Skip to content

TEL : 081-841-5075, 02-258-4050

Facebook Instagram YouTube
Privato Clinic – Innovation Of Beauty  |  Bangkok
  • หน้าหลัก
  • เกี่ยวกับพรีวาโต
  • บริการทั้งหมดExpand
    • ชะลอวัย
    • ยกกระชับผิวExpand
      • XERF
      • Potenza
      • Sofwave
      • Ulthera
      • Thermage-FLX
    • รักษาสิว
    • เลเซอร์
    • โปรแกรมฉีด
    • บำรุงผิว
  • บทความExpand
    • สิว
    • ยกกระชับ
    • ดูแลผิว
    • ทำเลเซอร์
  • ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว
  • โปรโมชั่น
  • ผลลัพธ์การรักษา
  • วิดีโอรีวิวจากเคสจริง
  • สาขาของเรา
  • ไทยExpand
    • ไทย
    • English
    • 中文 (中国)
  • ปรึกษาแพทย์
Privato Clinic – Innovation Of Beauty  |  Bangkok
Consult a Doctor
Lifting

โบท็อกลิฟกรอบหน้า ใช้กี่ยูนิต? กี่วันเห็นผล? อยู่ได้นานแค่ไหน?

Byadmin ตุลาคม 2, 2025
By แพทย์หญิงนัชชนก หุ่นวิจิตร Updated on ตุลาคม 2, 2025
✦ Medically reviewed by  นายแพทย์เลอพงษ์ กรุดเงิน
โบท็อกลิฟกรอบหน้า ใช้กี่ยูนิต? กี่วันเห็นผล? อยู่ได้นานแค่ไหน?

การฉีดโบท็อกลิฟหน้าเป็นเทคนิคการฉีดโบทูลินัม ท็อกซินประมาณ 20-40 ยูนิต เพื่อคลายกล้ามเนื้อ Platysma ที่ดึงใบหน้าลง ทำให้กรอบหน้าดูคมชัดและยกกระชับขึ้น โดยผลลัพธ์จะคงอยู่นาน 3-6 เดือนและเห็นผลชัดเจนที่สุดในสัปดาห์ที่ 2 หลังการฉีด

Table of Contents

Toggle
  • โบท็อกลิฟกรอบหน้าคืออะไร และทำงานอย่างไร?
    • หลักการทำงานของการฉีดโบท็อกเพื่อยกกระชับกรอบหน้า
    • เทคนิคการฉีด Dermolift เพื่อผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
  • ใครเหมาะกับการฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้า?
    • ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยและกรอบหน้าไม่ชัดเจน
    • ข้อห้ามและผู้ที่ไม่ควรฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้า
  • เปรียบเทียบชัดๆ: โบท็อกลิฟกรอบหน้า vs. โบท็อกลดกราม
    • ตำแหน่งและชั้นผิวที่ฉีดแตกต่างกัน
    • ผลลัพธ์ที่คาดหวังและเป้าหมายการรักษา
    • ควรเลือกฉีดแบบไหนให้เหมาะกับปัญหาใบหน้าของคุณ
  • ขั้นตอนการฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้า
    • การประเมินโครงสร้างใบหน้าและวางแผนการรักษา
    • การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการฉีด
    • ระหว่างการฉีดและระยะเวลาที่ใช้
    • การดูแลตัวเองทันทีหลังการฉีด
  • ผลลัพธ์และระยะเวลา: ตอบทุกคำถามสำคัญจาก H1
    • ปริมาณโบท็อกที่ใช้: ต้องฉีดกี่ยูนิต?
    • ระยะเวลาเห็นผล: กี่วันจึงจะเห็นกรอบหน้าคมชัดขึ้น?
    • ความคงทนของผลลัพธ์: ลิฟกรอบหน้าอยู่ได้นานแค่ไหน?
    • ปัจจัยที่ส่งผลต่อระยะเวลาของผลลัพธ์
  • ปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจ
    • การเลือกคลินิกและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
    • โครงสร้างราคาและค่าใช้จ่ายโดยประมาณ
    • การเตรียมตัวก่อนฉีดเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
  • ความเสี่ยง ผลข้างเคียง และข้อควรระวังที่ควรรู้
    • ผลข้างเคียงที่พบได้ทั่วไปและวิธีจัดการ
    • ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นและแนวทางการป้องกัน
    • สัญญาณผิดปกติที่ควรปรึกษาแพทย์ทันที
  • คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการทำโบท็อกลิฟกรอบหน้า
    • ฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้าเจ็บไหม?
    • สามารถฉีดลิฟกรอบหน้าพร้อมกับลดกรามได้หรือไม่?
    • หลังฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้า มีข้อห้ามอะไรบ้าง?
    • ฉีดแล้วหน้าจะดูแข็งหรือยิ้มไม่เป็นธรรมชาติหรือไม่?
    • หากหยุดฉีด ผิวจะหย่อนคล้อยกว่าเดิมจริงหรือ?
    • อายุเท่าไหร่จึงจะสามารถเริ่มฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้าได้?
  • References:

โบท็อกลิฟกรอบหน้าคืออะไร และทำงานอย่างไร?

โบท็อกลิฟกรอบหน้าคือเทคนิคการฉีดโบทูลินัม ท็อกซิน เพื่อยกกระชับและสร้างความคมชัดให้แนวกราม โดยอาศัยหลักการคลายกล้ามเนื้อ platysma ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อที่ดึงใบหน้าลง เมื่อกล้ามเนื้อนี้คลายตัวจากฤทธิ์ของโบท็อก แรงดึงลงจะลดลง ทำให้กล้ามเนื้อส่วนที่ทำหน้าที่ยกใบหน้าทำงานได้ดีขึ้น ส่งผลให้กรอบหน้าดูคมชัดและยกกระชับขึ้น

เทคนิคที่นิยมใช้มี 2 รูปแบบหลัก ได้แก่

  • Nefertiti Lift: ฉีดเข้าไปที่กล้ามเนื้อ platysma บริเวณแนวกรามและลำคอโดยตรงเพื่อลดแรงดึงลง
  • Dermolift: ฉีดแบบตื้นๆ (microdroplet) เข้าไปในชั้นผิวหนัง เพื่อช่วยให้ผิวตึงกระชับและดูเรียบเนียนขึ้น

หลักการทำงานของการฉีดโบท็อกเพื่อยกกระชับกรอบหน้า

หลักการทำงานคือการฉีดโบทูลินั่ม ท็อกซิน เพื่อคลายกล้ามเนื้อแพลทิสมา (Platysma) ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อที่ดึงใบหน้าส่วนล่างลง เมื่อกล้ามเนื้อนี้คลายตัวจากการที่สารสื่อประสาทถูกยับยั้ง แรงดึงลงจะลดน้อยลง ทำให้กล้ามเนื้อส่วนที่ทำหน้าที่ยกใบหน้าสามารถทำงานได้ดีขึ้น ส่งผลให้กรอบหน้าดูคมชัดและยกกระชับขึ้น

เทคนิคการฉีด Dermolift เพื่อผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ

เทคนิค Dermolift คือการฉีดโบทูลินัมท็อกซินแบบไมโครดรอปเล็ต (microdroplets) เข้าไปในชั้นหนังแท้ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ โดยจะเน้นฉีดตื้นๆ เพื่อเป้าหมายที่เส้นใยผิวและต่อมไขมัน ซึ่งช่วยให้ผิวกระชับ ลดความมัน และเพิ่มความเงางาม โดยไม่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของกล้ามเนื้อชั้นลึก จึงหลีกเลี่ยงลักษณะใบหน้าที่แข็งทื่อได้

ใครเหมาะกับการฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้า?

ผู้ที่มีปัญหาหย่อนคล้อยเล็กน้อยหรือกรอบหน้าไม่คมชัด เหมาะกับการฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้า โดยเฉพาะผู้ที่ปัญหานี้เกิดจากการดึงรั้งของกล้ามเนื้อคอ (Platysma)

อย่างไรก็ตาม วิธีนี้อาจไม่เหมาะกับผู้ที่มีความหย่อนคล้อยรุนแรง ซึ่งอาจต้องใช้วิธีการรักษาอื่น เช่น การร้อยไหม ร่วมด้วยเพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้น

ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยและกรอบหน้าไม่ชัดเจน

การทำโบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาความหย่อนคล้อยเล็กน้อยและแนวกรามที่ไม่คมชัด อันเนื่องมาจากการดึงรั้งของกล้ามเนื้อ platysma เทคนิคนี้จะช่วยคลายกล้ามเนื้อที่ดึงใบหน้าลง ทำให้กรอบหน้าดูยกกระชับและคมชัดขึ้น

สำหรับผู้ที่มีความหย่อนคล้อยรุนแรง การทำโบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้าเพียงอย่างเดียวอาจไม่เห็นผลชัดเจน และอาจต้องใช้วิธีการรักษาร่วมกับหัตถการอื่น เช่น การร้อยไหม หรือเครื่องมือที่ใช้พลังงาน

ข้อห้ามและผู้ที่ไม่ควรฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้า

ข้อห้ามหลักของการฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้าคือ ผู้ที่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร, ผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับระบบประสาทและกล้ามเนื้อ, ผู้ที่แพ้โบทูลินัมท็อกซิน และผู้ที่กำลังใช้ยาบางชนิด

นอกจากนี้ ผู้ที่ไม่เหมาะกับการฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้า ได้แก่

  • ผู้ที่มีการติดเชื้อบริเวณผิวหนังที่จะฉีด
  • ผู้ที่ใช้ยาปฏิชีวนะกลุ่ม Aminoglycosides เพราะอาจเพิ่มฤทธิ์ของโบท็อกซ์
  • ผู้ที่มีความหย่อนคล้อยของผิวหนังอย่างรุนแรง ซึ่งอาจต้องใช้วิธีการรักษาอื่นร่วมด้วย

เปรียบเทียบชัดๆ: โบท็อกลิฟกรอบหน้า vs. โบท็อกลดกราม

ตำแหน่งและชั้นผิวที่ฉีดแตกต่างกัน

การฉีดโบท็อกซ์เพื่อยกกระชับกรอบหน้าจะเน้นที่ กล้ามเนื้อ Platysma ในชั้นผิวหนังแท้ (Intradermal) หรือชั้นใต้ผิวหนัง (Subdermal) ส่วนการฉีดเพื่อลดกรามจะฉีดเข้าที่กล้ามเนื้อ Masseter ซึ่งเป็นชั้นกล้ามเนื้อที่ลึกกว่า (Deep intramuscular) การฉีดเพื่อยกกระชับจะมีความลึกประมาณ 0.5-1 ซม. เพื่อคลายกล้ามเนื้อที่ดึงผิวลง ในขณะที่การฉีดลดกรามจะฉีดลึกถึง 1-2 ซม. เพื่อให้กล้ามเนื้อกรามฝ่อและมีขนาดเล็กลง

ผลลัพธ์ที่คาดหวังและเป้าหมายการรักษา

เป้าหมายหลักของการรักษาคือ การสร้างกรอบหน้าที่คมชัดขึ้น ยกกระชับผิว และฟื้นฟูผิวอย่างเป็นธรรมชาติ โดยการฉีดโบท็อกซ์จะช่วยคลายกล้ามเนื้อ Platysma ที่ดึงผิวลง ทำให้ใบหน้ายกกระชับขึ้นตามธรรมชาติ

ผลลัพธ์ที่คาดหวังได้เพิ่มเติม ได้แก่:

  • ผิวที่ตึงและเรียบเนียนขึ้น
  • ลดความมันบนใบหน้า
  • ปรับปรุงสภาพผิวโดยรวมโดยไม่ทำให้กล้ามเนื้อชั้นลึกแข็งตัวหรือดูไม่เป็นธรรมชาติ

ควรเลือกฉีดแบบไหนให้เหมาะกับปัญหาใบหน้าของคุณ

ควรเลือกฉีดโบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้าหากต้องการกรอบหน้าที่คมชัดและยกกระชับ หรือเลือกฉีดโบท็อกซ์ลดกรามหากต้องการให้ใบหน้าเรียวเล็กลง

  • โบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้า (Facial Lift Botox): เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหากรอบหน้าไม่คมชัดหรือหย่อนคล้อยเล็กน้อย เทคนิคนี้จะฉีดตื้นๆ ที่กล้ามเนื้อ Platysma บริเวณลำคอและกรอบหน้า เพื่อลดแรงดึงของกล้ามเนื้อที่ดึงใบหน้าลง ทำให้กรอบหน้าดูยกกระชับและคมชัดขึ้น
  • โบท็อกซ์ลดกราม (Masseter Reduction): เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหากรามใหญ่หรือใบหน้าเหลี่ยมจากกล้ามเนื้อ การฉีดจะเน้นที่กล้ามเนื้อกราม (Masseter) โดยตรง เพื่อลดขนาดของกล้ามเนื้อ ทำให้ใบหน้าโดยรวมดูเรียวและเล็กลง

ขั้นตอนการฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้า

การประเมินโครงสร้างใบหน้าและวางแผนการรักษา

การประเมินโครงสร้างใบหน้าและการวางแผนการรักษาจะเริ่มจากการประเมินการทำงานของกล้ามเนื้อ platysma และ DAO (Depressor Anguli Oris) เพื่อวางแผนการฉีดโบท็อกซ์

แพทย์จะพิจารณาว่าผู้รับบริการเป็นผู้ที่เหมาะสมหรือไม่ โดยผู้ที่เหมาะสมคือผู้ที่มีความหย่อนคล้อยเล็กน้อยและมีแนวกรามที่ไม่คมชัด นอกจากนี้ยังต้องประเมินข้อห้ามต่างๆ เช่น การตั้งครรภ์ โรคเกี่ยวกับระบบประสาทและกล้ามเนื้อ หรือการใช้ยาบางชนิด สำหรับกรณีที่มีความหย่อนคล้อยปานกลาง อาจมีการวางแผนการรักษาร่วมกับเทคนิคอื่น เช่น การร้อยไหม เพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้น

การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการฉีด

การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการฉีดโบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้าคือการหลีกเลี่ยงยาละลายลิ่มเลือด เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดรอยช้ำ

ระหว่างการฉีดและระยะเวลาที่ใช้

ผลลัพธ์ของการฉีดโบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้าจะเริ่มเห็นผลใน 3-7 วัน และคงอยู่ได้นาน 3-4 เดือน โดยจะเห็นผลชัดเจนที่สุดในสัปดาห์ที่ 2

ในระหว่างขั้นตอนการฉีด แพทย์จะประเมินและฉีดโบท็อกซ์แบบตื้นๆ เข้าไปในกล้ามเนื้อ platysma ตามแนวกรอบหน้าและลำคอ โดยก่อนทำควรงดยาละลายลิ่มเลือด และหลังทำควรหลีกเลี่ยงการนวดหรือถูบริเวณที่ฉีด และอยู่ในท่านั่งตรงอย่างน้อย 4 ชั่วโมง

การดูแลตัวเองทันทีหลังการฉีด

ข้อควรปฏิบัติทันทีหลังการฉีดคือห้ามนวดหรือถูบริเวณที่ฉีด และควรอยู่ในท่านั่งหรือยืนตรงเป็นเวลา 4 ชั่วโมง เพื่อให้ตัวยาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง

ผลลัพธ์และระยะเวลา: ตอบทุกคำถามสำคัญจาก H1

ปริมาณโบท็อกที่ใช้: ต้องฉีดกี่ยูนิต?

โดยทั่วไปการฉีดโบท็อกเพื่อลิฟต์กรอบหน้าจะใช้ปริมาณประมาณ 20-40 ยูนิต ทั้งนี้ ปริมาณที่แน่นอนจะขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น อายุ และการทำงานของกล้ามเนื้อของแต่ละบุคคล

ระยะเวลาเห็นผล: กี่วันจึงจะเห็นกรอบหน้าคมชัดขึ้น?

โดยทั่วไปจะเริ่มเห็นผลใน 3-7 วัน และจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนที่สุดเมื่อครบ 2 สัปดาห์หลังการฉีด

ความคงทนของผลลัพธ์: ลิฟกรอบหน้าอยู่ได้นานแค่ไหน?

โดยทั่วไปแล้ว ผลลัพธ์ของการลิฟกรอบหน้าด้วยโบท็อกซ์จะอยู่ได้นานประมาณ 3-6 เดือน

ผลลัพธ์จะเริ่มเห็นได้ภายใน 3-7 วัน และจะเห็นผลชัดเจนที่สุดในสัปดาห์ที่ 2 หลังการฉีด ทั้งนี้ระยะเวลาของผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น อายุ และการทำงานของกล้ามเนื้อ

ปัจจัยที่ส่งผลต่อระยะเวลาของผลลัพธ์

ปัจจัยที่ส่งผลต่อระยะเวลาของผลลัพธ์คือ อายุและการทำงานของกล้ามเนื้อ โดยทั่วไปแล้วผลลัพธ์จะอยู่ได้นาน 3-6 เดือน

ปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจ

การเลือกคลินิกและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

ควรเลือกผู้ให้บริการที่ได้รับการรับรองจากคณะกรรมการและมีความโปร่งใส โดยราคาสำหรับการรักษาบริเวณแนวกรามในประเทศไทยโดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 8,000-12,000 บาท

โครงสร้างราคาและค่าใช้จ่ายโดยประมาณ

ราคาโดยประมาณสำหรับการทำโบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้าอยู่ที่ 8,000-12,000 บาท ซึ่งเป็นเกณฑ์ราคาจากคลินิกในประเทศไทยสำหรับการรักษาที่เกี่ยวข้องกับบริเวณแนวกรามและกรอบหน้าโดยเฉพาะ

การเตรียมตัวก่อนฉีดเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

การเตรียมตัวก่อนฉีดที่สำคัญที่สุดคือการหลีกเลี่ยงยาละลายลิ่มเลือด เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดรอยช้ำบริเวณที่ฉีด

ความเสี่ยง ผลข้างเคียง และข้อควรระวังที่ควรรู้

ผลข้างเคียงที่พบได้ทั่วไปและวิธีจัดการ

ผลข้างเคียงที่พบได้ทั่วไปคือ รอยช้ำ ซึ่งสามารถจัดการได้ โดยการหลีกเลี่ยงยาละลายลิ่มเลือดก่อนทำ และไม่ถูบริเวณที่ฉีดพร้อมกับอยู่ในท่านั่งตรงเป็นเวลา 4 ชั่วโมงหลังทำ นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดความไม่สมมาตรของใบหน้าได้เช่นกัน

ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นและแนวทางการป้องกัน

ความเสี่ยงที่พบบ่อยคือรอยช้ำ ซึ่งสามารถจัดการได้ รวมถึงโอกาสเกิดความไม่สมมาตร และการกำเริบของโรคเกี่ยวกับระบบประสาทและกล้ามเนื้อ

แนวทางการป้องกันคือการเลือกแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและหลีกเลี่ยงการทำในผู้ที่มีข้อห้าม ดังนี้

  • ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
  • มีโรคเกี่ยวกับระบบประสาทและกล้ามเนื้อรุนแรง (เช่น Myasthenia Gravis)
  • แพ้ Botulinum toxin
  • มีการติดเชื้อบริเวณที่จะฉีด
  • ใช้ยาที่มีปฏิกิริยาต่อกัน เช่น ยาปฏิชีวนะกลุ่ม aminoglycosides

นอกจากนี้ ก่อนทำควรหลีกเลี่ยงยาละลายลิ่มเลือด และหลังทำห้ามถูบริเวณที่ฉีดและควรอยู่ในท่านั่งตรงเป็นเวลา 4 ชั่วโมง

สัญญาณผิดปกติที่ควรปรึกษาแพทย์ทันที

จากข้อมูลที่ให้มา ไม่ได้ระบุถึงสัญญาณผิดปกติที่ต้องปรึกษาแพทย์ทันทีหลังการฉีดโบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้า

เนื้อหาส่วนใหญ่เน้นย้ำถึงข้อห้ามในการทำหัตถการ เช่น ผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับระบบประสาทและกล้ามเนื้อขั้นรุนแรง (Myasthenia Gravis) ซึ่งมีความเสี่ยงที่อาการจะกำเริบมากขึ้น รวมถึงผลข้างเคียงทั่วไปที่จัดการได้ เช่น รอยช้ำ หรือความไม่สมมาตรที่อาจเกิดขึ้นได้

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการทำโบท็อกลิฟกรอบหน้า

ฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้าเจ็บไหม?

การฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้า มีความเจ็บเล็กน้อยและทนได้ ซึ่งมักเปรียบเทียบความรู้สึกเหมือนมดกัดหรือยุงกัด

โดยทั่วไป แพทย์จะทายาชาหรือใช้การประคบเย็นก่อนทำการฉีดเพื่อช่วยลดความรู้สึกเจ็บ เนื่องจากเป็นการใช้เข็มขนาดเล็กฉีดในปริมาณน้อยๆ และตื้นๆ บริเวณชั้นผิวหนัง ความเจ็บจึงไม่รุนแรงและจะหายไปอย่างรวดเร็วหลังฉีดเสร็จ

สามารถฉีดลิฟกรอบหน้าพร้อมกับลดกรามได้หรือไม่?

สามารถฉีดโบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้าพร้อมกับลดกรามได้ เนื่องจากการรักษาทั้งสองอย่างมีเป้าหมายและใช้เทคนิคการฉีดที่แตกต่างกัน

  • การลิฟต์กรอบหน้า (Facial Lift): เน้นการฉีดตื้นๆ เข้าที่กล้ามเนื้อ Platysma เพื่อยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยและทำให้กรอบหน้าคมชัดขึ้น
  • การลดกราม (Masseter Reduction): เน้นการฉีดลึกเข้าที่กล้ามเนื้อ Masseter (กล้ามเนื้อกราม) เพื่อลดขนาดของกล้ามเนื้อ ทำให้ใบหน้าดูเรียวเล็กลง

หลังฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้า มีข้อห้ามอะไรบ้าง?

ข้อห้ามหลักหลังฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้าคือ ห้ามนวดหรือถูบริเวณที่ฉีด และควรอยู่ในท่านั่งหรือยืนตรงเป็นเวลา 4 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการกระจายตัวของยาไปยังกล้ามเนื้อส่วนอื่น นอกจากนี้ ก่อนการฉีดควรหลีกเลี่ยงยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด

ฉีดแล้วหน้าจะดูแข็งหรือยิ้มไม่เป็นธรรมชาติหรือไม่?

โดยทั่วไปแล้ว จะไม่ทำให้หน้าดูแข็งหรือยิ้มไม่เป็นธรรมชาติ เนื่องจากเทคนิคการฉีดโบท็อกซ์เพื่อยกกระชับกรอบหน้า เช่น Dermolift จะเน้นฉีดที่ชั้นผิวหนังตื้นๆ และกล้ามเนื้อ Platysma ที่อยู่ชั้นบนเท่านั้น ซึ่งจะช่วยรักษาการทำงานของกล้ามเนื้อมัดลึกที่ใช้ในการแสดงสีหน้าและการยิ้มไว้ได้ตามปกติ ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ

หากหยุดฉีด ผิวจะหย่อนคล้อยกว่าเดิมจริงหรือ?

ไม่จริง การหยุดฉีดโบท็อกซ์ไม่ได้ทำให้ผิวหย่อนคล้อยกว่าเดิม

เมื่อโบท็อกซ์หมดฤทธิ์ กล้ามเนื้อจะค่อยๆ กลับมาทำงานตามปกติ และผิวจะกลับคืนสู่สภาพเดิมก่อนการฉีด การที่ผิวหย่อนคล้อยลงเป็นผลมาจากกระบวนการแก่ชราตามธรรมชาติซึ่งเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ได้เกิดจากการหยุดใช้โบท็อกซ์

อายุเท่าไหร่จึงจะสามารถเริ่มฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้าได้?

ไม่มีการระบุอายุที่แน่ชัดสำหรับการเริ่มฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้า แต่จะพิจารณาจากสภาพผิวเป็นหลัก การรักษานี้เหมาะสำหรับผู้ใหญ่ที่มีปัญหากรอบหน้าไม่คมชัดหรือมีความหย่อนคล้อยของผิวในระดับเล็กน้อย โดยจะประเมินจากลักษณะทางกายภาพมากกว่าการกำหนดอายุเป็นตัวเลข

References:

  1. Effectiveness of intra-oral botulinum toxin injection in comparison to. (n.d.). ncbi.nlm.nih.gov
  2. A Comprehensive Ultrasound Investigation of Lower Facial and. (n.d.). wiley.com
  3. Anatomical Proposal for Botulinum Neurotoxin Injection Targeting. (n.d.). ncbi.nlm.nih.gov
  4. Anatomical Guidelines and Technical Tips for Neck Aesthetics with. (n.d.). thieme-connect.de

แนะแนวเรื่อง

Previous Previous
ฉีดโบท็อกซ์ยกหางตา ลดริ้วรอยตีนกา เห็นผลจริงไหม? อัปเดต 2568
NextContinue
โบท็อกปีกจมูก ลดจมูกบานได้จริงไหม? ใช้กี่ยูนิต ราคาเท่าไหร่?

สาขาพรีวาโต คลินิก

    สาขาอโศก ตั้งอยู่ที่ ชั้น 2 อาคารมิดทาวน์
    Phone: 02-258-4050 , 081-841-5075
    สาขาสีลม ตั้งอยู่ที่ ชั้น 1 อาคารซี.พี.ทาวเวอร์
    Phone: 02-780-2011 , 098-272-5244
    สาขาราชพฤกษ์ ตั้งอยู่ที่ ชั้น 2 ศูนย์การค้า เดอะคริสตัล เอสบี (ด้านบนร้านสตาร์บัคส์)
    Phone: 02-102-2778 , 098-272-5244

ติดต่อเรา

    Facebook: Privato Clinic
    Messenger: Privato Clinic
    Instagram: privatoclinic
    Email: privatoclinic@gmail.com
    Line: @privatoclinic

Copyright© 2022-2024. All Rights Reserved

Scroll to top
  • หน้าหลัก
  • เกี่ยวกับพรีวาโต
  • บริการทั้งหมด
    • ชะลอวัย
    • ยกกระชับผิว
      • XERF
      • Potenza
      • Sofwave
      • Ulthera
      • Thermage-FLX
    • รักษาสิว
    • เลเซอร์
    • โปรแกรมฉีด
    • บำรุงผิว
  • บทความ
    • สิว
    • ยกกระชับ
    • ดูแลผิว
    • ทำเลเซอร์
  • ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว
  • โปรโมชั่น
  • ผลลัพธ์การรักษา
  • วิดีโอรีวิวจากเคสจริง
  • สาขาของเรา
  • ไทย
    • ไทย
    • English
    • 中文 (中国)
  • ปรึกษาแพทย์
Facebook Instagram YouTube