Skip to content

TEL : 081-841-5075, 02-258-4050

Facebook Instagram YouTube
Privato Clinic – Innovation Of Beauty  |  Bangkok
  • หน้าหลัก
  • เกี่ยวกับพรีวาโต
  • บริการทั้งหมดExpand
    • ชะลอวัย
    • ยกกระชับผิวExpand
      • XERF
      • Potenza
      • Sofwave
      • Ulthera
      • Thermage-FLX
    • รักษาสิว
    • เลเซอร์
    • โปรแกรมฉีด
    • บำรุงผิว
  • บทความExpand
    • สิว
    • ยกกระชับ
    • ดูแลผิว
    • ทำเลเซอร์
  • ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว
  • โปรโมชั่น
  • ผลลัพธ์การรักษา
  • วิดีโอรีวิวจากเคสจริง
  • สาขาของเรา
  • ไทยExpand
    • ไทย
    • English
    • 中文 (中国)
  • ปรึกษาแพทย์
Privato Clinic – Innovation Of Beauty  |  Bangkok
Consult a Doctor
Lifting

อยากหน้าเด็ก ต้องทำอย่างไร รวมวิธีธรรมชาติและหัตถการยอดนิยม

Byadmin พฤศจิกายน 18, 2025
By แพทย์หญิงนัชชนก หุ่นวิจิตร Updated on พฤศจิกายน 18, 2025
✦ Medically reviewed by  นายแพทย์เลอพงษ์ กรุดเงิน
อยากหน้าเด็ก ต้องทำอย่างไร รวมวิธีธรรมชาติและหัตถการยอดนิยม 2568

หากคุณอยากหน้าเด็ก วิธีการที่สำคัญที่สุดคือการปกป้องผิวจากแสงแดดซึ่งเป็นสาเหตุหลักของริ้วรอยที่มองเห็นได้ถึง 80-90% และพิจารณาทำหัตถการทางการแพทย์เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและฟื้นฟูความอ่อนเยาว์จากโครงสร้างผิว

Table of Contents

Toggle
  • เช็กสัญญาณและสาเหตุที่ทำให้ใบหน้าดูมีอายุเกินวัย
  • 5 วิธีพื้นฐานในการดูแลตัวเองให้หน้าดูเด็กกว่าวัย
    • 1. การปกป้องผิวจากแสงแดดและมลภาวะ
    • 2. โภชนาการและอาหารต้านอนุมูลอิสระ
    • 3. การดื่มน้ำให้เพียงพอและนอนหลับอย่างมีคุณภาพ
    • 4. การออกกำลังกายเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต
    • 5. การเลือกใช้สกินแคร์ชะลอวัยอย่างเหมาะสม
  • รวมหัตถการทางการแพทย์ยอดนิยมเพื่อคืนความอ่อนเยาว์
    • กลุ่มสารเติมเต็มและลดเลือนริ้วรอย (Injectables)
    • กลุ่มเครื่องมือพลังงานยกกระชับและฟื้นฟูผิว
    • กลุ่มเลเซอร์และทรีตเมนต์เพื่อปรับปรุงคุณภาพผิว
    • วิธีเลือกหัตถการให้เหมาะกับปัญหาผิวของตัวเอง
  • ก่อนตัดสินใจทำหัตถการ: ปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณา
    • การประเมินสภาพผิวและโครงสร้างใบหน้าโดยแพทย์
    • วิธีเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
    • ผลลัพธ์ที่คาดหวังและความเป็นจริงของการรักษา
    • การเตรียมตัวก่อนและดูแลตัวเองหลังทำหัตถการ
  • ข้อควรระวังและความเชื่อผิดๆ ที่ทำให้หน้าแก่ก่อนวัย
  • คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการทำให้หน้าเด็ก (FAQ)
    • ทำหัตถการหน้าเด็กเจ็บไหม และต้องพักฟื้นนานหรือไม่?
    • ผลลัพธ์ของหัตถการแต่ละประเภทอยู่ได้นานแค่ไหน?
    • ผู้ชายสามารถทำหัตถการเพื่อใบหน้าที่ดูอ่อนเยาว์ได้หรือไม่?
    • ควรเริ่มทำหัตถการชะลอวัยตั้งแต่อายุเท่าไหร่?
    • การใช้ครีมบำรุงสามารถทดแทนหัตถการได้จริงหรือ?
    • หัตถการหน้าเด็กมีความเสี่ยงหรือผลข้างเคียงอะไรบ้าง?
  • References:

เช็กสัญญาณและสาเหตุที่ทำให้ใบหน้าดูมีอายุเกินวัย

สัญญาณหลักของใบหน้าที่ดูมีอายุเกินวัย ได้แก่ ริ้วรอย ความหย่อนคล้อย การสูญเสียปริมาตร และสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ ซึ่งเกิดจากปัจจัยภายในตามพันธุกรรมและการเสื่อมของเซลล์ ควบคู่กับปัจจัยภายนอกที่เกิดจากสภาพแวดล้อม

  • สัญญาณที่มองเห็นได้:
  • ความยืดหยุ่นลดลง: การผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินลดลง ทำให้ผิวหย่อนคล้อย โดยเฉพาะบริเวณแนวกราม
  • สีผิวไม่สม่ำเสมอ: มักเกิดจากจุดด่างดำหรือฝ้าแดด และผิวโดยรวมอาจดูหมองคล้ำหรือหยาบกร้าน
  • สาเหตุหลัก:
  • ปัจจัยภายใน (Intrinsic Aging): เป็นกระบวนการที่เกิดจากพันธุกรรม ทำให้คอลลาเจนลดลงอย่างช้าๆ ผิวบางลง เกิดริ้วรอยเล็กๆ และผิวแห้ง
  • ปัจจัยภายนอก (Extrinsic Aging): เกิดจากสภาพแวดล้อม เช่น รังสียูวี มลภาวะ และการสูบบุหรี่ ซึ่งนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนกว่า เช่น ริ้วรอยร่องลึก การสูญเสียความยืดหยุ่นอย่างมาก และจุดด่างดำ โดยเฉพาะรังสียูวีที่เป็นสาเหตุของความชราบนใบหน้าที่มองเห็นได้ถึง 80-90%

5 วิธีพื้นฐานในการดูแลตัวเองให้หน้าดูเด็กกว่าวัย

1. การปกป้องผิวจากแสงแดดและมลภาวะ

การใช้ครีมกันแดดในชีวิตประจำวันร่วมกับสารต้านอนุมูลอิสระ คือวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการปกป้องผิวจากแสงแดดและมลภาวะ การใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF แบบ broad-spectrum อย่างสม่ำเสมอจะช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยและจุดด่างดำ ซึ่งถือเป็นมาตรการต่อต้านริ้วรอยที่ดีที่สุด นอกจากนี้ การใช้เซรั่มวิตามินซีในตอนเช้าก่อนทาครีมกันแดดจะช่วยเสริมการป้องกันผิวจากรังสียูวีและมลภาวะได้ดียิ่งขึ้น

2. โภชนาการและอาหารต้านอนุมูลอิสระ

สารอาหารและอาหารที่อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระมีบทบาทสำคัญในการปกป้องผิว โดยช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ เสริมสร้างคอลลาเจน และรักษาความชุ่มชื้นของผิว

สารอาหารที่สำคัญต่อสุขภาพผิวมีดังนี้:

  • สารต้านอนุมูลอิสระ: สารประกอบอย่างโพลีฟีนอล (polyphenols) และแคโรทีนอยด์ (carotenoids) ที่พบในอาหารช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระในผิวหนัง
  • วิตามินซี: มีความสำคัญต่อการสังเคราะห์คอลลาเจน พบได้ในผลไม้รสเปรี้ยว ตระกูลเบอร์รี่ และผักใบเขียว
  • โปรตีน: เป็นแหล่งของกรดอะมิโนซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในการสร้างคอลลาเจน
  • น้ำ: การดื่มน้ำให้เพียงพอช่วยรักษาความเต่งตึงและความยืดหยุ่นของผิว ทำให้ผิวดูอิ่มฟูและลดเลือนริ้วรอยเล็กๆ ได้

3. การดื่มน้ำให้เพียงพอและนอนหลับอย่างมีคุณภาพ

การดื่มน้ำให้เพียงพอช่วยรักษาความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นของผิว ในขณะที่การนอนหลับอย่างมีคุณภาพช่วยให้ผิวได้ซ่อมแซมตัวเองจากความเสียหายในแต่ละวัน การดื่มน้ำอย่างสม่ำเสมอช่วยให้ผิวเต่งตึงและเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง ส่วนการนอนหลับ 7-9 ชั่วโมงต่อคืนจะช่วยให้ผิวฟื้นตัวจากภาวะเครียดจากออกซิเดชัน (oxidative stress) ซึ่งช่วยลดการเกิดริ้วรอยใหม่และทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น

4. การออกกำลังกายเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต

การออกกำลังกายช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและความหนาของชั้นผิวหนัง โดยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและกรดไฮยาลูรอนิก

จากการศึกษาในปี 2023 พบว่าทั้งการออกกำลังกายแบบแอโรบิกและแบบมีแรงต้านช่วยเพิ่มปริมาณคอลลาเจนและกรดไฮยาลูรอนิกในผิวได้อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเป็นผลมาจากโกรทแฟคเตอร์ (growth factors) และสารไซโตไคน์ต้านการอักเสบ (anti-inflammatory cytokines) ที่ไหลเวียนในร่างกาย ส่งผลให้ผิวของผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำมีความกระชับและยืดหยุ่นกว่า แม้แต่การออกกำลังกายระดับปานกลาง เช่น การเดินเร็วหรือโยคะเพียงไม่กี่ครั้งต่อสัปดาห์ก็สามารถช่วยให้ผิวดูสุขภาพดีและเปล่งปลั่งขึ้นได้

5. การเลือกใช้สกินแคร์ชะลอวัยอย่างเหมาะสม

การเลือกใช้สกินแคร์ชะลอวัยที่เหมาะสมคือการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้ว เช่น เรตินอยด์และวิตามินซี โดยเข้าใจว่าผลลัพธ์จะค่อยเป็นค่อยไปและเหมาะสำหรับสัญญาณแห่งวัยในระยะเริ่มต้น

ส่วนผสมสำคัญที่ควรพิจารณา ได้แก่:

  • เรตินอยด์ (Retinoids): ถือเป็นมาตรฐานสูงสุดในการลดเลือนริ้วรอย ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเร่งการผลัดเซลล์ผิว ทำให้ริ้วรอยตื้นดูเรียบเนียนขึ้น
  • วิตามินซี (Vitamin C): เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้ผิวกระจ่างใสและส่งเสริมการสร้างคอลลาเจน
  • เปปไทด์ (Peptides): ทำหน้าที่ส่งสัญญาณให้ผิวซ่อมแซมและสร้างคอลลาเจน

ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ต้องใช้อย่างสม่ำเสมอในระยะยาวจึงจะเห็นผล และไม่สามารถแก้ไขปัญหาริ้วรอยลึกหรือความหย่อนคล้อยที่รุนแรงได้ ซึ่งอาจต้องอาศัยหัตถการทางการแพทย์เข้ามาช่วย

รวมหัตถการทางการแพทย์ยอดนิยมเพื่อคืนความอ่อนเยาว์

กลุ่มสารเติมเต็มและลดเลือนริ้วรอย (Injectables)

กลุ่มสารเติมเต็มและลดเลือนริ้วรอย (Injectables) คือ สารที่ใช้ฉีดเพื่อฟื้นฟูความอ่อนเยาว์บนใบหน้า แบ่งเป็น 3 ประเภทหลัก ได้แก่ สารลดเลือนริ้วรอย (Neuromodulators), สารเติมเต็มผิว (Dermal Fillers) และสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน (Biostimulatory Injectables)

สารแต่ละประเภทมีกลไกการทำงานและวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน ดังนี้

  • สารลดเลือนริ้วรอย (Neuromodulators): เช่น โบทูลินั่ม ท็อกซิน ไทป์ เอ (Botox, Dysport) ทำงานโดยการคลายกล้ามเนื้อเพื่อลดริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงอารมณ์ เช่น รอยตีนกาและรอยขมวดคิ้ว ผลลัพธ์จะเริ่มเห็นใน 3-7 วัน และคงอยู่ประมาณ 3-4 เดือน
  • สารเติมเต็มผิว (Dermal Fillers): ส่วนใหญ่เป็นกรดไฮยาลูรอนิก (HA) ใช้เพื่อเติมเต็มปริมาตรที่หายไป เช่น บริเวณแก้ม ขมับ และร่องแก้ม ผลลัพธ์จะเห็นได้ทันทีและคงอยู่ตั้งแต่ 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์และบริเวณที่ฉีด
  • สารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน (Biostimulators): เช่น Poly-L-lactic Acid (PLLA) และ Calcium Hydroxylapatite (CaHA) ทำหน้าที่กระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติอย่างค่อยเป็นค่อยไปและยาวนาน โดยผลลัพธ์สามารถคงอยู่ได้นานถึง 2 ปีหรือมากกว่านั้น

กลุ่มเครื่องมือพลังงานยกกระชับและฟื้นฟูผิว

กลุ่มเครื่องมือพลังงานที่ใช้ในการยกกระชับและฟื้นฟูผิวประกอบด้วยเทคโนโลยีหลักๆ เช่น อัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูง (HIFU), คลื่นวิทยุ (RF), เลเซอร์ และแสงความเข้มข้นสูง (IPL) ซึ่งแต่ละชนิดจะใช้กลไกการทำงานที่แตกต่างกันเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและปรับปรุงคุณภาพผิว

  • อัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูง (HIFU): ใช้พลังงานอัลตราซาวด์แบบเฉพาะจุดเพื่อส่งความร้อนไปยังชั้นผิวหนังลึก (SMAS) ทำให้เกิดการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ ส่งผลให้ผิวค่อยๆ ตึงและยกกระชับขึ้นภายใน 2-3 เดือน เหมาะสำหรับการยกคิ้ว ลดความหย่อนคล้อยบริเวณแนวกรามและลำคอ
  • คลื่นวิทยุ (Radiofrequency – RF): ใช้พลังงานคลื่นวิทยุเพื่อสร้างความร้อนในชั้นหนังแท้ กระตุ้นการผลิตคอลลาเจนเพื่อทำให้ผิวแน่นและเรียบเนียนขึ้น มีทั้งแบบ RF ทั่วไปและแบบที่ใช้ร่วมกับเข็มขนาดเล็ก (RF Microneedling) ซึ่งช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยและรอยแผลเป็นจากสิวได้ดี
  • เลเซอร์ (Lasers): ใช้ลำแสงที่มีความเข้มข้นสูงเพื่อผลัดเซลล์ผิวเก่าและสร้างผิวใหม่ ช่วยลดเลือนริ้วรอย รอยแผลเป็น และปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนขึ้น มีทั้งแบบที่ทำให้เกิดแผล (Ablative) และไม่เกิดแผล (Non-ablative)
  • แสงความเข้มข้นสูง (Intense Pulsed Light – IPL): ใช้พลังงานแสงช่วงคลื่นกว้างเพื่อจัดการกับปัญหาเม็ดสี เช่น จุดด่างดำจากแสงแดด และปัญหาเส้นเลือดฝอย เช่น รอยแดงบนใบหน้า ทำให้สีผิวโดยรวมสม่ำเสมอและกระจ่างใสขึ้น

กลุ่มเลเซอร์และทรีตเมนต์เพื่อปรับปรุงคุณภาพผิว

เลเซอร์และทรีตเมนต์ที่ใช้แสงเป็นพื้นฐาน ช่วยปรับปรุงคุณภาพผิวโดยการผลัดเซลล์ผิวเก่าที่เสียหายออกไปและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น ลดเลือนริ้วรอย และมีสีผิวที่สม่ำเสมอ

  • เลเซอร์ผลัดเซลล์ผิว (Ablative vs. Non-ablative): เลเซอร์กลุ่มนี้จะสร้างผิวใหม่โดยการส่งพลังงานความร้อนไปยังชั้นผิว มีทั้งแบบที่ทำให้เกิดแผล (Ablative) ซึ่งจะลอกผิวชั้นนอกออกเพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจนในการลดริ้วรอยลึกและแผลเป็น แต่ต้องใช้เวลาพักฟื้น และแบบที่ไม่ทำให้เกิดแผล (Non-ablative) ซึ่งจะกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวโดยไม่ทำลายผิวชั้นบน ทำให้การพักฟื้นน้อยกว่า
  • Intense Pulsed Light (IPL): เป็นการใช้พลังงานแสงความเข้มสูงเพื่อจัดการกับปัญหาเม็ดสีและความผิดปกติของเส้นเลือดโดยเฉพาะ เหมาะสำหรับการลดเลือนจุดด่างดำจากแสงแดด กระ และรอยแดงจากเส้นเลือดฝอย ทำให้สีผิวโดยรวมดูสม่ำเสมอและกระจ่างใสขึ้น โดยทั่วไปต้องทำต่อเนื่องหลายครั้งและมีระยะเวลาพักฟื้นน้อยมาก

วิธีเลือกหัตถการให้เหมาะกับปัญหาผิวของตัวเอง

วิธีที่ดีที่สุดในการเลือกหัตถการคือการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อวิเคราะห์ใบหน้าและวางแผนการรักษาที่เหมาะกับแต่ละบุคคล เนื่องจากสภาพผิวและปัญหาของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แพทย์จะสามารถประเมินข้อกังวลต่างๆ เช่น ริ้วรอย การสูญเสียปริมาตร หรือสีผิว และแนะนำหัตถการที่เหมาะสมที่สุดได้

ตัวอย่างเช่น ปัญหาริ้วรอยหางตาอาจเหมาะกับการฉีดโบท็อกซ์ ในขณะที่ริ้วรอยใต้ตาอาจตอบสนองต่อเลเซอร์ได้ดีกว่า ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประเภทผิวและความลึกของริ้วรอย การวางแผนการรักษาเฉพาะบุคคลจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

ก่อนตัดสินใจทำหัตถการ: ปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณา

การประเมินสภาพผิวและโครงสร้างใบหน้าโดยแพทย์

การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมีความสำคัญอย่างยิ่งในการวิเคราะห์ใบหน้าและสร้างแผนการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล ในระหว่างการปรึกษา แพทย์จะประเมินปัญหาเฉพาะบุคคล เช่น ริ้วรอย การสูญเสียปริมาตร และสภาพผิว เพื่ออธิบายทางเลือกการรักษาที่เหมาะสมและกำหนดความคาดหวังที่เป็นจริง แนวทางเฉพาะบุคคลนี้ช่วยให้มั่นใจได้ว่าจะได้รับการผสมผสานการรักษาที่ถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นการฉีด การใช้อุปกรณ์พลังงาน หรือสกินแคร์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

วิธีเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

การเลือกคลินิกและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ควรพิจารณาจากแพทย์ที่ได้รับการรับรอง (board-certified) มีประสบการณ์ และเลือกคลินิกที่มีชื่อเสียงและได้มาตรฐาน แพทย์ที่ดีจะให้คำปรึกษาอย่างมืออาชีพ วิเคราะห์ใบหน้าอย่างละเอียด และวางแผนการรักษาที่เหมาะกับแต่ละบุคคลโดยเฉพาะ แทนที่จะเสนอแพ็กเกจสำเร็จรูปโดยไม่มีการประเมินอย่างเหมาะสม

ผลลัพธ์ที่คาดหวังและความเป็นจริงของการรักษา

เป้าหมายหลักของหัตถการชะลอวัยที่ไม่ใช่การผ่าตัดคือ การปรับปรุงให้ดูดีขึ้น ไม่ใช่การสร้างความสมบูรณ์แบบ ผู้ป่วยจะยังคงดูเป็นตัวเอง แต่ในเวอร์ชันที่ดูสดชื่นขึ้น

หัตถการเหล่านี้ไม่สามารถให้ผลลัพธ์ที่เทียบเท่ากับการผ่าตัดได้ เช่น การยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยอย่างรุนแรง ดังนั้น การตั้งความคาดหวังที่สมจริง โดยมุ่งเน้นไปที่การปรับปรุงแก้ไขแทนที่จะเป็นความสวยไร้ที่ติ จะนำไปสู่ความพึงพอใจในผลลัพธ์ที่สูงขึ้น

การเตรียมตัวก่อนและดูแลตัวเองหลังทำหัตถการ

การเตรียมตัวก่อนและดูแลตัวเองหลังทำหัตถการเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและลดผลข้างเคียงให้น้อยที่สุด

การเตรียมตัวและดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาและเร่งกระบวนการฟื้นฟูผิว

ก่อนทำหัตถการ:

  • หยุดใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวบางชนิด เช่น เรตินอยด์หรือกรดต่างๆ สองสามวันก่อนทำ
  • หลีกเลี่ยงยาละลายลิ่มเลือด อาหารเสริม (เช่น แอสไพริน วิตามินอี น้ำมันปลา) และแอลกอฮอล์เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ก่อนการฉีดเพื่อลดรอยช้ำ
  • ควรดื่มน้ำให้เพียงพอและไม่ควรปล่อยให้ท้องว่างในวันทำหัตถการ

หลังทำหัตถการ:

  • ประคบเย็นเพื่อลดอาการบวม และนอนหนุนหมอนสูงในคืนแรกหลังการฉีด
  • ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อ่อนโยนและทาครีมกันแดดที่มีประสิทธิภาพสูงอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะหลังทำเลเซอร์หรือผลัดเซลล์ผิวเพื่อป้องกันรอยดำ
  • หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก ซาวน่า หรืออ่างน้ำร้อน 1-2 วัน
  • งดแต่งหน้า 24 ชั่วโมงหลังทำหัตถการประเภทเลเซอร์หรือ Microneedling
  • ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด และรีบติดต่อแพทย์ทันทีหากมีอาการผิดปกติ เช่น ความเจ็บปวดที่รุนแรงหรือสัญญาณของการติดเชื้อ

ข้อควรระวังและความเชื่อผิดๆ ที่ทำให้หน้าแก่ก่อนวัย

ข้อควรระวังหลักที่ทำให้หน้าแก่ก่อนวัยคือการเผชิญแสงแดดโดยไม่มีการป้องกัน ส่วนความเชื่อที่ผิดคือการคิดว่าผิวแห้งทำให้เกิดริ้วรอย หรือต้องรออายุ 30 ปีก่อนจึงจะเริ่มใช้ผลิตภัณฑ์ชะลอวัย

ข้อควรระวังและพฤติกรรมที่เร่งให้ผิวแก่เร็วขึ้น ได้แก่:

  • การเผชิญแสงแดด: เป็นปัจจัยภายนอกที่สำคัญที่สุด คิดเป็น 80-90% ของการเกิดริ้วรอยและความเสื่อมของผิวที่มองเห็นได้
  • มลภาวะและการสูบบุหรี่: ทำให้เกิดภาวะเครียดออกซิเดชัน (oxidative stress) ที่ทำลายโครงสร้างคอลลาเจนของผิว
  • การพักผ่อนไม่เพียงพอ: การอดนอนเรื้อรังมีความเชื่อมโยงโดยตรงกับการเกิดริ้วรอยก่อนวัย ทำให้ผิวขาดความยืดหยุ่น และมีสีผิวไม่สม่ำเสมอ

ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับผิวแก่ก่อนวัย:

  • ผิวแห้งทำให้เกิดริ้วรอย: ความจริงคือผิวแห้งอาจทำให้ริ้วรอยที่มีอยู่แล้วเห็นชัดขึ้น แต่ไม่ได้เป็นสาเหตุของการเกิดริ้วรอย ปัจจัยหลักยังคงเป็นแสงแดดและไลฟ์สไตล์
  • ควรรออายุ 30 ก่อนใช้สกินแคร์ชะลอวัย: ความจริงคือแพทย์ผิวหนังแนะนำให้เริ่มใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกัน เช่น ครีมกันแดด สารต้านอนุมูลอิสระ และเรตินอยด์ ตั้งแต่อายุ 20 ต้นๆ เพื่อชะลอการเกิดสัญญาณแห่งวัย

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการทำให้หน้าเด็ก (FAQ)

ทำหัตถการหน้าเด็กเจ็บไหม และต้องพักฟื้นนานหรือไม่?

หัตถการชะลอวัยส่วนใหญ่มีความเจ็บน้อยและใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน แต่ระดับความเจ็บและระยะเวลาพักฟื้นจะแตกต่างกันไปตามประเภทของหัตถการ

  • กลุ่มฉีด (โบท็อกซ์, ฟิลเลอร์): รู้สึกเจ็บเล็กน้อยเหมือนโดนหยิก และใช้เวลาไม่นาน สามารถกลับไปทำงานได้ทันที แต่อาจมีอาการบวมหรือรอยช้ำเล็กน้อย
  • กลุ่มเลเซอร์และพลังงาน (IPL, HIFU): ความเจ็บอยู่ในระดับที่ทนได้ เช่น IPL ให้ความรู้สึกเหมือนโดนดีดหนังยาง ส่วน HIFU อาจรู้สึกอุ่นหรือเจ็บแปลบๆ ลึกใต้ผิวหนัง แต่จะหายไปทันทีหลังทำเสร็จ หัตถการกลุ่มนี้ส่วนใหญ่แทบไม่ต้องพักฟื้น
  • กลุ่มเลเซอร์ที่ผลัดเซลล์ผิวชั้นนอก (Ablative Laser): เป็นกลุ่มที่ต้องใช้เวลาพักฟื้นนานที่สุด โดยทั่วไปประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อให้ผิวได้ฟื้นฟูอย่างเต็มที่

ผลลัพธ์ของหัตถการแต่ละประเภทอยู่ได้นานแค่ไหน?

ระยะเวลาของผลลัพธ์จะแตกต่างกันไปตามประเภทของหัตถการและปัจจัยส่วนบุคคล เช่น การเผาผลาญ การเผชิญแสงแดด และการดูแลผิว โดยทั่วไปแล้วระยะเวลาของแต่ละหัตถการมีดังนี้

  • โบทูลินั่ม ท็อกซิน (Botox): ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 3-4 เดือน
  • ฟิลเลอร์ไฮยาลูรอนิก แอซิด (HA Fillers): อยู่ได้นานตั้งแต่ 6 เดือนถึง 18 เดือนขึ้นไป ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์และบริเวณที่ฉีด เช่น ฟิลเลอร์สำหรับริมฝีปากอาจอยู่ได้ 6-9 เดือน ส่วนฟิลเลอร์สำหรับแก้มอาจอยู่ได้นานถึง 2 ปี
  • ฟิลเลอร์กระตุ้นคอลลาเจน (เช่น Sculptra): ผลลัพธ์สามารถคงอยู่ได้นานกว่า 2 ปี
  • เลเซอร์ผลัดผิว (Laser Resurfacing): ผลลัพธ์ค่อนข้างยาวนาน อาจอยู่ได้หลายปี แต่ผิวจะยังคงแก่ลงตามธรรมชาติ
  • ไฮฟู (HIFU): โดยทั่วไปผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 1 ปี
  • RF Microneedling หรือเลเซอร์ชนิด Non-ablative: ผลลัพธ์คงอยู่ประมาณ 1-2 ปี
  • IPL: มักจะต้องทำซ้ำเพื่อคงผลลัพธ์ปีละ 1-2 ครั้ง หลังจากทำครบคอร์สในครั้งแรก

ผู้ชายสามารถทำหัตถการเพื่อใบหน้าที่ดูอ่อนเยาว์ได้หรือไม่?

ได้แน่นอน หัตถการชะลอวัยเหล่านี้เหมาะสำหรับผู้ชายเช่นกัน และในความเป็นจริงแล้ว ผู้ชายถือเป็นกลุ่มลูกค้าในวงการเสริมความงามที่เติบโตอย่างรวดเร็ว

สถิติในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่ามีผู้ชายเข้ารับการทำหัตถการอย่างโบท็อกซ์ (Botox) และฟิลเลอร์ (Fillers) เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แนวทางการรักษาสำหรับผู้ชายมักจะแตกต่างออกไปเล็กน้อย โดยจะเน้นการคงลักษณะความเป็นชายไว้ เช่น การรักษาริ้วรอยโดยไม่ทำให้คิ้วโก่งเกินไป หรือการใช้ฟิลเลอร์เพื่อสร้างแนวกรามที่คมชัด หัตถการที่ได้รับความนิยมในกลุ่มผู้ชายมักเป็นการลดริ้วรอยบริเวณหน้าผากและหว่างคิ้ว และการปรับรูปหน้าให้ดูคมชัดขึ้น

ควรเริ่มทำหัตถการชะลอวัยตั้งแต่อายุเท่าไหร่?

ผู้เชี่ยวชาญหลายคนแนะนำว่า ช่วงกลางถึงปลายอายุ 20 ปีเป็นช่วงเวลาที่ดีในการเริ่มใช้มาตรการป้องกัน นอกเหนือจากการดูแลผิวขั้นพื้นฐาน ซึ่งเป็นแนวทางที่เรียกว่า “prejuvenation” หรือการป้องกันริ้วรอยก่อนวัย

แนวคิดนี้เน้นการทำหัตถการเล็กๆ น้อยๆ เช่น การฉีด “Baby Botox” ในช่วงปลายอายุ 20 หรือต้น 30 เพื่อป้องกันไม่ให้ริ้วรอยจากการแสดงอารมณ์ฝังลึก เนื่องจากเป็นการง่ายกว่าที่จะดูแลผิวให้ดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอ มากกว่าการแก้ไขปัญหาริ้วรอยที่เกิดขึ้นแล้ว

การใช้ครีมบำรุงสามารถทดแทนหัตถการได้จริงหรือ?

การใช้ครีมบำรุงไม่สามารถทดแทนหัตถการทางการแพทย์ได้สำหรับปัญหาริ้วรอยที่รุนแรง ครีมบำรุงเหมาะสำหรับปัญหาริ้วรอยแห่งวัยในระยะเริ่มต้น เช่น ริ้วรอยตื้นๆ และสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอเล็กน้อย แต่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาริ้วรอยร่องลึกหรือความหย่อนคล้อยที่เห็นได้ชัด

ตัวอย่างเช่น ไม่มีครีมใดที่สามารถยกกระชับความหย่อนคล้อยบริเวณแนวกรามหรือเติมเต็มร่องแก้มลึกได้ดีเท่ากับการฉีดฟิลเลอร์หรือการทำเลเซอร์

หัตถการหน้าเด็กมีความเสี่ยงหรือผลข้างเคียงอะไรบ้าง?

ความเสี่ยงและผลข้างเคียงส่วนใหญ่ของหัตถการชะลอวัยไม่รุนแรงและเกิดขึ้นชั่วคราว เช่น อาการบวม รอยช้ำ หรือรอยแดง แต่ความเสี่ยงจะแตกต่างกันไปตามประเภทของหัตถการ

  • กลุ่มยาฉีด (โบท็อกซ์, ฟิลเลอร์): ผลข้างเคียงที่พบบ่อยคือรอยช้ำและอาการบวมเล็กน้อยซึ่งจะหายไปเอง สำหรับโบท็อกซ์มีความเสี่ยงเล็กน้อยที่จะเกิดผลลัพธ์ไม่สมมาตรหรือกล้ามเนื้ออ่อนแรงผิดจุด (เช่น หนังตาตก) ซึ่งจะหายไปเมื่อยาหมดฤทธิ์ ส่วนฟิลเลอร์มีความเสี่ยงที่พบได้ยากแต่รุนแรงคือการอุดตันของเส้นเลือด ซึ่งต้องได้รับการรักษาทันที
  • กลุ่มเครื่องมือพลังงาน (เลเซอร์, HIFU, IPL): อาจทำให้เกิดรอยแดง บวม หรือรู้สึกแสบร้อนคล้ายผิวไหม้แดดชั่วคราว ในผู้ที่มีสีผิวเข้มอาจมีความเสี่ยงที่จะเกิดรอยดำหรือรอยด่างขาวหลังทำได้
  • กลุ่มผลัดเซลล์ผิว (เลเซอร์ชนิดลอกผิว, การลอกผิวลึก): หัตถการกลุ่มนี้จะทำให้เกิดแผลเปิดชั่วคราว อาจมีของเหลวซึมและตกสะเก็ดในช่วงพักฟื้น จึงมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อหากดูแลไม่ถูกวิธี

References:

  1. PubMed Central, 2025, pmc.ncbi.nlm.nih.gov
  2. National Institutes of Health, 2025, nih.gov
  3. Pennmedicine, 2025, pennmedicine.org
  4. Journal of Cosmetic Medicine, 2025, jcosmetmed.org
  5. American Academy of Dermatology, 2025, aad.org
  6. American Society of Plastic Surgeons, 2025, plasticsurgery.org
  7. Frontiers in Medicine, 2025, frontiersin.org
  8. Sleepfoundation, 2025, sleepfoundation.org

แนะแนวเรื่อง

Previous Previous
9 วิธีแก้คอย่น คอเหี่ยว ให้กลับมาตึงกระชับ เรียบเนียน

สาขาพรีวาโต คลินิก

    สาขาอโศก ตั้งอยู่ที่ ชั้น 2 อาคารมิดทาวน์
    Phone: 02-258-4050 , 081-841-5075
    สาขาสีลม ตั้งอยู่ที่ ชั้น 1 อาคารซี.พี.ทาวเวอร์
    Phone: 02-780-2011 , 098-272-5244
    สาขาราชพฤกษ์ ตั้งอยู่ที่ ชั้น 2 ศูนย์การค้า เดอะคริสตัล เอสบี (ด้านบนร้านสตาร์บัคส์)
    Phone: 02-102-2778 , 098-272-5244

ติดต่อเรา

    Facebook: Privato Clinic
    Messenger: Privato Clinic
    Instagram: privatoclinic
    Email: privatoclinic@gmail.com
    Line: @privatoclinic

Copyright© 2022-2024. All Rights Reserved

Scroll to top
  • หน้าหลัก
  • เกี่ยวกับพรีวาโต
  • บริการทั้งหมด
    • ชะลอวัย
    • ยกกระชับผิว
      • XERF
      • Potenza
      • Sofwave
      • Ulthera
      • Thermage-FLX
    • รักษาสิว
    • เลเซอร์
    • โปรแกรมฉีด
    • บำรุงผิว
  • บทความ
    • สิว
    • ยกกระชับ
    • ดูแลผิว
    • ทำเลเซอร์
  • ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว
  • โปรโมชั่น
  • ผลลัพธ์การรักษา
  • วิดีโอรีวิวจากเคสจริง
  • สาขาของเรา
  • ไทย
    • ไทย
    • English
    • 中文 (中国)
  • ปรึกษาแพทย์
Facebook Instagram YouTube