Skip to content

TEL : 081-841-5075, 02-258-4050

Facebook Instagram YouTube
Privato Clinic – Innovation Of Beauty  |  Bangkok
  • หน้าหลัก
  • เกี่ยวกับพรีวาโต
  • บริการทั้งหมดExpand
    • ชะลอวัย
    • ยกกระชับผิวExpand
      • XERF
      • Potenza
      • Sofwave
      • Ulthera
      • Thermage-FLX
    • รักษาสิว
    • เลเซอร์
    • โปรแกรมฉีด
    • บำรุงผิว
  • บทความExpand
    • สิว
    • ยกกระชับ
    • ดูแลผิว
    • ทำเลเซอร์
  • ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว
  • โปรโมชั่น
  • ผลลัพธ์การรักษา
  • วิดีโอรีวิวจากเคสจริง
  • สาขาของเรา
  • ไทยExpand
    • ไทย
    • English
    • 中文 (中国)
  • ปรึกษาแพทย์
Privato Clinic – Innovation Of Beauty  |  Bangkok
Consult a Doctor
Lifting

18 วิธีลดแก้มยอดนิยม: จากวิธีธรรมชาติถึงหัตถการโดยแพทย์

Byadmin กันยายน 22, 2025กันยายน 22, 2025
By แพทย์หญิงนัชชนก หุ่นวิจิตร Updated on กันยายน 22, 2025
✦ Medically reviewed by  นายแพทย์เลอพงษ์ กรุดเงิน

วิธีลดแก้ม

Table of Contents

Toggle
  • แก้มใหญ่เกิดจากอะไร: 4 สาเหตุหลักที่ส่งผลต่อโครงสร้างใบหน้า
  • 18 วิธีลดแก้มยอดนิยมมีดังนี้:
    • 10 วิธีลดแก้มแบบธรรมชาติ ทำได้ด้วยตัวเองที่บ้าน
    • 8 วิธีลดแก้มแบบเร่งด่วนด้วยหัตถการทางการแพทย์
    • เกณฑ์การพิจารณา: เลือกระหว่างวิธีธรรมชาติและหัตถการอย่างไรให้เหมาะสม
  • ผลลัพธ์ที่คาดหวัง: ระยะเวลาเห็นผลและความคงทนของแต่ละวิธี
  • ก่อนตัดสินใจ: ปัจจัยที่ต้องพิจารณาเพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
    • การประเมินโครงสร้างใบหน้าและสภาพผิวโดยผู้เชี่ยวชาญ
    • การเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและแพทย์ที่มีประสบการณ์
    • การตั้งความคาดหวังต่อผลลัพธ์ที่เป็นจริง
  • ข้อควรระวังและความเสี่ยง: สิ่งที่ต้องรู้ก่อนเข้ารับการลดแก้ม
    • ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากหัตถการทางการแพทย์
    • ความเข้าใจผิดที่พบบ่อยเกี่ยวกับการลดแก้มด้วยตัวเอง
  • คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการลดแก้ม (FAQ)
    • แก้มใหญ่มีสาเหตุมาจากอะไรได้บ้าง?
    • ควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทใดเพื่อช่วยลดแก้ม?
    • การบริหารใบหน้าเพื่อลดแก้มได้ผลจริงหรือไม่?
    • วิธีลดแก้มแบบธรรมชาติใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะเห็นผล?
    • การลดแก้มกับการลดเหนียงเหมือนหรือต่างกันอย่างไร?
    • หัตถการลดแก้มเจ็บไหม และต้องพักฟื้นนานหรือไม่?
  • References:

แก้มใหญ่เกิดจากอะไร: 4 สาเหตุหลักที่ส่งผลต่อโครงสร้างใบหน้า

แก้มใหญ่เกิดจาก 4 สาเหตุหลัก ได้แก่ ไขมันสะสมบนใบหน้า พันธุกรรมและโครงสร้างกระดูก กล้ามเนื้อกรามขยายใหญ่ และการบวมน้ำ

สาเหตุเหล่านี้ส่งผลให้ใบหน้าดูกลมหรือใหญ่ขึ้นได้จากปัจจัยที่แตกต่างกัน ดังนี้

  • ไขมันสะสมบนใบหน้า: เกิดจากการมีน้ำหนักตัวเกินหรือมีไขมันที่กระพุ้งแก้ม (Buccal fat pads) ขนาดใหญ่กว่าปกติมาโดยกำเนิด
  • พันธุกรรมและโครงสร้างกระดูก: บางคนมีโครงสร้างใบหน้าที่กว้างหรือโหนกแก้มที่เด่นชัดตามพันธุกรรม ทำให้แก้มดูเต็มกว่าคนอื่น
  • กล้ามเนื้อกรามขยายใหญ่: กล้ามเนื้อแมสซีเทอร์ (Masseter) ที่ใช้ในการเคี้ยวอาจมีขนาดใหญ่ขึ้นจากการใช้งานหนัก ทำให้แนวกรามดูกว้างและใบหน้าส่วนล่างดูใหญ่ขึ้น
  • การบวมน้ำ: การรับประทานอาหารที่มีโซเดียมสูง ดื่มแอลกอฮอล์ หรือภาวะขาดน้ำ สามารถทำให้ร่างกายกักเก็บน้ำไว้ ส่งผลให้ใบหน้าและแก้มบวมขึ้นชั่วคราว

18 วิธีลดแก้มยอดนิยมมีดังนี้:

10 วิธีลดแก้มแบบธรรมชาติ ทำได้ด้วยตัวเองที่บ้าน

วิธีลดแก้มแบบธรรมชาติที่สามารถทำได้ด้วยตัวเองที่บ้านมี 10 วิธี ได้แก่ การควบคุมอาหาร การออกกำลังกาย การลดโซเดียมและแอลกอฮอล์ การดื่มน้ำให้เพียงพอ การนอนหลับให้สนิท การจัดการความเครียด การบริหารกล้ามเนื้อใบหน้า การนวดหน้า และการรักษาท่าทางให้ดี

  1. ควบคุมอาหาร จำกัดอาหารแปรรูป น้ำตาล และไขมันสูง เพื่อป้องกันการสะสมไขมันบนใบหน้า
  2. ออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะช่วยลดไขมันในร่างกายโดยรวม ซึ่งส่งผลให้แก้มเล็กลงด้วย
  3. ลดการดื่มแอลกอฮอล์ แอลกอฮอล์มีแคลอรีสูงและทำให้ร่างกายขาดน้ำ ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการหน้าบวม
  4. หลีกเลี่ยงอาหารรสเค็ม การลดโซเดียมช่วยลดการกักเก็บน้ำในร่างกาย ทำให้ใบหน้าดูบวมน้อยลง
  5. ดื่มน้ำให้เพียงพอ การดื่มน้ำช่วยลดอาการบวมน้ำได้ เพราะเมื่อร่างกายขาดน้ำ ร่างกายจะพยายามกักเก็บน้ำไว้
  6. นอนหลับให้เพียงพอ การนอนหลับอย่างมีคุณภาพช่วยควบคุมระบบเผาผลาญและสนับสนุนการควบคุมน้ำหนัก
  7. จัดการความเครียด ความเครียดอาจนำไปสู่การเพิ่มของน้ำหนัก การจัดการความเครียดจึงช่วยควบคุมไขมันบนใบหน้าได้
  8. บริหารกล้ามเนื้อใบหน้า การออกกำลังกายใบหน้าช่วยเพิ่มความหนาของกล้ามเนื้อ ทำให้ใบหน้าดูกระชับและยกขึ้นเล็กน้อย
  9. นวดใบหน้า การนวดแก้มและกรามเบาๆ ช่วยขับของเหลวส่วนเกินและลดอาการบวมชั่วคราวได้
  10. รักษาท่าทางที่ดี การนั่งหรือยืนหลังตรงจะช่วยส่งเสริมการไหลเวียนของเลือดและน้ำเหลือง ป้องกันของเหลวคั่งบนใบหน้า

8 วิธีลดแก้มแบบเร่งด่วนด้วยหัตถการทางการแพทย์

มี 8 วิธีจากหัตถการทางการแพทย์หลักที่ช่วยลดแก้มได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งแต่ละวิธีจะเหมาะกับสาเหตุของปัญหาที่แตกต่างกันไป ดังนี้

  1. ผ่าตัดไขมันกระพุ้งแก้ม (Buccal Fat Removal): เป็นการผ่าตัดนำก้อนไขมันที่อยู่ลึกในกระพุ้งแก้มออก เพื่อให้แก้มดูตอบลงและเห็นกรอบหน้าชัดขึ้น ให้ผลลัพธ์ถาวร
  2. โบท็อกซ์ลดกราม (Masseter Botox): เป็นการฉีดสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เพื่อทำให้กล้ามเนื้อกรามฝ่อและมีขนาดเล็กลง เหมาะสำหรับคนที่มีแก้มใหญ่จากกล้ามเนื้อ ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 4-6 เดือน
  3. ดูดไขมันใบหน้า (Facial Liposuction): เป็นการกำจัดไขมันส่วนเกินบริเวณแก้มและเหนียงอย่างถาวร เพื่อปรับรูปหน้าให้เรียวเล็กลง
  4. ฉีดสลายไขมัน (Injectable Lipolysis): เป็นการฉีดตัวยาเพื่อทำลายเซลล์ไขมัน เหมาะสำหรับลดไขมันเฉพาะจุด เช่น เหนียง หรือไขมันแก้มส่วนล่าง
  5. สลายไขมันด้วยความเย็น (Cryolipolysis): เป็นการใช้ความเย็นจัดเพื่อแช่แข็งและทำลายเซลล์ไขมัน โดยเซลล์ไขมันที่ถูกทำลายจะถูกกำจัดออกจากร่างกายอย่างถาวร
  6. ไฮฟู (HIFU): เป็นการใช้คลื่นอัลตราซาวนด์ความเข้มข้นสูงเพื่อสลายไขมันและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวกระชับและใบหน้าดูเรียวขึ้น
  7. สลายไขมันด้วยคลื่นวิทยุ (RFAL): เป็นการใช้พลังงานคลื่นวิทยุเพื่อสลายไขมันพร้อมกับกระชับผิวหนังไปพร้อมกัน ทำให้กรอบหน้าคมชัดขึ้น
  8. ผ่าตัดดึงหน้า (Facelift): เป็นการผ่าตัดเพื่อกำจัดไขมันส่วนเกินและยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย เหมาะสำหรับผู้ที่มีแก้มใหญ่จากความหย่อนคล้อยตามวัย ให้ผลลัพธ์ที่ยาวนาน

เกณฑ์การพิจารณา: เลือกระหว่างวิธีธรรมชาติและหัตถการอย่างไรให้เหมาะสม

การเลือกระหว่างวิธีธรรมชาติและหัตถการขึ้นอยู่กับสาเหตุของแก้มใหญ่และผลลัพธ์ที่ต้องการ โดยทั่วไปควรเริ่มต้นด้วยวิธีธรรมชาติก่อน หากแก้มใหญ่มีความสัมพันธ์กับน้ำหนักตัวโดยรวม แต่หากเกิดจากโครงสร้างเฉพาะ เช่น ไขมันกระพุ้งแก้มหรือกล้ามเนื้อกรามหนาซึ่งไม่ตอบสนองต่อการลดน้ำหนัก การทำหัตถการอาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่า

  • วิธีธรรมชาติ: เหมาะสำหรับผู้ที่แก้มใหญ่ขึ้นจากน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น หรือมีอาการบวมน้ำ ควรลองปรับเปลี่ยนอาหารและออกกำลังกายเป็นเวลาสองสามเดือนก่อน
  • หัตถการทางการแพทย์: เหมาะสำหรับผู้ที่มีแก้มใหญ่จากโครงสร้าง เช่น ไขมันกระพุ้งแก้มเยอะโดยกรรมพันธุ์ หรือกล้ามเนื้อกรามใหญ่ ซึ่งวิธีธรรมชาติไม่สามารถแก้ไขได้
  • การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: เป็นสิ่งสำคัญที่สุดเพื่อวินิจฉัยสาเหตุที่แท้จริงและเลือกวิธีการรักษาที่ตรงจุดและปลอดภัยที่สุด

ผลลัพธ์ที่คาดหวัง: ระยะเวลาเห็นผลและความคงทนของแต่ละวิธี

ผลลัพธ์และความคงทนของการลดแก้มมีตั้งแต่ การเปลี่ยนแปลงชั่วคราวไปจนถึงผลลัพธ์ถาวร ขึ้นอยู่กับวิธีที่เลือกใช้

  • วิธีธรรมชาติ (ควบคุมอาหาร, ออกกำลังกาย): เห็นผลการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในไม่กี่สัปดาห์ และชัดเจนขึ้นใน 1-2 เดือน ผลลัพธ์จะคงอยู่ตราบเท่าที่รักษาน้ำหนักและพฤติกรรมสุขภาพที่ดีไว้
  • การบริหารใบหน้าและนวด: การนวดช่วยลดอาการบวมได้ทันทีแต่ผลอยู่เพียงชั่วคราว (ไม่กี่วัน) ส่วนการบริหารกล้ามเนื้อจะช่วยให้กล้ามเนื้อกระชับขึ้น แต่ผลจะหายไปหากหยุดทำ
  • การผ่าตัดไขมันกระพุ้งแก้ม: ผลลัพธ์จะถาวร เนื่องจากไขมันส่วนนี้จะไม่กลับมาอีก
  • โบท็อกซ์ลดกราม: เห็นผลใน 4-6 สัปดาห์ แต่ผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 4-6 เดือน และต้องฉีดซ้ำเพื่อรักษาผลลัพธ์
  • การฉีดสลายไขมันและการสลายไขมันด้วยความเย็น: เห็นผลเต็มที่ใน 2-4 เดือนหลังการรักษาครั้งสุดท้าย ผลลัพธ์จะถาวรสำหรับเซลล์ไขมันที่ถูกทำลายไป
  • การยกกระชับผิว (HIFU, RF): ผิวจะค่อยๆ กระชับขึ้นใน 2-3 เดือน และผลลัพธ์คงอยู่ประมาณ 1-2 ปี
  • การผ่าตัดดึงหน้า: ผลลัพธ์ยาวนานมาก อาจอยู่ได้เป็นสิบปี แต่กระบวนการชราตามธรรมชาติยังคงดำเนินต่อไป

ก่อนตัดสินใจ: ปัจจัยที่ต้องพิจารณาเพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

การประเมินโครงสร้างใบหน้าและสภาพผิวโดยผู้เชี่ยวชาญ

การประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อวินิจฉัยสาเหตุที่แท้จริงของแก้มที่ดูใหญ่ ซึ่งอาจเกิดจากไขมัน กล้ามเนื้อ การบวมน้ำ หรือโครงสร้างกระดูก การประเมินนี้ช่วยให้มั่นใจว่าวิธีการรักษาที่เลือกนั้นมุ่งเป้าไปที่การแก้ปัญหาที่ต้นเหตุได้อย่างถูกต้อง นอกจากนี้ยังอาจรวมถึงการตรวจสอบประวัติทางการแพทย์และแนวโน้มของน้ำหนัก เพื่อคัดกรองภาวะสุขภาพอื่นๆ ที่อาจเป็นสาเหตุได้

การเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและแพทย์ที่มีประสบการณ์

การเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและแพทย์ที่มีประสบการณ์ควร ตรวจสอบคุณวุฒิของแพทย์ ประสบการณ์ และการรับรองมาตรฐานของสถานพยาบาล เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

ปัจจัยสำคัญที่ควรพิจารณา มีดังนี้

  • คุณวุฒิและประสบการณ์ของแพทย์: ตรวจสอบว่าแพทย์ได้รับการรับรองจากสถาบันที่น่าเชื่อถือ (Board-certified) และสอบถามเกี่ยวกับจำนวนครั้งที่เคยทำหัตถการลดแก้ม เพื่อให้มั่นใจในความชำนาญ
  • มาตรฐานของคลินิก: เลือกคลินิกหรือโรงพยาบาลที่ได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัย (Accreditation) ซึ่งหมายความว่าสถานพยาบาลนั้นมีอุปกรณ์ที่เหมาะสม มีมาตรการควบคุมความสะอาดปลอดเชื้อ และมีแผนรับมือเหตุฉุกเฉิน
  • การให้คำปรึกษา: แพทย์ที่ดีจะประเมินสาเหตุของแก้มที่ใหญ่ได้อย่างแม่นยำ อธิบายความเสี่ยงและผลลัพธ์ที่คาดหวังได้อย่างสมจริง และเปิดโอกาสให้ซักถามข้อสงสัยได้อย่างเต็มที่

การตั้งความคาดหวังต่อผลลัพธ์ที่เป็นจริง

การตั้งความคาดหวังที่เป็นจริงคือการทำความเข้าใจว่าวิธีแก้ปัญหาที่บ้านให้ผลลัพธ์เพียงเล็กน้อย ในขณะที่การรักษาทางการแพทย์ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนกว่าแต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงและข้อจำกัด วิธีแก้ปัญหาที่บ้าน เช่น การออกกำลังกายใบหน้าหรือการใช้ครีม ไม่สามารถลดไขมันเฉพาะจุดได้ แต่จะช่วยกระชับกล้ามเนื้อหรือลดอาการบวมน้ำได้ชั่วคราวเท่านั้น

สำหรับการรักษาทางการแพทย์ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำความเข้าใจผลลัพธ์ที่เป็นไปได้ กระบวนการฟื้นตัว และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ควรระวังผู้ให้บริการที่ให้คำมั่นสัญญาเกินจริง เนื่องจากผลลัพธ์จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับวิธีการรักษาและสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล

ข้อควรระวังและความเสี่ยง: สิ่งที่ต้องรู้ก่อนเข้ารับการลดแก้ม

ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากหัตถการทางการแพทย์

ความเสี่ยงของหัตถการทางการแพทย์มีตั้งแต่ผลข้างเคียงชั่วคราวไปจนถึงภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงกว่า ซึ่งความเสี่ยงจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับประเภทของหัตถการ

  • หัตถการแบบผ่าตัด (เช่น ตัดไขมันกระพุ้งแก้ม, ดูดไขมัน, ดึงหน้า): มีความเสี่ยงทั่วไปของการผ่าตัด เช่น เลือดออก การติดเชื้อ และความเสี่ยงจากการดมยาสลบ นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงเฉพาะจุด เช่น การบาดเจ็บของเส้นประสาทหรือท่อน้ำลาย, ใบหน้าตอบหรือดูแก่กว่าวัยหากนำไขมันออกมากเกินไป
  • หัตถการแบบไม่ผ่าตัด (เช่น โบท็อกซ์, ฉีดสลายไขมัน, HIFU): ผลข้างเคียงมักไม่รุนแรงและเป็นเพียงชั่วคราว เช่น อาการบวม ช้ำ แดง หรือชาในบริเวณที่ทำ บางกรณีอาจเกิดความไม่สมมาตรบนใบหน้า, อาการเมื่อยล้าจากการเคี้ยว, หรือยิ้มเบี้ยวชั่วคราวได้

ความเข้าใจผิดที่พบบ่อยเกี่ยวกับการลดแก้มด้วยตัวเอง

ความเข้าใจผิดที่พบบ่อยที่สุดคือความเชื่อที่ว่าคุณสามารถลดไขมันเฉพาะจุดบนใบหน้าได้ ซึ่งในความเป็นจริง การลดไขมันที่แก้มจำเป็นต้องมาจากการลดน้ำหนักโดยรวมของร่างกาย ความเข้าใจผิดอื่นๆ เกี่ยวกับการลดแก้มด้วยตัวเอง ได้แก่

  • การออกกำลังกายใบหน้า: ช่วยกระชับกล้ามเนื้อ แต่ไม่ได้เผาผลาญไขมันที่แก้มโดยตรง
  • ครีมทาหน้า: ไม่มีผลิตภัณฑ์ทาภายนอกใดที่ได้รับการพิสูจน์ว่าสามารถละลายไขมันได้ อย่างดีที่สุดอาจช่วยลดอาการบวมน้ำหรือกระชับผิวได้ชั่วคราว
  • การเคี้ยวมากเกินไป: การเคี้ยวหมากฝรั่งเป็นเวลานานๆ อาจทำให้กล้ามเนื้อกรามใหญ่ขึ้น ส่งผลให้ใบหน้าดูกว้างกว่าเดิม
  • เข็มขัดรัดหน้า: อาจช่วยขับน้ำออกไปชั่วคราว แต่ไม่ส่งผลให้เกิดการลดไขมันหรือการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอย่างถาวร

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการลดแก้ม (FAQ)

แก้มใหญ่มีสาเหตุมาจากอะไรได้บ้าง?

สาเหตุหลักที่ทำให้แก้มใหญ่เกิดจากไขมันสะสม พันธุกรรม กล้ามเนื้อกรามที่ขยายใหญ่ และการบวมน้ำ โดยแต่ละสาเหตุมีรายละเอียดดังนี้

  • ไขมันสะสม: การมีน้ำหนักตัวเกินหรือรับประทานอาหารที่มีไขมันและคาร์โบไฮเดรตสูง ทำให้เกิดการสะสมไขมันบนใบหน้า
  • พันธุกรรมและโครงสร้างกระดูก: DNA เป็นตัวกำหนดการกระจายไขมันบนใบหน้า ทำให้บางคนมีไขมันที่แก้มมากกว่าคนอื่นโดยธรรมชาติ
  • กล้ามเนื้อกรามใหญ่: กล้ามเนื้อที่ใช้ในการเคี้ยว (Masseter muscle) ที่มีขนาดใหญ่จะทำให้แนวกรามดูกว้างขึ้น ส่งผลให้แก้มดูใหญ่ตามไปด้วย
  • การบวมน้ำ: การรับประทานอาหารที่มีโซเดียมสูงทำให้ร่างกายกักเก็บน้ำไว้ ส่งผลให้ใบหน้าและแก้มบวมขึ้นชั่วคราว

ควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทใดเพื่อช่วยลดแก้ม?

เพื่อช่วยลดแก้ม ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีโซเดียมสูง, น้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตขัดสี, ไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์, และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การจำกัดอาหารเหล่านี้สามารถช่วยลดการสะสมไขมันและการบวมน้ำบนใบหน้าได้

  • อาหารโซเดียมสูง: เช่น ขนมขบเคี้ยวและอาหารแปรรูป ทำให้เกิดการกักเก็บน้ำซึ่งทำให้หน้าบวม
  • น้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตขัดสี: ทำให้เกิดการสะสมไขมันทั่วร่างกายรวมถึงใบหน้า
  • ไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์: เช่น ของทอดและอาหารฟาสต์ฟู้ด เพิ่มแคลอรีส่วนเกินและการสะสมไขมัน
  • เครื่องดื่มแอลกอฮอล์: มีแคลอรีสูงและทำให้ร่างกายขาดน้ำซึ่งนำไปสู่การบวมน้ำ

การบริหารใบหน้าเพื่อลดแก้มได้ผลจริงหรือไม่?

การบริหารใบหน้าสามารถช่วยให้กล้ามเนื้อกระชับและใบหน้าดูยกขึ้นเล็กน้อย แต่ไม่ได้ช่วยเผาผลาญไขมันที่แก้มโดยตรง การออกกำลังกายใบหน้าจะเน้นไปที่การสร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อ ซึ่งอาจช่วยลดความหย่อนคล้อยและทำให้ใบหน้าดูคมชัดขึ้น แต่หากต้องการลดไขมันที่แก้มจำเป็นต้องลดน้ำหนักโดยรวมของร่างกาย

วิธีลดแก้มแบบธรรมชาติใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะเห็นผล?

โดยทั่วไปแล้ว จะเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยบนใบหน้าได้ภายใน 2-3 สัปดาห์ และจะเห็นผลชัดเจนขึ้นในช่วง 1-2 เดือนแรก ของการควบคุมอาหารและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

ใบหน้ามักเป็นส่วนแรกๆ ที่จะดูเล็กลงเมื่อน้ำหนักลด โดยการลดน้ำหนักเพียง 2-5 กิโลกรัมก็สามารถทำให้แก้มดูบวมน้อยลงได้ นอกจากนี้ การลดอาหารเค็มและแอลกอฮอล์สามารถช่วยลดอาการบวมบนใบหน้าได้เร็วขึ้นภายในไม่กี่วัน

การลดแก้มกับการลดเหนียงเหมือนหรือต่างกันอย่างไร?

การลดแก้มกับการลดเหนียงนั้นแตกต่างกันที่บริเวณที่ทำการรักษาและวิธีการที่ใช้ โดยการลดแก้มจะมุ่งเน้นไปที่ไขมันบริเวณช่วงกลางถึงล่างของใบหน้า (กระพุ้งแก้ม) ในขณะที่การลดเหนียงจะจัดการกับไขมันที่สะสมอยู่ใต้คางโดยเฉพาะ ด้วยเหตุนี้ วิธีการรักษาจึงแตกต่างกัน เช่น การผ่าตัดไขมันกระพุ้งแก้มเพื่อลดแก้ม และการฉีดสลายไขมันหรือดูดไขมันเพื่อลดเหนียง

หัตถการลดแก้มเจ็บไหม และต้องพักฟื้นนานหรือไม่?

ระดับความเจ็บและระยะเวลาพักฟื้นของหัตถการลดแก้มนั้น ขึ้นอยู่กับประเภทของหัตถการที่เลือกทำ โดยทั่วไปแล้ว วิธีที่ไม่ใช่การผ่าตัดจะเจ็บน้อยและไม่ต้องพักฟื้นนาน ในขณะที่วิธีผ่าตัดจะเจ็บกว่าและต้องใช้เวลาพักฟื้นนานขึ้น

  • กลุ่มที่ไม่ใช่การผ่าตัด (เช่น โบท็อกซ์, ฉีดสลายไขมัน, HIFU):
  • ความเจ็บปวด: อยู่ในระดับน้อยถึงปานกลาง เช่น โบท็อกซ์จะรู้สึกเหมือนถูกเข็มจิ้มเล็กน้อย ส่วนการฉีดสลายไขมันอาจมีอาการแสบและบวมหลังทำ
  • การพักฟื้น: แทบไม่ต้องพักฟื้นหรือใช้เวลาพักฟื้นสั้นมาก สามารถกลับไปทำกิจกรรมปกติได้ทันที แต่อาจมีอาการบวมหรือรอยแดงเล็กน้อยซึ่งจะหายไปเองในเวลาไม่กี่วัน
  • กลุ่มที่ต้องผ่าตัด (เช่น ผ่าตัดไขมันกระพุ้งแก้ม, ดูดไขมันใบหน้า):
  • ความเจ็บปวด: ระหว่างทำจะไม่เจ็บเนื่องจากมีการใช้ยาชาหรือยาสลบ หลังผ่าตัดจะมีอาการปวดตึงซึ่งสามารถควบคุมได้ด้วยยาแก้ปวด
  • การพักฟื้น: การผ่าตัดไขมันกระพุ้งแก้มต้องพักฟื้นประมาณ 5-7 วัน ส่วนการดูดไขมันอาจใช้เวลาพักฟื้นนานขึ้นประมาณ 1-2 สัปดาห์ เพื่อให้อาการบวมและรอยช้ำลดลง

References:

  1. Johns Hopkins Medicine. (n.d.). Buccal Fat Removal – Cheek Reduction Surgery Information. hopkinsmedicine.org
  2. Fox Pharma. (n.d.). Buccal Fat Removal vs. Masseter Botox – Benefits, Considerations & Differences. foxpharma.com
  3. Fletcher, J. (n.d.). How to lose face fat: 8 effective tips. Medical News Today. medicalnewstoday.com
  4. V Medical Aesthetics & Laser Clinic. (n.d.). Causes of Fat Cheeks and Non-Surgical Fat Cheeks Removal with HIFU. vaestheticsclinic.com
  5. American Board of Cosmetic Surgery. (n.d.). Tips for Choosing a Cosmetic Surgeon. americanboardcosmeticsurgery.org
  6. Maman, D. Y. (n.d.). What questions should you ask your plastic surgeon during the consultation? American Society of Plastic Surgeons. plasticsurgery.org
  7. Advanced Dermatology. (n.d.). Kybella Injections for Double Chin Removal. advdermatology.com

แนะแนวเรื่อง

Previous Previous
10 วิธีลดริ้วรอยหน้าผาก ให้ผิวกลับมาฟื้นฟูให้ดียิ่งขึ้น
NextContinue
หลังฉีดฟิลเลอร์ ข้อห้าม-ข้อปฏิบัติ ดูแลอย่างไรให้ถูกต้อง

สาขาพรีวาโต คลินิก

    สาขาอโศก ตั้งอยู่ที่ ชั้น 2 อาคารมิดทาวน์
    Phone: 02-258-4050 , 081-841-5075
    สาขาสีลม ตั้งอยู่ที่ ชั้น 1 อาคารซี.พี.ทาวเวอร์
    Phone: 02-780-2011 , 098-272-5244
    สาขาราชพฤกษ์ ตั้งอยู่ที่ ชั้น 2 ศูนย์การค้า เดอะคริสตัล เอสบี (ด้านบนร้านสตาร์บัคส์)
    Phone: 02-102-2778 , 098-272-5244

ติดต่อเรา

    Facebook: Privato Clinic
    Messenger: Privato Clinic
    Instagram: privatoclinic
    Email: privatoclinic@gmail.com
    Line: @privatoclinic

Copyright© 2022-2024. All Rights Reserved

Scroll to top
  • หน้าหลัก
  • เกี่ยวกับพรีวาโต
  • บริการทั้งหมด
    • ชะลอวัย
    • ยกกระชับผิว
      • XERF
      • Potenza
      • Sofwave
      • Ulthera
      • Thermage-FLX
    • รักษาสิว
    • เลเซอร์
    • โปรแกรมฉีด
    • บำรุงผิว
  • บทความ
    • สิว
    • ยกกระชับ
    • ดูแลผิว
    • ทำเลเซอร์
  • ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว
  • โปรโมชั่น
  • ผลลัพธ์การรักษา
  • วิดีโอรีวิวจากเคสจริง
  • สาขาของเรา
  • ไทย
    • ไทย
    • English
    • 中文 (中国)
  • ปรึกษาแพทย์
Facebook Instagram YouTube