Ulthera Prime vs SPT: เจ็บน้อยลงจริงไหม? เทียบราคาและเทคโนโลยี

Ulthera SPT vs Ulthera Prime มีความแตกต่างสำคัญคือ Prime เป็นเวอร์ชันอัปเกรดที่มีหน้าจอความละเอียดสูง 19 นิ้ว เทียบกับ SPT ที่ 15 นิ้ว พร้อมหน่วยประมวลผลเร็วกว่าถึง 10 เท่าทำให้การรักษาใช้เวลาเพียง 45 นาทีเทียบกับ 60-75 นาที และที่สำคัญคือ Prime เจ็บน้อยกว่าอย่างมีนัยสำคัญจากการส่งพลังงานที่แม่นยำกว่า; แพทย์แนะนำว่าแม้ผลลัพธ์การยกกระชับของทั้งสองรุ่นจะเทียบเท่ากันและคงอยู่ได้นานประมาณ 1 ปี แต่ Prime มีราคาสูงกว่า SPT เพียง 10-20% และคุ้มค่ากับประสบการณ์การรักษาที่สบายและรวดเร็วกว่าสำหรับผู้ที่กังวลเรื่องความเจ็บปวด.

เปรียบเทียบ Ulthera Prime และ SPT: ภาพรวมความแตกต่างที่สำคัญ

Ulthera Prime เป็นเครื่อง Ulthera SPT เวอร์ชันอัปเกรดที่ใหม่กว่า โดยใช้เทคโนโลยี Micro-focused Ultrasound แบบเดียวกัน แต่มีการปรับปรุงประสิทธิภาพในหลายด้านเพื่อให้การรักษารวดเร็ว แม่นยำ และสบายตัวยิ่งขึ้น

ความแตกต่างที่สำคัญระหว่างสองรุ่น ได้แก่:

• เทคโนโลยีและการแสดงผล: Prime มีหน้าจอที่ใหญ่และคมชัดกว่า (Full HD) พร้อมหน่วยประมวลผลที่เร็วกว่า ทำให้แพทย์เห็นภาพอัลตราซาวด์ของชั้นผิวได้ชัดเจนและวางแผนการรักษาได้แม่นยำยิ่งขึ้น
• ความเร็วในการรักษา: การรักษาด้วย Prime ใช้เวลาสั้นลง โดยการทำทั่วใบหน้าอาจใช้เวลาประมาณ 45 นาที เทียบกับเครื่อง SPT รุ่นเดิมที่อาจใช้เวลา 60-75 นาที
• ความรู้สึกขณะทำ: Prime ถูกออกแบบมาให้เจ็บน้อยกว่าอย่างมีนัยสำคัญ และมีผลข้างเคียงเช่นอาการบวมแดงน้อยกว่า ทำให้ผู้รับการรักษาสบายตัวขึ้น
• ผลลัพธ์: ผลลัพธ์การยกกระชับที่ได้นั้นเทียบเท่ากัน แต่ความแม่นยำที่สูงขึ้นของ Prime อาจช่วยให้ผลลัพธ์มีความสม่ำเสมอและมีประสิทธิภาพสูงสุด

เจาะลึกเทคโนโลยี: อะไรคือการอัปเกรดใน Ulthera Prime?

การอัปเกรดที่สำคัญใน Ulthera Prime คือ การปรับปรุงฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ครั้งใหญ่ ซึ่งส่งผลให้การแสดงภาพคมชัดขึ้น ประมวลผลเร็วขึ้น และมีความแม่นยำในการส่งพลังงานสูงขึ้น

การอัปเกรดทางเทคโนโลยีที่สำคัญ ได้แก่:

• การแสดงภาพที่ดีขึ้น: หน้าจอทัชสกรีนมีความละเอียดสูงและใหญ่ขึ้น (19 นิ้ว เทียบกับ 15 นิ้ว) ทำให้แพทย์มองเห็นชั้นผิว (SMAS) ได้ชัดเจนและสว่างขึ้น ช่วยลดจุดรบกวนในภาพ (visual noise) และวางแผนการรักษาได้อย่างแม่นยำ
• การประมวลผลที่เร็วขึ้น: ใช้โปรเซสเซอร์แบบ Dual-core ทำให้ประมวลผลเร็วกว่ารุ่นเดิมถึง 10 เท่า และเปิดเครื่องได้เร็วกว่าเกือบ 2 เท่า ซึ่งช่วยลดระยะเวลาในการทำหัตถการลงอย่างเห็นได้ชัด (จาก 60-75 นาที เหลือประมาณ 45 นาที)
• ความแม่นยำในการส่งพลังงาน: ด้วยภาพที่คมชัดขึ้น ทำให้สามารถส่งพลังงานอัลตราซาวด์ไปยังเป้าหมายได้อย่างสม่ำเสมอและแม่นยำยิ่งขึ้น ช่วยให้เกิดการกระตุ้นคอลลาเจนอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
• การออกแบบที่ใช้งานง่ายขึ้น: ตัวเครื่องได้รับการปรับปรุงตามหลักสรีรศาสตร์ เช่น หน้าจอที่ปรับเอียงได้ และการทำงานที่เงียบลง ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับทั้งแพทย์และผู้รับบริการ

หน้าจอแสดงผลและการวางแผนการรักษา (See & Plan)

Ulthera Prime มีหน้าจอแสดงผลที่ใหญ่และมีความละเอียดสูงกว่า พร้อมเทคโนโลยีการถ่ายภาพอัลตราซาวด์ที่คมชัดขึ้น ทำให้กระบวนการ “See & Plan” (มองเห็นและวางแผน) มีประสิทธิภาพและแม่นยำกว่า Ulthera SPT รุ่นเดิม โดยหน้าจอของ Ulthera Prime เป็นจอสัมผัสความละเอียดสูงขนาด 19 นิ้ว ในขณะที่รุ่น SPT เดิมมีขนาด 15 นิ้ว

ความสามารถในการ “See” (มองเห็น) ของ Prime ดีขึ้นอย่างมาก โดยให้ภาพที่สว่างและคมชัดกว่า ช่วยให้แพทย์มองเห็นชั้นผิวต่างๆ เช่น ชั้น SMAS ได้อย่างชัดเจน ส่วนการ “Plan” (วางแผน) บนเครื่อง Prime ทำได้แม่นยำยิ่งขึ้น เนื่องจากแพทย์สามารถวางแผนการยิงพลังงานลงบนเป้าหมายได้อย่างตรงจุด ลดโอกาสการรักษาในบริเวณที่ไม่จำเป็น แม้ว่าทั้งสองรุ่นจะใช้หลักการ SPT เหมือนกัน แต่เทคโนโลยีที่อัปเกรดใน Prime ช่วยให้กระบวนการทั้งหมดมีความแม่นยำและน่าเชื่อถือมากขึ้น

ความเร็วในการประมวลผลและระยะเวลาทำทรีตเมนต์

Ulthera Prime มีหน่วยประมวลผลที่เร็วกว่ารุ่นเดิมถึง 10 เท่า และสามารถเปิดเครื่องได้เร็วกว่าเกือบ 2 เท่า

การอัปเกรดนี้ส่งผลให้ระยะเวลาในการทำทรีตเมนต์สั้นลงอย่างเห็นได้ชัด โดยการทำ Ulthera Prime ทั่วใบหน้าจะใช้เวลาประมาณ 45 นาที ในขณะที่เครื่องรุ่นเดิมอาจใช้เวลา 60-75 นาทีสำหรับจำนวนไลน์ที่เท่ากัน ซึ่งช่วยให้ผู้รับบริการรู้สึกสบายขึ้นเพราะใช้เวลาทำน้อยลง

การปล่อยพลังงานและความแม่นยำต่อชั้นผิว

Ulthera Prime ปล่อยพลังงานได้สม่ำเสมอและแม่นยำกว่า Ulthera SPT เนื่องจากมีการปรับปรุงเทคโนโลยีการสร้างภาพอัลตราซาวด์แบบเรียลไทม์ให้มีความละเอียดสูงและคมชัดขึ้น

ข้อดีของความแม่นยำที่เพิ่มขึ้นนี้คือ:

• การกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน: แพทย์สามารถมองเห็นชั้นผิวหนังและชั้นกล้ามเนื้อ (SMAS) ได้อย่างชัดเจน ทำให้สามารถวางแผนและปล่อยพลังงานลงสู่ชั้นเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ
• พลังงานที่สม่ำเสมอ: Ulthera Prime สามารถสร้างจุดความร้อน (Thermal Coagulation Points) ที่มีระยะห่างสม่ำเสมอและมีพลังงานคงที่กว่า ในขณะที่เครื่องรุ่นเก่าอาจมีการแกว่งของพลังงานเล็กน้อย
• ลดความเสี่ยง: ความแม่นยำที่สูงขึ้นช่วยลดความเสี่ยงในการปล่อยพลังงานไปโดนบริเวณที่ไม่ต้องการ เช่น กระดูกหรือเส้นประสาท ซึ่งช่วยลดความเจ็บปวดและเพิ่มความปลอดภัย

ความรู้สึกระหว่างทำและผลลัพธ์: เจ็บต่างกันไหม? ผลลัพธ์อยู่ได้นานเท่ากันหรือไม่?

ใช่ Ulthera Prime เจ็บน้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด แต่ผลลัพธ์อยู่ได้นานใกล้เคียงกัน โดยทั่วไปแนะนำให้ทำซ้ำทุกปีเหมือนกัน

• ความรู้สึกระหว่างทำ: Ulthera Prime ถูกออกแบบมาให้เจ็บน้อยลงมาก เนื่องจากใช้เวลาทำสั้นลงและมีการส่งพลังงานที่แม่นยำกว่า ทำให้หลีกเลี่ยงการยิงพลังงานไปโดนเส้นประสาทหรือกระดูกซึ่งเป็นสาเหตุของความเจ็บปวด ผู้รับบริการส่วนใหญ่จึงรู้สึกสบายขึ้นและมักใช้เพียงยาชาแบบทาก็เพียงพอ
• ผลลัพธ์และความคงทน: ผลลัพธ์การยกกระชับของทั้งสองรุ่นอยู่ได้นานประมาณ 1 ปี และแนะนำให้กลับมาทำซ้ำเพื่อคงผลลัพธ์ที่ดีที่สุดไว้ แม้จะมีการคาดการณ์ว่าความแม่นยำของ Prime อาจกระตุ้นคอลลาเจนได้ดีกว่าและทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้นเล็กน้อยในบางราย (อาจถึง 18-24 เดือน) แต่โดยมาตรฐานแล้ว แพทย์ยังคงแนะนำให้ทำปีละครั้งเหมือนกัน

ระดับความเจ็บและความสบายผิวขณะทำ

Ulthera Prime เจ็บน้อยกว่า Ulthera SPT อย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากใช้เวลาในการทำสั้นกว่าและมีการส่งพลังงานที่แม่นยำกว่า จึงช่วยลดการยิงพลังงานไปโดนบริเวณที่ไวต่อความรู้สึก เช่น กระดูกหรือเส้นประสาท

ด้วยเหตุนี้ ผู้รับบริการส่วนใหญ่จึงสามารถทนต่อการทำ Ulthera Prime ได้โดยใช้เพียงยาชาเฉพาะที่ ในขณะที่เครื่องรุ่นเก่าอาจต้องใช้การบล็อกเส้นประสาทหรือยาสลบในบางราย นอกจากนี้ยังมีผลสำรวจยืนยันว่า Ulthera Prime ทำให้เกิดความเจ็บปวด รวมถึงรอยแดงและอาการบวมน้อยกว่าเครื่องรุ่นเก่า

ผลลัพธ์การยกกระชับและกรอบหน้าที่คาดหวังได้

ผลลัพธ์ที่คาดหวังได้คือ การยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยบริเวณคิ้ว กรอบหน้า และใต้คางให้คมชัดขึ้น รวมถึงช่วยให้ริ้วรอยบริเวณเนินอกดีขึ้น

ผลลัพธ์การยกกระชับของเครื่อง Ulthera ทั้งรุ่น Prime และ SPT นั้นเทียบเท่ากัน เนื่องจากใช้กลไกพลังงานอัลตราซาวด์แบบเดียวกัน โดยผลลัพธ์จะเริ่มเห็นชัดเจนที่สุดในช่วง 3 เดือนหลังทำ และจะดีขึ้นต่อเนื่องไปจนถึง 6 เดือน ซึ่งโดยทั่วไปผลลัพธ์จะคงอยู่ได้นานประมาณ 12–18 เดือน

ระยะเวลาเห็นผลและผลลัพธ์คงอยู่นานแค่ไหน

โดยทั่วไป จะเริ่มเห็นผลลัพธ์ชัดเจนที่สุดในช่วง 3 เดือนหลังทำ และผลลัพธ์จะคงอยู่ได้นานประมาณ 1 ปี ซึ่งหลังจากนั้นแนะนำให้กลับมาทำซ้ำเพื่อคงสภาพผิว

ผลลัพธ์จะค่อยๆ ปรากฏขึ้นตามกระบวนการสร้างคอลลาเจนของร่างกาย โดยจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงในช่วง 2-6 สัปดาห์แรก และจะเห็นผลการยกกระชับเต็มที่ในช่วง 3-6 เดือนหลังการรักษา ซึ่งผลลัพธ์นี้จะคงอยู่ได้นานประมาณ 12-18 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลตัวเองของแต่ละบุคคล แพทย์ส่วนใหญ่จึงแนะนำให้ทำทรีตเมนต์ปีละครั้งเพื่อรักษาระดับคอลลาเจนและผลลัพธ์การยกกระชับไว้

การประเมินราคาและความคุ้มค่า: Prime แพงกว่าแล้วดีกว่าจริงหรือ?

ราคาที่สูงกว่าของ Ulthera Prime ถือว่าคุ้มค่า เนื่องจากเป็นการจ่ายเพิ่มเพื่อแลกกับประสบการณ์การรักษาที่ดีกว่าอย่างชัดเจน ทั้งในด้านความสบายและความรวดเร็ว

โดยทั่วไปแล้ว Ulthera Prime มีราคาสูงกว่า Ulthera SPT ประมาณ 10-20% ซึ่งความคุ้มค่าที่เพิ่มขึ้นมาจากข้อดีดังนี้:

• ความสบายที่มากกว่า: เจ็บน้อยลงอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้ผู้ป่วยทนต่อการรักษาได้ดีขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องใช้ยาแก้ปวดรุนแรงหรือยาชาเฉพาะที่ (nerve block)
• การรักษาที่เร็วกว่า: ด้วยระบบประมวลผลที่เร็วกว่า ทำให้ใช้เวลาในการทำหัตถการสั้นลง เช่น การทำทั่วใบหน้าอาจลดจาก 60-75 นาที เหลือเพียงประมาณ 45 นาที
• ความแม่นยำที่สูงขึ้น: เทคโนโลยีการสร้างภาพที่คมชัดช่วยให้แพทย์สามารถวางพลังงานได้ตรงจุดอย่างแม่นยำ ซึ่งอาจทำให้ใช้จำนวนไลน์ (shots) น้อยลงแต่ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากัน

แม้ว่าผลลัพธ์การยกกระชับขั้นสุดท้ายจะเทียบเท่ากัน แต่ความเจ็บปวดที่ลดลงและเวลาที่สั้นลงทำให้ผู้ป่วยส่วนใหญ่พึงพอใจและมองว่าส่วนต่างของราคานั้นสมเหตุสมผล

โครงสร้างราคาของ Ulthera Prime เทียบกับ SPT

โดยทั่วไปแล้ว Ulthera Prime มีราคาสูงกว่า Ulthera SPT เล็กน้อย ซึ่งราคาจะขึ้นอยู่กับจำนวนไลน์ (shots) และบริเวณที่ทำการรักษา ค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นสะท้อนถึงเทคโนโลยีที่ใหม่กว่าของเครื่อง Prime ซึ่งให้การรักษาที่รวดเร็วและเจ็บน้อยกว่า

อย่างไรก็ตาม ความแตกต่างของค่าใช้จ่ายโดยรวมอาจไม่มากนัก เนื่องจากความแม่นยำของ Prime อาจทำให้ใช้จำนวนไลน์น้อยลงเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เท่ากัน นอกจากนี้ คลินิกต่างๆ มักมีโปรโมชันหรือแพ็กเกจที่ช่วยให้ส่วนต่างของราคาน้อยลงได้

ปัจจัยที่ส่งผลต่อค่าใช้จ่ายทั้งหมดต่อครั้ง

ปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อค่าใช้จ่ายทั้งหมดคือจำนวนไลน์ (shots) ที่ใช้และบริเวณที่ทำการรักษา โดยการรักษาในบริเวณที่กว้าง เช่น ทั่วใบหน้าและลำคอ จะต้องใช้จำนวนไลน์มากกว่า ซึ่งทำให้มีค่าใช้จ่ายสูงกว่า ในขณะที่การรักษาเฉพาะจุด เช่น รอบดวงตา จะใช้จำนวนไลน์น้อยกว่าและมีราคาถูกกว่า นอกจากนี้ ประเภทของเครื่อง (Ulthera Prime หรือ SPT) และโปรโมชันของแต่ละคลินิกก็อาจส่งผลต่อราคาสุดท้ายได้เช่นกัน

วิธีเลือกให้คุ้มค่ากับงบประมาณและปัญหาผิว

การเลือก Ulthera Prime มักจะคุ้มค่ากว่าหากงบประมาณเอื้ออำนวย เนื่องจากให้ประสบการณ์การรักษาที่ดีกว่าในราคาที่สูงขึ้นเพียงเล็กน้อย แต่ปัจจัยที่สำคัญที่สุดคือความชำนาญของแพทย์

เพื่อให้การเลือกคุ้มค่าที่สุด ควรพิจารณาปัจจัยต่อไปนี้:

• ความชำนาญของแพทย์: ควรให้ความสำคัญกับแพทย์ที่มีประสบการณ์สูงเป็นอันดับแรก เพราะแพทย์ที่ชำนาญสามารถให้ผลลัพธ์ที่ดีเยี่ยมได้แม้จะใช้เครื่องรุ่นเก่า และอาจใช้จำนวนไลน์ที่น้อยกว่าแต่ได้ผลดี ซึ่งช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้
• ความกังวลเรื่องความเจ็บ: หากคุณเป็นคนที่ไม่ทนต่อความเจ็บ การเลือก Ulthera Prime จะเหมาะสมกว่าอย่างยิ่ง เพราะเจ็บน้อยกว่าและใช้เวลาทำสั้นกว่าอย่างเห็นได้ชัด ทำให้การรักษาสบายขึ้นมาก
• งบประมาณ: Ulthera Prime มีราคาสูงกว่า Ulthera SPT ประมาณ 10-20% หากงบประมาณจำกัดและสามารถทนความเจ็บได้ Ulthera SPT ก็ยังคงเป็นตัวเลือกที่ให้ผลลัพธ์ที่ดี
• การตรวจสอบและโปรโมชัน: เพื่อให้คุ้มค่า ควรเลือกคลินิกที่ใช้เครื่องแท้ที่สามารถตรวจสอบกับ Merz Aesthetics ประเทศไทยได้ และมองหาโปรโมชันหรือแพ็กเกจที่ช่วยให้ราคาต่อไลน์ถูกลง

ใครเหมาะกับ Ulthera Prime และใครเหมาะกับ Ulthera SPT?

ทั้ง Ulthera Prime และ Ulthera SPT เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยเหมือนกัน แต่การเลือกจะขึ้นอยู่กับความกังวลเรื่องความเจ็บและงบประมาณเป็นหลัก

• Ulthera Prime เหมาะเป็นพิเศษสำหรับผู้ที่กังวลเรื่องความเจ็บหรือมีเกณฑ์การทนความเจ็บต่ำ เนื่องจากเป็นเครื่องที่เจ็บน้อยกว่าและใช้เวลาทำสั้นกว่า นอกจากนี้ยังเหมาะกับผู้ที่ต้องการเทคโนโลยีล่าสุดเพื่อความแม่นยำสูงสุด
• Ulthera SPT ยังคงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่สามารถทนความเจ็บได้และอาจต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่าเล็กน้อย โดยยังคงให้ผลลัพธ์การยกกระชับที่ดีเยี่ยมเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะเมื่อทำโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์

ลักษณะผิวและปัญหาที่ตอบโจทย์สำหรับแต่ละรุ่น

ทั้ง Ulthera Prime และ Ulthera SPT เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยในระดับเล็กน้อยถึงปานกลางเหมือนกัน โดยสามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิวและสีผิวเพื่อแก้ปัญหา เช่น คิ้วตก, กรอบหน้าไม่คมชัด, เหนียงใต้คาง, และริ้วรอยบริเวณเนินอก

ความแตกต่างในการเลือกใช้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับลักษณะปัญหาผิว แต่ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้รับบริการ:

• Ulthera Prime: เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่กังวลเรื่องความเจ็บปวด มีเกณฑ์การทนความเจ็บปวดต่ำ หรือต้องการการรักษาที่รวดเร็วและแม่นยำที่สุด
• Ulthera SPT: ยังคงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่สามารถทนความเจ็บได้และอาจมีงบประมาณจำกัดกว่าเล็กน้อย

โดยสรุปคือ ไม่มีข้อจำกัดว่าปัญหาผิวแบบใดต้องใช้เครื่องรุ่นไหนโดยเฉพาะ เนื่องจากผลลัพธ์การยกกระชับที่ได้นั้นเทียบเท่ากัน

ข้อควรพิจารณาสำหรับผู้ที่เคยทำ Ulthera มาก่อน

ผู้ที่เคยทำ Ulthera มาก่อนถือเป็นผู้ที่เหมาะอย่างยิ่งที่จะเปลี่ยนมาใช้ Ulthera Prime สำหรับการทำทรีตเมนต์ครั้งถัดไป เนื่องจากมีความปลอดภัยและไม่มีข้อเสียในการเปลี่ยนเครื่อง อีกทั้งยังอาจให้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น

ข้อควรพิจารณาเพิ่มเติมมีดังนี้:

• ความสบายที่เพิ่มขึ้น: Ulthera Prime เจ็บน้อยกว่าอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้ผู้ที่เคยรู้สึกกังวลเรื่องความเจ็บปวดสามารถทำทรีตเมนต์ซ้ำเพื่อคงผลลัพธ์ไว้ได้ง่ายขึ้น
• โอกาสในการได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า: หากผลลัพธ์ครั้งก่อนไม่เป็นที่น่าพอใจเพราะทนความเจ็บปวดไม่ไหวจนต้องลดจำนวนไลน์ การทำด้วยเครื่อง Prime ที่สบายกว่าอาจช่วยให้แพทย์ยิงพลังงานได้ครบถ้วนตามแผนและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
• ความต่อเนื่อง: การทำ Ulthera เป็นประจำทุกปีจะช่วยรักษาและต่อยอดผลลัพธ์เดิมได้ ซึ่งผู้ป่วยที่เคยทำ Ulthera มาแล้วสามารถเปลี่ยนมาใช้ Prime ในการทำครั้งต่อไปได้เลย โดยไม่สำคัญว่าจะเว้นช่วงจากการทำครั้งล่าสุดนานเท่าใด

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Ulthera Prime และ SPT

Ulthera Prime เจ็บน้อยกว่า Ulthera SPT จริงไหม?

จริง Ulthera Prime เจ็บน้อยกว่า Ulthera SPT อย่างมีนัยสำคัญ จากข้อมูลการสำรวจพบว่าผู้ป่วยรู้สึกเจ็บ รวมทั้งมีอาการบวมแดงน้อยกว่าเมื่อเทียบกับเครื่องรุ่นเดิม

ความเจ็บที่ลดลงนี้เป็นผลมาจากหลายปัจจัยรวมกัน ได้แก่

• ระยะเวลาการรักษาที่สั้นลง: เครื่อง Prime ทำงานได้เร็วกว่า ทำให้ระยะเวลาที่ผิวต้องสัมผัสกับพลังงานสั้นลง
• การส่งพลังงานที่แม่นยำ: เทคโนโลยีที่ปรับปรุงใหม่ช่วยให้พลังงานมีความสม่ำเสมอและส่งไปยังเป้าหมายได้แม่นยำขึ้น ลดการระคายเคืองต่อเนื้อเยื่อรอบข้าง
• การแสดงภาพที่ดีขึ้น: แพทย์สามารถมองเห็นชั้นผิวและโครงสร้างต่างๆ เช่น กระดูกและเส้นประสาท ได้ชัดเจนขึ้น ทำให้สามารถหลีกเลี่ยงบริเวณที่ไวต่อความรู้สึกได้ดีกว่าเดิม

ผลลัพธ์ของ Ulthera Prime กับ SPT ต่างกันชัดเจนหรือไม่?

ผลลัพธ์การยกกระชับของ Ulthera Prime และ SPT นั้นไม่แตกต่างกันอย่างชัดเจน เนื่องจากทั้งสองรุ่นใช้เทคโนโลยีคลื่นอัลตราซาวด์แบบเดียวกันเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและให้ผลลัพธ์สุดท้ายที่เทียบเท่ากัน

ข้อได้เปรียบของ Ulthera Prime ไม่ได้อยู่ที่ผลลัพธ์ที่ดีกว่า แต่เป็นการปรับปรุงกระบวนการรักษาให้มีความแม่นยำและสม่ำเสมอมากขึ้น ซึ่งอาจช่วยให้ผลลัพธ์มีความเรียบเนียนและครอบคลุมทุกพื้นที่ได้ดีกว่า อย่างไรก็ตาม ระดับการยกกระชับโดยรวมถือว่าเหมือนกันเมื่อทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

ทำไม Ulthera Prime ถึงมีราคาสูงกว่า?

Ulthera Prime มีราคาสูงกว่าเพราะเป็นเครื่องรุ่นใหม่ที่มีการอัปเกรดเทคโนโลยีและฟีเจอร์ต่างๆ ซึ่งสะท้อนถึงต้นทุนของเครื่องและคุณสมบัติที่เพิ่มขึ้น โดยมีเหตุผลหลักดังนี้

• เทคโนโลยีที่ทันสมัยขึ้น: ตัวเครื่องมีหน่วยประมวลผลที่เร็วกว่า หน้าจอสัมผัสความละเอียดสูงที่ใหญ่ขึ้น และซอฟต์แวร์ที่ใหม่กว่า ทำให้การรักษามีประสิทธิภาพและรวดเร็วยิ่งขึ้น
• ประสบการณ์ที่ดีกว่าสำหรับผู้รับบริการ: คุณสมบัติที่เพิ่มขึ้นช่วยให้ขั้นตอนการรักษาสบายขึ้น เจ็บน้อยลง และใช้เวลาสั้นลง ซึ่งถือเป็นมูลค่าเพิ่มที่ผู้รับบริการได้รับ
• ต้นทุนวัสดุสิ้นเปลือง: หัวยิงหรือทรานสดิวเซอร์ (Transducer) สำหรับเครื่องรุ่นใหม่อาจมีราคาสูงกว่ารุ่นเดิมเล็กน้อย

ระหว่าง Ulthera Prime กับ SPT ควรเลือกอะไรดี?

โดยทั่วไปแล้ว ควรเลือก Ulthera Prime เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีที่ใหม่กว่าและมอบประสบการณ์การรักษาที่ดีกว่า

Ulthera Prime เป็นเครื่องรุ่นอัปเกรดของ Ulthera SPT ซึ่งมีข้อดีที่สำคัญดังนี้:

• เจ็บน้อยกว่า: Prime ถูกออกแบบมาให้เจ็บน้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด ทำให้คนไข้รู้สึกสบายขึ้นระหว่างทำ
• เร็วกว่า: การรักษาใช้เวลาสั้นลง เนื่องจากเครื่องประมวลผลได้เร็วกว่ารุ่นเดิม
• แม่นยำกว่า: มีหน้าจอแสดงผลภาพอัลตราซาวด์ที่คมชัดและใหญ่ขึ้น ช่วยให้แพทย์มองเห็นชั้นผิวและวางแผนการยิงพลังงานได้แม่นยำยิ่งขึ้น

แม้ว่าผลลัพธ์การยกกระชับของทั้งสองรุ่นจะเทียบเท่ากัน แต่ Prime ช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีอย่างสม่ำเสมอและสะดวกสบายกว่า อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่สำคัญที่สุดยังคงเป็นความชำนาญของแพทย์ผู้ทำการรักษา

References:

1. Merz Aesthetics. (n.d.). Ultherapy® PRIME Platform Announcement: The Next Generation of Nonsurgical Skin Lifting Treatments. Merz Aesthetics Medical News. merzaesthetics.com
2. Merz Aesthetics UK. (n.d.). How Is Ultherapy® PRIME Different? Ultherapy UK Healthcare Professional Guide. ultherapy.com
3. Panithaporn, D. (2024). Pain, Erythema, and Edema After Facial Lifting with Ultherapy Prime or Ultherapy Legacy—A Survey Study. Journal of Cosmetic Dermatology. onlinelibrary.wiley.com
4. Bay Aesthetics Clinic. (n.d.). Is Ultherapy Painful? Optimising Comfort and Safety in Ultherapy. Bay Clinic Singapore Blog. bayclinic.sg
5. V Square Clinic. (2025). Ulthera Price 2025 – Machine Differences and Effective Line Counts Guide. V Square Clinic Blog. vsqclinic.com
6. Tribeca Aesthetics. (n.d.). Ultherapy Prime Skin Tightening in NYC: Procedure Overview & FAQ. Tribeca Aesthetics NYC. tribecaaesthetics.com
7. Vidaskin Clinic. (n.d.). Ultherapy PRIME Before and After: What Results Can You Expect? Vidaskin Clinic Blog. vidaskinclinic.com
8. Seattle Face Centre. (n.d.). Ultherapy SPT vs. PRIME: Understanding the Differences. Seattle Face Centre Medical Blog. seattleface.com