ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ใช้กี่ CC ราคาเท่าไหร่? อัปเดตล่าสุด 2568

การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากคือการใช้สารเติมเต็มไฮยาลูรอนิก (HA) เพื่อปรับแก้ปัญหาหน้าผากแบนหรือยุบให้มีความโค้งมนสวยงาม ซึ่งโดยทั่วไปจะใช้ปริมาณ 3-6 CC และให้ผลลัพธ์ที่ดูอ่อนเยาว์นานสูงสุด 18 เดือน แต่ต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพราะเป็นบริเวณที่มีความเสี่ยงสูง
ฟิลเลอร์หน้าผากคืออะไร ช่วยแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง
ฟิลเลอร์หน้าผากคือ การฉีดสารเติมเต็มประเภทกรดไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid) เข้าไปที่บริเวณหน้าผากเพื่อเพิ่มปริมาตร ซึ่งเป็นหัตถการที่ช่วยปรับรูปทรงหน้าผากให้ดูโค้งมนและอ่อนเยาว์ขึ้น
การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากสามารถช่วยแก้ปัญหาต่างๆ ได้ดังนี้:
- แก้ไขหน้าผากที่แบนหรือยุบ ให้ดูเต็มและมีมิติมากขึ้น
- ปรับผิวหน้าผากที่ไม่เรียบเนียนให้ดูเรียบขึ้น
- ลดเลือนริ้วรอยร่องลึกที่เกิดจากการสูญเสียปริมาตร
- ปรับโหงวเฮ้งให้ใบหน้าโดยรวมดูสมดุลและนุ่มนวลขึ้น
ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากต้องใช้กี่ CC?
โดยเฉลี่ยแล้วจะใช้ฟิลเลอร์ประมาณ 3-6 CC เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม ปริมาณที่แน่นอนจะขึ้นอยู่กับโครงสร้างใบหน้าเดิมของแต่ละบุคคล ความกว้างและความสูงของหน้าผาก เพศ อายุ และผลลัพธ์ที่ต้องการ โดยแพทย์จะประเมินและค่อยๆ เติมฟิลเลอร์ทีละน้อย (ประมาณ 0.5-2.0 CC ต่อจุด) เพื่อปั้นให้ได้รูปทรงที่สวยงามและเป็นธรรมชาติ
ปัจจัยที่ส่งผลต่อปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้
ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ได้แก่ โครงสร้างใบหน้าเดิมของแต่ละบุคคล รูปทรงที่ต้องการ ขนาดหน้าผาก เพศ อายุ และคุณสมบัติของฟิลเลอร์ที่เลือกใช้
ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลต่อการกำหนดปริมาณฟิลเลอร์ ดังนี้
- โครงสร้างและเป้าหมาย: แพทย์จะประเมินจากความแบนหรือยุบตัวของหน้าผากเดิม และความโค้งนูนที่คนไข้ต้องการ
- ขนาดหน้าผาก: คนที่มีหน้าผากกว้างและสูงมักต้องการปริมาณฟิลเลอร์มากกว่าคนที่มีหน้าผากแคบ
- เพศและอายุ: โดยทั่วไปผู้ชายมักใช้ปริมาณน้อยกว่าเพื่อคงความเป็นเหลี่ยมมุม ขณะที่ผู้หญิงมักต้องการความโค้งมนที่มากกว่า ส่วนผู้ที่อายุน้อยอาจใช้ฟิลเลอร์น้อยกว่าผู้สูงอายุที่มีการสูญเสียไขมันและกระดูกไปแล้ว
- คุณสมบัติของฟิลเลอร์: ฟิลเลอร์ที่มีเนื้อแน่นและปั้นทรงได้ดี อาจใช้ในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อให้ได้ความนูนที่ต้องการ ในขณะที่ฟิลเลอร์เนื้อนิ่มอาจต้องใช้ปริมาณมากกว่าเพื่อให้เห็นผล
ฟิลเลอร์หน้าผาก ราคาเท่าไหร่?
ราคาฟิลเลอร์หน้าผากจะแตกต่างกันไปตามยี่ห้อและคลินิก โดยทั่วไปฟิลเลอร์จากเกาหลีจะมีราคาประมาณ 6,000–7,000 บาทต่อซีซี ในขณะที่ฟิลเลอร์จากอเมริกาหรือยุโรป เช่น Juvederm หรือ Restylane จะมีราคาประมาณ 14,000–18,000 บาทต่อซีซี
ปัจจัยอื่นๆ ที่มีผลต่อราคา ได้แก่:
- ฟิลเลอร์ชนิดพิเศษ: ฟิลเลอร์กลุ่มพรีเมียมหรือชนิดพิเศษอาจมีราคาสูงถึง 25,000–30,000 บาทขึ้นไปต่อซีซี
- ชื่อเสียงของคลินิกและความเชี่ยวชาญของแพทย์: คลินิกที่มีชื่อเสียงและแพทย์ที่มีประสบการณ์สูงมักมีค่าบริการที่สูงกว่า
- โปรโมชั่นและแพ็กเกจ: หลายคลินิกมีโปรโมชั่นหรือราคาเหมาสำหรับการใช้ฟิลเลอร์หลายซีซี ซึ่งอาจช่วยลดค่าใช้จ่ายลงได้
ราคาฟิลเลอร์หน้าผากขึ้นอยู่กับอะไรบ้าง
ราคาฟิลเลอร์หน้าผากขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์ ปริมาณที่ใช้ ความเชี่ยวชาญของแพทย์ และมาตรฐานของคลินิกเป็นหลัก
ปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อราคา ได้แก่
- ยี่ห้อและประเภทของฟิลเลอร์: ฟิลเลอร์จากเกาหลี (เช่น Neuramis) อาจมีราคาประมาณ 6,000–7,000 บาทต่อซีซี ในขณะที่ฟิลเลอร์จากอเมริกาหรือยุโรป (เช่น Juvederm, Restylane) อาจมีราคาสูงถึง 14,000–18,000 บาทต่อซีซี
- ชื่อเสียงของคลินิกและแพทย์: คลินิกที่มีชื่อเสียงและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางมักมีราคาสูงกว่า เพื่อรับประกันคุณภาพของผลิตภัณฑ์และการบริการ
- โปรโมชั่นและแพ็กเกจ: หลายคลินิกมีโปรโมชั่นหรือราคาพิเศษเมื่อฉีดในปริมาณหลายซีซี ซึ่งอาจทำให้ราคาต่อซีซีถูกลง
ใครเหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก
ผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาหน้าผากแบนหรือยุบ ปรับรูปทรงให้เรียบเนียน หรือลดเลือนริ้วรอยร่องลึก เหมาะสำหรับการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก การฉีดฟิลเลอร์จะช่วยเพิ่มปริมาตรเพื่อสร้างหน้าผากที่โค้งมนและดูอ่อนเยาว์ขึ้น
ผู้ที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ได้แก่:
- ผู้ที่มีหน้าผากแบนหรือยุบ ซึ่งอาจทำให้โหนกคิ้วดูเด่นเกินไปและใบหน้าดูแข็งหรือมีอายุ
- ผู้ที่ต้องการปรับรูปทรงหน้าผากให้มีความโค้งมนสวยงาม รับกับส่วนอื่นๆ ของใบหน้า เพื่อให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และนุ่มนวลขึ้น
- ผู้ที่ต้องการลดเลือนริ้วรอยแบบถาวร (Static Wrinkles) ที่มองเห็นแม้ไม่ได้แสดงสีหน้า
ผลลัพธ์และระยะเวลา: อยู่ได้นานแค่ไหนและบวมกี่วัน
ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากเห็นผลทันทีหรือไม่
ใช่ การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากจะเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังทำ อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ที่เห็นในทันทีอาจดูบวมหรือนูนกว่าความเป็นจริงเล็กน้อย เนื่องจากอาการบวมหลังการฉีด โดยฟิลเลอร์จะใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ในการเซ็ตตัวเข้ากับเนื้อเยื่อและให้อาการบวมลดลงจนหมด ซึ่งหลังจากนั้นจะเห็นผลลัพธ์ที่สวยงามและเป็นธรรมชาติที่สุด
ฟิลเลอร์หน้าผากอยู่ได้นานกี่เดือน
โดยทั่วไปแล้ว ฟิลเลอร์หน้าผากจะอยู่ได้นานประมาณ 9 ถึง 18 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้และปัจจัยส่วนบุคคล
ในบางกรณีผลลัพธ์อาจอยู่ได้นานถึง 2 ปีหรือมากกว่านั้น โดยมีปัจจัยที่ส่งผลต่อระยะเวลาของฟิลเลอร์ ได้แก่
- อัตราการเผาผลาญของร่างกาย
- การใช้ชีวิต เช่น การตากแดด หรือการสูบบุหรี่
- การขยับของกล้ามเนื้อบริเวณหน้าผาก (การฉีดโบท็อกซ์ร่วมด้วยจะช่วยยืดอายุฟิลเลอร์ได้)
อาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผากเป็นอย่างไร
อาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผากเป็นเรื่องปกติและเกิดขึ้นชั่วคราว โดยจะทำให้บริเวณที่ฉีดดูบวมหรือนูนขึ้นเล็กน้อยในช่วง 1-2 วันแรก
ในช่วงแรก หน้าผากอาจดูนูนกว่าผลลัพธ์จริงประมาณ 10-20% ซึ่งเป็นอาการปกติ ฟิลเลอร์จะใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ในการเซ็ตตัวและผสานเข้ากับเนื้อเยื่ออย่างสมบูรณ์ ซึ่งเป็นช่วงที่อาการบวมจะค่อยๆ ยุบลงจนหมดและเห็นผลลัพธ์ที่แท้จริง เพื่อช่วยลดอาการบวม ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายอย่างหนักและสามารถประคบเย็นเบาๆ ตามคำแนะนำของแพทย์ได้
ข้อควรพิจารณาก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก
การเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับหน้าผาก
ฟิลเลอร์ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับหน้าผากคือฟิลเลอร์ประเภทไฮยาลูรอนิกแอซิด (HA) ที่มีความยืดหยุ่นสูงและเนื้อแน่น เนื่องจากสามารถคงรูปทรงได้ดีและสร้างความโค้งมนที่เรียบเนียน
ผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักซึ่งมักถูกนำมาใช้ ได้แก่ Juvederm (โดยเฉพาะรุ่น Voluma) และ Restylane (โดยเฉพาะรุ่น Lyft) รวมถึงยี่ห้ออื่นๆ เช่น Belotero Volume หรือ Teosyal Ultimate ข้อดีที่สำคัญของฟิลเลอร์ HA คือสามารถสลายได้ด้วยเอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase) หากจำเป็นต้องแก้ไขผลลัพธ์ ซึ่งเป็นเหตุผลที่ไม่แนะนำให้ใช้ฟิลเลอร์ถาวรในบริเวณนี้
วิธีเลือกคลินิกและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
การเลือกคลินิกและแพทย์ควรให้ความสำคัญกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์สูงและได้รับการรับรอง เนื่องจากหน้าผากเป็นบริเวณที่มีความเสี่ยงสูงในการฉีดฟิลเลอร์
เกณฑ์การพิจารณาที่สำคัญมีดังนี้:
- คุณสมบัติของแพทย์: ต้องเป็นแพทย์ที่มีความรู้ด้านกายวิภาคของใบหน้าอย่างลึกซึ้ง และใช้เทคนิคขั้นสูงเพื่อความปลอดภัย เช่น การใช้เข็มปลายทู่ (Cannula)
- ความพร้อมของคลินิก: คลินิกที่น่าเชื่อถือควรมีขั้นตอนรับมือกับเหตุฉุกเฉิน และต้องมียาสลายฟิลเลอร์ (Hyaluronidase) เตรียมพร้อมไว้เสมอ
- ผลิตภัณฑ์ที่ใช้: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคลินิกใช้ฟิลเลอร์ของแท้ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัย เพื่อหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ปลอมหรือไม่ได้คุณภาพ
การเตรียมตัวก่อนฉีดและการดูแลหลังฉีด
การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์หน้าผากคือการงดยาและอาหารเสริมที่ทำให้เลือดออกง่าย ส่วนการดูแลหลังฉีดคือการหลีกเลี่ยงแรงกด ความร้อน และการออกกำลังกายอย่างหนัก เพื่อให้ฟิลเลอร์เข้าที่และลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง
การเตรียมตัวก่อนฉีด
- งดยา วิตามิน หรืออาหารเสริมที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน, ไอบูโพรเฟน, น้ำมันปลา และวิตามินอี เป็นเวลาประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนฉีด
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมง เพื่อลดความเสี่ยงของอาการบวมและช้ำ
- ควรมาถึงคลินิกด้วยใบหน้าที่สะอาด ปราศจากเครื่องสำอาง
- หากมีสิวอักเสบหรือการติดเชื้อที่ผิวหนังบริเวณหน้าผาก ควรเลื่อนนัดออกไปก่อนเพื่อความปลอดภัย
การดูแลหลังฉีด
- หลีกเลี่ยงการสัมผัส กด นวด หรือถูบริเวณที่ฉีด และงดสวมหมวกหรือที่คาดผมที่รัดแน่นในช่วง 1-2 วันแรก
- งดการออกกำลังกายอย่างหนัก หรือกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมากและหัวใจเต้นเร็ว เป็นเวลา 24-48 ชั่วโมง
- งดแต่งหน้าบริเวณที่ฉีดเป็นเวลา 24 ชั่วโมง เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ
- สามารถใช้การประคบเย็นเบาๆ เพื่อช่วยลดอาการบวมได้
- ไปพบแพทย์ตามนัดเพื่อติดตามผล โดยปกติจะอยู่ที่ 1-2 สัปดาห์หลังฉีด
ความเสี่ยงและข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก
ความเสี่ยงหลักของการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากคือเป็นบริเวณที่มีเส้นเลือดสำคัญจำนวนมาก ซึ่งหากฉีดฟิลเลอร์เข้าหลอดเลือดหรือเกิดการกดทับ อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้ เช่น เนื้อเยื่อผิวหนังตาย หรือในกรณีที่พบได้ยากคืออาจทำให้ตาบอด เนื่องจากเส้นเลือดบริเวณหน้าผากเชื่อมต่อโดยตรงกับเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงดวงตา ด้วยเหตุนี้ การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากจึงจัดเป็นหัตถการที่มีความเสี่ยงสูงและต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ด้านกายวิภาคอย่างละเอียดเท่านั้น
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก
ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากอันตรายไหม
การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากถือเป็นหัตถการที่มีความเสี่ยงสูง แต่สามารถทำได้อย่างปลอดภัยหากทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เนื่องจากบริเวณหน้าผากมีเส้นเลือดสำคัญจำนวนมากที่เชื่อมต่อกับเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงดวงตา หากฉีดพลาดเข้าเส้นเลือดอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง เช่น เนื้อเยื่อตาย หรือตาบอดได้ในกรณีที่พบได้ยาก ความปลอดภัยจึงขึ้นอยู่กับความรู้ด้านกายวิภาคและเทคนิคของแพทย์เป็นอย่างยิ่ง
ฟิลเลอร์หน้าผากสลายหมดหรือไม่
ใช่ ฟิลเลอร์หน้าผากชนิดไฮยาลูรอนิกแอซิด (HA) สามารถสลายออกได้หมด โดยการฉีดเอนไซม์ที่เรียกว่าไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase) ซึ่งจะเข้าไปสลายเจลฟิลเลอร์ภายในไม่กี่ชั่วโมง
ข้อดีนี้ถือเป็นความปลอดภัยที่สำคัญในกรณีที่ผลลัพธ์ไม่เป็นที่พอใจหรือเกิดภาวะแทรกซ้อน และสามารถใช้ได้กับฟิลเลอร์ประเภท HA เท่านั้น ไม่สามารถใช้กับฟิลเลอร์ชนิดถาวรได้
ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากเจ็บไหม
คนไข้ส่วนใหญ่รายงานว่าการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากเป็นหัตถการที่ทนความเจ็บได้ดี เนื่องจากแพทย์จะทาครีมยาชาก่อนทำ และฟิลเลอร์หลายยี่ห้อก็มีส่วนผสมของยาชา (lidocaine) อยู่แล้ว ระหว่างทำอาจรู้สึกเหมือนโดนหยิกเบาๆ หรือรู้สึกถึงแรงกด แต่จะไม่ใช่ความเจ็บที่รุนแรง
ฟิลเลอร์หน้าผากยี่ห้อไหนดีที่สุด
ฟิลเลอร์ที่ดีที่สุดสำหรับหน้าผากคือ ฟิลเลอร์ประเภทกรดไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid) ที่มีความคงตัวสูงหรือเนื้อแน่น เนื่องจากสามารถปั้นทรงและสร้างความโค้งมนให้หน้าผากได้อย่างเรียบเนียน
แบรนด์ที่เป็นที่รู้จักและนิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย ได้แก่:
- Juvederm (โดยเฉพาะรุ่น Juvederm Voluma)
- Restylane (โดยเฉพาะรุ่น Restylane Lyft)
- Belotero (รุ่น Volume)
- Teosyal (รุ่น Ultimate)
- Revanesse
หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ห้ามทำอะไรบ้าง
หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก การสัมผัสรุนแรงบริเวณที่ฉีด และความร้อนในช่วง 2-3 วันแรก เพื่อให้ฟิลเลอร์เข้าที่และลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง
ข้อห้ามและข้อควรปฏิบัติอื่น ๆ ได้แก่:
- งดออกกำลังกายหนัก: หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก การยกของหนัก หรือกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมากเป็นเวลา 24-48 ชั่วโมง
- งดสัมผัสรุนแรง: ห้ามถู ขัด หรือนวดบริเวณหน้าผาก และพยายามไม่นอนคว่ำหน้าในช่วง 48 ชั่วโมงแรก
- งดสวมใส่สิ่งที่กดทับ: หลีกเลี่ยงการสวมหมวก ที่คาดผม หรือหมวกกันน็อกที่รัดแน่นในช่วงสัปดาห์แรก
- งดความร้อน: หลีกเลี่ยงการเข้าซาวน่า สตรีม หรือโยคะร้อนเป็นเวลา 2-3 วัน
- งดแต่งหน้า: ไม่ควรแต่งหน้าบริเวณที่ฉีดอย่างน้อย 24 ชั่วโมงเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
- งดทำทรีตเมนต์: ควรเว้นการทำทรีตเมนต์หรือนวดหน้าเป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์
สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์หน้าผากได้หรือไม่
ได้ สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์หน้าผากได้ หากเป็นฟิลเลอร์ชนิดไฮยาลูรอนิกแอซิด (Hyaluronic Acid) โดยแพทย์จะใช้เอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase) ฉีดเข้าไปเพื่อสลายเจลฟิลเลอร์ ซึ่งจะเริ่มทำงานภายในไม่กี่ชั่วโมงและเห็นผลชัดเจนใน 1-2 วัน ข้อดีนี้ทำให้สามารถแก้ไขผลลัพธ์ที่ไม่พึงพอใจหรือจัดการกับภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้
References:
- Kliniec, K., Domagała, Z., Kempisty, B., & Szepietowski, J. C. (n.d.). Arterial Vascularization of the Forehead in Aesthetic Dermatology Procedures: A Review. Journal of Clinical Medicine. mdpi.com
- Huang, Y. L., & Liang, B. C. (n.d.). Evolving Forehead Augmentation: A Five-step Approach with High G Prime Hyaluronic Acid. Plastic and Reconstructive Surgery – Global Open. ncbi.nlm.nih.gov
- Mulberry House Clinic. (n.d.). Male vs Female Facial Treatments. mulberryhouseclinic.co.uk
- Stanford Medicine. (n.d.). Pre- and Post-Treatment Instructions – Dermal Fillers. med.stanford.edu
- Bibi Clinic. (n.d.). Price List – Filler/Hyaluronic Acid Injection. bibi-beauty.com
- Bookimed. (2025). Fillers injection in Thailand: Our Best Clinics and Costs 2025. bookimed.com
- Kim, B. (n.d.). 이마필러시술로 부드러운 동안 효과 [Forehead filler procedure for a softer youthful effect]. Health Kyunghyang News. k-health.com
