10 ข้อดีของการทำ Ulthera ที่คุณอาจไม่เคยรู้ (มากกว่าแค่ยกกระชับ)
ข้อดีของการทำ Ulthera ที่โดดเด่นคือความสามารถใช้เทคโนโลยีคลื่นอัลตราซาวนด์ความเข้มข้นสูง (MFU-V) ส่งพลังงานความร้อน 65-70°C ลงลึกถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นพังผืดเดียวกับที่ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้า โดยไม่ต้องผ่าตัดและแทบไม่ต้องพักฟื้น พร้อมระบบแสดงภาพอัลตราซาวนด์แบบเรียลไทม์ทำให้แม่นยำและปลอดภัยสูง แพทย์แนะนำว่า Ulthera เหมาะกับผู้มีผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลางช่วงอายุ 30-60 ปี โดยใช้ประมาณ 600-800 ไลน์สำหรับทั่วใบหน้าและจะเห็นผลชัดเจนที่สุดใน 3-6 เดือนหลังทำ ผลลัพธ์คงอยู่ได้นาน 1-2 ปี พร้อมข้อดีเพิ่มเติมคือช่วยลดริ้วรอยร่องตื้น ปรับกรอบหน้าให้คมชัด และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่อย่างต่อเนื่อง.
10 ข้อดีหลักของการทำ Ulthera ที่เหนือกว่าวิธีอื่น
1. ยกกระชับได้ลึกถึงชั้นผิว SMAS
ใช่ Ulthera สามารถส่งพลังงานลงลึกถึงชั้นผิว SMAS ได้ ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่ใช้ในการผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้า
เทคโนโลยี Micro-Focused Ultrasound (MFU-V) ของ Ulthera จะส่งพลังงานความร้อนแบบเฉพาะเจาะจงไปยังชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นพังผืดที่รองรับเนื้อเยื่อผิวหนัง ทำให้เกิดการยกกระชับจากโครงสร้างผิวชั้นลึกโดยไม่ต้องผ่าตัด ความสามารถในการเข้าถึงชั้น SMAS นี้ทำให้ Ulthera แตกต่างจากการรักษาอื่นๆ ที่ส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปที่ผิวชั้นตื้นเท่านั้น
2. กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่
Ulthera กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่โดยการส่งพลังงานอัลตราซาวนด์ความร้อนสูง (65–70°C) ไปยังชั้นผิวหนังลึก เพื่อสร้างจุดบาดเจ็บเล็กๆ ที่ควบคุมได้ (Thermal Coagulation Points)
การบาดเจ็บที่ควบคุมได้นี้จะกระตุ้นกระบวนการซ่อมแซมตัวเองตามธรรมชาติของร่างกาย โดยเซลล์ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblasts) จะถูกกระตุ้นให้ผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ขึ้นมาทดแทน ซึ่งกระบวนการนี้เรียกว่า Neocollagenesis และ Neoelastogenesis ส่งผลให้โครงสร้างผิวแข็งแรงขึ้น ผิวจึงค่อยๆ ตึงกระชับและยืดหยุ่นขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติในช่วง 2-3 เดือนหลังการรักษา
3. ผลลัพธ์ชัดเจนและคงอยู่ได้นาน 1-2 ปี
ผลลัพธ์ของ Ulthera สามารถคงอยู่ได้นาน 1-2 ปี โดยผลลัพธ์จะค่อยๆ ปรากฏชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ และจะเห็นผลเต็มที่ในช่วง 6 เดือนหลังการรักษา เนื่องจากเป็นช่วงที่คอลลาเจนใหม่ถูกสร้างขึ้นอย่างสมบูรณ์
โดยทั่วไป ผลลัพธ์จะคงอยู่ได้อย่างน้อย 1 ปี แต่ระยะเวลาอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น อายุ สภาพผิว และการดูแลตัวเองหลังการรักษา ซึ่งแพทย์มักแนะนำให้กลับมาทำซ้ำทุกๆ 12-18 เดือนเพื่อคงสภาพผลลัพธ์ที่ดีที่สุดไว้
4. ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้นนาน
Ulthera เป็นการยกกระชับโดยไม่ต้องผ่าตัดและแทบไม่ต้องพักฟื้น ทำให้คนส่วนใหญ่สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ทันทีหรือภายในวันเดียวกัน เนื่องจากการรักษาไม่ได้ทำให้เกิดบาดแผล จึงไม่มีข้อกำหนดในการดูแลแผลหรือข้อจำกัดด้านกิจกรรมที่สำคัญ อาการหลังทำส่วนใหญ่มักไม่รุนแรง เช่น รอยแดงหรืออาการบวมเล็กน้อย ซึ่งจะหายไปเองภายในไม่กี่ชั่วโมงถึงสองสามวัน ทำให้ Ulthera เป็นหัตถการที่สะดวกและไม่รบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน
5. มีความแม่นยำและปลอดภัยสูง
Ulthera มีความแม่นยำและปลอดภัยสูงเนื่องจากเป็นเทคโนโลยีเดียวที่มีระบบอัลตราซาวด์แสดงภาพแบบเรียลไทม์ (DeepSEE) ซึ่งช่วยให้แพทย์มองเห็นชั้นผิวและโครงสร้างเนื้อเยื่อได้ตลอดเวลาขณะทำการรักษา ทำให้สามารถส่งพลังงานไปยังชั้นความลึกที่ต้องการได้อย่างแม่นยำ พร้อมกับหลีกเลี่ยงโครงสร้างสำคัญ เช่น กระดูกและเส้นเลือด ด้วยเหตุนี้ ผลข้างเคียงส่วนใหญ่จึงไม่รุนแรงและหายได้เอง เช่น อาการบวมหรือแดงชั่วคราว ในขณะที่ภาวะแทรกซ้อนรุนแรงนั้นพบได้น้อยมาก
6. ช่วยลดเลือนริ้วรอยร่องตื้นได้ทั่วใบหน้า
Ulthera สามารถช่วยลดเลือนริ้วรอยร่องตื้นบนใบหน้าได้ โดยการกระตุ้นคอลลาเจนใหม่จะช่วยให้ผิวเรียบเนียนและตึงกระชับขึ้น ส่งผลให้ริ้วรอยต่างๆ เช่น รอยตีนกาและริ้วรอยใต้ตาดูจางลง แม้ว่าจะไม่สามารถกำจัดร่องลึกได้ แต่ก็ทำให้ริ้วรอยตื้นๆ ดูดีขึ้น นอกจากนี้ Ulthera ยังได้รับการรับรองจาก FDA ในการลดเลือนริ้วรอยบริเวณเนินอกอีกด้วย
7. ปรับกรอบหน้าให้คมชัดและดูเรียวขึ้น
ใช่ Ulthera สามารถช่วยปรับกรอบหน้าให้คมชัดและดูเรียวขึ้นได้ โดยการยกกระชับช่วงกลางใบหน้าและทำให้สันกรามกระชับขึ้น ส่งผลให้ใบหน้าดูเรียวและอ่อนเยาว์ลง
เทคโนโลยีนี้มีประสิทธิภาพในการทำให้เกิดการยกกระชับแบบ “V-shape” อย่างอ่อนโยน ผู้ที่มีปัญหาแก้มเริ่มหย่อนคล้อยหรือมีความแน่นใต้คางเล็กน้อย จะเห็นว่าบริเวณดังกล่าวหดตัวและยกขึ้น ทำให้มุมระหว่างคางและคอดูชัดเจนขึ้น
8. ฟื้นฟูผิวให้เรียบเนียนและดูอ่อนเยาว์
Ulthera ช่วยฟื้นฟูผิวให้เรียบเนียนและดูอ่อนเยาว์ขึ้น โดยการลดเลือนริ้วรอยร่องตื้น ปรับปรุงความเรียบเนียนของผิว และช่วยกระชับรูขุมขน การกระตุ้นคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่จากภายในทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น ส่งผลให้ผิวโดยรวมดูมีสุขภาพดี กระจ่างใส และอ่อนเยาว์ยิ่งขึ้น นอกเหนือจากผลลัพธ์ด้านการยกกระชับ
9. สามารถทำได้ทั้งบริเวณใบหน้าและลำคอ
ใช่ Ulthera สามารถทำได้ทั้งบริเวณใบหน้าและลำคอ และการทำทั้งสองบริเวณไปพร้อมกันยังช่วยส่งเสริมผลลัพธ์ให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย โดยสามารถยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยบริเวณแนวกรามไปพร้อมๆ กับการแก้ปัญหาเหนียงหรือลำคอเหี่ยวย่นได้ในครั้งเดียว ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและสมดุล
10. เห็นการเปลี่ยนแปลงเบื้องต้นได้ทันทีหลังทำ
สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงเบื้องต้นได้ทันทีหลังทำ ซึ่งเกิดจากการหดตัวของคอลลาเจนเมื่อได้รับความร้อน ทำให้ผิวรู้สึกตึงและกระชับขึ้นเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นเพียงผลลัพธ์เบื้องต้นเท่านั้น โดยผลลัพธ์ที่ชัดเจนที่สุดจะค่อยๆ ปรากฏในช่วง 2-3 เดือนหลังการรักษา เมื่อร่างกายสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่อย่างสมบูรณ์
ข้อเสียและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการทำ Ulthera
1. ความรู้สึกเจ็บระหว่างทำและอาการข้างเคียง
ข้อเสียของ Ulthera คือ ความรู้สึกเจ็บระหว่างทำ เป็นความรู้สึกร้อนใต้ผิวหนังชั่วขณะ ส่วนอาการข้างเคียงที่พบได้บ่อยคืออาการบวมแดงเล็กน้อยซึ่งจะหายไปเอง ความเจ็บจะเกิดขึ้นเฉพาะตอนที่ปล่อยพลังงานเท่านั้นและจะหายไปทันที โดยคลินิกส่วนใหญ่จะใช้ยาชาเฉพาะที่หรือให้ยาแก้ปวดเพื่อช่วยลดความรู้สึกไม่สบายตัว
อาการข้างเคียงส่วนใหญ่ไม่รุนแรงและเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว ได้แก่:
- อาการบวมและแดง: มักจะหายไปภายในไม่กี่ชั่วโมงถึง 2-3 วัน
- อาการเจ็บเมื่อสัมผัส: อาจรู้สึกเจ็บตามแนวกระดูก เช่น แนวกรามหรือโหนกแก้ม เมื่อถูกสัมผัส ซึ่งจะคงอยู่ประมาณ 1-2 สัปดาห์
- รอยช้ำ: พบได้ไม่บ่อย และจะหายไปเองภายใน 1-2 สัปดาห์
- อาการชา: พบได้น้อยมาก และมักจะกลับมาเป็นปกติภายในไม่กี่วันหรือไม่กี่สัปดาห์
2. ความเสี่ยงหากทำโดยผู้ที่ไม่เชี่ยวชาญ
ความเสี่ยงหลักหากทำ Ulthera โดยผู้ที่ไม่เชี่ยวชาญคือ ผิวไหม้, เส้นประสาทเสียหาย, ผลลัพธ์ไม่เป็นที่น่าพอใจ, และใบหน้าไม่สมมาตร เนื่องจากการใช้เทคนิคที่ไม่ถูกต้องอาจนำไปสู่ข้อผิดพลาดในการส่งพลังงาน
ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่:
- ผิวไหม้หรือพุพอง: เกิดจากการเคลื่อนหัวยิงอัลตราซาวนด์อย่างไม่เหมาะสม หรือการตั้งค่าพลังงานที่ไม่ถูกต้อง
- ผลลัพธ์ไม่เป็นที่น่าพอใจหรือไม่สมมาตร: หากพลังงานถูกส่งไปไม่สม่ำเสมอหรือไม่เพียงพอในบางบริเวณ อาจทำให้ใบหน้าสองข้างยกกระชับไม่เท่ากัน หรือไม่เห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลง
- ไขมันบนใบหน้าฝ่อ: การยิงพลังงานไปในชั้นไขมันโดยตรงอย่างไม่เหมาะสมอาจทำให้ไขมันบางส่วนสลายไป ส่งผลให้ใบหน้าดูตอบลงได้
- เส้นประสาทเสียหาย: แม้จะพบได้ยากมาก แต่การยิงพลังงานผิดตำแหน่งอาจกระทบกระเทือนเส้นประสาทได้ ซึ่งความเสี่ยงเหล่านี้จะลดลงอย่างมากเมื่อทำโดยผู้ให้บริการที่มีประสบการณ์และผ่านการรับรอง
References:
- Pavicic, T., Green, J. B., Park, J.-Y., et al. (2023). Microfocused Ultrasound With Visualization in Skin Quality: A Narrative Review. Journal of Cosmetic Dermatology. onlinelibrary.wiley.com
- Marquardt, K., Hartmann, C., Park, J.-Y., et al. (2023). Microfocused Ultrasound With Visualization Induces Remodeling of Collagen and Elastin Within the Skin. Journal of Cosmetic Dermatology. pubmed.ncbi.nlm.nih.gov
- Merz Aesthetics. (n.d.). Ultherapy – Non-Invasive Skin Lifting Treatment: Clinical Benefits. Ultherapy Official Platform. ultherapy.com
- Sra, K. (n.d.). Who is a Candidate for Ultherapy? Clinical Suitability Assessment. Bayou City Dermatology Blog. bayoucitydermatology.com
- Apex Profound Beauty Clinic. (2025). Ulthera Prime: ราคาเท่าไหร่ เหมาะกับใคร กี่ครั้งเห็นผล – Clinical Results & Suitability Guide. Apex Profound Beauty Clinic. apexprofoundbeauty.com
- MINE Plastic Surgery Clinic. (n.d.). Complete Guide to Ultherapy HIFU: Science, Collagen Production, and Clinical Results. MINE Plastic Surgery Clinic. mineclinic.com
- Skin Technique Medical Aesthetics. (2025). Ultherapy: The Best Skin Tightening Treatment of 2025 – Benefits & Outcomes. Skin Technique Medical Aesthetics. skintechnique.com
- Dermatology Times. (2023). Non-Invasive Skin Lifting Technologies: Clinical Evidence and Patient Outcomes. Dermatology Times Professional Journal. dermatologytimes.com