หน้าตอบ แก้มตอบ แก้ยังไงให้อิ่มฟู วิธีไหนดีที่สุด 2568

หน้าตอบ คือลักษณะใบหน้าที่ซูบโทรมจากการสูญเสียปริมาตรไขมันและคอลลาเจน ซึ่งแก้ไขได้หลายวิธี เช่น การฉีดฟิลเลอร์เพื่อเติมเต็มส่วนที่ยุบตัว หรือการร้อยไหม PLLA ที่ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและให้ผลลัพธ์ยาวนานถึง 2 ปีเพื่อคืนความอิ่มฟูให้ใบหน้า
หน้าตอบคืออะไร และมีลักษณะอย่างไร
หน้าตอบคือลักษณะใบหน้าที่ดูซูบหรือโทรมลง ซึ่งเกิดจากการสูญเสียไขมันและโครงสร้างกระดูก ทำให้ใบหน้าขาดความอิ่มฟูและดูมีอายุมากขึ้น
ลักษณะของอาการหน้าตอบที่สังเกตได้ชัดเจน ได้แก่:
- แก้มตอบหรือยุบตัวลง
- ขมับบุ๋มหรือตอบ
- ใต้ตาลึกโหล
- โหนกแก้มเด่นชัดขึ้น
- ใบหน้าโดยรวมดูเหนื่อยล้า
สาเหตุหลักที่ทำให้ใบหน้าตอบและแก้มยุบลง
โครงสร้างกระดูกและพันธุกรรม
พันธุกรรมเป็นปัจจัยหลักที่กำหนดโครงสร้างกระดูกของแต่ละบุคคล ซึ่งรวมถึงรูปทรง ขนาด และความหนาแน่นของกระดูกทั่วร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงสร้างบนใบหน้า เช่น รูปทรงของกะโหลกศีรษะ ความกว้างของแนวกราม และตำแหน่งของโหนกแก้ม ล้วนถูกกำหนดโดยยีนที่ได้รับมาจากบรรพบุรุษ
เมื่ออายุมากขึ้น โครงสร้างกระดูกที่ถูกกำหนดโดยพันธุกรรมนี้จะเกิดการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติ เช่น การกร่อนหรือการยุบตัวของกระดูก ซึ่งส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของรูปหน้าโดยรวม
การเปลี่ยนแปลงของไขมันและคอลลาเจนตามวัย
เมื่ออายุมากขึ้น ปริมาณไขมันบนใบหน้าจะลดลงและเคลื่อนตัวต่ำลง ในขณะที่คอลลาเจนในผิวจะเสื่อมสลายและผลิตได้น้อยลง ซึ่งส่งผลให้ผิวหนังหย่อนคล้อยและเกิดริ้วรอย
- ไขมัน (Fat): ไขมันที่เคยอยู่บริเวณโหนกแก้มและขมับจะฝ่อตัวและเคลื่อนลงมาตามแรงโน้มถ่วง ทำให้แก้มตอบ ใต้ตาโหล และเกิดร่องแก้มลึกขึ้น รวมถึงเกิดเป็นถุงไขมันบริเวณกราม (Jowls)
- คอลลาเจน (Collagen): การผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินที่ลดลง ทำให้ผิวสูญเสียความยืดหยุ่นและความกระชับ ส่งผลให้ผิวบางลงและเกิดริ้วรอยได้ง่ายขึ้น
การลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วและพฤติกรรมการใช้ชีวิต
การลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วและพฤติกรรมการใช้ชีวิตบางอย่าง เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัยและหย่อนคล้อย เนื่องจากการสูญเสียปริมาตรไขมันบนใบหน้าและการทำลายโครงสร้างผิว
การลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วส่งผลให้ไขมันบนใบหน้า (Facial Fat Pads) ซึ่งทำหน้าที่พยุงผิวหายไป ทำให้ผิวหนังขาดตัวรองรับ ส่งผลให้แก้มตอบ ใต้ตาโหล และเกิดความหย่อนคล้อยหรือริ้วรอยที่ชัดเจนขึ้น
นอกจากนี้ พฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เร่งให้ใบหน้าแก่ก่อนวัย ได้แก่
- การสัมผัสแสงแดด: รังสียูวีทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินในผิว
- การสูบบุหรี่: ลดการไหลเวียนของเลือดและนำสารพิษมาสู่ผิว
- โภชนาการที่ไม่ดี: การขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อการซ่อมแซมผิว
- ความเครียดและการพักผ่อนไม่เพียงพอ: ส่งผลต่อกระบวนการฟื้นฟูของร่างกายและผิวพรรณ
ผลข้างเคียงจากการจัดฟันหรือการถอนฟัน
การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างใบหน้า ซึ่งอาจทำให้แก้มตอบหรือดูซูบลง คือผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้จากการจัดฟันหรือการถอนฟัน โดยเฉพาะในผู้ใหญ่ การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดจากการที่ฟันซึ่งเคยเป็นโครงสร้างรองรับกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อบริเวณแก้มและริมฝีปากได้ถูกเคลื่อนย้ายหรือถอนออกไป ทำให้ใบหน้าส่วนกลางและส่วนล่างดูยุบตัวลงได้
ใครบ้างที่เหมาะกับการรักษาปัญหาหน้าตอบ
ผู้ที่เหมาะกับการรักษาปัญหาหน้าตอบ คือผู้ที่สูญเสียไขมันบนใบหน้าจากวัยที่เพิ่มขึ้น, ผู้ที่น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว, และผู้ที่มีโครงสร้างใบหน้าตอบมาแต่กำเนิด
โดยทั่วไปแล้ว ผู้ที่เหมาะกับการรักษาสามารถแบ่งได้เป็นกลุ่มต่างๆ ดังนี้
- ผู้ที่ใบหน้าตอบจากวัยที่เพิ่มขึ้น: เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายจะสูญเสียคอลลาเจน ไขมัน และมวลกระดูก ทำให้บริเวณแก้มและขมับดูยุบลง
- ผู้ที่น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว: การลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วทำให้ไขมันบนใบหน้าหายไป ส่งผลให้ใบหน้าดูซูบตอบและโทรม
- ผู้ที่มีโครงหน้าตอบโดยกำเนิด: บางคนมีโครงสร้างกระดูกหรือมีไขมันบนใบหน้าน้อยมาตั้งแต่เกิด ทำให้ใบหน้าดูตอบกว่าปกติ
- ผู้ที่มีสุขภาพโดยรวมดี: เพื่อให้พร้อมรับการรักษาและลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้
เปรียบเทียบ 4 วิธีทางการแพทย์เพื่อเติมเต็มใบหน้า
การฉีดฟิลเลอร์ (Filler Injections)
การฉีดฟิลเลอร์คือ การฉีดสารเติมเต็มประเภทกรดไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid) เข้าสู่ใต้ชั้นผิวหนัง เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาริ้วรอยร่องลึก, เติมเต็มปริมาตรส่วนที่ยุบตัวลงตามวัย เช่น ขมับ ใต้ตา ร่องแก้ม และปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนที่สวยงามขึ้น เช่น การเสริมคางหรือปรับรูปปาก
สารไฮยาลูรอนิกเป็นสารที่ร่างกายสามารถสร้างขึ้นได้เองตามธรรมชาติ มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำ จึงช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นให้แก่ผิว ทำให้ผิวบริเวณที่ฉีดดูเต่งตึงและอ่อนเยาว์ขึ้น ผลลัพธ์สามารถเห็นได้ทันทีหลังการรักษา
การฉีดไขมันตัวเอง (Autologous Fat Grafting)
การฉีดไขมันตัวเอง (Autologous Fat Grafting) คือการนำเซลล์ไขมันจากส่วนหนึ่งของร่างกายตนเอง มาผ่านกระบวนการคัดแยก แล้วฉีดกลับเข้าไปยังบริเวณที่ต้องการแก้ไขเพื่อเพิ่มปริมาตรและปรับรูปทรง
โดยทั่วไป แพทย์จะดูดไขมันส่วนเกินจากบริเวณหน้าท้อง ต้นขา หรือสะโพก จากนั้นนำไขมันที่ได้ไปปั่นคัดแยกเพื่อให้ได้เซลล์ไขมันที่มีคุณภาพ แล้วจึงนำไปฉีดเติมเต็มในส่วนที่บกพร่อง เช่น ร่องแก้ม ขมับ ใต้ตา หรือเพื่อเพิ่มขนาดหน้าอกและสะโพก ข้อดีของวิธีนี้คือมีความปลอดภัยสูงเพราะเป็นเซลล์ของตัวเอง ทำให้ลดความเสี่ยงต่อการแพ้และให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
การร้อยไหม (Thread Lifting)
การร้อยไหมคือหัตถการเสริมความงามแบบแผลเล็ก ที่ใช้ไหมละลายสอดเข้าไปใต้ชั้นผิวหนังเพื่อยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยให้เต่งตึงขึ้น การร้อยไหมให้ผลลัพธ์ 2 ประการ คือ การยกกระชับผิวได้ทันทีจากแรงดึงของเส้นไหม และการกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินขึ้นมาใหม่รอบแนวไหมในระยะยาว ซึ่งช่วยฟื้นฟูโครงสร้างผิวให้แข็งแรงและดูอ่อนเยาว์ยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่
การใช้เครื่องมือกลุ่มพลังงาน (Energy-Based Devices)
เครื่องมือกลุ่มพลังงาน (Energy-Based Devices) คือ เครื่องมือทางการแพทย์ที่ใช้พลังงานรูปแบบต่างๆ ในการรักษาและฟื้นฟูสภาพผิว
พลังงานที่ใช้มีหลายชนิด เช่น เลเซอร์, คลื่นวิทยุ (RF), และคลื่นอัลตราซาวนด์ความเข้มข้นสูง (HIFU) โดยเครื่องมือจะส่งพลังงานลงไปใต้ชั้นผิวเพื่อเปลี่ยนเป็นความร้อน ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวกระชับ ลดเลือนริ้วรอย และปรับปรุงคุณภาพผิวโดยรวม
ปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจรักษา
ผลลัพธ์ที่คาดหวังและระยะเวลาคงอยู่ของแต่ละวิธี
ผลลัพธ์และระยะเวลาของแต่ละวิธีจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับประเภทของการรักษา สภาพร่างกาย และการดูแลตัวเองของแต่ละบุคคล โดยมีรายละเอียดดังนี้
- การร้อยไหม (Thread Lifts):
- ผลลัพธ์: ช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ใบหน้าดูเต่งตึงและอ่อนเยาว์ขึ้น
- ระยะเวลา:
- ไหม PDO: อยู่ได้ประมาณ 6 เดือน
- ไหม PLLA: อยู่ได้นานถึง 2 ปี
- ไหม PCL: อยู่ได้นานกว่า 2 ปี
- การผ่าตัดหนังตาตก (Ptosis Surgery):
- ผลลัพธ์: แก้ไขภาวะเปลือกตาตก ทำให้ดวงตาดูโต สดใส และดูอ่อนเยาว์ขึ้น
- ระยะเวลา: ผลลัพธ์ค่อนข้างถาวร แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามกระบวนการชราตามธรรมชาติ
- การจัดฟันเพื่อแก้ไขโครงหน้า (Orthodontic Treatment):
- ผลลัพธ์: ช่วยปรับปรุงโครงสร้างใบหน้าและการสบฟัน ทำให้ใบหน้าโดยรวมดูสมส่วนขึ้น
- ระยะเวลา: ผลลัพธ์ถาวร หากปฏิบัติตามคำแนะนำของทันตแพทย์ในการใส่เครื่องมือคงสภาพฟัน (Retainer)
- ผลข้างเคียงจากการใช้ยา Semaglutide (Ozempic Face):
- ผลลัพธ์: การลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วอาจทำให้ไขมันบนใบหน้าลดลง ส่งผลให้ใบหน้าดูซูบตอบและแก่กว่าวัย
- ระยะเวลา: ขึ้นอยู่กับการจัดการน้ำหนักหลังจากนั้น
การพักฟื้นและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
โดยทั่วไปแล้ว การพักฟื้นจะใช้เวลาไม่นาน และผลข้างเคียงที่พบบ่อยคืออาการบวม ช้ำ หรือปวดเล็กน้อย ซึ่งจะค่อยๆ หายไปเองภายใน 1-2 สัปดาห์
การพักฟื้น
โดยส่วนใหญ่ ผู้ป่วยสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้เกือบจะในทันที แต่ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เช่น การหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องออกแรงมาก การนวดหรือสัมผัสใบหน้าแรงๆ และการสัมผัสกับความร้อนหรือแสงแดดจัดในช่วงแรก
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
- ผลข้างเคียงทั่วไป (พบได้บ่อย):
- อาการบวม แดง หรือรอยช้ำบริเวณที่ทำการรักษา
- อาการปวดหรือรู้สึกตึงเล็กน้อย
- อาจมีอาการชาชั่วคราว
- ผลข้างเคียงที่พบได้น้อย:
- การติดเชื้อ
- ความไม่สมมาตรของใบหน้า
- ผลลัพธ์ไม่เป็นที่น่าพอใจ
- ความเสียหายต่อเส้นประสาท (พบได้ยากมาก)
งบประมาณและกรอบค่าใช้จ่ายในการรักษา
งบประมาณและค่าใช้จ่ายในการรักษาขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทำให้ไม่สามารถระบุเป็นตัวเลขที่แน่นอนได้ โดยปัจจัยหลักที่มีผลต่อค่าใช้จ่าย ได้แก่
- ประเภทและเทคนิคการรักษา: การรักษาแต่ละแบบ เช่น การผ่าตัด การใช้เลเซอร์ หรือการฉีดสารต่างๆ มีค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกัน
- ความซับซ้อนของเคส: สภาพปัญหาและความต้องการเฉพาะบุคคลส่งผลโดยตรงต่อแผนการรักษาและค่าใช้จ่าย
- สถานพยาบาลและแพทย์ผู้ทำการรักษา: ค่าบริการจะแตกต่างกันไปตามชื่อเสียง ประสบการณ์ของแพทย์ และมาตรฐานของคลินิกหรือโรงพยาบาล
- วัสดุและอุปกรณ์ที่ใช้: คุณภาพและประเภทของวัสดุทางการแพทย์ที่เลือกใช้มีผลต่อราคารวม
- จำนวนครั้งที่ต้องทำการรักษา: การรักษาบางประเภทอาจต้องทำต่อเนื่องหลายครั้งเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ
การเลือกแพทย์และสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน
การเลือกแพทย์และสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน ควรเริ่มต้นจากการตรวจสอบใบอนุญาตประกอบวิชาชีพของแพทย์และใบอนุญาตประกอบกิจการของสถานพยาบาล เพื่อให้มั่นใจว่าถูกต้องตามกฎหมายและมีความน่าเชื่อถือ
คุณสามารถพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เพิ่มเติมได้ดังนี้
- ตรวจสอบข้อมูลแพทย์ เช็กเลขที่ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ (เลข ว.) ผ่านเว็บไซต์ของแพทยสภา และควรเลือกแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางในหัตถการที่ต้องการทำ
- ตรวจสอบมาตรฐานสถานพยาบาล ต้องมีใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาลที่ออกโดยกระทรวงสาธารณสุขแสดงไว้อย่างชัดเจน รวมถึงมีความสะอาด ปลอดภัย และใช้เครื่องมือหรือผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรอง
- เข้ารับคำปรึกษา แพทย์ควรให้ข้อมูลเกี่ยวกับแผนการรักษา ประเมินความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างละเอียดและตรงไปตรงมา
- ความโปร่งใสของค่าใช้จ่าย ควรมีการแจ้งรายละเอียดค่าใช้จ่ายทั้งหมดอย่างชัดเจนก่อนตัดสินใจเข้ารับบริการ
- รีวิวและความน่าเชื่อถือ ศึกษาข้อมูลและรีวิวจากผู้ที่เคยใช้บริการจริงจากแหล่งข้อมูลที่หลากหลายเพื่อประกอบการตัดสินใจ
ความเข้าใจผิดและข้อควรระวังเกี่ยวกับการแก้หน้าตอบ
ความเข้าใจผิดที่พบบ่อยคือการคิดว่าการแก้หน้าตอบทำได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์เพียงอย่างเดียว และข้อควรระวังที่สำคัญคือการเลือกแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์ซึ่งอาจทำให้ผลลัพธ์ไม่เป็นธรรมชาติ การรักษาที่เหมาะสมต้องอาศัยการประเมินสาเหตุที่แท้จริงของปัญหา ซึ่งอาจเกิดจากการยุบตัวของกระดูก การสลายของไขมัน หรือแม้แต่โครงสร้างฟัน
ความเข้าใจผิดที่พบบ่อย
- ฟิลเลอร์คือทางแก้เดียว: ความจริงแล้วสาเหตุของหน้าตอบมีหลายอย่าง การรักษาจึงอาจต้องใช้วิธีอื่นร่วมด้วย เช่น การร้อยไหมเพื่อกระตุ้นคอลลาเจน การฉีดไขมันตัวเอง หรือการจัดฟันเพื่อแก้ปัญหาโครงสร้าง
- ยิ่งเติมเยอะยิ่งดี: การเติมในปริมาณที่มากเกินไปอาจทำให้ใบหน้าดูบวมผิดธรรมชาติ เป้าหมายคือการคืนวอลลุ่มให้ดูเป็นธรรมชาติ ไม่ใช่การทำให้หน้าอูม
- ผลลัพธ์จะอยู่ถาวร: การรักษาด้วยฟิลเลอร์ส่วนใหญ่ให้ผลลัพธ์ชั่วคราวและต้องมีการดูแลหรือเติมซ้ำในอนาคต
ข้อควรระวัง
- เลือกแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ: ควรเลือกแพทย์ที่มีความรู้ด้านกายวิภาคบนใบหน้าและมีประสบการณ์สูง เพื่อให้สามารถวิเคราะห์สาเหตุและเลือกเทคนิคการรักษาที่ปลอดภัยและเหมาะสม
- ทำความเข้าใจสาเหตุที่แท้จริง: การประเมินโครงสร้างใบหน้าอย่างละเอียดเป็นสิ่งสำคัญ เพราะหน้าตอบจากวัยที่กระดูกยุบตัวจะรักษาต่างจากหน้าตอบที่เกิดจากการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว
- ตั้งความคาดหวังตามความเป็นจริง: ควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับผลลัพธ์ที่ต้องการและเข้าใจข้อจำกัดของแต่ละวิธี เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการแก้ปัญหาหน้าตอบ
จัดฟันทำให้หน้าตอบจริงหรือไม่
การจัดฟันไม่ได้เป็นสาเหตุโดยตรงที่ทำให้หน้าตอบ แต่เป็นผลมาจากปัจจัยอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างการรักษา ซึ่งอาจทำให้ใบหน้าดูตอบลงได้ในบางราย
สาเหตุส่วนใหญ่ที่ทำให้ใบหน้าดูตอบลงระหว่างจัดฟัน ได้แก่
- การเปลี่ยนแปลงการบดเคี้ยว: ความเจ็บปวดหรือไม่สบายปากในช่วงแรกอาจทำให้ทานอาหารได้น้อยลง ส่งผลให้น้ำหนักลดและใบหน้าดูซูบลง
- กล้ามเนื้อที่เปลี่ยนแปลง: การทำงานของกล้ามเนื้อที่ใช้บดเคี้ยวลดลง อาจทำให้ขนาดของกล้ามเนื้อบริเวณกรามเล็กลงชั่วคราว
- การถอนฟัน: ในกรณีที่ต้องมีการถอนฟันเพื่อหาพื้นที่ในการเรียงฟัน อาจส่งผลต่อโครงสร้างที่รองรับแก้ม ทำให้แก้มดูตอบลงได้
- การเจริญเติบโตตามวัย: การจัดฟันมักทำในช่วงวัยรุ่น ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ไขมันบนใบหน้า (Baby Fat) ลดลงตามธรรมชาติอยู่แล้ว ทำให้ใบหน้าดูเรียวขึ้นพอดี
หน้าตอบในผู้ชายเกิดจากสาเหตุเดียวกับผู้หญิงหรือไม่
หน้าตอบในผู้ชายเกิดจากสาเหตุหลักเดียวกันกับผู้หญิง ซึ่งเป็นผลมาจากกระบวนการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างใบหน้าตามวัยและปัจจัยภายนอก
สาเหตุหลักที่พบได้ทั้งในผู้ชายและผู้หญิง ได้แก่:
- การสูญเสียไขมันใต้ชั้นผิว: เมื่ออายุมากขึ้น ไขมันที่เคยทำให้ใบหน้าดูอิ่มเอิบจะค่อยๆ ลดลง โดยเฉพาะบริเวณแก้มและขมับ
- การสลายตัวของกระดูก: โครงสร้างกระดูกบนใบหน้าจะมีการเปลี่ยนแปลงและสลายตัวไปตามวัย ทำให้ผิวหนังขาดการรองรับและดูยุบตัวลง
- การผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินลดลง: ผิวหนังจะสูญเสียความยืดหยุ่นและความกระชับ ทำให้เกิดความหย่อนคล้อย
- ปัจจัยภายนอก: การลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว การเจ็บป่วย หรือไลฟ์สไตล์บางอย่างก็เป็นสาเหตุที่ทำให้หน้าตอบได้เช่นกัน
การฉีดฟิลเลอร์หรือไขมันเพื่อแก้หน้าตอบเจ็บไหม
การฉีดฟิลเลอร์หรือไขมันเพื่อแก้หน้าตอบอาจทำให้รู้สึกเจ็บได้บ้าง แต่เป็นความเจ็บในระดับที่สามารถทนได้ โดยทั่วไปแพทย์จะใช้ยาชาเฉพาะที่ในรูปแบบทาหรือแบบฉีดร่วมกับการประคบเย็น เพื่อช่วยบรรเทาความเจ็บปวดและทำให้รู้สึกสบายขึ้นในระหว่างการทำหัตถการ
แก้หน้าตอบด้วยวิธีธรรมชาติได้ผลจริงหรือไม่
การแก้หน้าตอบด้วยวิธีธรรมชาติ อาจได้ผลเพียงเล็กน้อยและไม่สามารถแก้ไขสาเหตุหลักที่เกิดจากการสูญเสียปริมาตรไขมันและกระดูกบนใบหน้าได้
สาเหตุหลักของใบหน้าที่ตอบหรือซูบผอมมักเกิดจากการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างตามวัย การลดลงของน้ำหนักอย่างรวดเร็ว หรือพันธุกรรม ซึ่งทำให้ไขมันชั้นลึกและกระดูกยุบตัวลง วิธีธรรมชาติ เช่น การออกกำลังกายใบหน้าหรือการนวด อาจช่วยเรื่องการไหลเวียนโลหิตและกล้ามเนื้อได้บ้าง แต่ไม่สามารถสร้างปริมาตรไขมันหรือกระดูกขึ้นมาทดแทนได้
หากใบหน้าตอบเกิดจากความผอม การเพิ่มน้ำหนักอย่างถูกวิธีอาจช่วยให้ใบหน้าดูอิ่มขึ้นได้ แต่สำหรับการแก้ไขปัญหาการสูญเสียปริมาตรอย่างชัดเจน การรักษาทางการแพทย์ เช่น การฉีดฟิลเลอร์ หรือการปลูกถ่ายไขมัน จะเป็นการแก้ปัญหาที่ตรงจุดและเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนกว่า
ต้องเตรียมตัวอย่างไรก่อนทำหัตถการแก้หน้าตอบ
ก่อนทำหัตถการแก้หน้าตอบ ควรเริ่มต้นด้วยการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินโครงสร้างใบหน้าและวางแผนการรักษา รวมถึงปฏิบัติตามคำแนะนำทั่วไปเพื่อเตรียมความพร้อม
ข้อควรปฏิบัติเบื้องต้นก่อนทำหัตถการ:
- แจ้งประวัติสุขภาพ: แจ้งแพทย์เกี่ยวกับโรคประจำตัว ประวัติการแพ้ยา และยาหรืออาหารเสริมที่รับประทานเป็นประจำ
- งดยาและอาหารเสริม: หยุดรับประทานยาต้านการอักเสบ (NSAIDs) เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน และอาหารเสริมที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น วิตามินอี น้ำมันปลา อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ก่อนทำหัตถการเพื่อลดความเสี่ยงของอาการบวมช้ำ
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่: ควรงดอย่างน้อย 24-48 ชั่วโมงก่อนการรักษา เพราะอาจส่งผลต่ออาการบวมและกระบวนการฟื้นฟู
- พักผ่อนให้เพียงพอ: เตรียมร่างกายให้พร้อมโดยการนอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มที่
References:
- National Institutes of Health, 2025, nih.gov
- ResearchGate, 2025, researchgate.net
- MDPI, 2025, mdpi.com
- Centreforsurgery, 2025, centreforsurgery.com
- Snowyhydrosouthcare, 2025, snowyhydrosouthcare.com
- Thieme-connect, 2025, thieme-connect.de
- Ekolhospitals, 2025, ekolhospitals.com
- Perfecteyesltd, 2025, perfecteyesltd.com
