรือมีความกังวลเกี่ยวกับรอยดำและแผลเป็นหลังจากที่อาการระยะเฉียบพลันผ่านไปแล้ว

สถานการณ์ที่ควรไปพบแพทย์ผิวหนัง ได้แก่:

  • แผลไม่หาย: บริเวณที่ผิวไหม้แดดไม่ดีขึ้นตามปกติภายในระยะเวลาประมาณ 2 สัปดาห์
  • สัญญาณการติดเชื้อ: มีอาการแดง, ร้อน, มีหนอง หรือเจ็บปวดบริเวณแผลเพิ่มขึ้น
  • ผิวไหม้แดดบ่อยครั้ง: หากคุณมีอาการผิวไหม้แดดรุนแรงหรือเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหาความเสียหายของผิวและคัดกรองมะเร็งผิวหนัง
  • ความกังวลเรื่องรอยดำหรือแผลเป็น: หากมีรอยดำหรือแผลเป็นคงอยู่หลังจากที่ผิวหายดีแล้ว แพทย์สามารถให้คำแนะนำเกี่ยวกับการรักษาได้

ข้อควรระวังและสิ่งที่ไม่ควรทำเมื่อผิวไหม้แดด

ห้ามเจาะตุ่มน้ำหรือแกะลอกผิวหนังที่กำลังลอก

ไม่ควรเจาะตุ่มน้ำหรือแกะผิวหนังที่กำลังลอกออก เนื่องจากตุ่มน้ำทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันการติดเชื้อตามธรรมชาติ และการแกะผิวหนังอาจทำให้ผิวใหม่ที่บอบบางข้างใต้ฉีกขาดได้

  • ตุ่มน้ำ: ทำหน้าที่เหมือนพลาสเตอร์ปลอดเชื้อ ช่วยปกป้องผิวที่กำลังฟื้นตัวอยู่ข้างใต้ การเจาะตุ่มน้ำจะเปิดทางให้แบคทีเรียเข้าไป ทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อ
  • ผิวลอก: เป็นกระบวนการของร่างกายในการกำจัดเซลล์ผิวที่เสียหาย ควรปล่อยให้ผิวลอกออกเอง การขัดหรือดึงผิวที่ยังไม่พร้อมจะหลุดออก อาจทำให้ผิวหนังชั้นใหม่ที่ยังบอบบางเกิดการฉีกขาดและนำไปสู่การติดเชื้อหรือแผลเป็นได้

หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์ น้ำหอม หรือกรดผลไม้

ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์ น้ำหอม หรือกรดผลไม้ (AHA/BHA) เนื่องจากส่วนผสมเหล่านี้จะทำให้ผิวที่ไหม้แดดระคายเคือง แสบ และแห้งมากยิ่งขึ้น โลชั่นที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และน้ำหอมจะทำให้ผิวที่อักเสบอยู่แล้วแห้งและแสบ ส่วนกรดต่างๆ เช่น AHA และ BHA เป็นสารเร่งการผลัดเซลล์ผิว ซึ่งจะยิ่งซ้ำเติมผิวที่เสียหายให้ระคายเคืองรุนแรงกว่าเดิม

งดการสครับหรือขัดผิวบริเวณที่ไหม้แดด

ไม่ควรสครับหรือขัดผิวบริเวณที่ไหม้แดด เนื่องจากผิวใหม่ที่กำลังสร้างขึ้นมาทดแทนนั้นบอบบางและไวต่อการระคายเคืองอย่างมาก การขัดถูจะทำลายผิวใหม่นี้ ทำให้เกิดความเสียหายเพิ่มเติม และอาจนำไปสู่การติดเชื้อหรือเกิดแผลเป็นได้ ควรปล่อยให้ผิวที่ลอกหลุดออกไปเองตามธรรมชาติ ซึ่งเป็นกระบวนการของร่างกายในการกำจัดเซลล์ผิวที่เสียหาย

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการดูแลผิวไหม้แดด

ใช้ครีมหรือผลิตภัณฑ์อะไรทาผิวไหม้แดดได้บ้าง?

ผลิตภัณฑ์ที่แนะนำสำหรับผิวไหม้แดดคือมอยส์เจอไรเซอร์ที่อ่อนโยนและปราศจากน้ำหอม, เจลว่านหางจระเข้บริสุทธิ์, หรือครีมไฮโดรคอร์ติโซน 1% เพื่อช่วยปลอบประโลมผิว ให้ความชุ่มชื้น และลดการอักเสบ

ผลิตภัณฑ์ที่ควรใช้:

  • มอยส์เจอไรเซอร์: เลือกสูตรที่ไม่ผสมน้ำหอมและแอลกอฮอล์ หรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากถั่วเหลืองหรือข้าวโอ๊ตเพื่อช่วยปลอบประโลมผิว
  • เจลว่านหางจระเข้: ควรเลือกใช้เจลว่านหางจระเข้บริสุทธิ์ (มีส่วนผสมของว่านหางจระเข้สูง ไม่มีแอลกอฮอล์หรือน้ำหอม) เพื่อช่วยให้ความเย็นและลดการอักเสบ
  • ครีมไฮโดรคอร์ติโซน 1%: สามารถใช้ทาบางๆ เพื่อลดอาการคันและบวมได้ในช่วง 1-2 วันแรก

ผลิตภัณฑ์ที่ควรหลีกเลี่ยง:

  • ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ น้ำหอม หรือยาชาเฉพาะที่ (เช่น เบนโซเคน) เพราะอาจทำให้ผิวระคายเคืองมากขึ้น
  • ครีมหรือขี้ผึ้งเนื้อหนัก เช่น ปิโตรเลียมเจลลี ในช่วงแรก เพราะจะกักเก็บความร้อนไว้ในผิวหนัง

ผิวไหม้แดดสามารถอาบน้ำด้วยสบู่ปกติได้หรือไม่?

ไม่แนะนำให้อาบน้ำด้วยสบู่ปกติ เนื่องจากสบู่ทั่วไปอาจมีความรุนแรงและทำให้ผิวที่ไหม้แดดระคายเคืองและแห้งมากขึ้น ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อ่อนโยนและไม่มีส่วนผสมของสบู่ (soap-free) หรือล้างด้วยน้ำเย็นเปล่าๆ ก็เพียงพอ

การใช้ว่านหางจระเข้สดจากต้นปลอดภัยหรือไม่?

โดยทั่วไปแล้ว การใช้เจลว่านหางจระเข้สดจากต้นนั้นปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการรักษาผิวไหม้แดด

เจลใสที่อยู่ด้านในของใบว่านหางจระเข้มีสารต้านการอักเสบและให้ความชุ่มชื้น ซึ่งช่วยบรรเทาอาการปวดแสบปวดร้อนและเร่งการฟื้นฟูผิว วิธีใช้คือตัดใบสดแล้วปล่อยให้ยางสีเหลือง (ซึ่งอาจก่อให้เกิดการระคายเคือง) ไหลออกจนหมด จากนั้นจึงนำเจลใสมาทาบริเวณที่ผิวไหม้ เจลสดมักจะอ่อนโยนกว่าผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปเนื่องจากไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์หรือน้ำหอม

หลังผิวหายไหม้แดดแล้ว จะกลับมาขาวเหมือนเดิมไหม?

โดยส่วนใหญ่แล้ว ผิวจะกลับมามีสีเหมือนเดิม หลังจากหายจากการไหม้แดดที่ไม่รุนแรง

โดยทั่วไป รอยแดงจะจางลงภายในไม่กี่วัน และสีผิวที่เข้มขึ้นชั่วคราวจะค่อยๆ กลับสู่ภาวะปกติ อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ผิวไหม้แดดอย่างรุนแรง หรือในผู้ที่มีสีผิวเข้ม อาจเกิดรอยดำ (Post-Inflammatory Hyperpigmentation) ซึ่งอาจใช้เวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนกว่าจะจางหายไป การปกป้องผิวจากแสงแดดอย่างเคร่งครัดในระหว่างที่ผิวฟื้นฟูเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่จะช่วยให้สีผิวกลับมาสม่ำเสมอเหมือนเดิม

จำเป็นต้องทาครีมกันแดดบนผิวที่กำลังไหม้แดดหรือไม่?

ตามหลักการแล้ว ควรหลีกเลี่ยงไม่ให้ผิวที่ไหม้แดดโดนแสงแดดซ้ำ แต่หากจำเป็นต้องออกไปข้างนอก การทาครีมกันแดดเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันความเสียหายเพิ่มเติม

ควรเลือกใช้ครีมกันแดดชนิดมิเนอรัล (mineral-based) ที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป ซึ่งระคายเคืองต่อผิวที่บอบช้ำน้อยกว่า และควรทาหลังจากที่อาการแดงและความร้อนเริ่มลดลงแล้ว อย่างไรก็ตาม วิธีที่ดีที่สุดคือการปกป้องผิวด้วยเสื้อผ้าและหลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง

References:

  1. Osu, 2025, health.osu.edu
  2. Skincancer, 2025, skincancer.org
  3. Ation, 2025, ation.org
  4. Mayo Clinic, 2025, mayoclinic.org
  5. American Academy of Dermatology, 2025, aad.org
  6. Britishskinfoundation, 2025, britishskinfoundation.org
  7. Org, 2025, britishskinfoundation.org.uk

แนะแนวเรื่อง

Previous Previous
ใช้มอยเจอร์ไรเซอร์แล้วแสบหน้า เกิดจากอะไร? ควรใช้ต่อหรือพอแค่นี้?
NextContinue
10 วิธีแก้หน้าโทรม บอกลาผิวหมองคล้ำ-ใต้ตาดำ ครบจบในที่เดียว

สาขาพรีวาโต คลินิก

    สาขาอโศก ตั้งอยู่ที่ ชั้น 2 อาคารมิดทาวน์
    Phone: 02-258-4050 , 081-841-5075
    สาขาสีลม ตั้งอยู่ที่ ชั้น 1 อาคารซี.พี.ทาวเวอร์
    Phone: 02-780-2011 , 098-272-5244
    สาขาราชพฤกษ์ ตั้งอยู่ที่ ชั้น 2 ศูนย์การค้า เดอะคริสตัล เอสบี (ด้านบนร้านสตาร์บัคส์)
    Phone: 02-102-2778 , 098-272-5244

ติดต่อเรา

    Facebook: Privato Clinic
    Messenger: Privato Clinic
    Instagram: privatoclinic
    Email: privatoclinic@gmail.com
    Line: @privatoclinic

Copyright© 2022-2024. All Rights Reserved

Scroll to top
  • หน้าหลัก
  • เกี่ยวกับพรีวาโต
  • บริการทั้งหมด
    • ชะลอวัย
    • ยกกระชับผิว
      • XERF
      • Potenza
      • Sofwave
      • Ulthera
      • Thermage-FLX
    • รักษาสิว
    • เลเซอร์
    • โปรแกรมฉีด
    • บำรุงผิว
  • บทความ
    • สิว
    • ยกกระชับ
    • ดูแลผิว
    • ทำเลเซอร์
  • ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว
  • โปรโมชั่น
  • ผลลัพธ์การรักษา
  • วิดีโอรีวิวจากเคสจริง
  • สาขาของเรา
  • ไทย
    • ไทย
    • English
    • 中文 (中国)
  • ปรึกษาแพทย์
Facebook Instagram YouTube