XERF กับ Ulthera เลือกอะไรดี? เช็กลิสต์ 5 ข้อที่ควรรู้
ทำความรู้จัก XERF และ Ulthera: เทคโนโลยียกกระชับที่แตกต่าง
ความแตกต่างที่สำคัญที่สุดคือ XERF ใช้พลังงานคลื่นวิทยุ (RF) ในขณะที่ Ulthera ใช้พลังงานคลื่นอัลตราซาวด์ความถี่สูงแบบเฉพาะเจาะจง (MFU-V) ซึ่งส่งผลให้การทำงาน ความรู้สึกระหว่างทำ และผลลัพธ์แตกต่างกัน
ตารางเปรียบเทียบ XERF และ Ulthera:
| คุณสมบัติ | XERF | Ulthera |
|---|---|---|
| การทำงาน | ให้ความร้อนเป็นวงกว้าง (Bulk Heating) เพื่อกระตุ้นคอลลาเจนในหลายชั้นผิวพร้อมกัน | สร้างจุดความร้อนขนาดเล็ก (TCPs) ที่ชั้นผิวลึกเฉพาะจุด (SMAS) อย่างแม่นยำ |
| จุดเด่น | มีระบบทำความเย็นในตัว ทำให้รู้สึกสบายระหว่างทำ ไม่ต้องใช้ยาชา | มีหน้าจออัลตราซาวด์ (Real-Time Imaging) ทำให้แพทย์เห็นชั้นผิวและยิงพลังงานได้แม่นยำ |
| ความรู้สึก | รู้สึกอุ่นๆ สบายผิว เจ็บน้อยมาก | รู้สึกเจ็บจี๊ดๆ เหมือนมีหนามเล็กๆ ทิ่มลึกใต้ผิว อาจต้องใช้ยาชา |
| ผลลัพธ์ | เน้นผิวกระชับโดยรวม (Overall Tightening) ปรับปรุงคุณภาพผิวและริ้วรอยเล็กๆ | เน้นการยกกระชับเฉพาะจุด (Lifting) เช่น ยกคิ้ว กรอบหน้า และใต้คาง |
เปรียบเทียบ 5 ประเด็นหลัก: XERF vs Ulthera
1. หลักการทำงานและชั้นผิวที่เข้าถึง
XERF ใช้พลังงานคลื่นวิทยุ (RF) เพื่อสร้างความร้อนแบบเป็นวงกว้างในหลายชั้นผิว ในขณะที่ Ulthera ใช้พลังงานอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูง (MFU-V) เพื่อสร้างจุดความร้อนขนาดเล็กที่แม่นยำในชั้นผิวลึก โดยหลักการทำงานของทั้งสองเทคโนโลยีมีความแตกต่างกันดังนี้
- XERF: ใช้พลังงานคลื่นวิทยุ Monopolar RF สองความถี่ (Dual-Frequency) ส่งพลังงานความร้อนแบบกระจายตัวเป็นวงกว้าง (Volumetric Heating) เพื่อกระตุ้นคอลลาเจนพร้อมกันในหลายระดับ ตั้งแต่ชั้นหนังแท้ (Dermis) ไปจนถึงชั้นไขมันและพังผืดชั้นตื้น (Superficial Fascia)
- Ulthera (Ultherapy): ใช้พลังงานอัลตราซาวด์ที่เน้นเป็นจุดเล็กๆ อย่างแม่นยำ (Micro-Focused Ultrasound) พร้อมระบบแสดงภาพชั้นผิวแบบเรียลไทม์ สร้างจุดความร้อนที่อุณหภูมิสูง ณ ความลึกที่ต้องการได้อย่างจำเพาะเจาะจง คือ 1.5 มม., 3.0 มม. และ 4.5 มม. ซึ่งเข้าถึงชั้นพังผืดที่ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้า (SMAS)
2. ผลลัพธ์ที่คาดหวังและระยะเวลาเห็นผล
ผลลัพธ์ของทั้งสองเทคโนโลยีจะเห็นผลเต็มที่ในเวลาประมาณ 2-3 เดือน โดย Ultherapy เน้นการยกกระชับโครงสร้างผิวชั้นลึก ส่วน XERF ให้ผลทั้งการกระชับผิวทันทีและการฟื้นฟูผิวโดยรวม
ตารางเปรียบเทียบผลลัพธ์และระยะเวลา:
| หัวข้อ | XERF | Ultherapy (Ulthera) |
|---|---|---|
| การเริ่มเห็นผล | รู้สึกกระชับขึ้นทันทีหลังทำ และเห็นผลชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ใน 2-3 เดือน | ผลลัพธ์จะค่อยๆ ปรากฏขึ้นและเห็นผลชัดเจนที่สุดในเดือนที่ 2-3 |
| ผลลัพธ์หลัก | ผิวกระชับโดยรวม (Volumetric Tightening) ลดความหย่อนคล้อยบริเวณแก้มและแนวกราม พร้อมปรับปรุงคุณภาพผิวและริ้วรอยเล็กๆ ให้ดีขึ้น | การยกกระชับที่ชั้นผิวลึก (SMAS) ทำให้กรอบหน้าคมชัดขึ้น ยกคิ้ว และยกกระชับใต้คาง |
| ระยะเวลาของผลลัพธ์ | ประมาณ 1 ปีขึ้นไป (ข้อมูลระยะยาวยังมีจำกัด) | ประมาณ 1-1.5 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแล |
3. ความรู้สึกระหว่างทำและระยะเวลาพักฟื้น
XERF ให้ความรู้สึกสบายกว่า Ulthera อย่างชัดเจน ในขณะที่ทั้งสองเครื่องแทบไม่มีระยะเวลาพักฟื้น แต่ผลข้างเคียงหลังทำของ Ulthera อาจมากกว่าเล็กน้อย
| หัวข้อ | XERF (คลื่นวิทยุ) | Ulthera/Ultherapy (อัลตราซาวด์) |
|---|---|---|
| ความรู้สึกระหว่างทำ | รู้สึกอุ่นๆ สลับกับความเย็นสบายผิว เจ็บน้อยมาก (ระดับ 1-3/10) โดยทั่วไปจึงไม่ต้องใช้ยาชา | รู้สึกเจ็บแปลบๆ หรือเหมือนมีเข็มเล็กๆ ทิ่มลึกใต้ผิว เจ็บปานกลางถึงมาก (ระดับ 5-8/10) จึงจำเป็นต้องใช้ยาชาและยาแก้ปวด |
| ระยะเวลาพักฟื้น | ผิวอาจแดงเล็กน้อย 1-2 ชั่วโมง และบวมน้อยมาก สามารถกลับไปใช้ชีวิตปกติได้ทันที | ผิวอาจแดง บวม หรือรู้สึกชาได้ 2-3 วัน และอาจมีอาการระบมเมื่อสัมผัส สามารถกลับไปใช้ชีวิตปกติได้ทันที |
4. ระยะเวลาของผลลัพธ์และรอบการทำซ้ำ
ผลลัพธ์ของทั้ง XERF และ Ultherapy คงอยู่ได้ประมาณ 1 ถึง 1.5 ปี และโดยทั่วไปแนะนำให้ทำซ้ำปีละครั้งเพื่อคงสภาพผิว
สำหรับ Ultherapy ผลลัพธ์จะเห็นชัดเจนที่สุดในช่วง 3-6 เดือน และจะคงอยู่ประมาณ 12-18 เดือน ก่อนที่จะค่อยๆ ลดลงตามกระบวนการแก่ของผิวตามธรรมชาติ ส่วน XERF ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่กว่า คาดว่าผลลัพธ์จะคงอยู่นานประมาณ 1 ปีขึ้นไป โดยอ้างอิงจากข้อมูลเบื้องต้นและเทคโนโลยี RF ที่คล้ายคลึงกัน
5. โครงสร้างราคาและค่าใช้จ่ายโดยประมาณ
ทั้ง XERF และ Ultherapy มีโครงสร้างราคาที่สูง โดยมีค่าใช้จ่ายต่อการรักษาและราคาสำหรับผู้รับบริการที่ใกล้เคียงกัน แม้ว่าราคาเครื่อง XERF ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่กว่าอาจสูงกว่าในช่วงเริ่มต้น ทั้งสองเทคโนโลยีจัดเป็นทรีตเมนต์ระดับพรีเมียมที่มีค่าใช้จ่ายสูงทั้งในส่วนของคลินิกและผู้รับบริการ
ตารางเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายโดยประมาณมีดังนี้:
| หัวข้อ | XERF (Dual-Frequency RF) | Ulthera/Ultherapy (MFU-V) |
|---|---|---|
| ราคาเครื่อง | ประมาณ 70,000–90,000 ดอลลาร์สหรัฐ | ประมาณ 40,000–50,000 ดอลลาร์สหรัฐ |
| ค่าวัสดุสิ้นเปลืองต่อครั้ง | ประมาณ 600–800 ดอลลาร์สหรัฐ (สำหรับหัวยิง RF และก๊าซไครโอเจน) | ประมาณ 600–800 ดอลลาร์สหรัฐ (สำหรับหัวยิงอัลตราซาวด์ 2-3 หัว) |
| ราคาสำหรับผู้รับบริการ | ประมาณ 3,000 ดอลลาร์สหรัฐขึ้นไป (สำหรับทั่วใบหน้า) | ประมาณ 2,500–4,000 ดอลลาร์สหรัฐ (สำหรับทั่วใบหน้าและลำคอ) |
ใครเหมาะกับ XERF และใครเหมาะกับ Ulthera
ผู้ที่เหมาะกับการทำ XERF
XERF เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง ที่ต้องการปรับปรุงคุณภาพผิวและริ้วรอยไปพร้อมกัน และกังวลเรื่องความเจ็บปวด
กลุ่มผู้ที่เหมาะกับการทำ XERF มีลักษณะดังนี้:
- ผู้ที่มีความหย่อนคล้อยเริ่มต้น: เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุช่วง 30 ปลายๆ ถึง 50 ปี ที่เริ่มมีปัญหาแก้มตก กรอบหน้าไม่คมชัด หรือผิวใต้คอหย่อนคล้อย
- ผู้ที่กังวลเรื่องความเจ็บปวด: เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ทนความเจ็บปวดได้น้อย เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีที่ให้ความรู้สึกสบายผิว ไม่จำเป็นต้องใช้ยาชา
- ผู้ที่ต้องการปรับปรุงคุณภาพผิว: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการให้ผิวโดยรวมดูดีขึ้น เช่น ลดเลือนริ้วรอยเล็กๆ (fine lines) เพิ่มความแน่นกระชับ และปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนขึ้น นอกเหนือจากการยกกระชับ
- ผู้ที่มีผิวบาง: เทคโนโลยีนี้เหมาะกับผู้ที่มีลักษณะผิวบาง ซึ่งต้องการการกระชับผิวโดยรวมมากกว่าการยกกระชับเฉพาะจุดลึกๆ
- ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการการฟื้นฟูผิวที่ดูเป็นธรรมชาติและค่อยเป็นค่อยไป โดยไม่มีช่วงพักฟื้น
ผู้ที่เหมาะกับการทำ Ulthera
ผู้ที่เหมาะกับการทำ Ulthera คือผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง โดยเฉพาะในบริเวณคิ้ว กรอบหน้า และลำคอ ซึ่งมักเป็นผู้ที่มีอายุช่วงปลาย 30 ถึง 50 ปี
โดยทั่วไปแล้ว ผู้ที่เหมาะกับ Ulthera จะมีลักษณะดังนี้:
- ต้องการยกกระชับเฉพาะจุด: เช่น ผู้ที่ต้องการยกคิ้วเพื่อแก้ปัญหาหนังตาตก
- มีปัญหากรอบหน้าและลำคอ: เหมาะสำหรับผู้ที่กรอบหน้าเริ่มหย่อนคล้อย มีเหนียง หรือผิวหนังบริเวณลำคอไม่กระชับ โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวค่อนข้างหนา
- ยอมรับความเจ็บได้: ผู้ที่สามารถทนต่อความรู้สึกเจ็บหรือร้อนลึกใต้ผิวหนังระหว่างการทำ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์การยกกระชับที่ชัดเจน
- ต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจนแต่ไม่ต้องการผ่าตัด: เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่มองหาการยกกระชับที่เห็นผล แต่ยังไม่พร้อมสำหรับการผ่าตัดดึงหน้า
ปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจเลือกระหว่าง XERF กับ Ulthera
เป้าหมายการรักษาและปัญหาผิวหลักของคุณ
การเลือกระหว่าง Ultherapy และ XERF ขึ้นอยู่กับเป้าหมายหลักที่แตกต่างกัน โดย Ultherapy เน้นการยกกระชับโครงสร้างผิวชั้นลึกเฉพาะจุด ในขณะที่ XERF เน้นการกระชับผิวโดยรวมและปรับปรุงคุณภาพผิวให้ดีขึ้น
ตารางเปรียบเทียบเป้าหมายการรักษาที่เหมาะสมสำหรับแต่ละเทคโนโลยี:
| ปัญหาผิวหลัก | Ultherapy (เหมาะสำหรับ) | XERF (เหมาะสำหรับ) |
|---|---|---|
| คิ้วตก เปลือกตาหย่อนคล้อย | การยกคิ้วและเปลือกตาที่หย่อนคล้อยโดยเฉพาะ เพื่อให้ดวงตาดูเปิดและสดใสขึ้น | ไม่ใช่เป้าหมายหลัก แต่ช่วยให้ผิวบริเวณหน้าผากตึงขึ้นได้เล็กน้อย |
| กรอบหน้าไม่คม แก้มห้อย เหนียง | ยกกระชับกรอบหน้า, ลดความหย่อนคล้อยของแก้มและเหนียง เหมาะกับผิวหนาและมีชั้นไขมัน | กระชับผิวโดยรวมบริเวณกรอบหน้าและลำคอ, ลดความหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง เหมาะกับผู้ที่ผิวบางหรือต้องการปรับสภาพผิวร่วมด้วย |
| คุณภาพผิวโดยรวม (ริ้วรอยตื้นๆ, รูขุมขน, ผิวไม่แน่น) | ช่วยปรับปรุงได้บ้าง แต่ไม่ใช่เป้าหมายหลักของการรักษา | เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการปรับปรุงคุณภาพผิวโดยรวม, ลดเลือนริ้วรอยตื้นๆ, กระชับรูขุมขน และทำให้ผิวแน่นฟูขึ้น |
| ความกังวลเรื่องความเจ็บ | ผู้ที่ทนความเจ็บได้และต้องการผลลัพธ์การยกกระชับที่ชัดเจน | ผู้ที่กังวลเรื่องความเจ็บและต้องการการรักษาที่สบายกว่า |
การเลือกคลินิกและผู้ให้บริการที่เชี่ยวชาญ
การเลือกคลินิกและผู้ให้บริการที่เชี่ยวชาญควรพิจารณาจากประสบการณ์ของแพทย์, การใช้เครื่องมือของแท้, และการให้คำปรึกษาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้รับการรักษาที่ปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ปัจจัยสำคัญที่ควรพิจารณาประกอบด้วย:
- ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของแพทย์: แพทย์ควรมีความเข้าใจในกายวิภาคอย่างลึกซึ้งและมีประสบการณ์ในการใช้เครื่องมือแต่ละชนิด เพื่อวางแผนการรักษาที่แม่นยำและปลอดภัย
- เครื่องมือที่ได้มาตรฐานและเป็นของแท้: คลินิกควรใช้เครื่อง Ulthera หรือ XERF ของแท้ที่ผ่านการรับรอง เพื่อให้มั่นใจในประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูงสุด
- การประเมินและให้คำปรึกษาเฉพาะบุคคล: ผู้ให้บริการที่ดีจะประเมินสภาพผิว, ความต้องการ, และข้อกังวลของผู้รับบริการอย่างละเอียด เพื่อเลือกว่าเทคโนโลยีใดเหมาะสมที่สุด
- ความสามารถในการใช้เทคโนโลยีเฉพาะทาง: สำหรับ Ulthera แพทย์ต้องสามารถใช้หน้าจออัลตราซาวด์แบบเรียลไทม์ (MFU-V) เพื่อกำหนดเป้าหมายชั้นผิวที่ถูกต้องและหลีกเลี่ยงโครงสร้างสำคัญ เช่น เส้นประสาท
- รีวิวและผลงานที่ผ่านมา: ตรวจสอบรีวิวจากผู้รับบริการจริงและขอดูภาพก่อน-หลังการรักษาเพื่อประกอบการตัดสินใจ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ XERF และ Ulthera
XERF กับ Ulthera อันไหนเจ็บกว่ากัน?
โดยทั่วไป Ulthera (Ultherapy) เจ็บกว่า XERF อย่างมีนัยสำคัญ
Ulthera ให้ความรู้สึกเจ็บแบบร้อนลึกและแปลบๆ มีคะแนนความเจ็บเฉลี่ยประมาณ 5/10 และมักต้องใช้ยาชาหรือยาแก้ปวด ในขณะที่ XERF ให้ความรู้สึกเพียงอุ่นๆ หรือเหมือนมีอะไรมาดีดเบาๆ เนื่องจากมีระบบทำความเย็นในตัว ทำให้มีคะแนนความเจ็บต่ำเพียง 1-3/10 และส่วนใหญ่ไม่ต้องใช้ยาชา
ทำ XERF กับ Ulthera พร้อมกันได้ไหม?
โดยทั่วไป ไม่แนะนำให้ทำ XERF และ Ulthera ในวันเดียวกัน แต่มักจะทำแบบเว้นระยะห่างกันเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
โดยทั่วไปแพทย์อาจแนะนำให้ทำ Ulthera ก่อนเพื่อยกกระชับผิวในชั้นลึก จากนั้นเว้นระยะประมาณ 3-6 เดือนจึงค่อยทำ XERF เพื่อกระชับผิวชั้นบนและปรับปรุงคุณภาพผิว การทำทรีตเมนต์ทั้งสองแบบผสมผสานกันในลักษณะนี้จะช่วยให้เกิดการฟื้นฟูผิวที่ครอบคลุมและเห็นผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น
ผลลัพธ์ของ XERF อยู่ได้นานแค่ไหน?
ผลลัพธ์ของ XERF อยู่ได้นานประมาณ 1 ปีขึ้นไป เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีใหม่ ข้อมูลระยะยาวยังอยู่ในระหว่างการรวบรวม อย่างไรก็ตาม จากการศึกษาเบื้องต้นพบว่าผลลัพธ์ยังคงอยู่ได้ดีที่ 6 เดือนหลังการรักษา โดยผู้ผลิตแนะนำให้ทำการรักษาซ้ำทุกปีเพื่อคงสภาพผลลัพธ์
XERF เหมาะกับการแก้ปัญหาผิวแบบไหนเป็นพิเศษ?
XERF เหมาะเป็นพิเศษสำหรับการแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยระดับน้อยถึงปานกลาง พร้อมกับการปรับปรุงคุณภาพผิวโดยรวม เช่น ผิวสัมผัส ริ้วรอยเล็กๆ และรูขุมขน
นอกจากนี้ยังเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่มีความกังวลเรื่องความเจ็บปวด เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีที่ให้ความรู้สึกสบายระหว่างทำและมีผลข้างเคียงน้อยมาก
References:
- Cynosure Lutronic. (2025). XERF™ Device Receives FDA Clearance – Redefining Non-Invasive Skin Tightening. Business Wire. businesswire.com
- Hong, J. et al. (2024). Efficacy of dual-frequency noninvasive monopolar radiofrequency in skin tightening: Histological evidence. Skin Research and Technology. nih.gov
- Shin, J.M. et al. (2024). Efficacy and Safety of Monopolar Radiofrequency for Tightening the Skin of Aged Faces. Cosmetics. mdpi.com
- Contini, M. et al. (2023). A Systematic Review of the Efficacy of Microfocused Ultrasound for Facial Skin Tightening. Int J Environ Res Public Health. nih.gov
- Amiri, M. et al. (2025). Microfocused Ultrasound with Visualization (MFU-V) Effectiveness and Safety: A Systematic Review and Meta-Analysis. Aesthetic Surgery Journal. oup.com
- Suh, D.H. et al. (2020). A survey on monopolar radiofrequency treatment: the latest update. Dermatologic Therapy. nih.gov
- Goldie, K. et al. (2021). Skin quality – a holistic 360° view: consensus results. Clin Cosmet Investig Dermatol. nih.gov
- Zhao, Y. et al. (2022). A systematic review and meta-analysis of micro-focused ultrasound (MFU) treatment for facial rejuvenation. Aesthetic Surgery Journal. nih.gov

