Skip to content

TEL : 081-841-5075, 02-258-4050

Facebook Instagram YouTube
Privato Clinic – Innovation Of Beauty  |  Bangkok
  • หน้าหลัก
  • เกี่ยวกับพรีวาโต
  • บริการทั้งหมดExpand
    • ชะลอวัย
    • ยกกระชับผิวExpand
      • XERF
      • Potenza
      • Sofwave
      • Ulthera
      • Thermage-FLX
    • รักษาสิว
    • เลเซอร์
    • โปรแกรมฉีด
    • บำรุงผิว
  • บทความExpand
    • สิว
    • ยกกระชับ
    • ดูแลผิว
    • ทำเลเซอร์
  • ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว
  • โปรโมชั่น
  • ผลลัพธ์การรักษา
  • วิดีโอรีวิวจากเคสจริง
  • สาขาของเรา
  • ไทยExpand
    • ไทย
    • English
    • 中文 (中国)
  • ปรึกษาแพทย์
Privato Clinic – Innovation Of Beauty  |  Bangkok
Consult a Doctor
Lifting

หลังฉีดโบท็อก ออกกำลังกายได้ไหม? แบบไหนทำได้ แบบไหนต้องงด

Byadmin ตุลาคม 14, 2025
By แพทย์หญิงนัชชนก หุ่นวิจิตร Updated on ตุลาคม 14, 2025
✦ Medically reviewed by  นายแพทย์เลอพงษ์ กรุดเงิน
หลังฉีดโบท็อก ออกกำลังกายได้ไหม? แบบไหนทำได้ แบบไหนต้องงด

สำหรับคำถามที่ว่าหลังฉีดโบท็อก ออกกำลังกายได้ไหม แพทย์แนะนำให้งดการออกกำลังกายอย่างหนักอย่างน้อย 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาแพร่กระจายไปยังกล้ามเนื้อส่วนที่ไม่ต้องการ ซึ่งเป็นสาเหตุของผลข้างเคียงอย่างหนังตาตก และยังช่วยลดความเสี่ยงของอาการบวมช้ำบริเวณที่ฉีด

Table of Contents

Toggle
  • คำตอบโดยสรุป: ทำไมแพทย์จึงแนะนำให้งดออกกำลังกายหลังฉีดโบท็อก
  • ไทม์ไลน์การกลับมาออกกำลังกาย: ต้องเว้นระยะนานแค่ไหน
    • ช่วง 4-24 ชั่วโมงแรก: การออกกำลังกายที่ต้องงดเด็ดขาด
    • ช่วง 24-48 ชั่วโมง: การออกกำลังกายเบาๆ ที่เริ่มทำได้
    • หลัง 1-2 สัปดาห์: การกลับไปออกกำลังกายหนักตามปกติ
  • 3 เหตุผลหลักที่ควรเลี่ยงการออกกำลังกายหนักหลังฉีดโบท็อก
    • เสี่ยงต่อการกระจายตัวของยาไปยังกล้ามเนื้อที่ไม่ต้องการ
    • อาจเพิ่มอาการบวม ช้ำ และลดประสิทธิภาพของโบท็อก
    • ความร้อนจากการออกกำลังกายอาจทำให้โบท็อกสลายตัวเร็วขึ้น
  • ข้อควรปฏิบัติอื่นๆ เพื่อให้โบท็อกอยู่ได้นานและเห็นผลดีที่สุด
    • การปรับท่านอนและการดูแลผิวหน้าในช่วงแรก
    • อาหารและเครื่องดื่มที่ควรหลีกเลี่ยง
    • การงดทำทรีตเมนต์หรือหัตถการอื่นๆ บนใบหน้า
  • การเตรียมตัวและปัจจัยสำคัญก่อนตัดสินใจฉีดโบท็อก
    • การเลือกคลินิกและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
    • การแจ้งประวัติสุขภาพและยาที่ใช้ประจำ
    • การทำความเข้าใจผลลัพธ์ที่คาดหวังและข้อจำกัด
  • สัญญาณผิดปกติหลังฉีดโบท็อกที่ควรรีบปรึกษาแพทย์
  • คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อก
    • หลังฉีดโบท็อกออกกำลังกายเบาๆ เช่น โยคะ ได้หรือไม่
    • เผลอไปออกกำลังกายหลังฉีดโบท็อก ควรทำอย่างไร
    • การออกกำลังกายทำให้โบท็อกสลายเร็วขึ้นจริงหรือ
    • ต้องงดออกกำลังกายกี่วันหลังฉีดโบท็อก
    • หลังฉีดโบท็อก สามารถอบซาวน่าได้ไหม
    • เมื่อไหร่จึงจะกลับไปออกกำลังกายหนักได้ตามปกติ
  • References:

คำตอบโดยสรุป: ทำไมแพทย์จึงแนะนำให้งดออกกำลังกายหลังฉีดโบท็อก

แพทย์แนะนำให้งดออกกำลังกายหลังฉีดโบท็อก เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาแพร่กระจายไปยังกล้ามเนื้อส่วนที่ไม่ต้องการ ซึ่งอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น หนังตาตก หรือใบหน้าไม่สมมาตรได้

การออกกำลังกายอย่างหนักจะเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจและการไหลเวียนของเลือด ซึ่งนอกจากจะเสี่ยงทำให้ตัวยากระจายตัวแล้ว ยังอาจเพิ่มโอกาสเกิดรอยช้ำและอาการบวมบริเวณที่ฉีด นอกจากนี้ เหงื่อที่ออกมากอาจทำให้เกิดการระคายเคืองหรือเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อบริเวณรอยเข็มได้

ไทม์ไลน์การกลับมาออกกำลังกาย: ต้องเว้นระยะนานแค่ไหน

ช่วง 4-24 ชั่วโมงแรก: การออกกำลังกายที่ต้องงดเด็ดขาด

ในช่วง 24 ชั่วโมงแรกหลังฉีดโบท็อกซ์ ควรงดการออกกำลังกายที่ต้องใช้แรงมากทุกชนิด เพื่อป้องกันไม่ให้โบท็อกซ์กระจายตัวไปยังกล้ามเนื้อส่วนอื่นและลดความเสี่ยงของอาการบวมช้ำ

กิจกรรมที่ต้องงดเด็ดขาด ได้แก่:

  • การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโออย่างหนัก (Heavy cardio)
  • การยกน้ำหนัก (Weight lifting)
  • โยคะหรือพิลาทิสที่ใช้กำลังมาก โดยเฉพาะท่าที่ต้องก้มศีรษะหรือกลับหัว
  • การวิ่ง
  • กิจกรรมใดๆ ที่ทำให้เหงื่อออกมาก

ช่วง 24-48 ชั่วโมง: การออกกำลังกายเบาๆ ที่เริ่มทำได้

ในช่วง 24-48 ชั่วโมงหลังฉีดโบท็อกซ์ โดยทั่วไปสามารถกลับมาออกกำลังกายเบาๆ ถึงปานกลางได้ เช่น การเข้ายิมแบบเบาๆ และสั้นๆ, โยคะที่ไม่ใช่โยคะร้อน, การเดินเร็ว หรือการปั่นจักรยานเบาๆ

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ยังคงแนะนำให้หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่หนักหน่วง เช่น การวิ่งระยะไกล, การฝึก HIIT หรือการยกน้ำหนักหนักๆ ไปก่อน สิ่งสำคัญคือการค่อยๆ กลับมาออกกำลังกาย และควรเริ่มต้นอย่างเบาๆ พร้อมสังเกตอาการบวมหรือรอยช้ำ หากบริเวณที่ฉีดมีอาการบวมหรือเจ็บมากขึ้น ควรหยุดและพักต่ออีกหนึ่งวัน

หลัง 1-2 สัปดาห์: การกลับไปออกกำลังกายหนักตามปกติ

โดยทั่วไปแล้ว ผู้ป่วยสามารถกลับไปออกกำลังกายหนักได้ตามปกติหลังจากฉีดโบท็อกซ์ไปแล้ว 1 สัปดาห์ เนื่องจากความเสี่ยงที่ตัวยาจะเคลื่อนที่นั้นต่ำมาก

โดยปกติแล้วข้อจำกัดในการออกกำลังกายส่วนใหญ่จะถูกยกเลิกหลังจากสัปดาห์แรก เนื่องจากโบท็อกซ์จะเริ่มออกฤทธิ์เต็มที่ในช่วง 7-14 วัน ทำให้สามารถทำกิจกรรมที่มีแรงกระแทกสูง เช่น คาร์ดิโอหนักๆ ยกน้ำหนัก หรือโยคะขั้นสูงได้โดยไม่ส่งผลกระทบต่อผลลัพธ์ อย่างไรก็ตาม สำหรับการฉีดโบท็อกซ์ในกล้ามเนื้อมัดใหญ่ เช่น กราม (masseter) แพทย์อาจแนะนำให้งดกิจกรรมที่ต้องใช้แรงขากรรไกรหนักๆ นานขึ้นเป็น 1-2 สัปดาห์

3 เหตุผลหลักที่ควรเลี่ยงการออกกำลังกายหนักหลังฉีดโบท็อก

เสี่ยงต่อการกระจายตัวของยาไปยังกล้ามเนื้อที่ไม่ต้องการ

การออกกำลังกายอย่างหนัก การสัมผัสความร้อน การดื่มแอลกอฮอล์ และการกดทับบริเวณที่ฉีด เป็นปัจจัยหลักที่เพิ่มความเสี่ยงให้โบท็อกซ์กระจายไปยังกล้ามเนื้อที่ไม่ต้องการ

พฤติกรรมเหล่านี้จะไปเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ ความดันโลหิต และการไหลเวียนเลือด ซึ่งอาจส่งผลให้ตัวยากระจายออกจากตำแหน่งที่ฉีดไปยังกล้ามเนื้อข้างเคียงได้ การกระจายตัวของยาโดยไม่ตั้งใจนี้อาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น หนังตาตก ใบหน้าไม่สมมาตร หรือกล้ามเนื้อบริเวณใกล้เคียงอ่อนแรงชั่วคราว ด้วยเหตุนี้ แพทย์จึงแนะนำให้หลีกเลี่ยงกิจกรรมต่างๆ ในช่วงแรกหลังฉีด เช่น การออกกำลังกายที่ต้องก้มศีรษะ การเข้าซาวน่า และการนวดหน้า

อาจเพิ่มอาการบวม ช้ำ และลดประสิทธิภาพของโบท็อก

การออกกำลังกายอย่างหนักหลังฉีดโบท็อกเป็นสาเหตุหลักที่อาจเพิ่มอาการบวม ช้ำ และลดประสิทธิภาพของโบท็อก เนื่องจากกิจกรรมที่ต้องใช้แรงมากจะเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจและความดันโลหิต ซึ่งส่งผลให้การไหลเวียนเลือดเพิ่มขึ้น

การไหลเวียนเลือดที่เพิ่มขึ้นนี้อาจทำให้เกิดผลกระทบ 2 ประการ คือ:

  • ทำให้โบท็อกแพร่กระจาย: ตัวยาอาจเคลื่อนที่จากบริเวณที่ฉีดไปยังกล้ามเนื้อข้างเคียงที่ไม่ต้องการ ทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น หนังตาตก หรือใบหน้าไม่สมมาตร
  • เพิ่มอาการบวมและรอยช้ำ: การไหลเวียนเลือดที่สูงขึ้นจะกระตุ้นให้เกิดรอยช้ำและอาการบวมในบริเวณที่ทำการรักษาได้ง่ายขึ้น

ความร้อนจากการออกกำลังกายอาจทำให้โบท็อกสลายตัวเร็วขึ้น

ใช่ มีความเป็นไปได้ ความร้อนสูงจากการออกกำลังกายหรือซาวน่าอาจเร่งกระบวนการเผาผลาญของโบท็อก ซึ่งอาจทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้สั้นลง

มีสมมติฐานว่าการออกกำลังกายอย่างหนักเป็นประจำอาจเร่งการฟื้นตัวของเส้นประสาทหรือการเผาผลาญสารพิษ นอกจากนี้ยังมีคำแนะนำจากโรงพยาบาลแห่งหนึ่งระบุว่าอุณหภูมิที่สูงอาจเร่งการเผาผลาญของโบท็อกได้ ด้วยเหตุนี้จึงแนะนำให้หลีกเลี่ยงความร้อนสูงในช่วงสัปดาห์แรกหลังการฉีด

ข้อควรปฏิบัติอื่นๆ เพื่อให้โบท็อกอยู่ได้นานและเห็นผลดีที่สุด

การปรับท่านอนและการดูแลผิวหน้าในช่วงแรก

ในช่วงคืนแรกหลังฉีดโบท็อกซ์ ควรนอนหงายเพื่อหลีกเลี่ยงการกดทับใบหน้า และดูแลผิวอย่างอ่อนโยน โดยงดการนวด ขัดถู หรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่รุนแรง

  • การนอน: ในคืนแรก โดยเฉพาะหลังฉีดบริเวณหน้าผาก ควรนอนหงายเพื่อป้องกันไม่ให้ใบหน้าถูกกดทับกับหมอนเป็นเวลานาน ซึ่งอาจทำให้ตัวยาเคลื่อนที่ได้
  • การดูแลผิว:
  • การทำความสะอาด: สามารถล้างหน้าได้ตามปกติ แต่ควรซับหน้าเบาๆ แทนการถู
  • การแต่งหน้า: สามารถแต่งหน้าได้หลังฉีดประมาณ 15-30 นาที โดยทาอย่างเบามือและใช้อุปกรณ์ที่สะอาด
  • ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว: งดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีฤทธิ์รุนแรง เช่น เรตินอยด์ หรือกรดผลัดเซลล์ผิว เป็นเวลา 2-3 วัน แต่แนะนำให้ใช้มอยส์เจอไรเซอร์ที่อ่อนโยนและครีมกันแดด
  • ทรีตเมนต์: งดการนวดหน้า ขัดผิว หรือใช้อุปกรณ์นวดหน้า เช่น ลูกกลิ้ง (Face Roller) หรือกัวซา (Gua Sha) เป็นเวลาอย่างน้อย 24-48 ชั่วโมง

อาหารและเครื่องดื่มที่ควรหลีกเลี่ยง

อาหารและเครื่องดื่มที่ควรหลีกเลี่ยงหลังฉีดโบท็อกซ์คือ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาหารรสจัด และเครื่องดื่มร้อน

  • เครื่องดื่มแอลกอฮอล์: ควรงดอย่างน้อย 24-48 ชั่วโมงหลังฉีด เพราะแอลกอฮอล์จะขยายหลอดเลือด ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงของอาการบวมและรอยช้ำ
  • อาหารรสจัดและเครื่องดื่มร้อน: ควรหลีกเลี่ยงในวันแรกหลังฉีด เพราะอาจทำให้เลือดสูบฉีดบริเวณใบหน้าและเพิ่มอุณหภูมิผิว ซึ่งส่งผลคล้ายกับการออกกำลังกาย
  • อาหารที่เคี้ยวยาก: สำหรับผู้ที่ฉีดโบท็อกซ์บริเวณกราม ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ต้องเคี้ยวหนัก เช่น สเต๊กหรือหมากฝรั่ง เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยากระจายไปยังกล้ามเนื้อมัดอื่น

การงดทำทรีตเมนต์หรือหัตถการอื่นๆ บนใบหน้า

ควรหลีกเลี่ยงการทำทรีตเมนต์ นวดหน้า หรือขัดผิวเป็นเวลาอย่างน้อย 24 ชั่วโมงหลังฉีดโบท็อกซ์ เนื่องจากการกดทับ การดึง หรือการถูผิวหนังอาจทำให้ตัวยาเคลื่อนที่ไปยังบริเวณที่ไม่ต้องการได้

นอกจากนี้ยังควรงดใช้อุปกรณ์เสริมความงาม เช่น ลูกกลิ้งนวดหน้าหรือกัวซา และหลีกเลี่ยงหัตถการใดๆ ที่ต้องนอนคว่ำหน้าเป็นเวลา 1-2 วัน เพื่อป้องกันแรงกดทับบริเวณที่ฉีด

การเตรียมตัวและปัจจัยสำคัญก่อนตัดสินใจฉีดโบท็อก

การเลือกคลินิกและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

การเลือกคลินิกและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ควรพิจารณาจากคลินิกที่มีชื่อเสียงดี แพทย์ผู้ฉีดที่ได้รับการรับรอง และหลีกเลี่ยงข้อเสนอราคาถูกจนน่าสงสัย เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

ข้อควรพิจารณาในการเลือกคลินิก ได้แก่:

  • ชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือ: คลินิกที่มีชื่อเสียงดีมักจะใช้ผลิตภัณฑ์โบท็อกซ์ของแท้ เนื่องจากข้อเสนอที่ราคาถูกเกินจริงอาจมีความเสี่ยงที่จะเป็นของปลอม
  • คุณสมบัติของแพทย์: ควรเลือกแพทย์ที่ได้รับการรับรอง (Board-certified) ซึ่งจะมีความเชี่ยวชาญ มีขั้นตอนรับมือกรณีฉุกเฉิน และมีการนัดหมายเพื่อติดตามผล
  • การให้คำแนะนำและการดูแลหลังฉีด: คลินิกที่ดีควรให้คำแนะนำในการดูแลตัวเองหลังฉีดอย่างชัดเจน (เช่น เอกสารหรืออีเมล) และมีช่องทางให้ติดต่อสอบถามได้สะดวก
  • การนัดติดตามผล: คลินิกที่ใส่ใจคนไข้จะมีการนัดติดตามผลประมาณ 10-14 วันหลังฉีด เพื่อประเมินผลลัพธ์ แก้ไขจุดที่ยังไม่สมบูรณ์ และจัดการกับปัญหาที่อาจเกิดขึ้น
  • สัญญาณเตือนที่ควรหลีกเลี่ยง: คลินิกที่ไม่มีแพทย์ประจำ, ราคาต่ำผิดปกติ, สภาพแวดล้อมไม่สะอาด หรือมีการกดดันให้ทำหัตถการเกินความจำเป็น ถือเป็นสัญญาณอันตราย

การแจ้งประวัติสุขภาพและยาที่ใช้ประจำ

การแจ้งประวัติสุขภาพและยาที่ใช้ประจำแก่แพทย์ก่อนฉีดโบท็อกซ์ เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งเพื่อความปลอดภัยและช่วยลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง เช่น อาการช้ำที่เพิ่มขึ้น หรือการออกฤทธิ์ของโบท็อกซ์ที่ผิดปกติ

ข้อมูลที่ควรแจ้งให้แพทย์ทราบโดยละเอียด ได้แก่:

  • ยาละลายลิ่มเลือดหรือยาต้านการแข็งตัวของเลือด: รวมถึงยาแอสไพริน และยาในกลุ่ม NSAIDs
  • อาหารเสริม: โดยเฉพาะน้ำมันปลา วิตามินอีในปริมาณสูง กระเทียม แปะก๊วย และเซนต์จอห์นเวิร์ต (St. John’s wort) เนื่องจากอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดรอยช้ำ
  • ยาปฏิชีวนะบางชนิด: เช่น เจนตาไมซิน (gentamicin) หรือโทบรามัยซิน (tobramycin) และยาคลายกล้ามเนื้อ เพราะอาจเสริมฤทธิ์ของโบท็อกซ์
  • โรคประจำตัว: โดยเฉพาะโรคเกี่ยวกับระบบประสาทและกล้ามเนื้อ เช่น โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (myasthenia gravis)

การให้ข้อมูลที่ครบถ้วนจะช่วยให้แพทย์สามารถวางแผนการรักษาและให้คำแนะนำในการดูแลตัวเองได้อย่างเหมาะสม เช่น การแนะนำให้หยุดยาบางชนิดชั่วคราวก่อนการฉีด

การทำความเข้าใจผลลัพธ์ที่คาดหวังและข้อจำกัด

การทำความเข้าใจผลลัพธ์และข้อจำกัดของโบท็อกซ์เป็นส่วนสำคัญของกระบวนการให้คำปรึกษาก่อนการรักษา โดยผู้ให้บริการที่ดีจะอธิบายอย่างชัดเจนว่าโบท็อกซ์สามารถทำอะไรได้และทำอะไรไม่ได้

ตัวอย่างเช่น โบท็อกซ์สามารถลดเลือนริ้วรอยได้ แต่ไม่สามารถยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยอย่างรุนแรง ซึ่งอาจต้องใช้วิธีการรักษาอื่น เช่น ฟิลเลอร์หรือการผ่าตัด การให้ข้อมูลที่ตรงไปตรงมานี้เป็นส่วนหนึ่งของการให้ความยินยอมโดยได้รับข้อมูล (informed consent) เพื่อให้ผู้ป่วยมีความคาดหวังที่สมจริง นอกจากนี้ ผู้ให้บริการจะอธิบายผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นเฉพาะจุด เช่น ความรู้สึกอ่อนแรงชั่วคราวขณะเคี้ยวอาหารหลังการฉีดโบท็อกซ์ที่กล้ามเนื้อกราม

สัญญาณผิดปกติหลังฉีดโบท็อกที่ควรรีบปรึกษาแพทย์

สัญญาณผิดปกติที่ควรรีบปรึกษาแพทย์หลังฉีดโบท็อกคือ อาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงในบริเวณที่ไม่ต้องการ มีปัญหาในการกลืนหรือหายใจ และสัญญาณของการติดเชื้อ

อาการอื่นๆ ที่ควรแจ้งให้คลินิกทราบทันที ได้แก่:

  • หนังตาตก กล้ามเนื้อใบหน้าเบี้ยว หรืออ่อนแรงในบริเวณที่ไม่ได้ฉีด
  • หายใจลำบาก กลืนลำบาก หรือพูดไม่ชัด
  • ปวดศีรษะหรือปวดคออย่างรุนแรงผิดปกติ
  • มีอาการติดเชื้อบริเวณที่ฉีด เช่น บวม แดง ร้อน หรือมีหนอง
  • มองเห็นภาพซ้อน หรือกล้ามเนื้อทั่วร่างกายอ่อนแรง

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อก

หลังฉีดโบท็อกออกกำลังกายเบาๆ เช่น โยคะ ได้หรือไม่

ควรหลีกเลี่ยงการเล่นโยคะในวันแรกหลังฉีดโบท็อก โดยเฉพาะท่าที่ต้องก้มศีรษะหรือกลับหัว เนื่องจากการทำท่าที่ศีรษะอยู่ต่ำกว่าหัวใจ เช่น ท่าสุนัขก้มหน้า (Downward Dog) อาจทำให้ตัวยาเคลื่อนที่ไปยังกล้ามเนื้อส่วนอื่นที่ไม่ต้องการ และอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงอย่างหนังตาตกได้

อย่างไรก็ตาม คุณสามารถทำโยคะในท่ายืนหรือท่านั่งเบาๆ ที่ไม่ต้องก้มศีรษะได้หลังจากฉีดไปแล้วประมาณ 4-6 ชั่วโมง โดยทั่วไปแนะนำให้รอ 1-2 วันจึงจะสามารถกลับไปเล่นโยคะได้ตามปกติ

เผลอไปออกกำลังกายหลังฉีดโบท็อก ควรทำอย่างไร

ให้หยุดออกกำลังกายทันทีและคอยสังเกตอาการผิดปกติ โดยเฉพาะในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรก การออกกำลังกายจะเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ซึ่งอาจทำให้ตัวยาโบท็อกกระจายไปยังกล้ามเนื้อส่วนที่ไม่ต้องการ และอาจเพิ่มความเสี่ยงของอาการบวมหรือรอยช้ำ

สิ่งที่ควรทำและสังเกตมีดังนี้:

  • หยุดพักและสังเกตอาการ: ให้หยุดกิจกรรมทันที พักผ่อน และสังเกตความเปลี่ยนแปลงบริเวณที่ฉีด เช่น หนังตาตก ใบหน้าไม่สมมาตร หรือมีรอยช้ำและอาการบวมที่รุนแรงผิดปกติ
  • ติดต่อคลินิกหากกังวล: หากพบอาการข้างต้นหรือมีความกังวลใจ ควรติดต่อคลินิกเพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติม แม้ว่าในหลายกรณีหากการออกกำลังกายไม่หนักมากอาจไม่ส่งผลกระทบร้ายแรง แต่การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญจะดีที่สุด

การออกกำลังกายทำให้โบท็อกสลายเร็วขึ้นจริงหรือ

มีความเป็นไปได้ว่าการออกกำลังกายอย่างหนักเป็นประจำอาจทำให้โบท็อกสลายเร็วขึ้น และส่งผลให้ระยะเวลาของผลลัพธ์สั้นลง

มีสมมติฐานว่าการออกกำลังกายอาจไปเร่งการฟื้นตัวของเส้นประสาทหรือกระบวนการเผาผลาญของตัวยา แม้จะยังต้องการการวิจัยเพิ่มเติม แต่สมมติฐานนี้สอดคล้องกับคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญที่ให้หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักหลังฉีดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

ต้องงดออกกำลังกายกี่วันหลังฉีดโบท็อก

โดยทั่วไป ควรงดการออกกำลังกายอย่างหนักอย่างน้อย 24 ชั่วโมงหลังฉีดโบท็อก เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาเคลื่อนที่ไปยังกล้ามเนื้อส่วนอื่นและลดความเสี่ยงของอาการบวมหรือช้ำ

คำแนะนำตามช่วงเวลา มีดังนี้

  • ช่วง 24 ชั่วโมงแรก: ควรงดกิจกรรมที่ต้องออกแรงมาก เช่น วิ่ง ยกน้ำหนัก หรือโยคะ แต่สามารถทำกิจกรรมเบาๆ ได้ เช่น การเดินเล่น
  • หลัง 24-48 ชั่วโมง: สามารถกลับมาออกกำลังกายเบาๆ ถึงปานกลางได้ เช่น เข้ายิมแบบไม่หักโหม หรือปั่นจักรยานเบาๆ
  • หลัง 3-7 วัน: โดยทั่วไปสามารถกลับมาออกกำลังกายได้ตามปกติทุกประเภท เนื่องจากความเสี่ยงที่ตัวยาจะเคลื่อนที่นั้นต่ำมากแล้ว

หลังฉีดโบท็อก สามารถอบซาวน่าได้ไหม

หลังฉีดโบท็อก ควรงดการอบซาวน่าอย่างน้อย 48 ชั่วโมง เนื่องจากความร้อนสูงจะทำให้หลอดเลือดขยายตัว ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงที่ตัวยาจะกระจายไปยังกล้ามเนื้อส่วนที่ไม่ต้องการ และยังอาจทำให้อาการบวมเพิ่มขึ้นได้ ผู้ให้บริการบางรายแนะนำให้หลีกเลี่ยงความร้อนนานถึง 3-7 วัน เพื่อให้แน่ใจว่าผลลัพธ์จะออกมาดีที่สุด

เมื่อไหร่จึงจะกลับไปออกกำลังกายหนักได้ตามปกติ

โดยทั่วไปแล้ว คุณสามารถกลับไปออกกำลังกายหนักได้หลังจากฉีดโบท็อกซ์ไปแล้ว 24 ชั่วโมง แต่ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่แนะนำให้ค่อยๆ กลับมาทำกิจกรรมต่างๆ ตามลำดับเวลาเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

  • ภายใน 24 ชั่วโมงแรก: ควรงดการออกกำลังกายหนักทุกชนิด เช่น การวิ่ง ยกน้ำหนัก หรือคาร์ดิโอ เพื่อป้องกันไม่ให้โบท็อกซ์กระจายตัวจากการไหลเวียนเลือดที่เพิ่มขึ้น แต่สามารถทำกิจกรรมเบาๆ อย่างการเดินได้
  • หลัง 24-48 ชั่วโมง: สามารถเริ่มออกกำลังกายเบาถึงปานกลางได้ แต่ยังคงแนะนำให้หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่หนักหน่วงหรือต้องใช้แรงมาก
  • หลัง 3-7 วัน: ความเสี่ยงที่โบท็อกซ์จะเคลื่อนที่นั้นต่ำมาก โดยทั่วไปสามารถกลับมาออกกำลังกายได้ตามปกติ และคลินิกส่วนใหญ่มักจะอนุญาตให้กลับมาออกกำลังกายได้ทุกรูปแบบหลังจากผ่านไป 1 สัปดาห์

References:

  1. Cleveland Clinic. (n.d.). Exercise After Botox: What You Need to Know. Cleveland Clinic. clevelandclinic.org
  2. Westlake Dermatology. (n.d.). Can You Exercise After Botox? Westlake Dermatology. westlakedermatology.com
  3. Sadeghi Center for Plastic Surgery. (n.d.). Post-Botox Exercise Guidelines. Sadeghi Plastic Surgery. sadeghiplasticsurgery.com
  4. Warner, D. (n.d.). Post-Botox Care and Exercise Recommendations. Medical News Today. medicalnewstoday.com
  5. Feinstein Dermatology. (n.d.). BOTOX Alert and Post-Treatment Guidelines. Feinstein Dermatology. feinsteindermatology.com
  6. National Institute of Health. (n.d.). Botulinum Toxin Safety and Post-Procedure Care. NIH. nih.gov

แนะแนวเรื่อง

Previous Previous
ฉีดฟิลเลอร์ปาก ราคาเท่าไหร่ ใช้กี่ CC อยู่ได้นานแค่ไหน | คู่มือเริ่มต้น
NextContinue
ยาฉีดคีลอยด์: ราคาเท่าไหร่? ฉีดกี่ครั้ง? มีผลข้างเคียงไหม?

สาขาพรีวาโต คลินิก

    สาขาอโศก ตั้งอยู่ที่ ชั้น 2 อาคารมิดทาวน์
    Phone: 02-258-4050 , 081-841-5075
    สาขาสีลม ตั้งอยู่ที่ ชั้น 1 อาคารซี.พี.ทาวเวอร์
    Phone: 02-780-2011 , 098-272-5244
    สาขาราชพฤกษ์ ตั้งอยู่ที่ ชั้น 2 ศูนย์การค้า เดอะคริสตัล เอสบี (ด้านบนร้านสตาร์บัคส์)
    Phone: 02-102-2778 , 098-272-5244

ติดต่อเรา

    Facebook: Privato Clinic
    Messenger: Privato Clinic
    Instagram: privatoclinic
    Email: privatoclinic@gmail.com
    Line: @privatoclinic

Copyright© 2022-2024. All Rights Reserved

Scroll to top
  • หน้าหลัก
  • เกี่ยวกับพรีวาโต
  • บริการทั้งหมด
    • ชะลอวัย
    • ยกกระชับผิว
      • XERF
      • Potenza
      • Sofwave
      • Ulthera
      • Thermage-FLX
    • รักษาสิว
    • เลเซอร์
    • โปรแกรมฉีด
    • บำรุงผิว
  • บทความ
    • สิว
    • ยกกระชับ
    • ดูแลผิว
    • ทำเลเซอร์
  • ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว
  • โปรโมชั่น
  • ผลลัพธ์การรักษา
  • วิดีโอรีวิวจากเคสจริง
  • สาขาของเรา
  • ไทย
    • ไทย
    • English
    • 中文 (中国)
  • ปรึกษาแพทย์
Facebook Instagram YouTube