Skip to content

TEL : 081-841-5075, 02-258-4050

Facebook Instagram YouTube
Privato Clinic – Innovation Of Beauty  |  Bangkok
  • หน้าหลัก
  • เกี่ยวกับพรีวาโต
  • บริการทั้งหมดExpand
    • ชะลอวัย
    • ยกกระชับผิวExpand
      • XERF
      • Potenza
      • Sofwave
      • Ulthera
      • Thermage-FLX
    • รักษาสิว
    • เลเซอร์
    • โปรแกรมฉีด
    • บำรุงผิว
  • บทความExpand
    • สิว
    • ยกกระชับ
    • ดูแลผิว
    • ทำเลเซอร์
  • ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว
  • โปรโมชั่น
  • ผลลัพธ์การรักษา
  • วิดีโอรีวิวจากเคสจริง
  • สาขาของเรา
  • ไทยExpand
    • ไทย
    • English
    • 中文 (中国)
  • ปรึกษาแพทย์
Privato Clinic – Innovation Of Beauty  |  Bangkok
Consult a Doctor
Lifting

ฉีดผิว ขาวจริงไหม? รีวิว ข้อดี ข้อเสีย อันตรายหรือไม่ 2025

Byadmin กันยายน 29, 2025กันยายน 29, 2025
By แพทย์หญิงนัชชนก หุ่นวิจิตร Updated on กันยายน 29, 2025
✦ Medically reviewed by  นายแพทย์เลอพงษ์ กรุดเงิน
ฉีดผิว ขาวจริงไหม? รีวิว ข้อดี ข้อเสีย อันตรายหรือไม่ 2025

ฉีดผิว ขาวจริงไหมนั้นขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล โดยเป็นการฉีดสารต้านอนุมูลอิสระปริมาณสูงเพื่อลดเม็ดสี ทำให้ผิวสว่างขึ้น 1-2 ระดับ แต่ผลลัพธ์ไม่ถาวรและมีความเสี่ยงหากใช้สารไม่ได้มาตรฐานหรือแพทย์ไม่มีประสบการณ์.

Table of Contents

Toggle
  • ฉีดผิวขาวคืออะไร?
    • หลักการทำงานของการฉีดผิวขาว
    • สารประกอบหลักที่ใช้ในการฉีด (เช่น วิตามินซี, กลูต้าไธโอน)
  • ฉีดผิวขาวจริงไหม? ผลลัพธ์ที่คาดหวัง
    • ความขาวที่ได้จากการฉีดผิว
    • ปัจจัยที่ส่งผลต่อผลลัพธ์ (สภาพผิวเดิม, การดูแลตัวเอง)
    • ฉีดผิวขาว กี่ครั้งเห็นผล? และอยู่ได้นานแค่ไหน?
  • ข้อดีของการฉีดผิวขาว
    • เห็นผลลัพธ์รวดเร็ว
    • ฟื้นฟูและบำรุงผิวให้กระจ่างใส
    • เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน (จากวิตามิน)
  • ข้อเสียและอันตรายจากการฉีดผิวขาว
    • ผลข้างเคียงทั่วไป (รอยช้ำ, บวม)
    • ความเสี่ยงต่อสุขภาพ (หากใช้สารไม่ได้มาตรฐาน, แพทย์ไม่มีประสบการณ์)
    • ฉีดผิวขาวถาวรไหม? (ผลลัพธ์ไม่ถาวร)
  • ก่อนตัดสินใจฉีดผิวขาว: สิ่งที่ควรรู้
    • การเลือกคลินิกและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
    • ฉีดผิวขาวราคาเท่าไหร่?
    • การเตรียมตัวก่อนและหลังฉีดผิวขาว
  • ข้อควรระวังและผู้ที่ไม่ควรฉีดผิวขาว
    • ข้อห้ามและข้อจำกัด
    • สัญญาณอันตรายที่ต้องพบแพทย์
  • คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการฉีดผิวขาว
    • ฉีดผิวขาวเจ็บไหม?
    • ฉีดผิวขาวแล้วจะกลับมาดำไหม?
    • ดริปผิวครั้งเดียวเห็นผลไหม?
    • ฉีดผิวขาวกี่เข็มถึงจะขาว?
    • ฉีดวิตามินผิว อันตรายไหม?
  • References:

ฉีดผิวขาวคืออะไร?

การฉีดผิวขาว คือหัตถการทางความงามที่ใช้การฉีดสารต้านอนุมูลอิสระปริมาณสูง เช่น กลูตาไธโอนและวิตามินซี เข้าสู่กระแสเลือดโดยตรง เพื่อลดการผลิตเม็ดสีเมลานินและทำให้โทนสีผิวโดยรวมสว่างขึ้น สารเหล่านี้จะช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระที่กระตุ้นการสร้างเม็ดสี ส่งผลให้ผิวมีความกระจ่างใสและมีสีที่สม่ำเสมอมากขึ้น

หลักการทำงานของการฉีดผิวขาว

หลักการทำงานของการฉีดผิวขาวคือการลดการผลิตเม็ดสีเมลานินในผิวหนัง โดยการให้สารต้านอนุมูลอิสระปริมาณสูงเข้าสู่ร่างกายโดยตรง

สารต้านอนุมูลอิสระหลักที่ใช้ เช่น กลูตาไธโอนและวิตามินซี จะเข้าไปต่อต้านอนุมูลอิสระและความเครียดออกซิเดชัน (oxidative stress) ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการผลิตเม็ดสีส่วนเกิน นอกจากนี้ กลูตาไธโอนยังช่วยลดเลือนรอยดำที่เกิดจากรังสียูวี ทำให้สีผิวสม่ำเสมอขึ้น ในขณะที่วิตามินซีช่วยเสริมการทำงานและลดเม็ดสีเมลานินที่ถูกออกซิไดซ์แล้ว ส่งผลให้ผิวโดยรวมดูสว่างและกระจ่างใสขึ้น

สารประกอบหลักที่ใช้ในการฉีด (เช่น วิตามินซี, กลูต้าไธโอน)

สารประกอบหลักที่ใช้ในการฉีดผิวขาวคือสารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณสูง โดยส่วนใหญ่มักจะเป็นกลูต้าไธโอนและวิตามินซี

ส่วนประกอบอื่นๆ ที่อาจพบได้ในสูตรฉีดผิวขาว ได้แก่

  • วิตามินซี (Ascorbic Acid): มักถูกเติมเข้าไปเพื่อช่วยเสริมการทำงานของกลูต้าไธโอนและเพิ่มความกระจ่างใสให้ผิว
  • กรดทรานเอกซามิก (Tranexamic Acid): ในบางประเทศแถบเอเชียมีการนำมาผสมเพื่อช่วยลดเลือนฝ้าและจุดด่างดำ
  • วิตามินและสารอาหารอื่นๆ: เช่น วิตามินอี หรือกรดอัลฟาไลโปอิก (Alpha-lipoic acid) เพื่อเสริมฤทธิ์การทำงานร่วมกัน

ฉีดผิวขาวจริงไหม? ผลลัพธ์ที่คาดหวัง

ความขาวที่ได้จากการฉีดผิว

ผลลัพธ์ที่ได้จากการฉีดผิวคือการทำให้สีผิวโดยรวมค่อยๆ สว่างและสม่ำเสมอขึ้น ซึ่งอาจสว่างขึ้นหนึ่งถึงสองระดับ การฉีดผิวไม่สามารถเปลี่ยนสีผิวตามธรรมชาติได้อย่างถาวร แต่จะช่วยลดเลือนจุดด่างดำที่เกิดจากรังสียูวี ทำให้ผิวดูเปล่งปลั่งและมีสุขภาพดีขึ้น ทั้งนี้ผลลัพธ์จะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล บางคนอาจเห็นการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ปัจจัยที่ส่งผลต่อผลลัพธ์ (สภาพผิวเดิม, การดูแลตัวเอง)

ปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อผลลัพธ์ของการฉีดผิวขาวคือ พันธุกรรม การเผาผลาญ ไลฟ์สไตล์ การป้องกันแสงแดด และความสม่ำเสมอในการรักษา

ปัจจัยเหล่านี้มีอิทธิพลต่อการตอบสนองของแต่ละบุคคลต่อการรักษา ดังนี้

  • พันธุกรรมและการเผาผลาญ: บางคนอาจมีระบบเผาผลาญกลูตาไธโอนที่เร็วกว่า หรือมีเซลล์สร้างเม็ดสี (melanocytes) ที่ทำงานได้ดีกว่า ทำให้ผลลัพธ์ลดลง
  • ไลฟ์สไตล์และการป้องกันแสงแดด: การหลีกเลี่ยงรังสียูวีและใช้ครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะการโดนแดดจะกระตุ้นการสร้างเม็ดสีใหม่และลบล้างผลของการฉีด
  • ความสม่ำเสมอในการรักษา: การเข้ารับการรักษาตามกำหนดอย่างต่อเนื่องเป็นกุญแจสำคัญในการยับยั้งการสร้างเม็ดสี หากขาดความต่อเนื่องจะทำให้เห็นผลช้าลง
  • สุขภาพโดยรวม: ระดับความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชัน (oxidative stress) อาหาร และการสูบบุหรี่ ล้วนมีอิทธิพลต่อผลลัพธ์ที่ได้

ฉีดผิวขาว กี่ครั้งเห็นผล? และอยู่ได้นานแค่ไหน?

โดยทั่วไป จะเริ่มเห็นผลลัพธ์หลังฉีดไปแล้วประมาณ 5-10 ครั้ง และผลลัพธ์จะอยู่ได้นาน 3-12 เดือน หลังจากหยุดฉีด

บางคนอาจรู้สึกว่าผิวสดใสขึ้นหลังฉีด 3-4 ครั้ง แต่สำหรับปัญหาเม็ดสีที่เข้มขึ้นอาจต้องใช้เวลาต่อเนื่อง 3-6 เดือน ผลลัพธ์ที่ได้นั้นไม่ถาวร เนื่องจากเซลล์ผิวจะกลับมาผลิตเม็ดสีตามปกติ หากต้องการรักษาสีผิวให้สว่างอย่างต่อเนื่องจึงจำเป็นต้องฉีดเพื่อคงสภาพ (maintenance) ทุกๆ 1-3 เดือน

ข้อดีของการฉีดผิวขาว

เห็นผลลัพธ์รวดเร็ว

ผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดเจนมักปรากฏขึ้นหลังจากการรักษาต่อเนื่อง 3-4 สัปดาห์ โดยในช่วงเดือนแรก บางคนอาจสังเกตเห็นว่าผิวดูสว่างและกระจ่างใสขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากสารต้านอนุมูลอิสระ อย่างไรก็ตาม สำหรับปัญหาเม็ดสีที่เข้มขึ้น เช่น ฝ้า อาจต้องใช้เวลา 3-6 เดือนจึงจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน และการฉีดเพียงครั้งเดียวไม่เพียงพอที่จะทำให้สีผิวเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด

ฟื้นฟูและบำรุงผิวให้กระจ่างใส

การฉีดวิตามินผิวช่วยฟื้นฟูและบำรุงผิวให้กระจ่างใสโดยเป็นการส่งสารต้านอนุมูลอิสระปริมาณสูง เช่น กลูตาไธโอนและวิตามินซี เข้าสู่กระแสเลือดโดยตรง เพื่อยับยั้งการผลิตเม็ดสีเมลานินและต่อต้านความเครียดออกซิเดชัน ซึ่งเป็นสาเหตุของผิวหมองคล้ำและจุดด่างดำ

สารประกอบหลักทำงานร่วมกันเพื่อปรับปรุงสภาพผิว ดังนี้:

  • กลูตาไธโอน (Glutathione) ทำหน้าที่ลดการสร้างเม็ดสีเมลานินชนิดสีเข้ม และต่อต้านอนุมูลอิสระที่เกิดจากรังสียูวี ทำให้สีผิวโดยรวมสว่างและสม่ำเสมอขึ้น
  • วิตามินซี (Vitamin C) ช่วยเสริมการทำงานของกลูตาไธโอน ลดเม็ดสีเมลานินที่ถูกออกซิไดซ์ และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ส่งผลให้ผิวดูเปล่งปลั่งและเรียบเนียนขึ้น

เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน (จากวิตามิน)

การฉีดวิตามินซีในปริมาณสูงเป็นที่ทราบกันว่าช่วยสนับสนุนการทำงานของภูมิคุ้มกัน โดยสามารถเสริมสร้างการตอบสนองของภูมิคุ้มกันต่อการติดเชื้อและช่วยในการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ ผู้ใช้บางรายรายงานว่ารู้สึกกระปรี้กระเปร่าและป่วยน้อยลงในช่วงที่รับการรักษา

ข้อเสียและอันตรายจากการฉีดผิวขาว

ผลข้างเคียงทั่วไป (รอยช้ำ, บวม)

อาการช้ำ บวม หรือเจ็บบริเวณที่ฉีดเป็นผลข้างเคียงทั่วไปที่พบได้บ่อย ซึ่งเกิดจากการระคายเคืองของเข็มต่อหลอดเลือดและเนื้อเยื่อโดยรอบ โดยทั่วไปแล้วอาการเหล่านี้จะไม่รุนแรงและสามารถหายได้เองภายใน 1-2 วัน

ความเสี่ยงต่อสุขภาพ (หากใช้สารไม่ได้มาตรฐาน, แพทย์ไม่มีประสบการณ์)

การใช้สารที่ไม่ได้มาตรฐานหรือฉีดกับผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ มีความเสี่ยงร้ายแรงต่อสุขภาพ เช่น การติดเชื้อในกระแสเลือด การได้รับสารพิษจากส่วนผสมที่ไม่เปิดเผย และการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการฉีดผิดวิธี

ความเสี่ยงที่สำคัญประกอบด้วย:

  • ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน: สารที่ไม่ได้คุณภาพอาจไม่ผ่านการฆ่าเชื้อ ทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อในกระแสเลือด หรืออาจมีการปนเปื้อนของสารพิษและส่วนผสมที่ไม่รู้จัก เช่น สเตียรอยด์ ซึ่งเป็นอันตรายต่อร่างกาย
  • ผู้ให้บริการที่ไม่มีคุณสมบัติ: การฉีดโดยผู้ที่ขาดความเชี่ยวชาญอาจทำให้เกิดหลอดเลือดดำอักเสบ (phlebitis) ฟองอากาศอุดตันในหลอดเลือด (air embolism) หรือข้อผิดพลาดร้ายแรงอื่นๆ ในการให้สารน้ำทางหลอดเลือด

ฉีดผิวขาวถาวรไหม? (ผลลัพธ์ไม่ถาวร)

ผลลัพธ์จากการฉีดผิวขาวไม่ถาวร และสีผิวจะค่อยๆ กลับคืนสู่สภาพเดิมเมื่อหยุดการรักษา

เนื่องจากการฉีดสารต่างๆ เช่น กลูตาไธโอน เป็นเพียงการยับยั้งการผลิตเม็ดสีเมลานินชั่วคราวเท่านั้น ไม่ได้ทำลายเซลล์สร้างเม็ดสีอย่างถาวร โดยทั่วไปแล้วสีผิวจะเริ่มกลับมาเป็นปกติภายในระยะเวลา 3-12 เดือนหลังหยุดฉีด ดังนั้น หากต้องการรักษาสภาพผิวให้สว่างใสอย่างต่อเนื่อง จำเป็นต้องมีการฉีดซ้ำเป็นระยะ (Maintenance) ตามคำแนะนำของแพทย์

ก่อนตัดสินใจฉีดผิวขาว: สิ่งที่ควรรู้

การเลือกคลินิกและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

ควรเลือกคลินิกหรือโรงพยาบาลที่น่าเชื่อถือ ซึ่งมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลและสามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ใช้ได้อย่างโปร่งใส

ข้อควรพิจารณาเพิ่มเติมในการเลือกสถานพยาบาล ได้แก่:

  • สอบถามข้อมูลและขอดูบรรจุภัณฑ์หรือใบรับรองของผลิตภัณฑ์ที่ใช้
  • หลีกเลี่ยงสถานพยาบาลที่ให้คำมั่นสัญญาเกินจริง หรือปฏิเสธที่จะเปิดเผยส่วนผสม
  • สังเกตสัญญาณเตือน เช่น ราคาที่ต่ำกว่าตลาดมาก หรือไม่มีการประเมินทางการแพทย์โดยแพทย์ก่อนทำหัตถการ
  • ควรมีแพทย์หรือพยาบาลวิชาชีพประเมินผู้ป่วยก่อนการฉีดทุกครั้ง
  • สถานพยาบาลควรมีมาตรฐานในการเฝ้าสังเกตอาการหลังการฉีดอย่างน้อย 30 นาที เพื่อจัดการกับปฏิกิริยาเฉียบพลันที่อาจเกิดขึ้น

ฉีดผิวขาวราคาเท่าไหร่?

โดยเฉลี่ยแล้ว การฉีดผิวขาวในประเทศไทยมีราคาประมาณ 3,000–6,000 บาทต่อครั้ง

อย่างไรก็ตาม ราคาอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสถานพยาบาลและสูตรยาที่ใช้ โดยคลินิกบางแห่งอาจมีโปรโมชันหรือแพ็กเกจที่ทำให้ราคาลดลงเหลือประมาณ 1,500–2,500 บาทต่อครั้ง ในขณะที่โรงพยาบาลชั้นนำอาจมีราคาสูงถึง 10,000 บาทขึ้นไปต่อครั้งสำหรับสูตรพรีเมียม เนื่องจากโดยทั่วไปต้องฉีด 5-10 ครั้งเพื่อให้เห็นผล ค่าใช้จ่ายโดยรวมจึงอาจสูงขึ้นตามไปด้วย

การเตรียมตัวก่อนและหลังฉีดผิวขาว

การเตรียมตัวก่อนฉีดผิวขาวคือการปรึกษาแพทย์และแจ้งประวัติสุขภาพ ส่วนการดูแลหลังฉีดคือการสังเกตอาการผิดปกติและหลีกเลี่ยงแสงแดดอย่างเคร่งครัด เพื่อให้การรักษามีความปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

การเตรียมตัวก่อนฉีด

  • ปรึกษาแพทย์และแจ้งประวัติสุขภาพอย่างละเอียด รวมถึงโรคประจำตัวและยาที่ใช้เป็นประจำ
  • หลีกเลี่ยงการใช้ยาต้านการอักเสบ (NSAIDs) หรือยาละลายลิ่มเลือด เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดรอยช้ำ (ควรปรึกษาแพทย์ก่อนหยุดยา)
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอในวันนัด เพื่อช่วยให้การหาเส้นเลือดทำได้ง่ายขึ้นและลดอาการวิงเวียนศีรษะ

การดูแลหลังฉีด

  • สังเกตอาการที่คลินิกประมาณ 15-30 นาทีหลังฉีด เพื่อเฝ้าระวังผลข้างเคียงเฉียบพลัน
  • หลีกเลี่ยงแสงแดดและใช้ครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ เพราะการโดนแดดจะกระตุ้นการสร้างเม็ดสีใหม่และลดทอนผลลัพธ์ของการฉีด
  • หากมีรอยช้ำ สามารถใช้การประคบอุ่นเพื่อช่วยบรรเทาได้
  • หากมีอาการรุนแรง เช่น เจ็บหน้าอก หายใจลำบาก หรือมีสัญญาณของปัญหาตับ/ไต (เช่น ตาเหลือง ปัสสาวะสีเข้ม) ให้รีบไปพบแพทย์ทันที

ข้อควรระวังและผู้ที่ไม่ควรฉีดผิวขาว

ข้อห้ามและข้อจำกัด

ข้อห้ามหลักสำหรับการฉีดผิวขาวคือผู้ที่มีประวัติแพ้ส่วนผสม เช่น กลูตาไธโอนหรือวิตามินซี, ผู้ป่วยโรคตับหรือไตขั้นรุนแรง, สตรีมีครรภ์หรือให้นมบุตร และเด็ก นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มที่ควรใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษและควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับบริการ ได้แก่

  • ผู้ป่วยโรคหอบหืด
  • ผู้ที่มีภาวะพร่องเอนไซม์ G6PD (ควรระวังการฉีดวิตามินซีในปริมาณสูง)
  • ผู้ที่เป็นโรคตับอักเสบ (Active hepatitis)

สัญญาณอันตรายที่ต้องพบแพทย์

สัญญาณอันตรายที่ต้องไปพบแพทย์ทันที ได้แก่ อาการเจ็บหน้าอกรุนแรง ใจสั่น เป็นลม หายใจลำบาก หรือมีผื่นขึ้นรุนแรง ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของอาการแพ้เฉียบพลัน

นอกจากนี้ ควรไปพบแพทย์หากมีอาการผิดปกติอื่นๆ เกิดขึ้นหลังกลับบ้านไปแล้ว เช่น:

  • อาเจียนไม่หยุด ปวดท้องรุนแรง หรือปวดศีรษะรุนแรง
  • ตาเหลืองหรือปัสสาวะสีเข้มคล้ายสีชา ซึ่งเป็นสัญญาณของภาวะตับทำงานผิดปกติ
  • ปัสสาวะออกน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงปัญหาที่ไต

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการฉีดผิวขาว

ฉีดผิวขาวเจ็บไหม?

โดยทั่วไปแล้ว การฉีดผิวขาวจะเจ็บเพียงเล็กน้อย เทียบเท่ากับการให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำหรือการเจาะเลือดตามปกติ

ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะรู้สึกเหมือนถูกเข็มเจาะเล็กน้อยเมื่อเริ่มสอดเข็มเท่านั้น และอาจรู้สึกไม่สบายตัวเล็กน้อยระหว่างการให้สารน้ำ แต่โดยรวมแล้วถือเป็นหัตถการที่ทนความเจ็บปวดได้ดี หากกังวลเรื่องความเจ็บปวด สามารถทายาชาเฉพาะที่ก่อนทำได้

ฉีดผิวขาวแล้วจะกลับมาดำไหม?

ใช่ครับ ผลลัพธ์จากการฉีดผิวขาวไม่ถาวร และสีผิวจะค่อยๆ กลับคืนสู่สภาพเดิมเมื่อหยุดการรักษา

เนื่องจากการฉีดกลูตาไธโอนเป็นเพียงการยับยั้งการผลิตเมลานินชั่วคราว ไม่ได้ทำลายเซลล์สร้างเม็ดสี เมื่อหยุดฉีด เซลล์ผิวก็จะกลับมาผลิตเมลานินตามปกติ โดยทั่วไปแล้วสีผิวจะกลับสู่โทนสีเดิมภายในระยะเวลา 3-12 เดือน ดังนั้นหากต้องการรักษาสภาพผิวให้สว่างใสอย่างต่อเนื่อง จำเป็นต้องเข้ารับการฉีดเพื่อคงสภาพเป็นระยะ

ดริปผิวครั้งเดียวเห็นผลไหม?

โดยทั่วไปแล้ว การดริปผิวเพียงครั้งเดียวไม่เพียงพอที่จะทำให้ผิวขาวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

หลังจากการดริปครั้งแรก บางคนอาจรู้สึกว่าผิวดูสดใสหรือชุ่มชื้นขึ้นชั่วคราวจากวิตามินที่ได้รับ แต่ยังไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงของเม็ดสีที่วัดผลได้ เนื่องจากการสร้างเม็ดสีเป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์ในการยับยั้งการสร้างเม็ดสีอย่างสม่ำเสมอจึงจะเห็นการเปลี่ยนแปลงของสีผิว โดยทั่วไปแล้วจำเป็นต้องทำต่อเนื่องเป็นชุด (เช่น 5-10 ครั้ง) เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ด้านความกระจ่างใสที่ชัดเจน

ฉีดผิวขาวกี่เข็มถึงจะขาว?

โดยทั่วไปแล้ว ต้องฉีดต่อเนื่องเป็นคอร์สประมาณ 5-10 ครั้ง จึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนขึ้น

โดยส่วนใหญ่จะเริ่มจากการฉีดสัปดาห์ละ 1 ครั้ง บางคนอาจเริ่มเห็นว่าผิวดูสว่างและใสขึ้นหลังฉีดไป 3-4 สัปดาห์ แต่สำหรับผู้ที่มีปัญหาเม็ดสีที่เข้มหรือฝังลึก อาจต้องใช้เวลาต่อเนื่อง 3-6 เดือนจึงจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน ทั้งนี้ การฉีดเพียงเข็มเดียวไม่เพียงพอที่จะทำให้ผิวขาวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และผลลัพธ์จะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล

ฉีดวิตามินผิว อันตรายไหม?

การฉีดวิตามินผิวอาจเป็นอันตรายได้และมีความเสี่ยงหลายประการ แม้ว่าผลข้างเคียงส่วนใหญ่มักไม่รุนแรง แต่ก็มีความเสี่ยงที่ร้ายแรงซึ่งควรพิจารณา

ความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่:

  • ผลข้างเคียงที่ไม่รุนแรง: อาการที่พบได้บ่อยคือ เจ็บ ปวด บวม หรือมีรอยช้ำบริเวณที่ฉีด นอกจากนี้อาจมีอาการคลื่นไส้ เวียนศีรษะ หรือปวดศีรษะชั่วคราวหลังการฉีด
  • ความเสี่ยงที่รุนแรง: แม้จะพบได้ไม่บ่อย แต่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอาการแพ้อย่างรุนแรง (Anaphylaxis), การทำงานของตับและไตผิดปกติ, นิ่วในไต และปฏิกิริยาทางผิวหนังที่รุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ (Stevens-Johnson Syndrome)
  • ความเสี่ยงจากผลิตภัณฑ์และการบริการ: การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่ผ่านการรับรอง หรือฉีดโดยผู้ที่ไม่ใช่บุคลากรทางการแพทย์ อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ การได้รับสารปนเปื้อน หรือการบริหารยาที่ไม่ถูกต้อง

References:

  1. National Institutes of Health. nih.gov
  2. Journal of Clinical and Aesthetic Dermatology. jcadonline.com
  3. CosmoDerma. cosmoderma.org
  4. Indian Journal of Clinical and Experimental Dermatology. ijced.org
  5. PagePress. (n.d.). PagePress. pagepress.org
  6. Samitivej Chonburi Hospital. samitivejchonburi.com
  7. Empower Pharmacy. Empower Pharmacy. empowerpharmacy.com

แนะแนวเรื่อง

Previous Previous
ฟิลเลอร์แก้มส้มคืออะไร อันตรายไหม อยู่ได้นานเท่าไหร่
NextContinue
Oligio กับ Thermage: เทียบชัดๆ ต่างกันอย่างไร? เลือกตัวไหนดี?

สาขาพรีวาโต คลินิก

    สาขาอโศก ตั้งอยู่ที่ ชั้น 2 อาคารมิดทาวน์
    Phone: 02-258-4050 , 081-841-5075
    สาขาสีลม ตั้งอยู่ที่ ชั้น 1 อาคารซี.พี.ทาวเวอร์
    Phone: 02-780-2011 , 098-272-5244
    สาขาราชพฤกษ์ ตั้งอยู่ที่ ชั้น 2 ศูนย์การค้า เดอะคริสตัล เอสบี (ด้านบนร้านสตาร์บัคส์)
    Phone: 02-102-2778 , 098-272-5244

ติดต่อเรา

    Facebook: Privato Clinic
    Messenger: Privato Clinic
    Instagram: privatoclinic
    Email: privatoclinic@gmail.com
    Line: @privatoclinic

Copyright© 2022-2024. All Rights Reserved

Scroll to top
  • หน้าหลัก
  • เกี่ยวกับพรีวาโต
  • บริการทั้งหมด
    • ชะลอวัย
    • ยกกระชับผิว
      • XERF
      • Potenza
      • Sofwave
      • Ulthera
      • Thermage-FLX
    • รักษาสิว
    • เลเซอร์
    • โปรแกรมฉีด
    • บำรุงผิว
  • บทความ
    • สิว
    • ยกกระชับ
    • ดูแลผิว
    • ทำเลเซอร์
  • ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว
  • โปรโมชั่น
  • ผลลัพธ์การรักษา
  • วิดีโอรีวิวจากเคสจริง
  • สาขาของเรา
  • ไทย
    • ไทย
    • English
    • 中文 (中国)
  • ปรึกษาแพทย์
Facebook Instagram YouTube