Skip to content

TEL : 081-841-5075, 02-258-4050

Facebook Instagram YouTube
Privato Clinic – Innovation Of Beauty  |  Bangkok
  • หน้าหลัก
  • เกี่ยวกับพรีวาโต
  • บริการทั้งหมดExpand
    • ชะลอวัย
    • ยกกระชับผิวExpand
      • XERF
      • Potenza
      • Sofwave
      • Ulthera
      • Thermage-FLX
    • รักษาสิว
    • เลเซอร์
    • โปรแกรมฉีด
    • บำรุงผิว
  • บทความExpand
    • สิว
    • ยกกระชับ
    • ดูแลผิว
    • ทำเลเซอร์
  • ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว
  • โปรโมชั่น
  • ผลลัพธ์การรักษา
  • วิดีโอรีวิวจากเคสจริง
  • สาขาของเรา
  • ไทยExpand
    • ไทย
    • English
    • 中文 (中国)
  • ปรึกษาแพทย์
Privato Clinic – Innovation Of Beauty  |  Bangkok
Consult a Doctor
Laser

ข้อเสีย Pico Laser: ใครบ้างที่ห้ามทำ ข้อควรระวังและกลุ่มเสี่ยง?

Byadmin ตุลาคม 27, 2025
By นายแพทย์พนิต อุนรัตน์ Updated on ตุลาคม 27, 2025
✦ Medically reviewed by  นายแพทย์เลอพงษ์ กรุดเงิน
ข้อเสีย Pico Laser: เสี่ยงหน้าพัง เกิดด่างขาวจริงไหม?

ข้อเสียการทํา pico ที่พบได้ทั่วไปคืออาการบวมแดงเล็กน้อยซึ่งจะหายไปใน 24-48 ชั่วโมง แต่ก็มีความเสี่ยงรุนแรงเช่นรอยด่างขาวหรือรอยดำที่อาจเกิดขึ้นได้หากใช้พลังงานที่ไม่เหมาะสมหรือดูแลผิวหลังทำไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะการไม่หลีกเลี่ยงแสงแดด

Table of Contents

Toggle
  • ผลข้างเคียงที่พบบ่อยหลังทำ Pico Laser: อาการและระยะเวลา
    • อาการบวมแดงและแสบร้อน: การดูแลเบื้องต้น
    • ผิวแห้งลอกและตกสะเก็ด: สิ่งที่ควรทำและห้ามทำ
    • สิวเห่อหลังทำเลเซอร์: สาเหตุและวิธีจัดการ
  • ใครบ้างที่ห้ามทำ Pico Laser? ข้อควรระวังและกลุ่มเสี่ยง
    • สภาพผิวและโรคประจำตัวที่ควรหลีกเลี่ยง
    • การใช้ยาและผลิตภัณฑ์ที่ต้องหยุดก่อนทำ
  • ความเสี่ยงรุนแรง: หน้าพัง จุดด่างขาว เกิดขึ้นได้อย่างไร?
    • ภาวะเม็ดสีผิดปกติ: รอยด่างขาวหรือรอยดำคล้ำ
    • แผลเป็นและการติดเชื้อ: สัญญาณเตือนที่ต้องพบแพทย์
  • ปัจจัยสำคัญเพื่อลดความเสี่ยงจากการทำ Pico Laser
    • มาตรฐานเครื่องเลเซอร์และความเชี่ยวชาญของแพทย์ผู้ทำ
    • การเตรียมผิวก่อนทำเพื่อลดผลข้างเคียง
    • การดูแลตัวเองหลังทำ: กุญแจสำคัญสู่ผลลัพธ์ที่ดี
  • ข้อผิดพลาดที่ควรเลี่ยงเพื่อป้องกันผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์
  • คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับข้อเสียของ Pico Laser
    • Pico Laser ทำให้หน้าบางจริงไหม?
    • เป็นสิวอยู่ สามารถทำ Pico Laser ได้หรือไม่?
    • ทำ Pico Laser แล้วฝ้าจะเข้มขึ้นจริงหรือ?
    • หลังทำ Pico Laser สามารถแต่งหน้าได้ทันทีหรือไม่?
  • References:

ผลข้างเคียงที่พบบ่อยหลังทำ Pico Laser: อาการและระยะเวลา

อาการบวมแดงและแสบร้อน: การดูแลเบื้องต้น

อาการบวมแดงและแสบร้อนหลังทำ Pico laser สามารถดูแลเบื้องต้นได้โดยการประคบเย็น เพื่อช่วยลดอาการบวมและความรู้สึกไม่สบายผิว

อาการเหล่านี้เป็นปฏิกิริยาปกติของผิวหนังที่เกิดจากการไหลเวียนของเลือดที่เพิ่มขึ้นหลังการทำเลเซอร์ โดยทั่วไปจะรู้สึกคล้ายอาการผิวไหม้แดดเล็กน้อย เช่น รู้สึกอุ่นๆ หรือแสบๆ ซึ่งอาการจะค่อยๆ ดีขึ้นและหายไปเองภายในไม่กี่ชั่วโมงถึงสองสามวัน

ผิวแห้งลอกและตกสะเก็ด: สิ่งที่ควรทำและห้ามทำ

สิ่งที่ควรทำคือ ปล่อยให้ผิวลอกและสะเก็ดหลุดออกไปเองตามธรรมชาติ เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดแผลเป็นหรือการติดเชื้อ

  • สิ่งที่ควรทำ: ทามอยส์เจอไรเซอร์ที่อ่อนโยนและไม่มีน้ำหอมเพื่อช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและเร่งกระบวนการผลัดเซลล์ผิว
  • สิ่งที่ห้ามทำ: ห้ามแกะ เกา หรือขัดผิวบริเวณที่ทำการรักษาโดยเด็ดขาด

สิวเห่อหลังทำเลเซอร์: สาเหตุและวิธีจัดการ

สิวที่เห่อขึ้นหลังทำเลเซอร์มีสาเหตุหลักมาจากการอุดตันของรูขุมขนระหว่างกระบวนการฟื้นฟูผิว และการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่หนักเกินไป ซึ่งไปกักเก็บความร้อนและแบคทีเรียไว้ใต้ผิวหนัง โดยทั่วไปสิวลักษณะนี้จะเป็นตุ่มเล็กๆ ที่ไม่รุนแรงและสามารถหายได้เองภายในไม่กี่สัปดาห์

วิธีจัดการและป้องกันสิวเห่อหลังทำเลเซอร์ มีดังนี้

วิธีจัดการ:

  • ทำความสะอาดผิวอย่างอ่อนโยน
  • ใช้มอยส์เจอไรเซอร์ที่ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน (non-comedogenic)
  • หากสิวขึ้นจำนวนมากหรือเป็นนานผิดปกติ แพทย์อาจพิจารณาสั่งยาปฏิชีวนะแบบรับประทานเพื่อช่วยให้สิวหายเร็วขึ้นและป้องกันการเกิดแผลเป็น
  • วิธีป้องกัน:
  • หลีกเลี่ยงการใช้ครีมหรือขี้ผึ้งเนื้อหนักที่อาจอุดตันผิว
  • เลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเนื้อเจลหรือโลชั่นบางเบาจนกว่าผิวจะฟื้นตัวเต็มที่

ใครบ้างที่ห้ามทำ Pico Laser? ข้อควรระวังและกลุ่มเสี่ยง

สภาพผิวและโรคประจำตัวที่ควรหลีกเลี่ยง

สภาพผิวและโรคประจำตัวที่ควรหลีกเลี่ยงการทำ Pico Laser ได้แก่ การติดเชื้อที่ผิวหนัง, โรคผิวหนังอักเสบเรื้อรัง, ปัญหาสุขภาพบางอย่าง เช่น ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง และการมีประวัติเป็นแผลเป็นคีลอยด์

รายละเอียดเพิ่มเติมสำหรับกลุ่มที่ควรระมัดระวังหรือหลีกเลี่ยง มีดังนี้

  • การติดเชื้อที่ผิวหนัง: ไม่ควรทำเลเซอร์ในบริเวณที่มีการติดเชื้อ เช่น แผลเปิด สิวอักเสบรุนแรง หรือเริม
  • โรคผิวหนังอักเสบเรื้อรัง: ผู้ที่เป็นโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (Eczema), โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis) หรือโรคโรซาเชีย (Rosacea) ในบริเวณที่จะทำเลเซอร์ ควรปรึกษาแพทย์ก่อน เพราะเลเซอร์อาจกระตุ้นให้อาการกำเริบได้
  • ประวัติการเกิดแผลเป็นนูน: ผู้ที่มีประวัติเป็นแผลเป็นคีลอยด์ (Keloid) หรือแผลเป็นนูน (Hypertrophic scar) ควรใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ
  • ปัญหาสุขภาพและภาวะอื่นๆ:
  • ผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง
  • ผู้ที่เป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง (เช่น โรค SLE) ที่ไวต่อแสง
  • สตรีมีครรภ์และให้นมบุตร

การใช้ยาและผลิตภัณฑ์ที่ต้องหยุดก่อนทำ

ยาและผลิตภัณฑ์ที่ต้องหยุดใช้ก่อนทำ Pico laser คือยาบางชนิด เช่น Isotretinoin (Accutane) และยาปฏิชีวนะบางกลุ่ม รวมถึงผลิตภัณฑ์ทาผิวที่มีส่วนผสมของเรตินอยด์และกรดผลัดเซลล์ผิว เพื่อลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง

ยาและผลิตภัณฑ์ที่ควรหลีกเลี่ยงก่อนการรักษา ได้แก่

  • ยาสำหรับรับประทาน:
  • Isotretinoin (Accutane): เป็นยาที่ใช้รักษาสิวซึ่งอาจทำให้กระบวนการสมานแผลช้าลง โดยทั่วไปแนะนำให้หยุดยาอย่างน้อย 6-12 เดือนก่อนทำเลเซอร์
  • ยาปฏิชีวนะที่ทำให้ผิวไวต่อแสง: เช่น Tetracycline หรือ Doxycycline อาจเพิ่มความเสี่ยงที่ผิวจะไหม้ได้ง่ายขึ้น
  • ยาต้านการแข็งตัวของเลือด: อาจเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดรอยช้ำได้ง่ายขึ้น
  • ผลิตภัณฑ์สำหรับทา:
  • เรตินอยด์ (Retinoids): เช่น Tretinoin และ Retinol ทำให้ผิวไวต่อการระคายเคืองมากขึ้น ควรหยุดใช้ประมาณ 1-2 สัปดาห์ก่อนทำเลเซอร์
  • กรดผลัดเซลล์ผิว (AHAs/BHAs): ควรหยุดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมเหล่านี้ 2-3 วันก่อนการรักษาเพื่อลดการระคายเคือง

ความเสี่ยงรุนแรง: หน้าพัง จุดด่างขาว เกิดขึ้นได้อย่างไร?

ความเสี่ยงรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นจากการทำ Pico Laser คือ การเปลี่ยนแปลงของเม็ดสี (เกิดรอยดำหรือรอยด่างขาว), แผลเป็น และการติดเชื้อ ซึ่งมักเกิดจากการใช้พลังงานที่ไม่เหมาะสมหรือการดูแลผิวที่ไม่ถูกต้อง

  • รอยด่างขาว (Hypopigmentation): เป็นภาวะที่เม็ดสีผิวลดลง ทำให้เกิดเป็นจุดหรือรอยสีขาวบนผิวหนัง แม้จะพบได้ไม่บ่อย แต่ก็อาจเกิดขึ้นได้หากใช้พลังงานเลเซอร์สูงเกินไป หรือทำเลเซอร์ถี่เกินไปจนเซลล์สร้างเม็ดสีหยุดทำงาน ซึ่งรอยด่างขาวบางกรณีอาจคงอยู่ถาวร
  • รอยดำหลังการอักเสบ (PIH): เป็นภาวะที่ผิวหนังผลิตเม็ดสีออกมามากเกินไปหลังการอักเสบ ทำให้เกิดรอยคล้ำ มักพบในผู้ที่มีสีผิวเข้มหรือผิวไวต่อการกระตุ้น โดยส่วนใหญ่รอยดำประเภทนี้จะค่อยๆ จางลงได้เอง
  • แผลเป็น: เป็นความเสี่ยงที่พบได้น้อยมาก มักเกิดจากการใช้พลังงานเลเซอร์ที่รุนแรงเกินไป หรือการดูแลผิวหลังทำที่ไม่เหมาะสม เช่น การแกะหรือเกาสะเก็ดแผล ซึ่งรบกวนกระบวนการสมานผิว
  • การติดเชื้อ: ผิวหลังทำเลเซอร์จะบอบบางและเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่ายขึ้น หากดูแลความสะอาดไม่ดีพอ อาจเกิดการติดเชื้อแบคทีเรีย หรือกระตุ้นให้เกิดโรคเริม (ในผู้ที่มีเชื้ออยู่แล้ว) ได้

ภาวะเม็ดสีผิดปกติ: รอยด่างขาวหรือรอยดำคล้ำ

ภาวะเม็ดสีผิดปกติทั้งรอยดำคล้ำและรอยด่างขาว เป็นผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้จากการทำ Pico Laser แต่มีความถี่และลักษณะที่แตกต่างกันอย่างมาก

  • รอยดำคล้ำ (Post-Inflammatory Hyperpigmentation – PIH): เป็นภาวะที่พบได้บ่อยกว่า โดยเฉพาะในผู้ที่มีสีผิวเข้ม เกิดจากการอักเสบของผิวหลังเลเซอร์ไปกระตุ้นการผลิตเม็ดสีที่มากเกินไป อย่างไรก็ตาม รอยดำคล้ำที่เกิดจาก Pico Laser มักเป็นเพียงชั่วคราวและจะค่อยๆ จางลงเองภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์ถึงหลายเดือน และ Pico Laser ถือว่ามีความเสี่ยงในการเกิดภาวะนี้น้อยกว่าเลเซอร์รุ่นเก่า
  • รอยด่างขาว (Hypopigmentation): เป็นภาวะที่ผิวสูญเสียเม็ดสี ทำให้เกิดเป็นรอยขาว ซึ่งพบได้น้อยมากเมื่อเทียบกับรอยดำคล้ำ แต่หากเกิดขึ้นอาจเป็นภาวะที่คงอยู่นาน ความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้นหากใช้พลังงานเลเซอร์ที่สูงเกินไป หรือทำการรักษาถี่เกินไป

แผลเป็นและการติดเชื้อ: สัญญาณเตือนที่ต้องพบแพทย์

สัญญาณเตือนของแผลเป็นและการติดเชื้อหลังทำ Pico laser ที่ควรไปพบแพทย์ ได้แก่ รอยแดงและความแข็งที่คงอยู่นาน, ผิวมีลักษณะเป็นตุ่มหรือหนาขึ้น, รอยแดงที่ลุกลาม, มีหนอง หรืออาการเจ็บปวดที่รุนแรงขึ้น

  • สัญญาณของแผลเป็น: สัญญาณการหายของแผลที่ผิดปกติซึ่งอาจนำไปสู่การเกิดแผลเป็น ได้แก่ รอยแดงและความแข็งที่ยังคงอยู่นานเกินกว่าช่วงเวลาพักฟื้นปกติ, ผิวบริเวณที่ทำเลเซอร์มีลักษณะเป็นตุ่มหรือหนาขึ้น หรือมีอาการเจ็บปวดเพิ่มขึ้นแทนที่จะดีขึ้น
  • สัญญาณของการติดเชื้อ: สัญญาณที่บ่งบอกถึงการติดเชื้อ ได้แก่ รอยแดงที่ลุกลาม, รู้สึกอุ่น, บวม, มีตุ่มหนอง, มีของเหลวสีเหลืองไหลซึม หรือมีไข้ นอกจากนี้ อาการเจ็บปวดที่รุนแรงขึ้นหรือรอยแดงที่ไม่ดีขึ้นตามที่ควรจะเป็น ก็เป็นสัญญาณที่ต้องรีบไปพบแพทย์ทันที

ปัจจัยสำคัญเพื่อลดความเสี่ยงจากการทำ Pico Laser

มาตรฐานเครื่องเลเซอร์และความเชี่ยวชาญของแพทย์ผู้ทำ

มาตรฐานของเครื่องเลเซอร์และความเชี่ยวชาญของผู้ปฏิบัติการเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการลดความเสี่ยงจากการทำ Pico Laser

ปัจจัยสำคัญสองประการที่ช่วยให้การทำเลเซอร์ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ได้แก่

  • มาตรฐานเครื่องเลเซอร์: ควรเป็นเครื่องที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา (FDA) หรือมีเครื่องหมาย CE (ในยุโรป) ซึ่งรับประกันว่าเครื่องได้ผ่านการทดสอบด้านความปลอดภัยและความแม่นยำในการปล่อยพลังงานแล้ว
  • ความเชี่ยวชาญของผู้ให้บริการ: ประสบการณ์และความชำนาญของผู้ให้บริการ เช่น แพทย์ผิวหนังที่ผ่านการรับรอง มีความสำคัญอย่างยิ่งในการประเมินสภาพผิวและปรับตั้งค่าพลังงานให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง

การเตรียมผิวก่อนทำเพื่อลดผลข้างเคียง

การเตรียมผิวก่อนทำ Pico Laser ที่สำคัญที่สุดคือ การหลีกเลี่ยงแสงแดดจัด การหยุดใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง และการใช้ยาตามที่แพทย์สั่งสำหรับสภาพผิวบางประเภท

เพื่อลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง ควรปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้:

  • หลีกเลี่ยงแสงแดด: งดการเผชิญแสงแดดจัดหรือการอาบแดดเป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการรักษา เพื่อลดความเสี่ยงของผิวไหม้และรอยดำผิดปกติ
  • หยุดใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิว: งดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเรตินอยด์ (เช่น Retin-A, Retinol) กรด AHA และ BHA ประมาณ 1-2 สัปดาห์ก่อนทำเลเซอร์ เพื่อป้องกันการระคายเคืองที่อาจเกิดขึ้น
  • แจ้งประวัติการใช้ยา: แจ้งแพทย์เกี่ยวกับยาทุกชนิดที่กำลังใช้อยู่ โดยเฉพาะยาในกลุ่ม Isotretinoin (Accutane) ซึ่งต้องหยุดใช้ล่วงหน้า 6-12 เดือน และยาปฏิชีวนะบางชนิดที่ทำให้ผิวไวต่อแสง
  • เตรียมผิวสำหรับผู้ที่มีผิวคล้ำหรือเป็นฝ้า: ในบางกรณี แพทย์อาจสั่งยาไฮโดรควิโนน (Hydroquinone) ให้ทาล่วงหน้า 2-4 สัปดาห์ เพื่อลดการทำงานของเซลล์เม็ดสีและป้องกันภาวะรอยดำหลังการอักเสบ (PIH)
  • ดูแลผิวให้แข็งแรง: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าผิวบริเวณที่จะทำการรักษาไม่มีการติดเชื้อ สิวอักเสบรุนแรง หรือแผลเปิด

การดูแลตัวเองหลังทำ: กุญแจสำคัญสู่ผลลัพธ์ที่ดี

การดูแลตัวเองหลังทำ Pico Laser ที่สำคัญที่สุดคือ การรักษาความสะอาดและความชุ่มชื้นของผิว หลีกเลี่ยงแสงแดดอย่างเคร่งครัด และงดการสัมผัสรุนแรงบนใบหน้า เพื่อลดความเสี่ยงของผลข้างเคียงและช่วยให้ผิวฟื้นตัวได้ดีที่สุด

ข้อควรปฏิบัติที่สำคัญมีดังนี้:

  • ทำความสะอาดและให้ความชุ่มชื้น: ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อ่อนโยน ซับผิวให้แห้ง และทามอยส์เจอไรเซอร์ที่ไม่มีส่วนผสมรุนแรงเพื่อช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและฟื้นฟู
  • หลีกเลี่ยงแสงแดด: เป็นข้อที่สำคัญที่สุด ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรงเป็นเวลา 1-2 สัปดาห์ และทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30+ ทุกวันเพื่อป้องกันภาวะสีผิวเข้มขึ้นหลังการอักเสบ (PIH)
  • หลีกเลี่ยงความร้อนและเหงื่อ: งดกิจกรรมที่ทำให้เกิดความร้อนหรือเหงื่อออกมาก เช่น การออกกำลังกายหนัก ซาวน่า หรืออาบน้ำร้อนจัด ในช่วง 2-3 วันแรก เพื่อลดอาการบวมแดง
  • ห้ามแกะ เกา หรือถูผิว: ปล่อยให้สะเก็ดหรือผิวที่ลอกหลุดออกเองตามธรรมชาติ การแกะหรือเกาอาจทำให้เกิดการติดเชื้อและรอยแผลเป็นได้
  • งดใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่รุนแรง: หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเรตินอยด์, กรด AHA/BHA, หรือสครับขัดผิวเป็นเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์
  • งดแต่งหน้า: ควรรออย่างน้อย 24-48 ชั่วโมงก่อนเริ่มแต่งหน้า เพื่อป้องกันการระคายเคืองและการอุดตันที่อาจนำไปสู่การติดเชื้อ

ข้อผิดพลาดที่ควรเลี่ยงเพื่อป้องกันผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์

ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยที่สุดหลังทำเลเซอร์คือการปล่อยให้ผิวโดนแดดหรือความร้อนเร็วเกินไป, การใช้ผลิตภัณฑ์ที่รุนแรง, และการแกะเกาผิวที่กำลังฟื้นฟู เพื่อป้องกันผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์ ควรหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดต่อไปนี้

  • การโดนแดดเร็วเกินไป: การปล่อยให้ผิวที่เพิ่งทำเลเซอร์โดนแดดอาจทำให้เกิดรอยดำ (hyperpigmentation) ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรงอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ และทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF30+ ทุกวัน
  • การทำให้ผิวร้อนเกินไป: การอาบน้ำร้อนจัด, เข้าซาวน่า, หรือออกกำลังกายหนักในช่วง 2-3 วันแรก อาจทำให้รอยแดงหายช้าลงและเพิ่มความเสี่ยงของรอยดำ
  • การแต่งหน้าเร็วเกินไป: การแต่งหน้าภายใน 24-48 ชั่วโมงแรกอาจทำให้เกิดการระคายเคืองหรือติดเชื้อได้ ควรรอให้ผิวฟื้นตัวก่อน และเมื่อเริ่มแต่งหน้าควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนและแปรงที่สะอาด
  • การแกะหรือเกาผิว: การแกะสะเก็ดหรือลอกผิวที่กำลังผลัดเซลล์อาจทำให้เกิดแผลเป็นและการติดเชื้อได้ ควรปล่อยให้ผิวลอกออกเองตามธรรมชาติ
  • การใช้สกินแคร์ที่รุนแรง: ควรหยุดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเรตินอยด์หรือกรดผลัดเซลล์ผิว (AHA/BHA) เป็นเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพื่อไม่ให้ผิวที่บอบบางระคายเคือง
  • การปกปิดข้อมูลทางการแพทย์: การไม่แจ้งแพทย์เกี่ยวกับยาที่ใช้ (เช่น Isotretinoin) หรือภาวะสุขภาพ (เช่น ประวัติการเป็นเริม) อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อผลข้างเคียงได้
  • การใช้ครีมที่หนาเกินไป: การทาครีมหรือขี้ผึ้งที่หนาและหนักเกินไปอาจอุดตันรูขุมขนและกักเก็บความร้อน ทำให้การฟื้นตัวช้าลง ควรใช้ในปริมาณที่แพทย์แนะนำเท่านั้น

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับข้อเสียของ Pico Laser

Pico Laser ทำให้หน้าบางจริงไหม?

Pico Laser ไม่ทำให้ผิวบางลง แต่กลับให้ผลตรงกันข้าม เนื่องจากเป็นเลเซอร์ที่ไม่ทำลายผิวชั้นนอก แต่จะส่งพลังงานลงไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ในชั้นหนังแท้ ซึ่งกระบวนการนี้จะช่วยให้ผิวมีความหนา แข็งแรง และยืดหยุ่นมากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป

เป็นสิวอยู่ สามารถทำ Pico Laser ได้หรือไม่?

โดยทั่วไปแล้วไม่แนะนำให้ทำ Pico Laser ในขณะที่เป็นสิวอักเสบหรือสิวหัวหนอง เนื่องจากการทำเลเซอร์ในบริเวณดังกล่าวอาจทำให้อาการอักเสบรุนแรงขึ้นและเสี่ยงต่อการแพร่กระจายของเชื้อแบคทีเรียได้

แพทย์ส่วนใหญ่จะแนะนำให้รักษาสิวอักเสบให้หายดีเสียก่อน จากนั้นจึงค่อยใช้ Pico Laser เพื่อจัดการกับรอยแผลเป็นหรือรอยดำที่เกิดจากสิวในภายหลัง

ทำ Pico Laser แล้วฝ้าจะเข้มขึ้นจริงหรือ?

การทำ Pico Laser มีโอกาสทำให้ฝ้าเข้มขึ้นได้ในบางกรณี ซึ่งเป็นภาวะที่เรียกว่า “paradoxical hyperpigmentation” หรือรอยดำที่เกิดหลังการอักเสบ (Post-Inflammatory Hyperpigmentation: PIH)

ภาวะนี้เกิดจากการที่เลเซอร์กระตุ้นให้ผิวเกิดการอักเสบ ซึ่งไปกระตุ้นเซลล์สร้างเม็ดสีให้ผลิตเม็ดสีออกมามากกว่าปกติ แม้ว่า Pico Laser จะมีความเสี่ยงต่ำกว่าเลเซอร์รุ่นเก่าเนื่องจากใช้ความร้อนน้อยกว่า แต่ก็ยังมีความเป็นไปได้ที่ฝ้าจะเข้มขึ้นชั่วคราว

อย่างไรก็ตาม รอยดำที่เกิดขึ้นนี้มักเป็นเพียงชั่วคราวและจะค่อยๆ จางลงในเวลาไม่กี่เดือนหากดูแลผิวอย่างถูกวิธี เช่น การทายาลดเม็ดสีและป้องกันแสงแดดอย่างเคร่งครัดตามคำแนะนำของแพทย์

หลังทำ Pico Laser สามารถแต่งหน้าได้ทันทีหรือไม่?

โดยทั่วไปแล้ว ไม่ควรแต่งหน้าทันทีหลังทำ Pico Laser และควรรออย่างน้อย 24-48 ชั่วโมง

เหตุผลคือหลังทำเลเซอร์เกราะป้องกันผิวจะอ่อนแอลงชั่วคราว การแต่งหน้าเร็วเกินไปอาจทำให้เกิดการระคายเคือง นำแบคทีเรียเข้าสู่ผิว หรืออุดตันรูขุมขน ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและเกิดสิวได้ เมื่อเริ่มกลับมาแต่งหน้า ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนและอุปกรณ์ที่สะอาด

References:

  1. Advanced Aesthetics MD. (n.d.). Pico Laser Side Effects: What You Need to Know. Medical Information Resources. advancedaestheticsmd.com
  2. IDS Clinic. (n.d.). Pico Laser Downtime & Side Effects: A Comprehensive Guide. Clinical Information. idsclinic.com
  3. BVS (Virtual Health Library). (n.d.). Complications and Management of Fractional Laser Treatment. Medical Literature Database. fi-admin.bvsalud.org
  4. National Library of Medicine (NLM). (n.d.). Post-Inflammatory Hyperpigmentation After Picosecond Laser. PMC Articles. pmc.ncbi.nlm.nih.gov
  5. Belis Laser. (n.d.). Who Should Not Do Pico Laser? Treatment Contraindications. Medical Information. belislaser.com

แนะแนวเรื่อง

Previous Previous
Pico Plus Laser ต่างจาก Pico Discovery และรุ่นอื่นอย่างไร?
NextContinue
เลเซอร์ฝ้า vs ฉีดฝ้า: แบบไหนดีกว่ากัน? ข้อดี-ข้อเสียครบ

สาขาพรีวาโต คลินิก

    สาขาอโศก ตั้งอยู่ที่ ชั้น 2 อาคารมิดทาวน์
    Phone: 02-258-4050 , 081-841-5075
    สาขาสีลม ตั้งอยู่ที่ ชั้น 1 อาคารซี.พี.ทาวเวอร์
    Phone: 02-780-2011 , 098-272-5244
    สาขาราชพฤกษ์ ตั้งอยู่ที่ ชั้น 2 ศูนย์การค้า เดอะคริสตัล เอสบี (ด้านบนร้านสตาร์บัคส์)
    Phone: 02-102-2778 , 098-272-5244

ติดต่อเรา

    Facebook: Privato Clinic
    Messenger: Privato Clinic
    Instagram: privatoclinic
    Email: privatoclinic@gmail.com
    Line: @privatoclinic

Copyright© 2022-2024. All Rights Reserved

Scroll to top
  • หน้าหลัก
  • เกี่ยวกับพรีวาโต
  • บริการทั้งหมด
    • ชะลอวัย
    • ยกกระชับผิว
      • XERF
      • Potenza
      • Sofwave
      • Ulthera
      • Thermage-FLX
    • รักษาสิว
    • เลเซอร์
    • โปรแกรมฉีด
    • บำรุงผิว
  • บทความ
    • สิว
    • ยกกระชับ
    • ดูแลผิว
    • ทำเลเซอร์
  • ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว
  • โปรโมชั่น
  • ผลลัพธ์การรักษา
  • วิดีโอรีวิวจากเคสจริง
  • สาขาของเรา
  • ไทย
    • ไทย
    • English
    • 中文 (中国)
  • ปรึกษาแพทย์
Facebook Instagram YouTube