โบท็อกลิฟกรอบหน้า ใช้กี่ยูนิต? กี่วันเห็นผล? อยู่ได้นานแค่ไหน?

การฉีดโบท็อกลิฟหน้าเป็นเทคนิคการฉีดโบทูลินัม ท็อกซินประมาณ 20-40 ยูนิต เพื่อคลายกล้ามเนื้อ Platysma ที่ดึงใบหน้าลง ทำให้กรอบหน้าดูคมชัดและยกกระชับขึ้น โดยผลลัพธ์จะคงอยู่นาน 3-6 เดือนและเห็นผลชัดเจนที่สุดในสัปดาห์ที่ 2 หลังการฉีด
โบท็อกลิฟกรอบหน้าคืออะไร และทำงานอย่างไร?
โบท็อกลิฟกรอบหน้าคือเทคนิคการฉีดโบทูลินัม ท็อกซิน เพื่อยกกระชับและสร้างความคมชัดให้แนวกราม โดยอาศัยหลักการคลายกล้ามเนื้อ platysma ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อที่ดึงใบหน้าลง เมื่อกล้ามเนื้อนี้คลายตัวจากฤทธิ์ของโบท็อก แรงดึงลงจะลดลง ทำให้กล้ามเนื้อส่วนที่ทำหน้าที่ยกใบหน้าทำงานได้ดีขึ้น ส่งผลให้กรอบหน้าดูคมชัดและยกกระชับขึ้น
เทคนิคที่นิยมใช้มี 2 รูปแบบหลัก ได้แก่
- Nefertiti Lift: ฉีดเข้าไปที่กล้ามเนื้อ platysma บริเวณแนวกรามและลำคอโดยตรงเพื่อลดแรงดึงลง
- Dermolift: ฉีดแบบตื้นๆ (microdroplet) เข้าไปในชั้นผิวหนัง เพื่อช่วยให้ผิวตึงกระชับและดูเรียบเนียนขึ้น
หลักการทำงานของการฉีดโบท็อกเพื่อยกกระชับกรอบหน้า
หลักการทำงานคือการฉีดโบทูลินั่ม ท็อกซิน เพื่อคลายกล้ามเนื้อแพลทิสมา (Platysma) ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อที่ดึงใบหน้าส่วนล่างลง เมื่อกล้ามเนื้อนี้คลายตัวจากการที่สารสื่อประสาทถูกยับยั้ง แรงดึงลงจะลดน้อยลง ทำให้กล้ามเนื้อส่วนที่ทำหน้าที่ยกใบหน้าสามารถทำงานได้ดีขึ้น ส่งผลให้กรอบหน้าดูคมชัดและยกกระชับขึ้น
เทคนิคการฉีด Dermolift เพื่อผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
เทคนิค Dermolift คือการฉีดโบทูลินัมท็อกซินแบบไมโครดรอปเล็ต (microdroplets) เข้าไปในชั้นหนังแท้ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ โดยจะเน้นฉีดตื้นๆ เพื่อเป้าหมายที่เส้นใยผิวและต่อมไขมัน ซึ่งช่วยให้ผิวกระชับ ลดความมัน และเพิ่มความเงางาม โดยไม่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของกล้ามเนื้อชั้นลึก จึงหลีกเลี่ยงลักษณะใบหน้าที่แข็งทื่อได้
ใครเหมาะกับการฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้า?
ผู้ที่มีปัญหาหย่อนคล้อยเล็กน้อยหรือกรอบหน้าไม่คมชัด เหมาะกับการฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้า โดยเฉพาะผู้ที่ปัญหานี้เกิดจากการดึงรั้งของกล้ามเนื้อคอ (Platysma)
อย่างไรก็ตาม วิธีนี้อาจไม่เหมาะกับผู้ที่มีความหย่อนคล้อยรุนแรง ซึ่งอาจต้องใช้วิธีการรักษาอื่น เช่น การร้อยไหม ร่วมด้วยเพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้น
ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยและกรอบหน้าไม่ชัดเจน
การทำโบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาความหย่อนคล้อยเล็กน้อยและแนวกรามที่ไม่คมชัด อันเนื่องมาจากการดึงรั้งของกล้ามเนื้อ platysma เทคนิคนี้จะช่วยคลายกล้ามเนื้อที่ดึงใบหน้าลง ทำให้กรอบหน้าดูยกกระชับและคมชัดขึ้น
สำหรับผู้ที่มีความหย่อนคล้อยรุนแรง การทำโบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้าเพียงอย่างเดียวอาจไม่เห็นผลชัดเจน และอาจต้องใช้วิธีการรักษาร่วมกับหัตถการอื่น เช่น การร้อยไหม หรือเครื่องมือที่ใช้พลังงาน
ข้อห้ามและผู้ที่ไม่ควรฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้า
ข้อห้ามหลักของการฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้าคือ ผู้ที่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร, ผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับระบบประสาทและกล้ามเนื้อ, ผู้ที่แพ้โบทูลินัมท็อกซิน และผู้ที่กำลังใช้ยาบางชนิด
นอกจากนี้ ผู้ที่ไม่เหมาะกับการฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้า ได้แก่
- ผู้ที่มีการติดเชื้อบริเวณผิวหนังที่จะฉีด
- ผู้ที่ใช้ยาปฏิชีวนะกลุ่ม Aminoglycosides เพราะอาจเพิ่มฤทธิ์ของโบท็อกซ์
- ผู้ที่มีความหย่อนคล้อยของผิวหนังอย่างรุนแรง ซึ่งอาจต้องใช้วิธีการรักษาอื่นร่วมด้วย
เปรียบเทียบชัดๆ: โบท็อกลิฟกรอบหน้า vs. โบท็อกลดกราม
ตำแหน่งและชั้นผิวที่ฉีดแตกต่างกัน
การฉีดโบท็อกซ์เพื่อยกกระชับกรอบหน้าจะเน้นที่ กล้ามเนื้อ Platysma ในชั้นผิวหนังแท้ (Intradermal) หรือชั้นใต้ผิวหนัง (Subdermal) ส่วนการฉีดเพื่อลดกรามจะฉีดเข้าที่กล้ามเนื้อ Masseter ซึ่งเป็นชั้นกล้ามเนื้อที่ลึกกว่า (Deep intramuscular) การฉีดเพื่อยกกระชับจะมีความลึกประมาณ 0.5-1 ซม. เพื่อคลายกล้ามเนื้อที่ดึงผิวลง ในขณะที่การฉีดลดกรามจะฉีดลึกถึง 1-2 ซม. เพื่อให้กล้ามเนื้อกรามฝ่อและมีขนาดเล็กลง
ผลลัพธ์ที่คาดหวังและเป้าหมายการรักษา
เป้าหมายหลักของการรักษาคือ การสร้างกรอบหน้าที่คมชัดขึ้น ยกกระชับผิว และฟื้นฟูผิวอย่างเป็นธรรมชาติ โดยการฉีดโบท็อกซ์จะช่วยคลายกล้ามเนื้อ Platysma ที่ดึงผิวลง ทำให้ใบหน้ายกกระชับขึ้นตามธรรมชาติ
ผลลัพธ์ที่คาดหวังได้เพิ่มเติม ได้แก่:
- ผิวที่ตึงและเรียบเนียนขึ้น
- ลดความมันบนใบหน้า
- ปรับปรุงสภาพผิวโดยรวมโดยไม่ทำให้กล้ามเนื้อชั้นลึกแข็งตัวหรือดูไม่เป็นธรรมชาติ
ควรเลือกฉีดแบบไหนให้เหมาะกับปัญหาใบหน้าของคุณ
ควรเลือกฉีดโบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้าหากต้องการกรอบหน้าที่คมชัดและยกกระชับ หรือเลือกฉีดโบท็อกซ์ลดกรามหากต้องการให้ใบหน้าเรียวเล็กลง
- โบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้า (Facial Lift Botox): เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหากรอบหน้าไม่คมชัดหรือหย่อนคล้อยเล็กน้อย เทคนิคนี้จะฉีดตื้นๆ ที่กล้ามเนื้อ Platysma บริเวณลำคอและกรอบหน้า เพื่อลดแรงดึงของกล้ามเนื้อที่ดึงใบหน้าลง ทำให้กรอบหน้าดูยกกระชับและคมชัดขึ้น
- โบท็อกซ์ลดกราม (Masseter Reduction): เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหากรามใหญ่หรือใบหน้าเหลี่ยมจากกล้ามเนื้อ การฉีดจะเน้นที่กล้ามเนื้อกราม (Masseter) โดยตรง เพื่อลดขนาดของกล้ามเนื้อ ทำให้ใบหน้าโดยรวมดูเรียวและเล็กลง
ขั้นตอนการฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้า
การประเมินโครงสร้างใบหน้าและวางแผนการรักษา
การประเมินโครงสร้างใบหน้าและการวางแผนการรักษาจะเริ่มจากการประเมินการทำงานของกล้ามเนื้อ platysma และ DAO (Depressor Anguli Oris) เพื่อวางแผนการฉีดโบท็อกซ์
แพทย์จะพิจารณาว่าผู้รับบริการเป็นผู้ที่เหมาะสมหรือไม่ โดยผู้ที่เหมาะสมคือผู้ที่มีความหย่อนคล้อยเล็กน้อยและมีแนวกรามที่ไม่คมชัด นอกจากนี้ยังต้องประเมินข้อห้ามต่างๆ เช่น การตั้งครรภ์ โรคเกี่ยวกับระบบประสาทและกล้ามเนื้อ หรือการใช้ยาบางชนิด สำหรับกรณีที่มีความหย่อนคล้อยปานกลาง อาจมีการวางแผนการรักษาร่วมกับเทคนิคอื่น เช่น การร้อยไหม เพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้น
การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการฉีด
การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการฉีดโบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้าคือการหลีกเลี่ยงยาละลายลิ่มเลือด เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดรอยช้ำ
ระหว่างการฉีดและระยะเวลาที่ใช้
ผลลัพธ์ของการฉีดโบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้าจะเริ่มเห็นผลใน 3-7 วัน และคงอยู่ได้นาน 3-4 เดือน โดยจะเห็นผลชัดเจนที่สุดในสัปดาห์ที่ 2
ในระหว่างขั้นตอนการฉีด แพทย์จะประเมินและฉีดโบท็อกซ์แบบตื้นๆ เข้าไปในกล้ามเนื้อ platysma ตามแนวกรอบหน้าและลำคอ โดยก่อนทำควรงดยาละลายลิ่มเลือด และหลังทำควรหลีกเลี่ยงการนวดหรือถูบริเวณที่ฉีด และอยู่ในท่านั่งตรงอย่างน้อย 4 ชั่วโมง
การดูแลตัวเองทันทีหลังการฉีด
ข้อควรปฏิบัติทันทีหลังการฉีดคือห้ามนวดหรือถูบริเวณที่ฉีด และควรอยู่ในท่านั่งหรือยืนตรงเป็นเวลา 4 ชั่วโมง เพื่อให้ตัวยาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง
ผลลัพธ์และระยะเวลา: ตอบทุกคำถามสำคัญจาก H1
ปริมาณโบท็อกที่ใช้: ต้องฉีดกี่ยูนิต?
โดยทั่วไปการฉีดโบท็อกเพื่อลิฟต์กรอบหน้าจะใช้ปริมาณประมาณ 20-40 ยูนิต ทั้งนี้ ปริมาณที่แน่นอนจะขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น อายุ และการทำงานของกล้ามเนื้อของแต่ละบุคคล
ระยะเวลาเห็นผล: กี่วันจึงจะเห็นกรอบหน้าคมชัดขึ้น?
โดยทั่วไปจะเริ่มเห็นผลใน 3-7 วัน และจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนที่สุดเมื่อครบ 2 สัปดาห์หลังการฉีด
ความคงทนของผลลัพธ์: ลิฟกรอบหน้าอยู่ได้นานแค่ไหน?
โดยทั่วไปแล้ว ผลลัพธ์ของการลิฟกรอบหน้าด้วยโบท็อกซ์จะอยู่ได้นานประมาณ 3-6 เดือน
ผลลัพธ์จะเริ่มเห็นได้ภายใน 3-7 วัน และจะเห็นผลชัดเจนที่สุดในสัปดาห์ที่ 2 หลังการฉีด ทั้งนี้ระยะเวลาของผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น อายุ และการทำงานของกล้ามเนื้อ
ปัจจัยที่ส่งผลต่อระยะเวลาของผลลัพธ์
ปัจจัยที่ส่งผลต่อระยะเวลาของผลลัพธ์คือ อายุและการทำงานของกล้ามเนื้อ โดยทั่วไปแล้วผลลัพธ์จะอยู่ได้นาน 3-6 เดือน
ปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจ
การเลือกคลินิกและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ควรเลือกผู้ให้บริการที่ได้รับการรับรองจากคณะกรรมการและมีความโปร่งใส โดยราคาสำหรับการรักษาบริเวณแนวกรามในประเทศไทยโดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 8,000-12,000 บาท
โครงสร้างราคาและค่าใช้จ่ายโดยประมาณ
ราคาโดยประมาณสำหรับการทำโบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้าอยู่ที่ 8,000-12,000 บาท ซึ่งเป็นเกณฑ์ราคาจากคลินิกในประเทศไทยสำหรับการรักษาที่เกี่ยวข้องกับบริเวณแนวกรามและกรอบหน้าโดยเฉพาะ
การเตรียมตัวก่อนฉีดเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
การเตรียมตัวก่อนฉีดที่สำคัญที่สุดคือการหลีกเลี่ยงยาละลายลิ่มเลือด เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดรอยช้ำบริเวณที่ฉีด
ความเสี่ยง ผลข้างเคียง และข้อควรระวังที่ควรรู้
ผลข้างเคียงที่พบได้ทั่วไปและวิธีจัดการ
ผลข้างเคียงที่พบได้ทั่วไปคือ รอยช้ำ ซึ่งสามารถจัดการได้ โดยการหลีกเลี่ยงยาละลายลิ่มเลือดก่อนทำ และไม่ถูบริเวณที่ฉีดพร้อมกับอยู่ในท่านั่งตรงเป็นเวลา 4 ชั่วโมงหลังทำ นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดความไม่สมมาตรของใบหน้าได้เช่นกัน
ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นและแนวทางการป้องกัน
ความเสี่ยงที่พบบ่อยคือรอยช้ำ ซึ่งสามารถจัดการได้ รวมถึงโอกาสเกิดความไม่สมมาตร และการกำเริบของโรคเกี่ยวกับระบบประสาทและกล้ามเนื้อ
แนวทางการป้องกันคือการเลือกแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและหลีกเลี่ยงการทำในผู้ที่มีข้อห้าม ดังนี้
- ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
- มีโรคเกี่ยวกับระบบประสาทและกล้ามเนื้อรุนแรง (เช่น Myasthenia Gravis)
- แพ้ Botulinum toxin
- มีการติดเชื้อบริเวณที่จะฉีด
- ใช้ยาที่มีปฏิกิริยาต่อกัน เช่น ยาปฏิชีวนะกลุ่ม aminoglycosides
นอกจากนี้ ก่อนทำควรหลีกเลี่ยงยาละลายลิ่มเลือด และหลังทำห้ามถูบริเวณที่ฉีดและควรอยู่ในท่านั่งตรงเป็นเวลา 4 ชั่วโมง
สัญญาณผิดปกติที่ควรปรึกษาแพทย์ทันที
จากข้อมูลที่ให้มา ไม่ได้ระบุถึงสัญญาณผิดปกติที่ต้องปรึกษาแพทย์ทันทีหลังการฉีดโบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้า
เนื้อหาส่วนใหญ่เน้นย้ำถึงข้อห้ามในการทำหัตถการ เช่น ผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับระบบประสาทและกล้ามเนื้อขั้นรุนแรง (Myasthenia Gravis) ซึ่งมีความเสี่ยงที่อาการจะกำเริบมากขึ้น รวมถึงผลข้างเคียงทั่วไปที่จัดการได้ เช่น รอยช้ำ หรือความไม่สมมาตรที่อาจเกิดขึ้นได้
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการทำโบท็อกลิฟกรอบหน้า
ฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้าเจ็บไหม?
การฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้า มีความเจ็บเล็กน้อยและทนได้ ซึ่งมักเปรียบเทียบความรู้สึกเหมือนมดกัดหรือยุงกัด
โดยทั่วไป แพทย์จะทายาชาหรือใช้การประคบเย็นก่อนทำการฉีดเพื่อช่วยลดความรู้สึกเจ็บ เนื่องจากเป็นการใช้เข็มขนาดเล็กฉีดในปริมาณน้อยๆ และตื้นๆ บริเวณชั้นผิวหนัง ความเจ็บจึงไม่รุนแรงและจะหายไปอย่างรวดเร็วหลังฉีดเสร็จ
สามารถฉีดลิฟกรอบหน้าพร้อมกับลดกรามได้หรือไม่?
สามารถฉีดโบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้าพร้อมกับลดกรามได้ เนื่องจากการรักษาทั้งสองอย่างมีเป้าหมายและใช้เทคนิคการฉีดที่แตกต่างกัน
- การลิฟต์กรอบหน้า (Facial Lift): เน้นการฉีดตื้นๆ เข้าที่กล้ามเนื้อ Platysma เพื่อยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยและทำให้กรอบหน้าคมชัดขึ้น
- การลดกราม (Masseter Reduction): เน้นการฉีดลึกเข้าที่กล้ามเนื้อ Masseter (กล้ามเนื้อกราม) เพื่อลดขนาดของกล้ามเนื้อ ทำให้ใบหน้าดูเรียวเล็กลง
หลังฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้า มีข้อห้ามอะไรบ้าง?
ข้อห้ามหลักหลังฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้าคือ ห้ามนวดหรือถูบริเวณที่ฉีด และควรอยู่ในท่านั่งหรือยืนตรงเป็นเวลา 4 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการกระจายตัวของยาไปยังกล้ามเนื้อส่วนอื่น นอกจากนี้ ก่อนการฉีดควรหลีกเลี่ยงยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด
ฉีดแล้วหน้าจะดูแข็งหรือยิ้มไม่เป็นธรรมชาติหรือไม่?
โดยทั่วไปแล้ว จะไม่ทำให้หน้าดูแข็งหรือยิ้มไม่เป็นธรรมชาติ เนื่องจากเทคนิคการฉีดโบท็อกซ์เพื่อยกกระชับกรอบหน้า เช่น Dermolift จะเน้นฉีดที่ชั้นผิวหนังตื้นๆ และกล้ามเนื้อ Platysma ที่อยู่ชั้นบนเท่านั้น ซึ่งจะช่วยรักษาการทำงานของกล้ามเนื้อมัดลึกที่ใช้ในการแสดงสีหน้าและการยิ้มไว้ได้ตามปกติ ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
หากหยุดฉีด ผิวจะหย่อนคล้อยกว่าเดิมจริงหรือ?
ไม่จริง การหยุดฉีดโบท็อกซ์ไม่ได้ทำให้ผิวหย่อนคล้อยกว่าเดิม
เมื่อโบท็อกซ์หมดฤทธิ์ กล้ามเนื้อจะค่อยๆ กลับมาทำงานตามปกติ และผิวจะกลับคืนสู่สภาพเดิมก่อนการฉีด การที่ผิวหย่อนคล้อยลงเป็นผลมาจากกระบวนการแก่ชราตามธรรมชาติซึ่งเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ได้เกิดจากการหยุดใช้โบท็อกซ์
อายุเท่าไหร่จึงจะสามารถเริ่มฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้าได้?
ไม่มีการระบุอายุที่แน่ชัดสำหรับการเริ่มฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้า แต่จะพิจารณาจากสภาพผิวเป็นหลัก การรักษานี้เหมาะสำหรับผู้ใหญ่ที่มีปัญหากรอบหน้าไม่คมชัดหรือมีความหย่อนคล้อยของผิวในระดับเล็กน้อย โดยจะประเมินจากลักษณะทางกายภาพมากกว่าการกำหนดอายุเป็นตัวเลข
References:
- Effectiveness of intra-oral botulinum toxin injection in comparison to. (n.d.). ncbi.nlm.nih.gov
- A Comprehensive Ultrasound Investigation of Lower Facial and. (n.d.). wiley.com
- Anatomical Proposal for Botulinum Neurotoxin Injection Targeting. (n.d.). ncbi.nlm.nih.gov
- Anatomical Guidelines and Technical Tips for Neck Aesthetics with. (n.d.). thieme-connect.de
