Skip to content

TEL : 081-841-5075, 02-258-4050

Facebook Instagram YouTube
Privato Clinic – Innovation Of Beauty  |  Bangkok
  • หน้าหลัก
  • เกี่ยวกับพรีวาโต
  • บริการทั้งหมดExpand
    • ชะลอวัย
    • ยกกระชับผิวExpand
      • XERF
      • Potenza
      • Sofwave
      • Ulthera
      • Thermage-FLX
    • รักษาสิว
    • เลเซอร์
    • โปรแกรมฉีด
    • บำรุงผิว
  • บทความExpand
    • สิว
    • ยกกระชับ
    • ดูแลผิว
    • ทำเลเซอร์
  • ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว
  • โปรโมชั่น
  • ผลลัพธ์การรักษา
  • วิดีโอรีวิวจากเคสจริง
  • สาขาของเรา
  • ไทยExpand
    • ไทย
    • English
    • 中文 (中国)
  • ปรึกษาแพทย์
Privato Clinic – Innovation Of Beauty  |  Bangkok
Consult a Doctor
Lifting

Oligio กับ Thermage: เทียบชัดๆ ต่างกันอย่างไร? เลือกตัวไหนดี?

Byadmin กันยายน 29, 2025
By แพทย์หญิงนัชชนก หุ่นวิจิตร Updated on กันยายน 29, 2025
✦ Medically reviewed by  นายแพทย์เลอพงษ์ กรุดเงิน
Oligio vs Thermage: เทียบชัดๆ ต่างกันอย่างไร? เลือกตัวไหนดี?

Oligio vs Thermage เป็นเทคโนโลยียกกระชับผิวด้วยคลื่นวิทยุความถี่สูงแบบขั้วเดียวที่กระตุ้นคอลลาเจน โดย Oligio เจ็บน้อยกว่าและราคาเข้าถึงง่ายกว่า ส่วน Thermage ให้ผลลัพธ์ชัดเจนและยาวนานกว่าประมาณ 1 ปี เหมาะสำหรับผู้ที่มีความหย่อนคล้อยที่เห็นได้ชัด.

Table of Contents

Toggle
  • Oligio และ Thermage คืออะไร?
    • หลักการทำงานของ Oligio (Radiofrequency Monopolar)
    • หลักการทำงานของ Thermage (Radiofrequency Monopolar)
    • เทคโนโลยีที่ใช้ (RF)
  • Oligio vs Thermage: ตารางเปรียบเทียบความแตกต่าง
    • ความเจ็บระหว่างทำ
    • ระยะเวลาในการทำ
    • ผลลัพธ์ที่ได้และระยะเวลาคงอยู่
    • ราคาและค่าใช้จ่าย
  • Oligio เหมาะกับใคร? Thermage เหมาะกับใคร?
    • ผู้ที่เหมาะกับ Oligio (ผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อย, รูขุมขนกว้าง)
    • ผู้ที่เหมาะกับ Thermage (ผิวหย่อนคล้อยมาก, มีไขมันสะสม)
  • ข้อดีและข้อเสียของ Oligio และ Thermage
    • ข้อดีของ Oligio
    • ข้อเสียของ Oligio
    • ข้อดีของ Thermage
    • ข้อเสียของ Thermage
  • ก่อนตัดสินใจเลือก: สิ่งที่ควรรู้และพิจารณา
    • การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
    • การเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน
    • ความคาดหวังที่เป็นจริง
  • ข้อควรระวังและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
    • ผลข้างเคียงทั่วไป
    • ข้อห้ามและผู้ที่ไม่ควรทำ
  • คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Oligio และ Thermage
    • Oligio กับ Thermage อันไหนดีกว่ากัน?
    • Oligio กับ Ultraformer ต่างกันอย่างไร?
    • Thermage ต้องทำกี่ช็อต?
    • Oligio ดีไหม Pantip?
    • หลังทำ Oligio/Thermage ต้องดูแลตัวเองอย่างไร?
  • References:

Oligio และ Thermage คืออะไร?

Oligio และ Thermage คือเทคโนโลยีการยกกระชับผิวโดยไม่ต้องผ่าตัดที่ใช้พลังงานคลื่นวิทยุความถี่สูงแบบขั้วเดียว (Monopolar Radiofrequency) ทั้งสองเครื่องมือทำงานโดยการส่งความร้อนลงไปใต้ชั้นผิวหนังเพื่อกระตุ้นการหดตัวของคอลลาเจนเดิมและสร้างคอลลาเจนใหม่ขึ้นมาทดแทน ส่งผลให้ผิวแน่นกระชับ เรียบเนียน และดูอ่อนเยาว์ขึ้น

หลักการทำงานของ Oligio (Radiofrequency Monopolar)

Oligio ทำงานโดยใช้เทคโนโลยีคลื่นวิทยุความถี่สูงแบบขั้วเดียว (Monopolar Radiofrequency) เพื่อส่งพลังงานความร้อนลงไปในชั้นผิวหนังแท้และชั้นไขมันใต้ผิวหนัง ซึ่งกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลง 2 ระยะ คือ:

  • ผลลัพธ์ทันที: ความร้อนที่เกิดขึ้น (ประมาณ 40–60 °C) จะทำให้เส้นใยคอลลาเจนเดิมหดตัวทันที ส่งผลให้ผิวรู้สึกกระชับขึ้นได้หลังทำ
  • ผลลัพธ์ระยะยาว: ความร้อนจะกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ ซึ่งจะทำให้ผิวค่อยๆ แน่นกระชับ เรียบเนียน และยกขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ โดยจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนที่สุดในช่วง 3–6 เดือนหลังการรักษา

ในขณะที่ส่งความร้อนลงสู่ชั้นผิวลึก ตัวเครื่องจะมีระบบทำความเย็นเพื่อปกป้องผิวหนังชั้นนอก ทำให้การรักษามีความปลอดภัยและสบายผิว

หลักการทำงานของ Thermage (Radiofrequency Monopolar)

Thermage ใช้หลักการของคลื่นวิทยุความถี่สูงแบบขั้วเดียว (Monopolar Radiofrequency) ในการสร้างความร้อนปริมาณมากในชั้นผิวหนังแท้และชั้นไขมันใต้ผิวหนัง เพื่อกระชับคอลลาเจนเดิมและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่

ความร้อนที่เกิดขึ้น (ประมาณ 65–75 °C) จะส่งผล 2 กลไกหลัก คือ:

  • ผลลัพธ์ทันที: เส้นใยคอลลาเจนเดิมเกิดการหดตัว ทำให้ผิวรู้สึกกระชับขึ้นทันทีหลังทำ
  • ผลลัพธ์ระยะยาว: กระตุ้นเซลล์ไฟโบรบลาสต์ (fibroblasts) ให้สร้างคอลลาเจนและอีลาสตินขึ้นมาใหม่ ซึ่งจะเห็นผลชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ในช่วง 3–6 เดือน

กระบวนการนี้ช่วยให้ผิวที่หย่อนคล้อยกลับมาเต่งตึงและเรียบเนียนขึ้น โดยไม่ทำลายผิวชั้นนอก เนื่องจากมีระบบให้ความเย็นเพื่อปกป้องผิวหนังชั้นบนไปพร้อมกัน

เทคโนโลยีที่ใช้ (RF)

Oligio และ Thermage ใช้เทคโนโลยีคลื่นวิทยุความถี่สูงแบบขั้วเดียว (Monopolar Radiofrequency หรือ RF) เพื่อยกกระชับผิว

เทคโนโลยีนี้ทำงานโดยการส่งกระแสคลื่นวิทยุผ่านเนื้อเยื่อเพื่อสร้างความร้อนในชั้นผิวหนังลึก (Volumetric Heating) ซึ่งส่งผล 2 ประการคือ:

  • ผลลัพธ์ทันที: ความร้อนทำให้เส้นใยคอลลาเจนเดิมหดตัว ทำให้ผิวรู้สึกกระชับขึ้นทันทีหลังทำ
  • ผลลัพธ์ระยะยาว: กระตุ้นกระบวนการซ่อมแซมของผิวหนัง ทำให้เกิดการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ในช่วง 3-6 เดือน ผิวจึงค่อยๆ ตึงกระชับและเรียบเนียนขึ้น

ข้อดีของ Monopolar RF คือสามารถส่งพลังงานลงได้ลึกกว่า RF แบบอื่น ทำให้เกิดการกระชับผิวและเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังได้อย่างทั่วถึง โดยทั้งสองเครื่องจะมีระบบทำความเย็นที่ผิวชั้นบนเพื่อป้องกันผิวไหม้

Oligio vs Thermage: ตารางเปรียบเทียบความแตกต่าง

ความเจ็บระหว่างทำ

โดยทั่วไป Oligio ให้ความรู้สึกสบายและเจ็บน้อยกว่า Thermage อย่างมีนัยสำคัญ

  • Oligio: ให้ความรู้สึกอุ่นๆ ที่ทนได้ โดยมีคะแนนความเจ็บเฉลี่ยเพียง 3 เต็ม 10 และหลายคนไม่จำเป็นต้องใช้ยาชา
  • Thermage: ให้ความรู้สึกร้อนที่รุนแรงกว่า แม้ในรุ่นล่าสุดอย่าง Thermage FLX ที่มีการเพิ่มระบบสั่นและระบายความร้อนเพื่อช่วยลดความเจ็บปวดแล้วก็ตาม ผู้เข้ารับการรักษามักต้องใช้ยาชาชนิดแรงหรือยาแก้ปวดเพื่อช่วยบรรเทาความรู้สึกไม่สบายระหว่างทำ

ระยะเวลาในการทำ

การทำ Oligio สำหรับทั่วใบหน้าใช้เวลาประมาณ 30-60 นาที ในขณะที่ Thermage ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง โดย Thermage เป็นการทำแบบครั้งเดียวที่ต้องใช้จำนวนช็อตทั้งหมดให้หมดในเซสชั่นนั้นๆ ส่วน Oligio จะมีความยืดหยุ่นมากกว่า สามารถปรับความเร็วในการทำและหยุดพักได้ตามความต้องการของผู้รับบริการ

ผลลัพธ์ที่ได้และระยะเวลาคงอยู่

ผลลัพธ์ของ Thermage อยู่ได้นานกว่า โดยทั่วไปประมาณ 1 ปีขึ้นไป ในขณะที่ Oligio อยู่ได้ประมาณ 6-12 เดือน ทั้งสองเทคโนโลยีจะเห็นผลการยกกระชับผิวได้ทันทีหลังทำ แต่ผลลัพธ์ที่ชัดเจนที่สุดจะค่อยๆ ปรากฏขึ้นและเห็นผลเต็มที่ในช่วง 3-6 เดือนหลังการรักษา เมื่อคอลลาเจนใหม่ถูกสร้างขึ้นอย่างสมบูรณ์

  • Thermage: ผลลัพธ์คงอยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน และอาจนานถึง 18-24 เดือนในผู้ที่มีสภาพผิวดี
  • Oligio: ผลลัพธ์คงอยู่ได้ประมาณ 6-12 เดือน จึงอาจต้องทำซ้ำบ่อยกว่าเพื่อคงผลลัพธ์ไว้

ราคาและค่าใช้จ่าย

โดยทั่วไปแล้ว Thermage มีราคาสูงกว่า Oligio ประมาณ 2-3 เท่า

ความแตกต่างของค่าใช้จ่ายเกิดจากเทคโนโลยีที่จดสิทธิบัตรและประวัติการใช้งานที่ยาวนานกว่าของ Thermage โดยข้อมูลจากในประเทศไทยระบุว่า:

  • Thermage FLX: การทำทั่วใบหน้า (600 ช็อต) มีราคาประมาณ 50,000 บาท
  • Oligo: การทำทั่วใบหน้า (600 ช็อต) มีราคาประมาณ 25,000 บาท

ดังนั้น Thermage จึงเป็นการลงทุนที่มีค่าใช้จ่ายสูงในครั้งเดียวเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่า ในขณะที่ Oligio มีค่าใช้จ่ายต่อครั้งที่ถูกกว่า ทำให้เป็นทางเลือกที่ประหยัดกว่าและเหมาะกับการทำหลายครั้งเพื่อคงผลลัพธ์

Oligio เหมาะกับใคร? Thermage เหมาะกับใคร?

Oligio เหมาะสำหรับผู้ที่มีความหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลางและกังวลเรื่องความเจ็บ ในขณะที่ Thermage เหมาะสำหรับผู้ที่มีความหย่อนคล้อยที่เห็นได้ชัดและต้องการผลลัพธ์สูงสุดในครั้งเดียว

โดยทั่วไปสามารถแบ่งกลุ่มผู้ที่เหมาะสมกับแต่ละเทคโนโลยีได้ดังนี้

Oligio เหมาะกับ:

  • ผู้ที่มีอายุ 30-50 ปี ที่เริ่มมีปัญหาผิวหย่อนคล้อย กรอบหน้าไม่คมชัด หรือรูขุมขนกว้าง
  • ผู้ที่มีไขมันบนใบหน้าหรือเหนียง เนื่องจาก Oligio ช่วยลดไขมันพร้อมกับยกกระชับผิวได้
  • ผู้ที่กังวลเรื่องความเจ็บหรือไม่ต้องการพักฟื้น เพราะเป็นเทคโนโลยีที่อ่อนโยนกว่า

Thermage เหมาะกับ:

  • ผู้ที่มีอายุ 40-60 ปี ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยอย่างเห็นได้ชัด เช่น ร่องแก้มลึก แก้มห้อย หรือเหนียง
  • ผู้ที่ต้องการยกกระชับผิวทั้งใบหน้า ลำคอ และลำตัว เช่น ท้องแขน หรือหน้าท้อง
  • ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจนและยาวนานจากการทำเพียงครั้งเดียว โดยผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นาน 1 ปีขึ้นไป

ผู้ที่เหมาะกับ Oligio (ผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อย, รูขุมขนกว้าง)

ผู้ที่เหมาะกับการทำ Oligio คือผู้ที่มีอายุระหว่าง 30-50 ปี ที่มีความกังวลเรื่องผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง รูขุมขนกว้าง และริ้วรอยตื้นๆ นอกจากนี้ Oligio ยังเหมาะกับบุคคลในกลุ่มต่อไปนี้

  • ผู้ที่มีใบหน้าอูมหรือมีไขมันใต้คาง (เหนียง): Oligio สามารถช่วยลดไขมันเฉพาะส่วนพร้อมกับยกกระชับผิวไปพร้อมกัน
  • ผู้ที่ต้องการปรับสภาพผิว: ช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้นและรูขุมขนดูเล็กลง
  • ผู้ที่กลัวความเจ็บปวด: เป็นหัตถการที่อ่อนโยน เจ็บน้อย และแทบไม่ต้องใช้ยาชา
  • ผู้ที่ไม่ต้องการพักฟื้น: สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ทันทีหลังทำ

ผู้ที่เหมาะกับ Thermage (ผิวหย่อนคล้อยมาก, มีไขมันสะสม)

Thermage เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยระดับปานกลางถึงมาก ที่ต้องการการรักษาที่เห็นผลชัดเจนในครั้งเดียวแต่ยังไม่พร้อมสำหรับการผ่าตัด

ผู้ที่เหมาะกับการทำ Thermage มีลักษณะดังนี้:

  • ผู้ที่มีอายุ 40-60 ปี ที่มีความหย่อนคล้อยที่มองเห็นได้ชัดเจน เช่น แก้มห้อย กรอบหน้าไม่ชัดเจน ผิวใต้คอหย่อนยาน หรือคิ้วตก
  • ผู้ที่มีผิวหนาหรือเนื้อเยอะ เนื่องจากพลังงานที่สูงของ Thermage สามารถกระชับผิวได้ดีกว่า
  • ผู้ที่ต้องการกระชับผิวบริเวณลำตัว เช่น หน้าท้องหลังคลอด, ต้นแขน, ต้นขา หรือก้น เพื่อลดเซลลูไลท์และเพิ่มความกระชับ
  • ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ยาวนาน โดยทั่วไปผลลัพธ์ของ Thermage จะอยู่ได้นานประมาณ 1 ปีหรือมากกว่านั้นต่อการทำหนึ่งครั้ง

ข้อดีและข้อเสียของ Oligio และ Thermage

ข้อดีของ Oligio

ข้อดีหลักของ Oligio คือ ความสบายระหว่างทำ เจ็บน้อย มีความปลอดภัยสูง ราคาเข้าถึงง่าย และสามารถช่วยยกกระชับผิวพร้อมกับลดไขมันได้ในเวลาเดียวกัน

นอกจากนี้ Oligio ยังมีข้อดีอื่นๆ ดังนี้:

  • ความสบายและเจ็บน้อย: ด้วยเทคโนโลยีการปล่อยความเย็นและการสั่นสะเทือน ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกสบายและเจ็บน้อยมาก (คะแนนความเจ็บเฉลี่ยเพียง 3/10) จนหลายครั้งไม่จำเป็นต้องใช้ยาชา
  • ความปลอดภัยสูง: มีเซ็นเซอร์ตรวจวัดอุณหภูมิและแรงต้านของผิวแบบเรียลไทม์ ช่วยป้องกันผิวไหม้และควบคุมการให้พลังงานอย่างสม่ำเสมอ
  • ราคาเข้าถึงง่าย: มีค่าใช้จ่ายต่อครั้งน้อยกว่า Thermage ทำให้เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการทำทรีตเมนต์อย่างต่อเนื่องหรือมีงบประมาณจำกัด
  • ยกกระชับพร้อมลดไขมัน: สามารถให้ความร้อนลงไปถึงชั้นไขมันใต้ผิวหนัง จึงช่วยลดไขมันส่วนเกินบริเวณแก้มหรือเหนียงได้เล็กน้อยพร้อมกับการยกกระชับผิว
  • เห็นผลทันทีบางส่วน: ผู้ป่วยจะรู้สึกว่าผิวกระชับขึ้นประมาณ 20-30% ทันทีหลังทำเสร็จ
  • ไม่ต้องพักฟื้น: หลังทำอาจมีรอยแดงเล็กน้อยซึ่งจะหายไปในไม่กี่ชั่วโมง ทำให้สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ทันที

ข้อเสียของ Oligio

ข้อเสียหลักของ Oligio คือ ประสิทธิภาพในการยกกระชับอาจไม่สูงเท่า Thermage ผลลัพธ์อยู่ได้สั้นกว่า และไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยรุนแรง

นอกจากนี้ยังมีข้อจำกัดอื่นๆ ได้แก่

  • ผลลัพธ์อยู่ได้สั้นกว่า: โดยทั่วไปผลลัพธ์จะคงอยู่ประมาณ 6–12 เดือน ทำให้ต้องทำซ้ำบ่อยกว่าเพื่อรักษาผลลัพธ์
  • ไม่เหมาะกับความหย่อนคล้อยรุนแรง: สำหรับผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยมากหรือมีสัญญาณแห่งวัยที่ชัดเจน Oligio อาจให้ผลลัพธ์ที่ไม่น่าพอใจเท่าที่ควร
  • อาจทำให้ไขมันลดลง: เนื่องจากเครื่องสามารถสลายไขมันได้เล็กน้อย จึงต้องใช้ด้วยความระมัดระวังในผู้ที่มีไขมันบนใบหน้าน้อยอยู่แล้ว เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ใบหน้าดูตอบ
  • มีให้บริการจำกัด: ยังมีให้บริการไม่แพร่หลายในประเทศตะวันตก โดยส่วนใหญ่จะพบในภูมิภาคเอเชียตะวันออก เช่น เกาหลีใต้และไทย

ข้อดีของ Thermage

ข้อดีหลักของ Thermage คือ ประสิทธิภาพในการยกกระชับที่ทรงพลัง เห็นผลลัพธ์ยาวนานจากการทำเพียงครั้งเดียว และสามารถใช้ได้กับหลายส่วนของร่างกาย

  • ผลลัพธ์ยาวนาน: ผลลัพธ์มักจะอยู่ได้นานประมาณ 1 ปีหรือมากกว่านั้น ทำให้สะดวกสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการทำทรีตเมนต์บ่อยๆ
  • ความหลากหลายในการรักษา: สามารถใช้ได้ทั้งใบหน้า ลำคอ เปลือกตา หน้าท้อง แขน และต้นขา ทั้งยังได้รับการรับรองจาก FDA ในการลดเซลลูไลท์ชั่วคราว
  • ประสิทธิภาพสูง: Thermage FLX รุ่นล่าสุดมีหัวทิปที่ใหญ่ขึ้น ทำให้การรักษาครอบคลุมพื้นที่ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
  • เป็นที่ยอมรับและน่าเชื่อถือ: เป็นเทคโนโลยีที่เป็นที่รู้จักและมีประวัติการใช้งานยาวนาน พร้อมข้อมูลด้านความปลอดภัยและประสิทธิภาพที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก

ข้อเสียของ Thermage

ข้อเสียหลักของ Thermage คือความรู้สึกเจ็บหรือไม่สบายผิวระหว่างทำ และมีราคาสูง เมื่อเทียบกับเทคโนโลยีอื่น นอกจากนี้ยังมีข้อจำกัดอื่นๆ ได้แก่

  • ผลลัพธ์แตกต่างกัน: ผลลัพธ์ที่ได้อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล บางรายอาจเห็นการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย
  • ผลลัพธ์ไม่ถาวร: ผลลัพธ์จะค่อยๆ จางลงตามกาลเวลาและจำเป็นต้องทำซ้ำเพื่อคงสภาพผิว
  • ความเสี่ยงไขมันฝ่อ: มีรายงานว่าการตั้งค่าพลังงานที่สูงเกินไปอาจทำให้ไขมันบนใบหน้าบางส่วนสลายไป ทำให้ใบหน้าดูตอบได้
  • ขึ้นอยู่กับความชำนาญ: ผลลัพธ์และความปลอดภัยขึ้นอยู่กับเทคนิคและความชำนาญของผู้ให้บริการเป็นอย่างมาก

ก่อนตัดสินใจเลือก: สิ่งที่ควรรู้และพิจารณา

การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นขั้นตอนสำคัญในการประเมินสภาพผิว ความหย่อนคล้อย และเป้าหมายของผู้ป่วย เพื่อเลือกว่า Thermage, Oligio หรือการรักษาแบบผสมผสานจะให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

แพทย์จะช่วยตั้งความคาดหวังที่สมจริง โดยอธิบายว่าผลลัพธ์จะเป็นการฟื้นฟูที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงที่เหมือนการผ่าตัด การเลือกคลินิกที่มีชื่อเสียงซึ่งใช้อุปกรณ์ของแท้และมีผู้ประกอบวิชาชีพที่ผ่านการรับรองก็เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิผลสูงสุด นอกจากนี้ แพทย์จะพิจารณาถึงความทนทานต่อความเจ็บปวดและงบประมาณของผู้ป่วยเพื่อสร้างแผนการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล

การเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน

การเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานควรพิจารณาจากความน่าเชื่อถือของสถานพยาบาล ประสบการณ์ของแพทย์ และการใช้เครื่องมือของแท้ โดยมีข้อควรพิจารณาดังนี้

  • สถานพยาบาลที่น่าเชื่อถือ: คลินิกต้องมีใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาลที่ถูกต้อง และมีมาตรฐานด้านความสะอาดสูง
  • แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ: แพทย์ควรมีประสบการณ์ในการทำหัตถการดังกล่าว มีใบประกอบวิชาชีพที่สามารถตรวจสอบได้ และผ่านการฝึกอบรมจากบริษัทผู้ผลิตเครื่องมือโดยตรง
  • เครื่องมือของแท้: ต้องมั่นใจว่าคลินิกใช้เครื่อง Thermage หรือ Oligio ของแท้ ไม่ใช่เครื่องลอกเลียนแบบ เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุด
  • การให้คำปรึกษาและติดตามผล: คลินิกที่ดีจะมีการให้คำปรึกษาอย่างละเอียดเพื่อประเมินสภาพผิวและวางแผนการรักษาที่เหมาะสม รวมถึงมีการนัดหมายเพื่อติดตามผลหลังการรักษา

ความคาดหวังที่เป็นจริง

ผลลัพธ์ที่คาดหวังได้คือการยกกระชับผิวที่ดูเป็นธรรมชาติและค่อยเป็นค่อยไป เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง แต่จะไม่สามารถเทียบเท่ากับการผ่าตัดดึงหน้าได้

โดยทั่วไปแล้ว ผลลัพธ์ที่ชัดเจนที่สุดจะปรากฏในช่วง 3-6 เดือนหลังการรักษา เนื่องจากเป็นช่วงที่คอลลาเจนใหม่ถูกสร้างขึ้นอย่างเต็มที่ ผู้ป่วยสามารถคาดหวังได้ว่าผิวจะเฟิร์มขึ้น เรียบเนียนขึ้น กรอบหน้าคมชัดขึ้น และริ้วรอยเล็กๆ ดูจางลง ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้ดูสดใสและอ่อนเยาว์ลงอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงที่ดูผิดแปลกไป

สิ่งสำคัญคือการทำความเข้าใจว่าทรีตเมนต์เหล่านี้ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีความหย่อนคล้อยรุนแรงมาก เช่น เหนียงที่ห้อยยานอย่างชัดเจน ซึ่งกรณีเช่นนี้มักต้องการการผ่าตัดเพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่น่าพอใจ

ข้อควรระวังและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น

ผลข้างเคียงทั่วไป

ผลข้างเคียงที่พบบ่อยที่สุดคืออาการบวมและแดงเล็กน้อย ซึ่งโดยทั่วไปจะหายไปเองภายในไม่กี่ชั่วโมงถึง 1-2 วัน

หลังทำทรีตเมนต์ ผิวอาจรู้สึกอุ่น ตึง หรือมีอาการชาเล็กน้อย ซึ่งจะค่อยๆ หายไปเอง เนื่องจากไม่มีบาดแผลเปิด ผู้รับบริการส่วนใหญ่จึงสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ทันที

ข้อห้ามและผู้ที่ไม่ควรทำ

ข้อห้ามหลักสำหรับผู้ที่ไม่ควรทำ Oligio และ Thermage คือ ผู้ที่ตั้งครรภ์, ผู้ที่ติดตั้งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในร่างกาย และผู้ที่มีการติดเชื้อหรือแผลเปิดบริเวณที่ทำการรักษา

ผู้ที่ไม่เหมาะกับการรักษาด้วยวิธีนี้โดยเด็ดขาด ได้แก่:

  • ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
  • ผู้ที่ติดตั้งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในร่างกาย เช่น เครื่องกระตุ้นหัวใจ (Pacemaker), เครื่องกระตุกหัวใจ (Defibrillator) หรือประสาทหูเทียม
  • ผู้ที่มีโลหะฝังอยู่ในบริเวณที่จะทำการรักษา เช่น แผ่นโลหะบนใบหน้าหรือกะโหลกศีรษะ
  • ผู้ที่มีโรคผิวหนังที่ยังไม่หายดีในบริเวณที่จะทำ เช่น เริม, สิวอักเสบรุนแรง, แผลเปิด หรือการติดเชื้อ

นอกจากนี้ ผู้ที่มีภาวะสุขภาพบางอย่าง เช่น โรคเบาหวานที่ควบคุมไม่ได้ หรือโรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเองที่ส่งผลต่อการสมานแผล ควรปรึกษาแพทย์อย่างละเอียดก่อนตัดสินใจทำ

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Oligio และ Thermage

Oligio กับ Thermage อันไหนดีกว่ากัน?

<b>Thermage ให้ผลลัพธ์การยกกระชับที่ชัดเจนและยาวนานกว่า จึงเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยมาก ส่วน Oligio จะเจ็บน้อยกว่าและราคาเข้าถึงง่ายกว่า เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเล็กน้อยถึงปานกลาง</b> การเลือกระหว่างสองเทคโนโลยีนี้จึงขึ้นอยู่กับสภาพผิว ความกังวล และงบประมาณของแต่ละบุคคล

ตารางเปรียบเทียบระหว่าง Oligio และ Thermage:

คุณสมบัติ Thermage Oligio
ผลลัพธ์การยกกระชับ ยกกระชับได้ดีกว่า เหมาะกับความหย่อนคล้อยปานกลางถึงมาก ยกกระชับได้ดีในระดับเริ่มต้นถึงปานกลาง ช่วยลดไขมันได้เล็กน้อย
ความเจ็บ เจ็บกว่า ต้องใช้ยาชา เจ็บน้อยกว่ามาก แทบไม่ต้องใช้ยาชา
ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 12–24 เดือน 6–12 เดือน
ความถี่ในการทำ ปีละ 1 ครั้ง ปีละ 1-2 ครั้ง
ค่าใช้จ่าย สูงกว่า ต่ำกว่า
เหมาะกับใคร ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ชัดเจนในครั้งเดียวและทนเจ็บได้ ผู้ที่กลัวเจ็บ มีงบจำกัด หรือต้องการทำเพื่อป้องกันและดูแลผิวต่อเนื่อง

Oligio กับ Ultraformer ต่างกันอย่างไร?

Oligio ใช้เทคโนโลยีคลื่นวิทยุ (RF) ในขณะที่ Ultraformer ใช้คลื่นอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูง (HIFU) ซึ่งทำให้ทั้งสองเครื่องทำงานในชั้นผิวที่แตกต่างกันและให้ผลลัพธ์หลักที่ต่างกัน

  • Oligio (RF): ให้ความร้อนแบบกว้างในชั้นหนังแท้และไขมันใต้ผิว (ความลึกประมาณ 2-3 มม.) เหมาะสำหรับการ “กระชับผิว” (Tightening) ปรับปรุงคุณภาพผิว ลดริ้วรอยเล็กๆ และลดไขมันส่วนเกินบนใบหน้า เช่น แก้ม หรือเหนียง
  • Ultraformer (HIFU): ส่งพลังงานเป็นจุดเล็กๆ ลงลึกถึงชั้น SMAS (ความลึกประมาณ 4.5 มม.) ซึ่งเป็นชั้นพังผืดของกล้ามเนื้อที่ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้า จึงเน้นการ “ยกกระชับ” (Lifting) โครงสร้างผิวที่หย่อนคล้อยมาก

Thermage ต้องทำกี่ช็อต?

จำนวนช็อตของ Thermage ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำการรักษา โดยทั่วไปแล้วทั่วใบหน้าจะใช้ประมาณ 600 ช็อต และหากรวมบริเวณใบหน้าและลำคอจะใช้ประมาณ 900 ช็อต

จำนวนช็อตสำหรับบริเวณอื่นๆ มีดังนี้:

  • รอบดวงตา: ใช้หัวทิปสำหรับดวงตาโดยเฉพาะ ประมาณ 450 ช็อต
  • ลำตัว: เช่น หน้าท้องหรือต้นขา อาจต้องใช้ 1,200 ช็อตขึ้นไป

โดยปกติแล้ว Thermage จะทำเพียงครั้งเดียวต่อการรักษา และใช้จำนวนช็อตทั้งหมดให้หมดภายในเซสชันนั้น

Oligio ดีไหม Pantip?

จากข้อมูลที่ให้มา Oligio เป็นหัตถการยกกระชับผิวที่ดีและมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง และให้ความสำคัญกับความสบายระหว่างทำในราคาที่เข้าถึงง่าย

จุดเด่นที่สำคัญของ Oligio คือความเจ็บน้อยมากเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีอื่นอย่าง Thermage โดยผู้ใช้ส่วนใหญ่รู้สึกเพียงอุ่นๆ และมักไม่จำเป็นต้องใช้ยาชา นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวกระชับ เรียบเนียน และกรอบหน้าคมชัดขึ้น อีกทั้งยังสามารถช่วยลดไขมันบริเวณแก้มและใต้คางได้เล็กน้อย โดยแทบไม่ต้องพักฟื้นและมีผลข้างเคียงน้อยมาก ข้อมูลระบุว่าผู้ป่วยมีความพึงพอใจในระดับสูงกับผลการรักษา

หลังทำ Oligio/Thermage ต้องดูแลตัวเองอย่างไร?

การดูแลตัวเองหลังทำ Oligio หรือ Thermage นั้นไม่ซับซ้อน โดยเน้นการปกป้องผิวจากแสงแดดและความร้อน หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง และปล่อยให้ผิวได้ฟื้นฟูตัวเอง

คำแนะนำในการดูแลผิวหลังการรักษามีดังนี้:

  • ปกป้องผิวจากแสงแดด: หลีกเลี่ยงแสงแดดจัดและทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอเป็นเวลา 1-2 สัปดาห์
  • ใช้สกินแคร์ที่อ่อนโยน: งดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดผลัดเซลล์ผิว (AHA/BHA), เรตินอยด์ หรือสครับประมาณ 5-7 วัน
  • หลีกเลี่ยงความร้อน: งดการเข้าซาวน่า, สตรีม, แช่น้ำร้อน หรืออาบน้ำร้อนจัดเป็นเวลา 48 ชั่วโมง
  • งดออกกำลังกายหนัก: ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่ทำให้เหงื่อออกมากเป็นเวลา 1-2 วัน
  • การใช้ยา: แพทย์บางท่านอาจแนะนำให้หลีกเลี่ยงยาต้านการอักเสบ เช่น ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) เพื่อไม่ให้รบกวนกระบวนการสร้างคอลลาเจนของร่างกาย

References:

  1. National Institutes of Health. nih.gov
  2. Aesthetic Medical Practitioner. aestheticmedicalpractitioner.com
  3. Michele Green MD. michelegreenmd.com
  4. Bay Clinic. (n.d.). oligio vs thermage. Bay Clinic. bayclinic.sg

แนะแนวเรื่อง

Previous Previous
ฉีดผิว ขาวจริงไหม? รีวิว ข้อดี ข้อเสีย อันตรายหรือไม่ 2025
NextContinue
ทำ HIFU อยู่ได้นานไหม? ต้องทำบ่อยแค่ไหนถึงจะเห็นผล?

สาขาพรีวาโต คลินิก

    สาขาอโศก ตั้งอยู่ที่ ชั้น 2 อาคารมิดทาวน์
    Phone: 02-258-4050 , 081-841-5075
    สาขาสีลม ตั้งอยู่ที่ ชั้น 1 อาคารซี.พี.ทาวเวอร์
    Phone: 02-780-2011 , 098-272-5244
    สาขาราชพฤกษ์ ตั้งอยู่ที่ ชั้น 2 ศูนย์การค้า เดอะคริสตัล เอสบี (ด้านบนร้านสตาร์บัคส์)
    Phone: 02-102-2778 , 098-272-5244

ติดต่อเรา

    Facebook: Privato Clinic
    Messenger: Privato Clinic
    Instagram: privatoclinic
    Email: privatoclinic@gmail.com
    Line: @privatoclinic

Copyright© 2022-2024. All Rights Reserved

Scroll to top
  • หน้าหลัก
  • เกี่ยวกับพรีวาโต
  • บริการทั้งหมด
    • ชะลอวัย
    • ยกกระชับผิว
      • XERF
      • Potenza
      • Sofwave
      • Ulthera
      • Thermage-FLX
    • รักษาสิว
    • เลเซอร์
    • โปรแกรมฉีด
    • บำรุงผิว
  • บทความ
    • สิว
    • ยกกระชับ
    • ดูแลผิว
    • ทำเลเซอร์
  • ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว
  • โปรโมชั่น
  • ผลลัพธ์การรักษา
  • วิดีโอรีวิวจากเคสจริง
  • สาขาของเรา
  • ไทย
    • ไทย
    • English
    • 中文 (中国)
  • ปรึกษาแพทย์
Facebook Instagram YouTube