IPL กับ YAG คืออะไร ต่างกันอย่างไร แบบไหนดีกว่ากัน?

เปรียบเทียบ IPL กับ YAG: หลักการทำงานและประสิทธิภาพ
IPL (Intense Pulsed Light) คืออะไร?
IPL (Intense Pulsed Light) คือเทคโนโลยีการใช้แสงความเข้มสูงที่ไม่ใช่เลเซอร์ โดยจะปล่อยคลื่นแสงออกมาในช่วงกว้าง (500–1200 นาโนเมตร) เพื่อเป้าหมายในการทำลายเม็ดสีเมลานินในรากขน
หลักการทำงานของ IPL คือการใช้ความร้อนจากแสงเพื่อทำลายรากขน (selective photothermolysis) ซึ่งคล้ายกับเลเซอร์ แต่แสงของ IPL จะเป็นลำแสงแบบกว้างและกระจายตัว ทำให้มีความแม่นยำน้อยกว่าเลเซอร์ที่เป็นลำแสงเดี่ยวและเข้มข้น แต่สามารถครอบคลุมพื้นที่ผิวได้กว้างกว่าในแต่ละครั้งที่ยิง
YAG Laser คืออะไร?
YAG Laser คือเลเซอร์ชนิดหนึ่ง (neodymium-doped Yttrium Aluminum Garnet) ที่ปล่อยพลังงานแสงความยาวคลื่นเดียวที่ 1064 นาโนเมตร ซึ่งเป็นคลื่นอินฟราเรด ด้วยความยาวคลื่นที่สูงนี้ ทำให้เลเซอร์สามารถลงไปได้ลึกถึงผิวหนังชั้นในและถูกดูดซับโดยเม็ดสีเมลานินในผิวหนังชั้นนอกได้น้อย จึงมีความปลอดภัยสูงสำหรับผู้ที่มีผิวสีเข้มหรือผิวคล้ำ และเหมาะสำหรับกำจัดขนที่รากลึกและมีความหนา
ความแตกต่างสำคัญระหว่าง IPL และ YAG Laser
ความแตกต่างที่สำคัญที่สุดคือ IPL ใช้ลำแสงแบบกว้างที่มีหลายช่วงความยาวคลื่น ในขณะที่ YAG Laser เป็นเลเซอร์แท้ที่ใช้พลังงานแสงความยาวคลื่นเดียว
ความแตกต่างนี้ส่งผลให้ YAG Laser ซึ่งมีความยาวคลื่น 1064 นาโนเมตร สามารถลงลึกถึงรากขนได้ดีกว่าและปลอดภัยสำหรับคนผิวคล้ำ เนื่องจากพลังงานจะถูกดูดซับโดยเมลานินที่ผิวหนังชั้นบนน้อยกว่า ในทางกลับกัน IPL จะกระจายพลังงานในวงกว้าง ทำให้มีความแม่นยำน้อยกว่าและเหมาะกับคนผิวขาวถึงผิวสองสีมากกว่า
ประสิทธิภาพในการกำจัดขน: แบบไหนเห็นผลดีกว่ากัน?
โดยทั่วไป เลเซอร์ YAG มักมีประสิทธิภาพในการกำจัดขนได้สูงกว่าและเห็นผลเร็วกว่า IPL เนื่องจากเลเซอร์สามารถส่งพลังงานที่เฉพาะเจาะจงและเข้มข้นไปยังรากขนได้ดีกว่า
จากข้อมูลทางคลินิกพบว่า กลุ่มที่ใช้เลเซอร์ (รวมถึง YAG) มีสัดส่วนผู้ที่ขนลดลงมากกว่า 75% สูงกว่ากลุ่มที่ใช้ IPL อย่างชัดเจน นอกจากนี้ เลเซอร์มักใช้จำนวนครั้งในการทำน้อยกว่า ในขณะที่ IPL อาจต้องทำหลายครั้งเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงกัน
ใครเหมาะกับเลเซอร์แบบ IPL หรือ YAG?
IPL เหมาะสำหรับผู้ที่มีสีผิวขาวถึงปานกลางและมีขนสีเข้ม ในขณะที่ YAG เป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยกว่าสำหรับผู้ที่มีผิวสีเข้มหรือผิวสีแทน เนื่องจากเลเซอร์ YAG ใช้คลื่นความยาว 1064 นาโนเมตร ซึ่งสามารถผ่านเมลานินในผิวหนังชั้นบนไปได้ดีกว่า ทำให้ลดความเสี่ยงที่จะเกิดรอยไหม้
- IPL: แนะนำสำหรับผู้ที่มีสีผิว Fitzpatrick I–IV ที่มีขนสีเข้ม
- YAG: เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวสีเข้ม (Fitzpatrick V–VI) และสามารถกำจัดขนที่รากลึกและหยาบได้ดี
ทั้งสองเทคโนโลยีไม่ได้ผลกับขนสีอ่อนมาก เช่น สีบลอนด์อ่อน สีเทา หรือสีแดง เนื่องจากไม่มีเม็ดสีเมลานินให้แสงจับได้เพียงพอ
การประเมินตามสภาพสีผิวและสีเส้นขน
IPL เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวขาวถึงผิวสองสีและมีขนสีเข้ม ในขณะที่ YAG Laser เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวสีเข้มหรือผิวคล้ำ เนื่องจากมีความปลอดภัยสูงกว่าและลดความเสี่ยงที่จะเกิดการไหม้
เลเซอร์ YAG ใช้คลื่นความยาว 1064 นาโนเมตร ซึ่งสามารถทะลุผ่านเม็ดสีในผิวชั้นบนได้ดีกว่า จึงปลอดภัยสำหรับผิว Fitzpatrick V–VI อย่างไรก็ตาม ทั้งสองเทคโนโลยีไม่ค่อยมีประสิทธิภาพกับเส้นขนสีอ่อนมาก เช่น สีบลอนด์อ่อน สีเทา หรือสีแดง เนื่องจากไม่มีเม็ดสีเมลานินให้พลังงานแสงจับ โดยเส้นขนที่หยาบและหนาจะตอบสนองต่อการรักษาได้ดีที่สุด
ข้อจำกัดและบริเวณที่เหมาะสมในการรักษา
IPL เหมาะสำหรับกำจัดขนในบริเวณกว้างบนผิวขาว เช่น แขนและขา ส่วน YAG เหมาะสำหรับบริเวณที่มีขนหนาและเข้ม หรือบนผิวสีเข้ม เช่น บิกินี่และรักแร้ เนื่องจากทั้งสองเทคโนโลยีมีข้อจำกัดและบริเวณที่เหมาะสมแตกต่างกัน
- IPL (Intense Pulsed Light)
- บริเวณที่เหมาะสม: เหมาะกับพื้นที่ขนาดใหญ่ เช่น แขน ขา และหน้าอกในผู้ที่มีผิวขาว (Fitzpatrick I-IV) เนื่องจากหัวยิงมีขนาดใหญ่และครอบคลุมพื้นที่ได้รวดเร็ว
- ข้อจำกัด: พลังงานจะลงไปที่ผิวชั้นตื้น จึงอาจมีประสิทธิภาพน้อยกว่าสำหรับขนที่มีรากลึก และไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวคล้ำมากหรือผิวที่เพิ่งผ่านการอาบแดดมา เพราะมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดผิวไหม้
- YAG Laser
- บริเวณที่เหมาะสม: เหมาะกับบริเวณที่มีขนหนาและรากลึก หรือในผู้ที่มีผิวสีปานกลางถึงเข้ม (Fitzpatrick IV-VI) เช่น บริเวณบิกินี่ รักแร้ หลัง และหนวดเคราของผู้ชาย เนื่องจากพลังงานเลเซอร์สามารถลงไปได้ลึกและปลอดภัยกว่าสำหรับผิวที่มีเม็ดสีเมลานินเยอะ
- ข้อจำกัด: แม้จะปลอดภัยกับทุกสีผิว แต่การรักษาอาจทำให้รู้สึกเจ็บมากกว่า IPL
ข้อห้ามและผู้ที่ไม่ควรทำเลเซอร์กำจัดขน
ผู้ที่ไม่ควรทำเลเซอร์กำจัดขน ได้แก่ สตรีมีครรภ์, ผู้ที่ใช้ยาที่ทำให้ผิวไวต่อแสง, และผู้ที่มีการติดเชื้อหรือโรคผิวหนังอักเสบบริเวณที่จะทำ
นอกจากนี้ กลุ่มอื่นๆ ที่ควรหลีกเลี่ยงหรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนทำเลเซอร์ ได้แก่
- ผู้ที่มีประวัติการเกิดแผลเป็นคีลอยด์ หรือแผลหายช้า
- ผู้ที่เพิ่งโดนแดดจัด หรือผิวคล้ำจากการอาบแดด เนื่องจากผิวมีความไวต่อแสงและเสี่ยงต่อการไหม้
- ผู้ที่มีภาวะทางการแพทย์บางอย่าง เช่น มีรอยโรคผิวหนังที่อาจเป็นมะเร็ง, เป็นเริมในบริเวณที่จะทำ หรือเป็นด่างขาวที่ยังไม่คงที่
ผลลัพธ์และระยะเวลา: ต้องทำกี่ครั้งและอยู่นานแค่ไหน?
การกำจัดขนด้วยเลเซอร์และ IPL ต้องทำต่อเนื่องประมาณ 6-12 ครั้งเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ยาวนานเป็นเวลาหลายเดือนถึงหลายปี ซึ่งเป็นการลดจำนวนเส้นขนอย่างถาวร ไม่ใช่การกำจัดให้หมดไปอย่างถาวร
- จำนวนครั้งที่ต้องทำ: โดยทั่วไป YAG Laser ต้องทำประมาณ 6–8 ครั้ง ในขณะที่ IPL อาจต้องทำ 8–12 ครั้งเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกัน โดยเว้นระยะห่างแต่ละครั้ง 4–8 สัปดาห์
- ระยะเวลาของผลลัพธ์: ผลลัพธ์จะคงอยู่ได้นานหลายเดือนถึงหลายปี แต่เส้นขนอาจกลับมาขึ้นใหม่ได้ ซึ่งจะมีลักษณะบางและน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด จึงอาจต้องมีการทำซ้ำเพื่อคงสภาพ (Maintenance) ปีละ 1-2 ครั้ง
จำนวนครั้งและระยะห่างในการทำเลเซอร์แต่ละชนิด
โดยทั่วไป เลเซอร์ YAG แนะนำให้ทำประมาณ 6-8 ครั้ง ในขณะที่ IPL อาจต้องทำ 8-12 ครั้ง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เทียบเท่ากัน
สำหรับการทำเลเซอร์ทั้งสองชนิดควรเว้นระยะห่างในแต่ละครั้งประมาณ 4-8 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับบริเวณที่กำจัดขน
ผลลัพธ์หลังการรักษาคงอยู่นานเท่าไร?
ผลลัพธ์หลังการกำจัดขนด้วยเลเซอร์ คงอยู่ได้นานหลายเดือนถึงหลายปี แต่ไม่ใช่การกำจัดขนให้หายไปอย่างถาวร 100%
โดยทั่วไปแล้ว เทคโนโลยีนี้ให้ผลเป็นการ “ลดจำนวนขนอย่างถาวร” (permanent hair reduction) ซึ่งหมายถึงขนที่ขึ้นใหม่จะบางลงและมีปริมาณน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด เพื่อรักษาผลลัพธ์ให้ดีที่สุดในระยะยาว อาจจำเป็นต้องทำเลเซอร์ซ้ำเพื่อซ่อมแซม (maintenance) ประมาณปีละ 1-2 ครั้ง
การเตรียมตัวก่อนและการดูแลผิวหลังทำเลเซอร์
การเตรียมตัวก่อนทำเลเซอร์ขนที่สำคัญคือ การงดถอนขนและหลีกเลี่ยงแสงแดด ส่วนการดูแลหลังทำคือการหลีกเลี่ยงแสงแดด ความร้อน และการระคายเคืองผิว
การเตรียมตัวก่อนทำเลเซอร์
- หลีกเลี่ยงแสงแดด: งดการเผชิญแสงแดดจัดหรือการอาบแดดเป็นเวลาสองสามสัปดาห์ก่อนทำ
- งดการถอนขน: หยุดแว็กซ์ ถอน หรือกำจัดขนด้วยวิธีที่ดึงรากขนออกอย่างน้อย 4-6 สัปดาห์ก่อนทำ แต่สามารถโกนได้
- โกนขน: โกนขนบริเวณที่จะทำเลเซอร์ 1-2 วันก่อนวันนัดหมาย
- ทำความสะอาดผิว: ในวันนัดหมาย ควรมาด้วยผิวที่สะอาด ปราศจากน้ำหอม โลชั่น หรือผลิตภัณฑ์ระคายเคืองอื่นๆ
การดูแลผิวหลังทำเลเซอร์
- หลีกเลี่ยงแสงแดด: งดโดนแดดจัดอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ และทาครีมกันแดดสม่ำเสมอ
- หลีกเลี่ยงความร้อน: งดกิจกรรมที่ทำให้เกิดความร้อนหรือเหงื่อออกมาก เช่น ซาวน่า อาบน้ำร้อน หรือออกกำลังกายหนัก เป็นเวลา 24-48 ชั่วโมง
- งดการระคายเคือง: ไม่สครับหรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดหรือเรตินอลประมาณ 1 สัปดาห์
- ห้ามถอนหรือแว็กซ์: ปล่อยให้ขนที่ถูกทำลายหลุดร่วงไปเองตามธรรมชาติ ซึ่งจะใช้เวลา 1-3 สัปดาห์ สามารถโกนได้หากจำเป็น
- ปลอบประโลมผิว: หากมีอาการแดงหรือบวม สามารถใช้การประคบเย็นหรือทาเจลว่านหางจระเข้เพื่อบรรเทาอาการได้
ปัจจัยที่ต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจเลือก
ความสำคัญของการประเมินโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
การประเมินโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมีความสำคัญอย่างยิ่งเพื่อให้แน่ใจว่าได้เลือกใช้เทคโนโลยีและตั้งค่าพลังงานที่เหมาะสมกับสภาพผิวและเส้นขน ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการกำจัดขนให้ได้มากที่สุด
ผู้เชี่ยวชาญจะสามารถประเมินสภาพผิวและลักษณะเส้นขน เพื่อเลือกประเภทเลเซอร์ที่เหมาะสม เช่น การเลือกใช้ Nd:YAG สำหรับผู้ที่มีผิวคล้ำเพื่อหลีกเลี่ยงการไหม้ การประเมินนี้ช่วยปรับการรักษาให้เหมาะกับแต่ละบุคคล ซึ่งจะช่วยเพิ่มผลลัพธ์และลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียงต่างๆ เช่น รอยไหม้หรือรอยแผลเป็น
มาตรฐานของเครื่องมือและสถานพยาบาล
ก่อนเริ่มการรักษา ควรพิจารณาคุณภาพและความปลอดภัยของเครื่องมือและสถานพยาบาล โดยต้องแน่ใจว่าคลินิกใช้อุปกรณ์ที่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา (FDA) หรือ CE
มาตรฐานที่สำคัญอื่นๆ ที่ควรพิจารณา ได้แก่:
- คลินิกที่น่าเชื่อถือควรมีเครื่องเลเซอร์หลายประเภทเพื่อปรับให้เข้ากับสภาพผิวที่แตกต่างกัน
- ต้องมีการใช้อุปกรณ์ป้องกันดวงตาสำหรับทั้งผู้รับบริการและผู้ให้บริการ
- ห้องทรีตเมนต์ควรสะอาดและไม่มีพื้นผิวที่สามารถสะท้อนแสงเลเซอร์ได้
- ควรมีระบบทำความเย็นที่ผิวหนังระหว่างการรักษาเพื่อลดความเจ็บปวดและปกป้องผิว
- ผู้ให้บริการต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกอบรม และเครื่องมือต้องได้รับการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ
งบประมาณและกรอบราคาของแต่ละเทคโนโลยี
โดยทั่วไปแล้ว ราคาการกำจัดขนด้วยเลเซอร์ในประเทศไทยจะอยู่ที่ประมาณ 500 ถึง 3,000 บาทต่อครั้ง ขึ้นอยู่กับขนาดของพื้นที่และประเภทของเครื่องที่ใช้
ราคาจะแตกต่างกันไปตามปัจจัยต่างๆ ดังนี้
- ขนาดพื้นที่: พื้นที่เล็กๆ เช่น หนวดหรือรักแร้ จะมีราคาถูกกว่าพื้นที่ขนาดใหญ่ เช่น ขาทั้งสองข้างหรือแผ่นหลัง
- จำนวนครั้ง: การทำเลเซอร์ YAG อาจมีราคาต่อครั้งใกล้เคียงกับเลเซอร์ชนิดอื่น แต่เนื่องจาก IPL อาจต้องทำจำนวนครั้งมากกว่า ทำให้ค่าใช้จ่ายโดยรวมของคอร์ส IPL อาจสูงกว่าการทำเลเซอร์ที่มีประสิทธิภาพมากกว่า
- แพ็กเกจ: หลายคลินิกมีโปรโมชันในรูปแบบแพ็กเกจซึ่งจะทำให้ราคาต่อครั้งถูกลง เช่น การทำเลเซอร์รักแร้ครั้งเดียวราคา 699 บาท แต่แพ็กเกจ 5 ครั้งอาจอยู่ที่ประมาณ 3,250 บาท (เฉลี่ยครั้งละ 650 บาท)
แม้ว่าเลเซอร์ YAG อาจมีราคาสูงกว่า IPL ต่อครั้งในบางคลินิก แต่การที่เห็นผลลัพธ์ในจำนวนครั้งที่น้อยกว่าอาจทำให้มีความคุ้มค่ามากกว่าในระยะยาว
ความเสี่ยง ผลข้างเคียง และความรู้สึกขณะทำ
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้จาก IPL
ผลข้างเคียงที่พบบ่อยที่สุดของ IPL คือ รอยแดง อาการบวม และการเปลี่ยนแปลงของเม็ดสีผิว เช่น จุดด่างดำหรือจุดด่างขาว โดยเฉพาะในผู้ที่มีผิวสีเข้มหรือโดนแดดมาล่าสุด
ผลข้างเคียงอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ ได้แก่:
- อาการแสบร้อนหรือพุพอง หากใช้พลังงานสูงเกินไป
- การกระตุ้นให้เกิดโรคเริม (กรณีทำบริเวณริมฝีปาก)
- การกระตุ้นให้ขนบางๆ ที่อยู่ใกล้เคียงยาวขึ้น (พบได้น้อย)
- การบาดเจ็บต่อดวงตา หากไม่สวมใส่อุปกรณ์ป้องกัน
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้จาก YAG Laser
ผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยที่สุดหลังทำ YAG Laser คือ อาการแดง บวม และตุ่มนูนแดงรอบรูขุมขนทันทีหลังทำ ซึ่งโดยทั่วไปจะหายไปเองภายในไม่กี่ชั่วโมงถึงหนึ่งวัน
นอกจากนี้ยังอาจพบผลข้างเคียงอื่น ๆ ได้แก่:
- การเปลี่ยนแปลงเม็ดสีผิวชั่วคราว เช่น รอยดำ (hyperpigmentation) หรือรอยด่างขาว (hypopigmentation) โดยเฉพาะหากไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำหลังทำ
- รูขุมขนอักเสบชั่วคราว (folliculitis) ซึ่งอาจเกิดการอักเสบหรือติดเชื้อเล็กน้อยในรูขุมขน
- รอยช้ำหรือจ้ำเลือดบริเวณรูขุมขน ในบางกรณี
- ความรู้สึกเจ็บ ระหว่างทำ ซึ่งมักจะมากกว่า IPL แต่สามารถจัดการได้ด้วยระบบทำความเย็นของเครื่อง
วิธีลดความเสี่ยงและจัดการอาการเบื้องต้น
การลดความเสี่ยงและจัดการอาการเบื้องต้นจากการทำเลเซอร์ขน สามารถทำได้โดยการเลือกคลินิกและผู้เชี่ยวชาญที่น่าเชื่อถือ รวมถึงการปฏิบัติตามคำแนะนำก่อนและหลังการทำอย่างเคร่งครัด
วิธีลดความเสี่ยง:
- เลือกผู้เชี่ยวชาญ: เข้ารับบริการกับผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการรับรองซึ่งสามารถประเมินสภาพผิวและเส้นขนได้อย่างถูกต้อง
- เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน: ตรวจสอบว่าคลินิกใช้อุปกรณ์ที่ได้รับการรับรองจาก FDA มีระบบทำความเย็นเพื่อลดความเจ็บปวดและปกป้องผิว และมีแว่นตาป้องกันให้สวมใส่ระหว่างทำ
- เตรียมตัวก่อนทำ: หลีกเลี่ยงการเผชิญแสงแดดจัด งดการถอนหรือแว็กซ์ขน และโกนขนบริเวณที่จะทำ 1-2 วันก่อนเข้ารับบริการ
วิธีจัดการอาการเบื้องต้น:
- ลดอาการแดงบวม: หากมีอาการแดงหรือบวมเล็กน้อยหลังทำ ให้ใช้การประคบเย็นหรือทาเจลว่านหางจระเข้เพื่อปลอบประโลมผิว
- หลีกเลี่ยงความร้อนและแสงแดด: งดกิจกรรมที่ทำให้เกิดความร้อนหรือเหงื่อออกมาก เช่น ซาวน่า อาบน้ำร้อน และออกกำลังกายหนัก เป็นเวลา 24-48 ชั่วโมง และต้องหลีกเลี่ยงแสงแดดพร้อมทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ
- ดูแลผิวอย่างอ่อนโยน: งดใช้ผลิตภัณฑ์ที่อาจระคายเคืองผิว เช่น สครับ หรือครีมที่มีส่วนผสมของกรดและเรตินอยด์ประมาณ 1 สัปดาห์
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเลเซอร์ขน
IPL กำจัดขนได้ถาวรจริงหรือไม่?
IPL ไม่ได้กำจัดขนอย่างถาวร แต่เป็นการลดจำนวนเส้นขนลงอย่างถาวร (permanent hair reduction) ซึ่งหมายถึงการลดความหนาแน่นของเส้นขนในระยะยาว
โดยทั่วไปแล้ว ขนที่ขึ้นใหม่หลังจากทำ IPL จะมีลักษณะบางลงและสีอ่อนลง อย่างไรก็ตาม อาจจำเป็นต้องทำทรีตเมนต์เพื่อคงสภาพผลลัพธ์ (maintenance) เป็นครั้งคราว เช่น ปีละครั้ง เนื่องจาก IPL อาจต้องใช้จำนวนครั้งในการทำมากกว่าเลเซอร์เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงกัน
ทำเลเซอร์ YAG เจ็บไหม?
การทำเลเซอร์ YAG ทำให้รู้สึกเจ็บได้ แต่เป็นความเจ็บในระดับที่สามารถทนได้ โดยความรู้สึกมักถูกเปรียบเทียบว่าเหมือนโดนหนังยางดีดร้อนๆ หรือเข็มทิ่มที่ผิวหนังอย่างรวดเร็ว ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะรู้สึกเจ็บกว่า IPL เล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม เครื่องเลเซอร์ YAG สมัยใหม่มักมีเทคโนโลยีความเย็น เช่น หัวยิงแบบเย็นหรือเครื่องเป่าลมเย็น ช่วยลดความรู้สึกเจ็บลงได้อย่างมาก ทำให้ผู้ใช้บริการส่วนใหญ่รู้สึกเพียงอุ่นๆ หรือเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น และสามารถทนได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้ยาชา
เลเซอร์แบบไหนเหมาะกับคนผิวคล้ำมากกว่ากัน?
เลเซอร์ Nd:YAG เหมาะสำหรับคนผิวคล้ำมากกว่า เนื่องจากเลเซอร์ชนิดนี้ใช้คลื่นความยาว 1064 นาโนเมตร ซึ่งสามารถทะลุผ่านผิวหนังชั้นบนได้ลึกและถูกดูดซับโดยเม็ดสีในผิวหนังน้อยกว่า ทำให้สามารถกำจัดขนได้อย่างแม่นยำโดยลดความเสี่ยงที่จะเกิดการไหม้หรือการเปลี่ยนแปลงของสีผิว ซึ่งต่างจาก IPL ที่ไม่เหมาะกับคนผิวคล้ำเพราะอาจทำให้ผิวไหม้ได้ง่าย
ต้องทำ YAG หรือ IPL กี่ครั้งถึงจะเห็นผลชัดเจน?
โดยทั่วไป YAG เลเซอร์ต้องทำประมาณ 6-8 ครั้ง ส่วน IPL อาจต้องทำ 8-12 ครั้ง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน
เนื่องจาก YAG เลเซอร์มีความเข้มข้นของพลังงานสูงกว่า จึงมักเห็นผลในจำนวนครั้งที่น้อยกว่า IPL โดยแต่ละครั้งควรเว้นระยะห่างประมาณ 4-8 สัปดาห์ เพื่อให้เลเซอร์สามารถกำจัดขนในระยะเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ จำนวนครั้งอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำและปัจจัยทางฮอร์โมน
ก่อนทำเลเซอร์ขนสามารถโกนหรือแว็กซ์ได้ไหม?
ก่อนทำเลเซอร์ขน สามารถโกนขนได้ แต่ห้ามแว็กซ์หรือถอน
โดยทั่วไปคลินิกจะแนะนำให้โกนขนบริเวณที่จะทำเลเซอร์ก่อนเข้ารับบริการ 1-2 วัน เพื่อให้พลังงานเลเซอร์ส่งไปถึงรากขนใต้ผิวหนังได้อย่างเต็มที่ แต่ห้ามกำจัดขนด้วยวิธีการแว็กซ์ ถอน หรือใช้เครื่องกำจัดขนอย่างน้อย 4-6 สัปดาห์ก่อนทำเลเซอร์ เพราะวิธีเหล่านี้จะดึงรากขนออกไปทั้งหมด ทำให้เลเซอร์ไม่สามารถจับเม็ดสีที่รากขนเพื่อทำลายเซลล์ขนได้
หลังทำเลเซอร์ขนควรหลีกเลี่ยงอะไรบ้าง?
หลังทำเลเซอร์กำจัดขน ควรหลีกเลี่ยงสิ่งที่อาจระคายเคืองหรือทำให้ผิวร้อนเกินไป เช่น การสัมผัสแสงแดดโดยตรง ความร้อน และผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่รุนแรง
ข้อควรปฏิบัติหลังทำเลเซอร์มีดังนี้:
- การสัมผัสแสงแดด: หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรงและเตียงอบผิวเป็นเวลาอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ และควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป
- ความร้อน: งดอาบน้ำร้อน ซาวน่า และการออกกำลังกายหนักที่ทำให้เหงื่อออกมากเป็นเวลา 24-48 ชั่วโมง
- ผลิตภัณฑ์ที่รุนแรง: งดใช้สครับ ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเรตินอล หรือกรดต่างๆ เป็นเวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์
- การกำจัดขน: ห้ามแว็กซ์หรือถอนขนในบริเวณที่ทำเลเซอร์ แต่สามารถโกนได้เมื่ออาการระคายเคืองหายไปแล้ว
- การเสียดสี: หลีกเลี่ยงการสวมเสื้อผ้าที่รัดแน่นเกินไปเพื่อป้องกันการระคายเคือง
- สระว่ายน้ำและทะเล: หลีกเลี่ยงการว่ายน้ำในสระหรือทะเลเป็นเวลา 24-48 ชั่วโมง
References:
- Cleveland Clinic. Laser Hair Removal: How it Works, Safety & What to Expect. Cleveland Clinic. clevelandclinic.org
- London Premier Laser Clinic. Hair Removal Using Light: The Difference Between IPL & Laser Hair Removal. London Premier Laser Clinic. londonpremierlaser.co.uk
- Laserazor. Most effective laser hair removal at Laserazor: Deka Again alexandrite laser and ND:YAG laser vs. IPL. Laserazor. laserazor.de
- Vaidya, T., Hohman, M.H., & Dinesh, K.D. Laser Hair Removal. StatPearls (NCBI Bookshelf). ncbi.nlm.nih.gov
- Zappia, E., Federico, S., Volpe, C., et al. Alexandrite and Nd:YAG Laser vs. IPL in the Management of Facial Hirsutism: A Retrospective Study. Photonics (MDPI). mdpi.com
- Ulike. IPL vs. Laser: A Comparison of Light-Based Hair Removal Methods. Ulike. ulike.com
- Soni, H. Contraindications You Must Know Before Laser Hair Removal. Ethos Spa. myethosspa.com
