การทำ Sofwave มีข้อเสียไหม ใครไม่ควรทำ?
แม้การทำ Sofwave จะมีข้อเสียที่ผลลัพธ์ต้องรอถึง 3 เดือนและไม่ถาวร แต่นี่คือเทคโนโลยียกกระชับผิวด้วยอัลตราซาวด์ที่เจ็บน้อยและไม่ต้องพักฟื้น เหมาะสำหรับลดริ้วรอยตื้นๆ และความหย่อนคล้อยเล็กน้อย โดยให้ผลลัพธ์นานประมาณ 1 ปี
Sofwave คืออะไร? หลักการทำงานเพื่อผิวยกกระชับ
Sofwave คือเทคโนโลยียกกระชับผิวและลดเลือนริ้วรอยโดยไม่ต้องผ่าตัด ซึ่งใช้คลื่นอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูงแบบขนานที่เรียกว่า Synchronous Ultrasound Parallel Beam (SUPERB™)
หลักการทำงานของ Sofwave คือการส่งคลื่นอัลตราซาวด์ 7 ลำพร้อมกันลงไปที่ชั้นหนังแท้ส่วนกลาง (Mid-dermis) ที่ความลึก 1.5 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นชั้นผิวที่มีคอลลาเจนหนาแน่นที่สุด พลังงานความร้อนที่เกิดขึ้น (ประมาณ 60-70°C) จะกระตุ้นกระบวนการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ ทำให้ผิวค่อยๆ ตึงกระชับและเรียบเนียนขึ้น ในขณะเดียวกันก็มีระบบทำความเย็น Sofcool™ ที่ช่วยปกป้องผิวชั้นบน (Epidermis) ไม่ให้เกิดการไหม้หรือบาดเจ็บ
ใครเหมาะกับการทำ Sofwave และใครที่ควรหลีกเลี่ยง
ลักษณะปัญหาผิวที่ตอบโจทย์ด้วย Sofwave
Sofwave เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง มีริ้วรอยตื้นๆ และรอยย่น โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด
เครื่องนี้มีประสิทธิภาพในการแก้ปัญหาต่างๆ ดังนี้
- ยกคิ้วและหนังตาที่ตกเล็กน้อย
- กระชับผิวใต้คางและลำคอที่หย่อนคล้อย
- ลดเลือนริ้วรอยตื้นๆ ทั่วใบหน้า โดยเฉพาะบริเวณรอบดวงตาและริมฝีปาก
- ช่วยให้กรอบหน้าคมชัดขึ้น และลดความลึกของร่องแก้มและร่องน้ำหมาก
ข้อห้ามและเงื่อนไขที่ไม่สามารถทำ Sofwave ได้
ข้อห้ามหลักในการทำ Sofwave คือการมีแผลเปิด การติดเชื้อที่ผิวหนัง การตั้งครรภ์ และการมีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หรือโลหะฝังในร่างกาย
ผู้ที่ไม่สามารถทำ Sofwave ได้ หรือควรปรึกษาแพทย์อย่างละเอียดก่อนทำ มีดังนี้:
- ผู้ที่มีแผลเปิด มีการติดเชื้อที่ผิวหนัง หรือเป็นสิวอักเสบรุนแรงในบริเวณที่จะทำ
- ผู้ที่ใส่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ฝังในร่างกาย เช่น เครื่องกระตุ้นหัวใจ (Pacemaker)
- ผู้ที่มีโลหะฝังอยู่ในบริเวณที่จะทำ เช่น แผ่นเหล็ก หรือสกรู
- สตรีมีครรภ์และให้นมบุตร
- ผู้ที่เพิ่งฉีดฟิลเลอร์ในบริเวณที่จะทำ (ควรเว้นระยะห่าง)
- ผู้ที่ใช้ยา Isotretinoin (Accutane) ภายใน 6 เดือน
- ผู้ที่มีประวัติเป็นแผลเป็นคีลอยด์ง่าย หรือมีปัญหาเกี่ยวกับการสมานแผล
สรุปข้อดี-ข้อเสียของ Sofwave ที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจ
ข้อดี: ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ เจ็บน้อย ไม่ต้องพักฟื้น
ใช่ ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ความเจ็บที่น้อยกว่า และการไม่ต้องพักฟื้น ล้วนเป็นข้อดีที่สำคัญของเทคโนโลยี Sofwave
- ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ: ผลลัพธ์จะค่อยๆ ปรากฏขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ดูตึงหรือผิดรูปเหมือนการผ่าตัด ทำให้คนรอบข้างอาจทักว่าดูสดใสขึ้นมากกว่าดูออกว่าไปทำหัตถการมา
- เจ็บน้อย: เมื่อเทียบกับเทคโนโลยีอื่นอย่าง Ultherapy ผู้ป่วยส่วนใหญ่ทนความเจ็บปวดจาก Sofwave ได้ดีกว่า โดยใช้เพียงยาชาเฉพาะที่ก็เพียงพอ
- ไม่ต้องพักฟื้น: หลังทำสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นการทำงานหรือเข้าสังคม เนื่องจากไม่มีบาดแผลเปิด สามารถแต่งหน้าและทาครีมกันแดดได้เลย
ข้อเสียและข้อจำกัด: ผลลัพธ์และระยะเวลาที่ต้องพิจารณา
ข้อเสียและข้อจำกัดหลักของ Sofwave คือ ผลลัพธ์จะปรากฏขึ้นอย่างช้าๆ ไม่ได้เห็นผลทันที และให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติแต่ไม่เทียบเท่าการผ่าตัดดึงหน้า
- ผลลัพธ์ปรากฏอย่างช้าๆ: ผู้รับการรักษาต้องรอประมาณ 12 สัปดาห์ (3 เดือน) เพื่อเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนที่สุด เนื่องจากต้องใช้เวลารอให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่
- เหมาะสำหรับความหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง: เทคโนโลยีนี้ไม่สามารถทดแทนการผ่าตัดดึงหน้าได้ จึงไม่เหมาะกับผู้ที่มีความหย่อนคล้อยรุนแรงหรือมีผิวหนังส่วนเกินจำนวนมาก
- ผลลัพธ์ไม่ถาวร: ผลลัพธ์จากการรักษาจะคงอยู่ประมาณ 1 ปี หลังจากนั้นอาจต้องกลับมาทำซ้ำเพื่อคงสภาพผิวไว้
- อาจต้องทำมากกว่าหนึ่งครั้ง: แม้ว่าส่วนใหญ่มักจะเห็นผลจากการทำเพียงครั้งเดียว แต่ในบางกรณีที่มีความหย่อนคล้อยมากกว่า อาจจำเป็นต้องทำครั้งที่สองเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ผลข้างเคียงและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นหลังทำ Sofwave
ผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยที่สุดหลังทำ Sofwave คือ อาการบวมแดงและอาการเจ็บเล็กน้อย ซึ่งจะหายไปเองภายในเวลาไม่กี่วัน และมีความเสี่ยงต่ำที่จะเกิดผลข้างเคียงรุนแรง
ผลข้างเคียงที่พบได้ทั่วไปและไม่รุนแรง ได้แก่:
- รอยแดง (Erythema): ผิวอาจมีลักษณะคล้ายโดนแดด แต่จะค่อยๆ จางลงภายในไม่กี่ชั่วโมงถึงหนึ่งวัน
- อาการบวม (Edema): อาจมีอาการบวมเล็กน้อยในบริเวณที่ทำ ซึ่งจะหายไปเองภายใน 1-3 วัน
- อาการเจ็บหรือปวดระบม: อาจรู้สึกเจ็บเมื่อสัมผัสหรือปวดระบมลึกๆ ใต้ผิว ซึ่งจะคงอยู่ประมาณ 2-3 วัน
สำหรับความเสี่ยงที่พบได้ยากมาก ได้แก่ รอยช้ำเล็กน้อย หรือการเปลี่ยนแปลงของเม็ดสีผิว เนื่องจากเทคโนโลยีของ Sofwave ได้รับการออกแบบมาให้มีความปลอดภัยสูง โดยพลังงานจะลงไปที่ชั้นผิวหนังแท้ความลึก 1.5 มม. เท่านั้น จึงไม่กระทบต่อชั้นไขมันหรือเส้นประสาท ทำให้ความเสี่ยงเรื่องผิวไหม้ หน้าตอบ หรือเส้นประสาทเสียหายมีน้อยมากเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีอื่น
References:
- Hongcharu, W., Boonchoo, K., & Gold, M. H. The efficacy and safety of the high-intensity parallel beam ultrasound device at the depth of 1.5 mm for skin tightening. Journal of Cosmetic Dermatology. onlinelibrary.wiley.com
- Advanced Dermatology. Sofwave Facial Treatment & Side Effects for Face, Neck. Advanced Dermatology. advdermatology.com
- Sofwave Medical Ltd. What should you ask your aesthetic doctor before having Sofwave? Sofwave Blog. sofwave.com
- Sofwave Medical Ltd. The Evolution of Non-Invasive Skin Lifting. Sofwave Blog. sofwave.com
- Montecito Plastic Surgery. Ultherapy vs Sofwave: Key differences to consider in 2025. Montecito Plastic Surgery (Blog). sbplasticsurgeon.com
- Saltz Plastic Surgery. The Differences Between Thermage & Sofwave. Saltz Plastic Surgery (Blog). saltzplasticsurgery.com
- Privato Clinic. Sofwave นวัตกรรมยกกระชับใหม่ล่าสุดจาก USA (Latest skin tightening innovation from USA). Privato Clinic (Thai). privatoclinic.com
- HDmall. ยกกระชับและลดริ้วรอยบนใบหน้า ด้วยคลื่นอัลตราซาวด์ เครื่อง Sofwave (Sofwave Ultrasound Treatment). HDmall (Thai). hdmall.co.th