Skip to content

TEL : 081-841-5075, 02-258-4050

Facebook Instagram YouTube
Privato Clinic – Innovation Of Beauty  |  Bangkok
  • หน้าหลัก
  • เกี่ยวกับพรีวาโต
  • บริการทั้งหมดExpand
    • ชะลอวัย
    • ยกกระชับผิวExpand
      • XERF
      • Potenza
      • Sofwave
      • Ulthera
      • Thermage-FLX
    • รักษาสิว
    • เลเซอร์
    • โปรแกรมฉีด
    • บำรุงผิว
  • บทความExpand
    • สิว
    • ยกกระชับ
    • ดูแลผิว
    • ทำเลเซอร์
  • ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว
  • โปรโมชั่น
  • ผลลัพธ์การรักษา
  • วิดีโอรีวิวจากเคสจริง
  • สาขาของเรา
  • ไทยExpand
    • ไทย
    • English
    • 中文 (中国)
  • ปรึกษาแพทย์
Privato Clinic – Innovation Of Beauty  |  Bangkok
Consult a Doctor
Lifting

ฉีดโบท็อกยกมุมปาก ราคาเท่าไหร่? ต้องใช้กี่ยูนิต? อัปเดต 2568

Byadmin ตุลาคม 2, 2025
By แพทย์หญิงนัชชนก หุ่นวิจิตร Updated on ตุลาคม 2, 2025
✦ Medically reviewed by  นายแพทย์เลอพงษ์ กรุดเงิน
ฉีดโบท็อกยกมุมปาก ราคาเท่าไหร่? ต้องใช้กี่ยูนิต? อัปเดต 2568

การฉีดโบท็อกยกมุมปากคือการใช้โบทูลินัม ท็อกซินประมาณ 5-10 ยูนิตต่อข้างฉีดเข้าไปในกล้ามเนื้อที่ดึงมุมปากลง (DAO) เพื่อคลายกล้ามเนื้อให้มุมปากที่ตกยกขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ใบหน้าดูเป็นมิตรและเศร้าน้อยลง โดยผลลัพธ์จะคงอยู่นาน 3-4 เดือน

Table of Contents

Toggle
  • โบท็อกยกมุมปากคืออะไร ทำงานอย่างไรเพื่อแก้ปัญหาปากคว่ำ
  • ใครเหมาะกับการฉีดโบท็อกยกมุมปาก?
    • โดยทั่วไปแล้ว ผู้ที่เหมาะสมคือ:
    • ลักษณะปัญหามุมปากตกที่โบท็อกสามารถแก้ไขได้
    • ข้อห้ามและผู้ที่ไม่ควรฉีดโบท็อกยกมุมปาก
  • ราคาฉีดโบท็อกยกมุมปาก และต้องใช้กี่ยูนิต?
    • ปัจจัยที่กำหนดราคาและจำนวนยูนิตที่ต้องใช้
    • กรอบราคาประเมินเบื้องต้นต่อการรักษา 1 ครั้ง
  • ขั้นตอนการฉีดโบท็อกยกมุมปากในคลินิก
  • ผลลัพธ์ การพักฟื้น และระยะเวลาที่เห็นผล
    • ฉีดแล้วกี่วันถึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน
    • ผลลัพธ์คงอยู่ได้นานแค่ไหน และควรฉีดซ้ำเมื่อไหร่
    • การดูแลตัวเองหลังฉีดเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
  • ก่อนตัดสินใจ: เปรียบเทียบกับวิธีอื่นและเกณฑ์เลือกคลินิก
    • โบท็อก ฟิลเลอร์ ร้อยไหม หรือผ่าตัด: เลือกวิธีไหนดี
    • เกณฑ์การเลือกคลินิกและแพทย์เพื่อความปลอดภัยสูงสุด
  • ผลข้างเคียงและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการฉีด
    • อาการทั่วไปที่พบได้และวิธีดูแลเบื้องต้น
    • ความเสี่ยงเรื่องปากเบี้ยวและแนวทางการป้องกัน
  • คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการฉีดโบท็อกยกมุมปาก
    • ฉีดโบท็อกยกมุมปากเจ็บไหม?
    • การฉีดโบท็อกยกมุมปากอันตรายหรือไม่?
    • ต้องใช้โบท็อกกี่ยูนิตเพื่อยกมุมปาก?
    • ผลลัพธ์จากการฉีดโบท็อกยกมุมปากอยู่ได้นานแค่ไหน?
    • ใครบ้างที่ไม่เหมาะกับการฉีดโบท็อกยกมุมปาก?
    • หากไม่พอใจผลลัพธ์ สามารถแก้ไขได้อย่างไร?
  • References:

โบท็อกยกมุมปากคืออะไร ทำงานอย่างไรเพื่อแก้ปัญหาปากคว่ำ

การฉีดโบท็อกยกมุมปากคือการใช้โบทูลินัม ท็อกซินฉีดเข้าไปยังกล้ามเนื้อที่ดึงมุมปากลง (Depressor Anguli Oris หรือ DAO) เพื่อทำให้กล้ามเนื้อนั้นอ่อนแรงลงชั่วคราว เมื่อกล้ามเนื้อที่ดึงมุมปากลงคลายตัว กล้ามเนื้อฝั่งตรงข้ามที่ทำหน้าที่ยกมุมปากขึ้นจะทำงานได้ดีขึ้น ส่งผลให้มุมปากที่เคยคว่ำหรือตกกลับมาอยู่ในระดับปกติหรือยกขึ้นเล็กน้อย ทำให้ใบหน้าดูเป็นมิตรและเศร้าน้อยลงขณะทำหน้าเฉยๆ

ใครเหมาะกับการฉีดโบท็อกยกมุมปาก?

ผู้ที่เหมาะกับการฉีดโบท็อกยกมุมปากคือคนที่มีปัญหามุมปากตกจากการทำงานของกล้ามเนื้อ (DAO) ที่ดึงมุมปากลงมากเกินไป ไม่ใช่ผู้ที่มีปัญหามุมปากตกจากความหย่อนคล้อยของผิวหนังหรือการสูญเสียไขมัน

โดยทั่วไปแล้ว ผู้ที่เหมาะสมคือ:

  • ผู้ที่มีมุมปากคว่ำลงตามธรรมชาติหรือจากนิสัย ทำให้ใบหน้าดูบึ้งหรือเศร้าตลอดเวลา
  • ผู้ที่มีอายุน้อยถึงวัยกลางคน ซึ่งกล้ามเนื้อดึงมุมปากยังทำงานได้ดีและสภาพผิวหนังยังไม่หย่อนคล้อยมาก
  • ผู้ที่มีสุขภาพโดยรวมดี ไม่มีโรคเกี่ยวกับระบบประสาทและกล้ามเนื้อ ไม่ได้กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร และไม่มีประวัติแพ้โบท็อก

ลักษณะปัญหามุมปากตกที่โบท็อกสามารถแก้ไขได้

โบท็อกสามารถแก้ไขปัญหามุมปากตกที่เกิดจากการทำงานที่มากเกินไปของกล้ามเนื้อดึงมุมปากลง (DAO) ได้ดีที่สุด ซึ่งเรียกว่า “dynamic droop” หรือมุมปากตกที่เกิดจากแรงดึงของกล้ามเนื้อ ไม่ว่าจะเกิดขึ้นตามธรรมชาติหรือจากอายุที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย

อย่างไรก็ตาม โบท็อกเพียงอย่างเดียวมักไม่เพียงพอสำหรับมุมปากตกที่เกิดจากผิวหนังหย่อนคล้อยอย่างรุนแรง การสูญเสียไขมัน หรือร่องน้ำหมากลึก ซึ่งเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างและอาจต้องรักษาด้วยฟิลเลอร์หรือการผ่าตัดร่วมด้วย

ข้อห้ามและผู้ที่ไม่ควรฉีดโบท็อกยกมุมปาก

ผู้ที่ไม่ควรฉีดโบท็อกยกมุมปากคือผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับระบบประสาทและกล้ามเนื้อ สตรีมีครรภ์หรือให้นมบุตร และผู้ที่แพ้ส่วนประกอบของโบท็อก นอกจากนี้ยังมีกลุ่มอื่นๆ ที่ควรหลีกเลี่ยงหรือต้องปรึกษาแพทย์อย่างละเอียดก่อนทำหัตถการ ดังนี้

  • ผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับระบบประสาทและกล้ามเนื้อ: เช่น โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (Myasthenia Gravis), Lambert-Eaton Syndrome หรือ ALS
  • สตรีมีครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร: เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลด้านความปลอดภัยที่เพียงพอ
  • ผู้ที่แพ้โบท็อก: รวมถึงส่วนประกอบในตัวยา เช่น อัลบูมิน (albumin)
  • ผู้ที่มุมปากตกจากปัญหาผิวหนัง: หากมุมปากตกเกิดจากผิวหย่อนคล้อยหรือการสูญเสียไขมัน ไม่ใช่จากกล้ามเนื้อ การฉีดโบท็อกอย่างเดียวอาจไม่เห็นผล
  • ผู้ที่มีความคาดหวังไม่สมจริง: รวมถึงผู้ที่มีภาวะ Body Dysmorphic Disorder (BDD)
  • ผู้ที่รับประทานยาบางชนิด: เช่น ยาปฏิชีวนะกลุ่ม aminoglycoside หรือยาคลายกล้ามเนื้อ ซึ่งอาจเสริมฤทธิ์ของโบท็อกมากเกินไป ควรปรึกษาแพทย์ก่อน

ราคาฉีดโบท็อกยกมุมปาก และต้องใช้กี่ยูนิต?

โดยทั่วไปการฉีดโบท็อกซ์ยกมุมปากจะใช้ประมาณ 5-10 ยูนิตต่อข้าง และมีราคาอยู่ที่ประมาณ 4,999 ถึง 10,000 บาท

จำนวนยูนิตที่แน่นอนจะขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแต่ละบุคคล โดยแพทย์อาจเริ่มต้นที่ 4-6 ยูนิตต่อข้างสำหรับเคสที่ไม่รุนแรง ส่วนราคาจะแตกต่างกันไปตามคลินิก โปรโมชั่น และความเชี่ยวชาญของแพทย์ ซึ่งคลินิกส่วนใหญ่มักคิดเป็นราคาเหมาสำหรับหัตถการนี้ เนื่องจากใช้จำนวนยูนิตไม่มาก

ปัจจัยที่กำหนดราคาและจำนวนยูนิตที่ต้องใช้

ราคาและจำนวนยูนิตของการฉีดโบท็อกซ์ยกมุมปากจะขึ้นอยู่กับยี่ห้อของโบท็อกซ์ ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ และโครงสร้างราคาของแต่ละคลินิก โดยทั่วไปจะใช้โบท็อกซ์ประมาณ 5-10 ยูนิตต่อข้าง ซึ่งแพทย์จะประเมินตามความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแต่ละบุคคล

สำหรับราคาจะแตกต่างกันไปตามปัจจัยต่างๆ ได้แก่

  • ยี่ห้อของโบท็อกซ์: ยี่ห้อจากฝั่งตะวันตก (เช่น Allergan, Xeomin) จะมีราคาสูงกว่ายี่ห้อจากเกาหลี (เช่น Nabota, Aestox)
  • โปรโมชั่นและราคาของคลินิก: แต่ละคลินิกมีโครงสร้างราคาและโปรโมชั่นที่แตกต่างกัน โดยหลายแห่งมักคิดเป็นราคาเหมาแทนการคิดเป็นรายยูนิต ซึ่งอาจมีราคาตั้งแต่ประมาณ 4,999 ถึง 10,000 บาท

กรอบราคาประเมินเบื้องต้นต่อการรักษา 1 ครั้ง

กรอบราคาประเมินสำหรับการฉีดโบท็อกซ์ยกมุมปาก 1 ครั้ง อยู่ที่ประมาณ 4,999–10,000 บาท

ราคานี้มักจะครอบคลุมการฉีดทั้งสองข้างของปาก โดยคลินิกเสริมความงามทั่วไปอาจมีราคาเริ่มต้นที่ 4,999–8,000 บาท ในขณะที่โรงพยาบาลหรือคลินิกระดับพรีเมียมอาจมีราคาสูงถึง 10,000 บาท คลินิกส่วนใหญ่มักคิดเป็นราคาเหมาต่อครั้ง เนื่องจากใช้ปริมาณโบท็อกซ์ไม่มากนัก

ขั้นตอนการฉีดโบท็อกยกมุมปากในคลินิก

ขั้นตอนการฉีดโบท็อกยกมุมปากจะเริ่มจากการที่แพทย์ประเมินใบหน้าและกำหนดจุดฉีด จากนั้นจึงฉีดโบท็อกปริมาณเล็กน้อยเข้าไปในกล้ามเนื้อที่ดึงมุมปากลง (DAO) ซึ่งเป็นกระบวนการที่รวดเร็วและเจ็บน้อยมาก

โดยทั่วไปมีขั้นตอนดังนี้:

  1. การเตรียมตัว: แพทย์จะประเมินการทำงานของกล้ามเนื้อและกำหนดจุดฉีดที่แม่นยำ โดยปกติจะฉีดข้างละ 1-2 จุด บริเวณใต้และเยื้องไปด้านนอกของมุมปากเล็กน้อย อาจมีการทาครีมยาชาหรือประคบเย็นเพื่อลดความรู้สึกเจ็บ
  2. การฉีด: แพทย์จะใช้เข็มขนาดเล็กมากฉีดโบท็อกปริมาณน้อย (ประมาณ 1-3 ยูนิตต่อจุด) เข้าไปในชั้นกล้ามเนื้อตื้นๆ ขั้นตอนนี้ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที
  3. หลังการฉีด: ไม่จำเป็นต้องพักฟื้น สามารถกลับไปทำกิจกรรมตามปกติได้ทันที แต่อาจได้รับคำแนะนำให้หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก การนวดหน้า หรือการเข้าซาวน่าเป็นเวลา 1 วัน
  4. การติดตามผล: แพทย์มักจะนัดเพื่อประเมินผลลัพธ์และความสมมาตรในอีก 2 สัปดาห์ต่อมา

ผลลัพธ์ การพักฟื้น และระยะเวลาที่เห็นผล

ฉีดแล้วกี่วันถึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน

โดยทั่วไปจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนเต็มที่ในเวลาประมาณ 2 สัปดาห์ หลังการฉีด

คุณอาจเริ่มสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยได้ในช่วง 3-5 วันแรก แต่ผลลัพธ์จะค่อยๆ ชัดเจนขึ้นและเห็นผลสูงสุดเมื่อครบ 14 วัน ซึ่งเป็นช่วงที่โบท็อกซ์ออกฤทธิ์เต็มที่ แพทย์จึงมักนัดติดตามผลในช่วงเวลานี้เพื่อประเมินผลลัพธ์สุดท้าย

ผลลัพธ์คงอยู่ได้นานแค่ไหน และควรฉีดซ้ำเมื่อไหร่

ผลลัพธ์ของการฉีดโบท็อกซ์ยกมุมปากคงอยู่ได้นานประมาณ 3-4 เดือน

หลังจากนั้นกล้ามเนื้อจะค่อยๆ กลับมาทำงานและมุมปากจะเริ่มตกลงมาเหมือนเดิม เพื่อรักษาผลลัพธ์ให้คงที่จึงแนะนำให้ฉีดซ้ำทุกๆ 3 เดือน หรือประมาณ 3-4 ครั้งต่อปี หากหยุดฉีด มุมปากจะกลับสู่สภาพเดิมก่อนการรักษาโดยไม่มีผลเสียใดๆ

การดูแลตัวเองหลังฉีดเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

หลังฉีดโบท็อกซ์ยกมุมปาก ควรหลีกเลี่ยงการนวดหรือถูบริเวณที่ฉีด งดออกกำลังกายหนัก และงดกิจกรรมที่ทำให้หน้าสัมผัสความร้อนเป็นเวลา 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยากระจายไปยังกล้ามเนื้อมัดอื่นที่ไม่ต้องการ

คำแนะนำเพิ่มเติมในการดูแลตัวเองมีดังนี้:

  • หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก การทำซาวน่า หรือการทำทรีตเมนต์ใบหน้าเป็นเวลา 1 วัน
  • พยายามรักษาศีรษะให้ตั้งตรง ในช่วง 2-3 ชั่วโมงแรกหลังฉีด
  • สามารถกลับไปทำกิจกรรมปกติได้ทันที เช่น การรับประทานอาหาร การพูดคุย หรือการทำงาน โดยทั่วไปไม่มีข้อจำกัดที่สำคัญ

ก่อนตัดสินใจ: เปรียบเทียบกับวิธีอื่นและเกณฑ์เลือกคลินิก

โบท็อก ฟิลเลอร์ ร้อยไหม หรือผ่าตัด: เลือกวิธีไหนดี

การเลือกวิธีที่ดีที่สุดขึ้นอยู่กับสาเหตุของปัญหามุมปากตก โดยแต่ละวิธีเหมาะกับปัญหาที่แตกต่างกัน ดังนี้

  • โบท็อก (Botox): เหมาะสำหรับผู้ที่มุมปากตกจากการทำงานของกล้ามเนื้อที่ดึงลงมากเกินไป
  • ฟิลเลอร์ (Filler): เหมาะสำหรับผู้ที่มุมปากตกจากการสูญเสียปริมาตรหรือมีร่องน้ำหมากลึก และมักใช้ร่วมกับโบท็อกเพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
  • ร้อยไหม (Thread Lift): ข้อมูลระบุว่ามักไม่ช่วยเปลี่ยนตำแหน่งมุมปากได้อย่างมีนัยสำคัญ และอาจทำให้ผลลัพธ์ดูไม่เป็นธรรมชาติ
  • ผ่าตัด (Surgery): เป็นทางเลือกสำหรับกรณีที่มุมปากตกอย่างรุนแรง ให้ผลลัพธ์ที่ถาวร แต่มีข้อเสียคือจะทิ้งรอยแผลเป็นไว้

เกณฑ์การเลือกคลินิกและแพทย์เพื่อความปลอดภัยสูงสุด

เกณฑ์การเลือกคลินิกและแพทย์ที่ปลอดภัยที่สุดคือการเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง ซึ่งจะวิเคราะห์ใบหน้าอย่างละเอียด ใช้ผลิตภัณฑ์โบท็อกซ์ของแท้ และมีบริการติดตามผลหลังการรักษา

เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดี ควรพิจารณาเกณฑ์ต่อไปนี้:

  • ความเชี่ยวชาญของแพทย์: เลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์และความเข้าใจในกายวิภาคของใบหน้าเป็นอย่างดี สามารถใช้เทคนิคการฉีดที่แม่นยำและใช้ปริมาณยาที่เหมาะสม (less is more) เพื่อป้องกันผลข้างเคียง
  • คุณภาพของผลิตภัณฑ์: คลินิกต้องใช้โบท็อกซ์ของแท้ที่ผ่านการรับรองจากอย. และควรแสดงขวดผลิตภัณฑ์ให้ตรวจสอบได้ก่อนฉีด
  • การให้คำปรึกษา: แพทย์ที่ดีจะประเมินโครงสร้างใบหน้าอย่างละเอียด อธิบายทางเลือกการรักษาอื่นๆ ที่เหมาะสม และแจ้งผลลัพธ์ที่เป็นไปได้ตามความเป็นจริง
  • มาตรฐานของคลินิก: สถานที่ต้องสะอาด ปลอดเชื้อ และมีอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน
  • การดูแลและติดตามผล: คลินิกควรมีการนัดติดตามผลหลังฉีดประมาณ 2 สัปดาห์ เพื่อประเมินผลลัพธ์และแก้ไขหากจำเป็น ซึ่งคลินิกที่มีคุณภาพมักจะให้บริการเติมยาฟรีหากผลยังไม่เป็นที่พอใจ

ผลข้างเคียงและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการฉีด

อาการทั่วไปที่พบได้และวิธีดูแลเบื้องต้น

อาการข้างเคียงที่พบได้บ่อยที่สุดคือ รอยช้ำ บวมแดง หรืออาการเจ็บบริเวณที่ฉีด ซึ่งโดยทั่วไปจะหายไปเองภายใน 2-3 วัน บางรายอาจรู้สึกตึงหรือปวดเล็กน้อยได้ 1-2 วันหลังฉีด

สำหรับการดูแลเบื้องต้นเพื่อป้องกันการกระจายตัวของยา ควรปฏิบัติดังนี้:

  • หลีกเลี่ยงการนวดหรือถูบริเวณใบหน้าส่วนล่างอย่างน้อย 24 ชั่วโมง
  • งดการออกกำลังกายหนักๆ การทำทรีตเมนต์ใบหน้า ซาวน่า หรืออบไอน้ำเป็นเวลา 1 วัน
  • พยายามตั้งศีรษะให้ตรงในช่วง 2-3 ชั่วโมงแรกหลังฉีด

ความเสี่ยงเรื่องปากเบี้ยวและแนวทางการป้องกัน

ความเสี่ยงเรื่องปากเบี้ยวเกิดจากการที่โบท็อกซ์กระจายไปโดนกล้ามเนื้อที่ใช้ควบคุมริมฝีปากล่าง (Depressor Labii Inferioris หรือ DLI) โดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งอาจเกิดจากการฉีดผิดตำแหน่ง ฉีดลึกเกินไป หรือใช้ปริมาณยาที่มากเกินไป ทำให้เวลายิ้ม ริมฝีปากจะดูไม่สมมาตรหรือเบี้ยวไปข้างหนึ่ง

แนวทางการป้องกันที่สำคัญที่สุดคือการเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์และความเข้าใจในกายวิภาคบนใบหน้าเป็นอย่างดี โดยมีหลักการป้องกันดังนี้:

  • เทคนิคการฉีดที่แม่นยำ: แพทย์จะฉีดในตำแหน่งที่ถูกต้อง คือบริเวณด้านข้างของร่องน้ำหมาก และใช้ความลึกที่เหมาะสมเพื่อไม่ให้ยากระจายไปโดนกล้ามเนื้อมัดอื่น
  • การใช้ปริมาณยาที่เหมาะสม: แพทย์จะเริ่มต้นด้วยการใช้ยาในปริมาณน้อยๆ ก่อน แล้วจึงอาจพิจารณาเพิ่มยาในภายหลังหากจำเป็น เพื่อหลีกเลี่ยงการฉีดยาเกินขนาด
  • การปฏิบัติตัวหลังฉีด: ผู้รับบริการควรปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด เช่น งดการนวดหรือถูบริเวณที่ฉีด และหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักๆ เป็นเวลา 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการเคลื่อนที่ของตัวยา

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการฉีดโบท็อกยกมุมปาก

ฉีดโบท็อกยกมุมปากเจ็บไหม?

การฉีดโบท็อกยกมุมปากมีความเจ็บน้อยมาก โดยผู้เข้ารับการรักษาส่วนใหญ่จะรู้สึกเหมือนโดนหยิกเบาๆ หรือคล้ายมดกัดเพียงเล็กน้อย เนื่องจากแพทย์จะใช้เข็มขนาดเล็กมาก และมักมีการทายาชาหรือประคบน้ำแข็งก่อนฉีดเพื่อลดความรู้สึกเจ็บ ซึ่งขั้นตอนทั้งหมดใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น

การฉีดโบท็อกยกมุมปากอันตรายหรือไม่?

การฉีดโบท็อกยกมุมปากถือว่าปลอดภัยเมื่อทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ เนื่องจากการฉีดโบท็อกเพื่อความงามได้รับการยอมรับและใช้งานมานานหลายสิบปี และปริมาณยาที่ใช้ในบริเวณนี้มีน้อยมาก

ผลข้างเคียงที่ร้ายแรงนั้นพบได้น้อยมาก โดยความเสี่ยงที่พบบ่อยที่สุดคือรอยยิ้มที่ไม่สมมาตร ซึ่งเป็นเพียงชั่วคราวและจะหายไปเองเมื่อโบท็อกหมดฤทธิ์ ส่วนผลข้างเคียงเล็กน้อยอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้คือรอยช้ำหรืออาการบวมเล็กน้อย ซึ่งจะหายไปเองในไม่กี่วัน

ต้องใช้โบท็อกกี่ยูนิตเพื่อยกมุมปาก?

โดยทั่วไปแล้ว การฉีดโบท็อกเพื่อยกมุมปากจะใช้ประมาณ 5-10 ยูนิตต่อข้าง

ปริมาณที่แน่นอนจะขึ้นอยู่กับการประเมินความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ (DAO) ของแต่ละบุคคล โดยแพทย์อาจเริ่มต้นที่ 4-6 ยูนิตต่อข้างสำหรับผู้ที่มีกล้ามเนื้อไม่แข็งแรงมาก และอาจเพิ่มเป็น 10 ยูนิตต่อข้างหากกล้ามเนื้อดึงมุมปากลงเยอะ

ผลลัพธ์จากการฉีดโบท็อกยกมุมปากอยู่ได้นานแค่ไหน?

ผลลัพธ์จากการฉีดโบท็อกยกมุมปาก อยู่ได้นานประมาณ 3-4 เดือน หลังจากนั้นกล้ามเนื้อจะค่อยๆ กลับมาทำงานตามปกติ ทำให้มุมปากกลับมาอยู่ในตำแหน่งเดิม หากต้องการรักษามุมปากที่ยกกระชับไว้ ควรกลับมาฉีดซ้ำทุกๆ 3-4 เดือน

ใครบ้างที่ไม่เหมาะกับการฉีดโบท็อกยกมุมปาก?

ผู้ที่ไม่เหมาะกับการฉีดโบท็อกยกมุมปาก คือผู้ที่มีโรคประจำตัวบางชนิด สตรีมีครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร ผู้ที่แพ้ส่วนประกอบของโบท็อก และผู้ที่มุมปากตกจากปัญหาผิวหนังหย่อนคล้อยอย่างรุนแรงมากกว่าการทำงานของกล้ามเนื้อ

กลุ่มที่ไม่เหมาะกับการฉีดโบท็อกยกมุมปาก ได้แก่:

  • ผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับระบบประสาทและกล้ามเนื้อ เช่น โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (Myasthenia gravis)
  • สตรีมีครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลยืนยันความปลอดภัย
  • ผู้ที่แพ้ส่วนประกอบของโบท็อก เช่น แพ้โปรตีนอัลบูมิน (Albumin)
  • ผู้ที่มุมปากตกจากผิวหย่อนคล้อยหรือสูญเสียไขมัน หากสาเหตุหลักมาจากโครงสร้างผิว ไม่ใช่กล้ามเนื้อดึงลง การฉีดโบท็อกอย่างเดียวอาจไม่เห็นผล
  • ผู้ที่มีความคาดหวังไม่สมจริง หรือมีภาวะไม่พึงพอใจในรูปลักษณ์ของตนเอง (Body Dysmorphic Disorder)
  • ผู้ที่กำลังใช้ยาบางชนิด เช่น ยาปฏิชีวนะกลุ่ม aminoglycoside หรือยาคลายกล้ามเนื้อ ซึ่งอาจเสริมฤทธิ์ของโบท็อกมากเกินไป

หากไม่พอใจผลลัพธ์ สามารถแก้ไขได้อย่างไร?

สามารถแก้ไขได้โดยการฉีดโบท็อกซ์เพิ่มเพื่อปรับแก้ หรือในกรณีที่ผลลัพธ์ไม่สมดุลจะต้องรอให้โบท็อกซ์หมดฤทธิ์ไปเอง ซึ่งการแก้ไขจะขึ้นอยู่กับลักษณะของปัญหา ดังนี้

  • หากมุมปากยังยกไม่พอ: สามารถปรึกษาแพทย์เพื่อฉีดเพิ่ม (touch-up) ได้ในการนัดติดตามผล 2 สัปดาห์หลังฉีด
  • หากยิ้มไม่เท่ากันหรือมุมปากยกมากเกินไป: โดยทั่วไปต้องรอให้ผลของโบท็อกซ์สลายไปเองในเวลา 3-4 เดือน เนื่องจากไม่มียาแก้โดยตรง อย่างไรก็ตาม แพทย์อาจพิจารณาฉีดโบท็อกซ์เล็กน้อยที่อีกข้างเพื่อสร้างความสมดุลได้

References:

  1. Zhang, M., et al. (n.d.). Deciphering Depressor Anguli Oris for Lower Face Rejuvenation: A Prospective Ultrasound-Based Investigation. Aesthetic Surgery Journal. pubmed.ncbi.nlm.nih.gov
  2. Kim, J., et al. (n.d.). Novel anatomical proposal for botulinum neurotoxin injection targeting depressor anguli oris for treating drooping mouth corner. Anatomy & Cell Biology. ncbi.nlm.nih.gov
  3. Greenberg, L. (n.d.). Lifting the mouth corner – Journal time! Lauren Greenberg MD Blog. laurengreenbergmd.com
  4. Cleveland Clinic. (n.d.). Neuromodulators (Botox/Dysport/Xeomin) Injection – Elevation of the corners of your mouth. Cleveland Clinic Cosmetic & Plastic Surgery. clevelandclinic.org
  5. Padda, I.S., & Tadi, P. (n.d.). Botulinum Toxin. StatPearls Publishing – NCBI Bookshelf. ncbi.nlm.nih.gov

แนะแนวเรื่อง

Previous Previous
ร่องแก้มลึก แก้ด้วยฟิลเลอร์ โบท็อกซ์ หรือ Hifu? แบบไหนดีกว่ากัน
NextContinue
ฉีดโบท็อกหน้าผาก ใช้กี่ยูนิต ราคาเท่าไหร่ อยู่ได้นานแค่ไหน? 2568

สาขาพรีวาโต คลินิก

    สาขาอโศก ตั้งอยู่ที่ ชั้น 2 อาคารมิดทาวน์
    Phone: 02-258-4050 , 081-841-5075
    สาขาสีลม ตั้งอยู่ที่ ชั้น 1 อาคารซี.พี.ทาวเวอร์
    Phone: 02-780-2011 , 098-272-5244
    สาขาราชพฤกษ์ ตั้งอยู่ที่ ชั้น 2 ศูนย์การค้า เดอะคริสตัล เอสบี (ด้านบนร้านสตาร์บัคส์)
    Phone: 02-102-2778 , 098-272-5244

ติดต่อเรา

    Facebook: Privato Clinic
    Messenger: Privato Clinic
    Instagram: privatoclinic
    Email: privatoclinic@gmail.com
    Line: @privatoclinic

Copyright© 2022-2024. All Rights Reserved

Scroll to top
  • หน้าหลัก
  • เกี่ยวกับพรีวาโต
  • บริการทั้งหมด
    • ชะลอวัย
    • ยกกระชับผิว
      • XERF
      • Potenza
      • Sofwave
      • Ulthera
      • Thermage-FLX
    • รักษาสิว
    • เลเซอร์
    • โปรแกรมฉีด
    • บำรุงผิว
  • บทความ
    • สิว
    • ยกกระชับ
    • ดูแลผิว
    • ทำเลเซอร์
  • ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว
  • โปรโมชั่น
  • ผลลัพธ์การรักษา
  • วิดีโอรีวิวจากเคสจริง
  • สาขาของเรา
  • ไทย
    • ไทย
    • English
    • 中文 (中国)
  • ปรึกษาแพทย์
Facebook Instagram YouTube