รีจูรันช่วยอะไร? มีกี่แบบ? แต่ละสีต่างกันอย่างไร แบบไหนเหมาะกับเรา

รีจูรัน ช่วยอะไรนั้นครอบคลุมการฟื้นฟูคุณภาพผิวโดยรวมด้วยสาร Polynucleotides (PN) จากปลาแซลมอนที่ผ่านการรับรองจาก อย. ไทย ซึ่งกระตุ้นการซ่อมแซมเซลล์ผิว สร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ ลดการอักเสบ และเพิ่มความชุ่มชื้น โดยมี 4 สูตรหลัก ได้แก่ Rejuran Healer (กล่องดำ) สำหรับฟื้นฟูผิวทั่วไป Rejuran I (กล่องขาว) สำหรับผิวบอบบางรอบดวงตา Rejuran S (กล่องน้ำเงิน) สำหรับรักษาหลุมสิวและรอยแผลเป็น และ Rejuran HB (กล่องแดง) สำหรับเพิ่มความชุ่มชื้นเป็นพิเศษ แนะนำให้ฉีด 3 ครั้งห่างกันครั้งละ 1 เดือน ราคาเริ่มต้นประมาณ 10,000 บาทต่อครั้ง โดยผลลัพธ์จะเห็นชัดเจนหลังครั้งที่ 2-3 และคงอยู่ได้ 6-12 เดือน

Table of Contents

รีจูรัน (Rejuran) คืออะไรและทำงานอย่างไรกับผิว

รีจูรัน (Rejuran) คือสกินบูสเตอร์ที่ใช้สาร Polynucleotides (PN) ซึ่งเป็นชิ้นส่วน DNA จากปลาแซลมอน เพื่อกระตุ้นให้ผิวซ่อมแซมและฟื้นฟูตัวเองในระดับเซลล์

รีจูรันทำงานโดยอาศัยกลไกหลักดังนี้:

กระตุ้นการซ่อมแซม: PN จะเข้าไปเป็นโครงสร้างให้เซลล์ผิวมายึดเกาะ พร้อมทั้งส่งสัญญาณให้เซลล์ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) ผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินเพิ่มขึ้น ทำให้ผิวแข็งแรง หนาแน่น และยืดหยุ่นขึ้น
ลดการอักเสบ: สาร PN มีคุณสมบัติต้านการอักเสบ ช่วยลดรอยแดงและการระคายเคือง ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น
เพิ่มความชุ่มชื้น: ช่วยกระตุ้นการสร้างไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) ตามธรรมชาติในผิว ทำให้ผิวสามารถกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดีขึ้น

กลไกการฟื้นฟูผิวด้วย Polynucleotide (PN) จากปลาแซลมอน

Polynucleotide (PN) ฟื้นฟูผิวโดยการเข้าไปซ่อมแซมเซลล์ที่เสียหายโดยตรง กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ และลดการอักเสบ ซึ่งกลไกการทำงานหลักประกอบด้วย

การซ่อมแซมเซลล์ (Salvage Pathway): PN จะส่งมอบชิ้นส่วน DNA (นิวคลีโอไทด์) ให้เซลล์นำไปใช้เป็นวัตถุดิบในการซ่อมแซม DNA ที่เสียหายและสร้างเซลล์ผิวใหม่
การกระตุ้นคอลลาเจน: PN จะกระตุ้นเซลล์ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) ให้ผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินเพิ่มขึ้น ทำให้ผิวหนาแน่น ยืดหยุ่น และริ้วรอยลดลง
การลดการอักเสบ: PN มีคุณสมบัติต้านการอักเสบ โดยช่วยลดสารที่ก่อให้เกิดการอักเสบในผิว ทำให้รอยแดงและการระคายเคืองลดลง
การเพิ่มความชุ่มชื้น: PN ช่วยกระตุ้นการสร้างไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) ตามธรรมชาติ ทำให้ผิวสามารถกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดีขึ้น

มาตรฐานและความปลอดภัย: ผ่านการรับรองจาก อย. ไทย

ใช่ Rejuran ผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ของประเทศไทย สำหรับใช้ในคลินิกเสริมความงาม

การรับรองนี้ทำให้มั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ได้มาตรฐานด้านความปลอดภัย ความสะอาด และประสิทธิภาพในการผลิต โดยผลิตภัณฑ์ Rejuran ของแท้ที่ใช้ในคลินิกประเทศไทยจะมีฉลากและสติกเกอร์ของ อย. ไทยกำกับอยู่บนบรรจุภัณฑ์

ใครที่เหมาะกับการฉีดรีจูรันเพื่อฟื้นฟูผิว

ปัญหาผิวที่รีจูรันสามารถช่วยแก้ไขได้

รีจูรันสามารถช่วยฟื้นฟูคุณภาพผิวโดยรวม โดยเน้นการแก้ปัญหาที่เกิดจากความเสื่อมของเซลล์ผิวและความเสียหายของโครงสร้างผิว ซึ่งครอบคลุมปัญหาต่างๆ ดังนี้

ริ้วรอยเล็กๆ และความเหี่ยวย่น: ช่วยให้ริ้วรอยตื้นขึ้นและผิวดูเรียบเนียนขึ้น
รูขุมขนกว้าง: ช่วยกระชับรูขุมขนและปรับสภาพผิวให้ละเอียดขึ้น
หลุมสิวและรอยแผลเป็น: ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเพื่อเติมเต็มหลุมสิวให้ตื้นขึ้น (โดยเฉพาะรุ่น Rejuran S)
ผิวแห้งขาดน้ำ: เพิ่มความชุ่มชื้นและเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง
ผิวหมองคล้ำและขาดความยืดหยุ่น: ช่วยให้ผิวกระจ่างใส มีความยืดหยุ่นและกระชับขึ้น
ปัญหารอบดวงตา: ลดเลือนริ้วรอยเล็กๆ และปรับปรุงคุณภาพผิวบริเวณใต้ตาให้ดีขึ้น (โดยเฉพาะรุ่น Rejuran I)

สภาพผิวและวัยที่ตอบสนองต่อการรักษาได้ดีที่สุด

Rejuran เหมาะสำหรับผู้ที่มีสภาพผิวและช่วงวัยที่หลากหลาย โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการฟื้นฟูคุณภาพผิวให้ดูดีขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ แทนที่จะเปลี่ยนแปลงรูปหน้าอย่างชัดเจน

ผู้ที่ตอบสนองต่อการรักษาได้ดี ได้แก่:

วัยหนุ่มสาว: เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหารอยแผลเป็นจากสิว หรือต้องการดูแลสุขภาพผิวโดยรวม
วัย 30 ปีขึ้นไป: ช่วยแก้ปัญหาผิวหมองคล้ำ ริ้วรอยแรกเริ่ม ผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อย หรือผิวที่ดูอ่อนล้า
วัย 40-50 ปีขึ้นไป: สามารถช่วยปรับปรุงสภาพผิวและริ้วรอยเล็กๆ ได้ แต่อาจต้องทำหลายครั้งกว่า
ผู้ที่มีสภาพผิวเฉพาะ: เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแห้งขาดน้ำ เกราะป้องกันผิวอ่อนแอ ผิวแพ้ง่าย หรือผู้ที่ต้องการเพิ่มความกระจ่างใสและความยืดหยุ่นให้ผิว

รีจูรันมีกี่แบบ? เปรียบเทียบความแตกต่างแต่ละสูตร (สี)

Rejuran Healer (กล่องดำ): สูตรคลาสสิกสำหรับฟื้นฟูผิวทั่วใบหน้า

Rejuran Healer (กล่องดำ) คือสูตรดั้งเดิมและเป็นที่นิยมที่สุดสำหรับฟื้นฟูผิวโดยรวม (Overall rejuvenation) ช่วยซ่อมแซมและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนทั่วทั้งใบหน้าและลำคอ

Rejuran Healer มีคุณสมบัติเด่นดังนี้:

ส่วนประกอบหลัก: มี Polynucleotide (PN) ความเข้มข้นประมาณ 1% (20 มก. ในปริมาตร 2 มล.) ซึ่งมีความหนืดที่สมดุล ทำให้กระจายตัวในผิวได้ดี
คุณสมบัติ: ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของชั้นหนังแท้ เพิ่มความยืดหยุ่นและความหนาของผิว ลดเลือนริ้วรอยเล็กๆ กระชับรูขุมขน และปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนขึ้น
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป ที่มีปัญหาผิวโดยรวม เช่น ผิวหมองคล้ำ ไม่สดใส มีริ้วรอยแรกเริ่ม หรือผิวที่ดูอ่อนล้า
ชื่อเรียกอื่น: เป็นที่รู้จักในชื่อ “Baby Skin Injection” หรือ “Skin Healer” เนื่องจากผลลัพธ์ที่ช่วยฟื้นฟูผิวให้ดูอ่อนเยาว์และสุขภาพดี
ความรู้สึกขณะฉีด: สูตรนี้ไม่มีส่วนผสมของยาชา (Lidocaine) ดังนั้นจึงต้องมีการทายาชาก่อนทำหัตถการเพื่อลดความเจ็บ

Rejuran I (กล่องขาว): สูตรสำหรับผิวบอบบางรอบดวงตาโดยเฉพาะ

Rejuran I (กล่องขาว) คือสูตรที่พัฒนาขึ้นมาโดยเฉพาะเพื่อฟื้นฟูผิวบอบบางบริเวณรอบดวงตา มีความหนืดต่ำกว่าสูตรอื่น ทำให้สามารถฉีดเข้าสู่ผิวหนังชั้นตื้นบริเวณใต้ตาและหางตาได้อย่างนุ่มนวลโดยไม่ทำให้เกิดก้อนหรืออาการบวมมากเกินไป

คุณสมบัติหลักของ Rejuran I ได้แก่:

ลดเลือนริ้วรอยเล็กๆ และรอยตีนกา
เพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิวใต้ตา
ปรับปรุงคุณภาพผิวและการไหลเวียนโลหิต ซึ่งอาจช่วยให้รอยคล้ำใต้ตาดูจางลง

Rejuran S (กล่องน้ำเงิน): สูตรเข้มข้นสำหรับรักษาหลุมสิวและรอยแผลเป็น

Rejuran S (กล่องสีน้ำเงิน) คือสูตรที่มีความเข้มข้นและความหนืดสูงสุด ซึ่งออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อรักษาหลุมสิวและรอยแผลเป็นชนิดบุ๋ม (Atrophic scars)

ผลิตภัณฑ์นี้ทำงานโดยการเติมเต็มรอยแผลเป็นพร้อมทั้งกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่จากภายใน ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น

ส่วนประกอบหลัก: มีความเข้มข้นของ Polynucleotides (PN) สูงกว่าสูตรอื่น เพื่อกระตุ้นการซ่อมแซมผิวและสร้างคอลลาเจนใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
คุณสมบัติเด่น: เนื้อเจลมีความหนืดสูง ทำให้สามารถคงตัวอยู่ใต้รอยแผลเป็นได้ดี ทำหน้าที่เป็นโครงสร้างพยุงผิว (Scaffold) และช่วยเติมเต็มหลุมสิวให้ตื้นขึ้น
การทำงาน: กระตุ้นเซลล์ Fibroblast ให้สร้างคอลลาเจนในบริเวณรอยแผลเป็น ทำให้ผิวเรียบเนียนและหลุมสิวดูตื้นขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติเมื่อเวลาผ่านไป
การใช้งาน: มักใช้ร่วมกับการรักษาหลุมสิววิธีอื่น เช่น เลเซอร์ หรือการตัดพังผืดใต้ผิวหนัง (Subcision) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรักษา
ผลลัพธ์: โดยทั่วไปแนะนำให้ทำ 3 ครั้ง ห่างกันครั้งละ 4 สัปดาห์ จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงของหลุมสิวและคุณภาพผิวที่ดีขึ้นในช่วง 2-3 เดือนหลังการรักษา

Rejuran HB (กล่องแดง): สูตรเพิ่มความชุ่มชื้นเป็นพิเศษด้วย Hyaluronic Acid

Rejuran HB (กล่องแดง) คือสกินบูสเตอร์สูตรไฮโดรบูสต์ที่ผสาน Polynucleotides (PN) เข้ากับ Hyaluronic Acid (HA) และยาชา Lidocaine เพื่อฟื้นฟูผิวพร้อมมอบความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึกและลดความเจ็บปวดขณะฉีด

สูตรนี้ถูกออกแบบมาเพื่อมอบผลลัพธ์แบบ “2-in-1” โดยมีคุณสมบัติเด่นดังนี้:

ส่วนประกอบหลัก: ประกอบด้วย Polynucleotides (PN) สำหรับการซ่อมแซมผิว, Hyaluronic Acid (HA) ที่ไม่ผ่านการเชื่อมขวาง (non-cross-linked) เพื่อให้ความชุ่มชื้นทันที และ Lidocaine 0.3% เพื่อลดความเจ็บ
ผลลัพธ์: HA ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและดูฉ่ำวาว (Glass Skin) ได้ทันทีหลังการรักษา ในขณะที่ PN จะค่อยๆ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและซ่อมแซมผิวในระยะยาว
ความสบายระหว่างฉีด: การผสมยาชาและ HA ทำให้การฉีดนุ่มนวลและเจ็บน้อยกว่า Rejuran Healer สูตรดั้งเดิม
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่มีผิวแห้ง ขาดน้ำ มีริ้วรอยตื้นๆ จากความแห้งกร้าน หรือผู้ที่ต้องการเพิ่มความฉ่ำวาวให้ผิวเป็นพิเศษ

หลักการเลือกสูตรรีจูรันให้เหมาะกับปัญหาผิวของตัวเอง

การเลือกสูตรรีจูรันขึ้นอยู่กับปัญหาผิวและบริเวณที่ต้องการรักษาโดยเฉพาะ เนื่องจากแต่ละสูตรถูกออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาที่แตกต่างกัน ดังนี้

Rejuran Healer (กล่องดำ): เหมาะสำหรับฟื้นฟูผิวโดยรวม ลดเลือนริ้วรอยตื้นๆ เพิ่มความยืดหยุ่น และแก้ปัญหาผิวหมองคล้ำทั่วใบหน้าและลำคอ
Rejuran I (กล่องขาว): เหมาะสำหรับฟื้นฟูผิวบอบบางรอบดวงตาโดยเฉพาะ ช่วยลดริ้วรอยเล็กๆ และปรับปรุงคุณภาพผิวใต้ตา
Rejuran S (กล่องน้ำเงิน): เหมาะสำหรับรักษาหลุมสิวและรอยแผลเป็นชนิดลึก เนื่องจากมีความหนืดสูง ช่วยเติมเต็มและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่
Rejuran HB (กล่องแดง): เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเน้นเรื่องความชุ่มชื้นเป็นพิเศษและฟื้นฟูผิวไปพร้อมกัน ช่วยให้ผิวดูฉ่ำวาว และมีส่วนผสมของยาชาช่วยลดความเจ็บ

ผลลัพธ์ที่คาดหวัง: ต้องฉีดกี่ครั้งและอยู่ได้นานแค่ไหน

ระยะเวลาเห็นผลและจำนวนครั้งในการรักษาที่แนะนำ

โดยทั่วไปแนะนำให้ทำ 3 ครั้ง ห่างกันครั้งละ 1 เดือน โดยจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนขึ้นหลังการทำครั้งที่ 2 และเห็นผลเต็มที่ในช่วง 2-3 เดือน

ผลลัพธ์จะค่อยๆ ปรากฏขึ้นตามลำดับเวลาดังนี้:

1-2 สัปดาห์แรก: ผิวจะเริ่มรู้สึกชุ่มชื้นและดูสดใสขึ้น
หลังครั้งที่ 2 (ประมาณ 1 เดือน): ผิวจะเริ่มนุ่มฟูและเรียบเนียนขึ้น
หลังครั้งที่ 3 (ประมาณ 2-3 เดือน): จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนที่สุด เช่น รูขุมขนเล็กลง ริ้วรอยตื้นขึ้น และผิวโดยรวมดูอ่อนเยาว์และกระจ่างใส
ผลลัพธ์สูงสุด: ผลลัพธ์จะดีขึ้นเรื่อยๆ และเห็นผลเต็มที่ที่สุดในช่วง 3-6 เดือนหลังการรักษา เนื่องจากคอลลาเจนใหม่ถูกสร้างขึ้นอย่างสมบูรณ์

ผลลัพธ์ของรีจูรันสามารถคงอยู่ได้นานกี่เดือน

ผลลัพธ์ของรีจูรันสามารถคงอยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน หลังจากครบคอร์สการรักษาเบื้องต้น ทั้งนี้ระยะเวลาจะขึ้นอยู่กับจำนวนครั้งที่ฉีดและปัจจัยส่วนบุคคล

ฉีด 1 ครั้ง: ผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 2-3 เดือน
ฉีด 2-3 ครั้ง: ผลลัพธ์จะคงอยู่ได้นานขึ้นประมาณ 4-6 เดือน
ฉีด 4 ครั้ง: ผลลัพธ์อาจอยู่ได้นานเกือบหนึ่งปี

เพื่อรักษาผลลัพธ์ให้คงอยู่ยาวนาน แนะนำให้ฉีดซ้ำเพื่อบำรุงผิว (Maintenance) ทุกๆ 6-12 เดือน

กรอบราคาการฉีดรีจูรัน: ปัจจัยกำหนดค่าใช้จ่าย

ราคาเฉลี่ยต่อครั้งและโปรแกรมการรักษาต่อเนื่อง

ราคาเฉลี่ยของ Rejuran อยู่ที่ประมาณ 10,000 บาทขึ้นไปต่อครั้ง โดยราคาอาจแตกต่างกันไปตามคลินิกและรุ่นของผลิตภัณฑ์ที่ใช้ คลินิกส่วนใหญ่มักมีโปรแกรมการรักษาแบบแพ็กเกจ ซึ่งช่วยให้ราคาต่อครั้งถูกลง

ราคาต่อครั้ง: โดยทั่วไปเริ่มต้นที่ 9,900 – 14,999 บาท
ราคาแบบแพ็กเกจ: สำหรับการรักษาต่อเนื่อง 3 ครั้ง ราคาอาจอยู่ที่ประมาณ 29,999 – 38,000 บาท ซึ่งทำให้ราคาเฉลี่ยต่อครั้งลดลง

สิ่งที่รวมอยู่ในค่าใช้จ่าย: ปริมาณยาและค่าบริการทางการแพทย์

โดยทั่วไป ค่าใช้จ่ายในการทำรีจูรันหนึ่งครั้งจะรวมค่าผลิตภัณฑ์ (ตัวยา), ค่าหัตถการ (ค่าแพทย์), ยาชาเฉพาะที่ และการดูแลหลังทำเบื้องต้นไว้แล้ว

ปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจฉีดรีจูรัน

การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการฉีดรีจูรัน

การเตรียมตัวก่อนฉีดรีจูรันคือการหยุดยาและอาหารเสริมที่ทำให้เลือดออกง่าย รวมถึงงดใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ระคายเคือง และหลีกเลี่ยงการทำหัตถการอื่น ๆ บนใบหน้า เพื่อลดความเสี่ยงของผลข้างเคียงและให้ผิวอยู่ในสภาพที่พร้อมที่สุด

ข้อควรปฏิบัติก่อนการรักษา:

หยุดยาและอาหารเสริม: งดยาต้านการอักเสบ (NSAIDs) แอสไพริน น้ำมันปลา วิตามินอี และแปะก๊วย ประมาณ 5-7 วันก่อนการรักษา เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดรอยช้ำ
งดแอลกอฮอล์: หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก 2-3 วันก่อนการรักษา
หยุดผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่รุนแรง: งดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเรตินอยด์, AHA/BHA ประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนการรักษา
หลีกเลี่ยงหัตถการอื่น ๆ: ไม่ควรทำเลเซอร์ ผลัดเซลล์ผิว หรือทรีตเมนต์ที่รุนแรงต่อผิวหนังในสัปดาห์ก่อนหน้า
แจ้งประวัติสุขภาพ: ควรแจ้งแพทย์เกี่ยวกับโรคประจำตัว (เช่น โรคแพ้ภูมิตัวเอง) ประวัติการเป็นเริม การตั้งครรภ์ หรือหากกำลังรับประทานยาละลายลิ่มเลือด
เตรียมผิวในวันนัด: ควรมาถึงคลินิกด้วยใบหน้าที่สะอาด ปราศจากเครื่องสำอาง

การดูแลตัวเองหลังฉีดเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

การดูแลตัวเองหลังฉีด Rejuran ที่สำคัญที่สุดคือการหลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ระคายเคือง และการสัมผัสความร้อนหรือแสงแดดจัดในช่วง 2-3 วันแรก เพื่อให้ผิวได้ฟื้นฟูอย่างเต็มที่และลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ

ข้อควรปฏิบัติเพิ่มเติมมีดังนี้:

ทันทีหลังฉีด: ไม่ควรกด นวด หรือสัมผัสตุ่มนูนที่เกิดจากการฉีด เพราะตุ่มจะค่อยๆ ยุบและซึมเข้าสู่ผิวเองภายใน 24-72 ชั่วโมง
24 ชั่วโมงแรก: งดการแต่งหน้า และหลีกเลี่ยงการล้างหน้าในช่วง 4-6 ชั่วโมงแรก หลังจากนั้นสามารถล้างหน้าได้ด้วยน้ำอุณหภูมิปกติและผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อ่อนโยน
3-5 วันแรก: งดใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของเรตินอล, AHA/BHA, หรือวิตามินซี เพื่อป้องกันการระคายเคือง
1 สัปดาห์แรก: ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไปทุกวัน หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายอย่างหนัก การเข้าซาวน่า และการว่ายน้ำ เพื่อป้องกันการอักเสบและติดเชื้อ

เปรียบเทียบรีจูรันกับหัตถการอื่น เช่น ฟิลเลอร์ หรือ Skin Booster

รีจูรันแตกต่างจากหัตถการอื่นโดยเน้นการกระตุ้นให้ผิวซ่อมแซมตัวเองและสร้างคอลลาเจนเพื่อปรับปรุงคุณภาพผิวในระยะยาว ในขณะที่ฟิลเลอร์เน้นการเติมเต็มปริมาตร และ Skin Booster ทั่วไปเน้นการให้ความชุ่มชื้นเป็นหลัก

รีจูรัน vs. ฟิลเลอร์ (Fillers):
เป้าหมาย: รีจูรันเน้นฟื้นฟูคุณภาพผิว (Skin Quality) เช่น ความเรียบเนียน, ความกระชับ, และลดขนาดรูขุมขน ส่วนฟิลเลอร์เน้นการเพิ่มปริมาตร (Volume) และปรับแก้รูปทรงใบหน้า
ผลลัพธ์: รีจูรันให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและค่อยเป็นค่อยไป ส่วนฟิลเลอร์ให้ผลลัพธ์ด้านการเติมเต็มที่เห็นได้ทันที
ความปลอดภัย: รีจูรันไม่มีความเสี่ยงเรื่องการอุดตันของเส้นเลือด (Vascular Occlusion) ซึ่งเป็นความเสี่ยงที่อาจพบได้ในฟิลเลอร์
รีจูรัน vs. Skin Boosters (ชนิด Hyaluronic Acid):
กลไก: รีจูรันกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินโดยตรงผ่านสาร Polynucleotide (PN) ส่วน Skin Booster ที่เป็น HA จะเน้นการดึงน้ำเข้าสู่ผิวเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นเป็นหลัก
ประสิทธิภาพ: รีจูรันสามารถแก้ปัญหาริ้วรอย, รูขุมขน, และรอยแผลเป็นได้ดีกว่า ในขณะที่ HA Booster เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความชุ่มชื้นและผิวฉ่ำวาว
คุณสมบัติพิเศษ: รีจูรันมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ จึงช่วยปลอบประโลมผิวและเหมาะกับผิวแพ้ง่าย

ข้อควรระวัง ผลข้างเคียง และข้อห้ามในการฉีดรีจูรัน

ผลข้างเคียงที่อาจพบได้หลังการฉีดและวิธีรับมือ

ผลข้างเคียงที่พบบ่อยที่สุดหลังการฉีด Rejuran คือตุ่มนูนเล็กๆ รอยแดง อาการบวม และรอยช้ำเล็กน้อยในบริเวณที่ฉีด ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นอาการชั่วคราวและไม่รุนแรง

อาการเหล่านี้เป็นปฏิกิริยาปกติของผิวหนังและมักจะหายไปเอง โดยมีวิธีรับมือและดูแลตัวเองดังนี้:

ตุ่มนูน: ตุ่มเล็กๆ คล้ายเม็ดสาคูจะยุบและซึมเข้าสู่ผิวเองภายใน 24-72 ชั่วโมง ไม่ควรนวดหรือกดบริเวณดังกล่าว
รอยแดงและอาการบวม: มักจะดีขึ้นภายใน 1-2 วัน สามารถใช้การประคบเย็นเพื่อช่วยลดอาการได้
รอยช้ำ: หากเกิดขึ้นจะค่อยๆ จางหายไปภายในหนึ่งสัปดาห์
การดูแลหลังฉีด: ควรหลีกเลี่ยงการแต่งหน้าเป็นเวลา 24 ชั่วโมง งดออกกำลังกายหนัก ซาวน่า และการสัมผัสความร้อนสูงประมาณ 2 วัน และทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอเพื่อปกป้องผิว

กลุ่มบุคคลที่ไม่ควรทำรีจูรัน (Contraindications)

กลุ่มบุคคลที่ไม่ควรทำรีจูรัน (Rejuran) ได้แก่ สตรีมีครรภ์หรือให้นมบุตร, ผู้ป่วยโรคแพ้ภูมิตัวเองที่ควบคุมไม่ได้, ผู้ที่มีการติดเชื้อหรือโรคผิวหนังบริเวณที่จะทำ และผู้ที่แพ้ส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์

นอกจากนี้ ยังมีข้อควรระวังสำหรับกลุ่มอื่นๆ ดังนี้:

ผู้ที่มีการติดเชื้อบนผิวหนัง: ไม่ควรฉีดในบริเวณที่มีการติดเชื้อ เช่น สิวอักเสบรุนแรง, เริม (Herpes), หรือโรคผิวหนังอักเสบ จนกว่าอาการจะหายดี
ผู้ที่มีประวัติการเกิดแผลเป็นคีลอยด์: ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความเสี่ยง เนื่องจากอาจกระตุ้นให้เกิดคีลอยด์ได้ แม้จะมีความเสี่ยงต่ำมาก
ผู้ที่แพ้อาหารทะเลรุนแรง: แม้ว่าผลิตภัณฑ์จะผ่านกระบวนการทำให้มีความบริสุทธิ์สูงและไม่ก่อให้เกิดการแพ้ แต่คลินิกบางแห่งอาจแนะนำให้หลีกเลี่ยงเพื่อความปลอดภัยสูงสุด
ผู้ที่มีเนื้องอกหรือมะเร็งผิวหนัง: ห้ามฉีดรีจูรันในบริเวณใกล้เคียงกับรอยโรคที่อาจเป็นเนื้อร้าย

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการฉีดรีจูรัน (FAQ)

ฉีดรีจูรันเจ็บไหม?

การฉีดรีจูรันอาจทำให้รู้สึกไม่สบายผิวได้บ้าง แต่โดยทั่วไปจะมีการทายาชาเฉพาะที่ประมาณ 30-45 นาทีก่อนทำหัตถการเพื่อบรรเทาความเจ็บปวด

ผู้ป่วยส่วนใหญ่ให้คะแนนความเจ็บปวดอยู่ในระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง (ประมาณ 2-4 จาก 10) นอกจากนี้ รีจูรันบางสูตร เช่น Rejuran HB (กล่องสีแดง) ยังมีส่วนผสมของยาชา (Lidocaine) เพื่อช่วยลดความเจ็บปวดระหว่างการฉีดอีกด้วย

รีจูรันแตกต่างจากฟิลเลอร์หรือโบท็อกซ์อย่างไร?

รีจูรันแตกต่างจากฟิลเลอร์และโบท็อกซ์โดยเน้นที่การฟื้นฟูคุณภาพผิว ในขณะที่ฟิลเลอร์ใช้เพื่อเติมเต็มปริมาตร และโบท็อกซ์ใช้เพื่อลดเลือนริ้วรอยจากการแสดงอารมณ์โดยการคลายกล้ามเนื้อ

ตารางด้านล่างสรุปความแตกต่างที่สำคัญ:

คุณสมบัติ	รีจูรัน (Rejuran)	ฟิลเลอร์ (Dermal Fillers)	โบท็อกซ์ (Botox)
เป้าหมายหลัก	ฟื้นฟูคุณภาพผิว	เติมเต็มปริมาตร	ลดริ้วรอยจากการแสดงอารมณ์
กลไกการออกฤทธิ์	กระตุ้นให้ผิวซ่อมแซมตัวเองและสร้างคอลลาเจน	เพิ่มปริมาตรทางกายภาพทันที	ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัวชั่วคราว
ผลลัพธ์	ผิวเรียบเนียน กระจ่างใส สุขภาพดีขึ้น	เติมเต็มร่องลึก ปรับโครงหน้า	ริ้วรอยจากการขยับกล้ามเนื้อเรียบเนียนขึ้น
เหมาะสำหรับ	รูขุมขน ริ้วรอยเล็กๆ แผลเป็น	ร่องแก้มลึก แก้มตอบ ริมฝีปาก	ริ้วรอยบนหน้าผาก หว่างคิ้ว ตีนกา

ต้องฉีดรีจูรันกี่ครั้งถึงจะเห็นผลชัดเจน?

โดยทั่วไป ควรฉีดรีจูรัน 3 ครั้ง เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนและมีนัยสำคัญ

โดยแต่ละครั้งจะเว้นระยะห่างกันประมาณ 3-4 สัปดาห์ ผลลัพธ์จะค่อยๆ ดีขึ้นเรื่อยๆ และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนที่สุดหลังจากการฉีดครั้งที่ 3 เนื่องจากผลลัพธ์จะเกิดจากการสะสมและกระตุ้นคอลลาเจนอย่างต่อเนื่อง สำหรับปัญหาเฉพาะจุด เช่น หลุมสิวลึก อาจต้องฉีด 3-4 ครั้งเพื่อให้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าพอใจ

ผลลัพธ์ของรีจูรันอยู่ได้นานแค่ไหน?

โดยทั่วไป ผลลัพธ์ของรีจูรันสามารถอยู่ได้นานตั้งแต่ 4-6 เดือนไปจนถึงเกือบหนึ่งปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจำนวนครั้งที่ทำและปัจจัยส่วนบุคคล

ระยะเวลาของผลลัพธ์จะแตกต่างกันไปตามจำนวนครั้งที่ฉีดในช่วงแรก ดังนี้

ทำ 2-3 ครั้ง: ผลลัพธ์จะคงอยู่ประมาณ 4-6 เดือน
ทำครบ 4 ครั้ง: ผลลัพธ์อาจอยู่ได้นานเกือบ 1 ปี หรือมากกว่านั้น

เพื่อรักษาผลลัพธ์ให้อยู่ได้นานขึ้น แนะนำให้กลับมาฉีดซ้ำเพื่อบำรุงผิว (maintenance) ทุกๆ 6-12 เดือน หากไม่ทำเช่นนั้น ผิวจะค่อยๆ กลับคืนสู่สภาพเดิมภายใน 1-2 ปี

หลังฉีดรีจูรันสามารถแต่งหน้าได้เลยหรือไม่?

โดยทั่วไป ไม่แนะนำให้แต่งหน้าทันทีหลังฉีดรีจูรัน แต่ควรรออย่างน้อย 24 ชั่วโมง

การเว้นระยะเวลาดังกล่าวมีจุดประสงค์เพื่อลดความเสี่ยงของการติดเชื้อและการระคายเคืองบริเวณรอยเข็มที่ยังเปิดอยู่ หลังจาก 24 ชั่วโมง หากผิวหนังไม่มีรอยแดงหรือตุ่มนูนมากนัก ก็สามารถเริ่มแต่งหน้าเบาๆ ได้ โดยควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ก่อให้เกิดการอุดตันและอุปกรณ์ที่สะอาด

รีจูรันสามารถฉีดร่วมกับหัตถการอื่นได้ไหม?

ได้, รีจูรันสามารถฉีดร่วมกับหัตถการเสริมความงามอื่น ๆ ได้อย่างปลอดภัย และมักให้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นเมื่อทำร่วมกัน เนื่องจากเป็นการดูแลผิวในหลายมิติพร้อมกัน

การทำหัตถการร่วมกับรีจูรันที่นิยมทำกัน ได้แก่

เลเซอร์ (Laser) หรือหัตถการกลุ่มพลังงาน: การฉีดรีจูรันหลังทำเลเซอร์จะช่วยลดรอยแดงและเร่งกระบวนการฟื้นฟูผิว
โบท็อกซ์ (Botox): สามารถทำในครั้งเดียวกันได้ โดยโบท็อกซ์จะช่วยลดริ้วรอยจากการแสดงอารมณ์ ส่วนรีจูรันจะช่วยปรับปรุงคุณภาพผิวโดยรวม
ฟิลเลอร์ (Fillers): สามารถทำร่วมกันได้เพื่อผลลัพธ์ที่ครอบคลุม โดยฟิลเลอร์จะช่วยเติมเต็มปริมาตร ส่วนรีจูรันจะช่วยฟื้นฟูสภาพผิวให้แข็งแรงและเรียบเนียนขึ้น

References:

Lee K.W.A. et al. (2024). Polynucleotides in Aesthetic Medicine: A Review of Current Practices and Perceived Effectiveness. MDPI Cosmetics Journal (PMC). mdpi.com
Korean Dermatological Association. (2023). Real-World Clinical Practice on Skin Rejuvenation Among Korean Dermatologists. Annals of Dermatology. anndermatol.org
PharmaResearch (Rejuran). (n.d.). The Science Behind Rejuran (Proprietary DOT Technology and Clinical Findings). Rejuran Official Science Page. rejuranpro.com
Carr, J. (n.d.). Is Rejuran FDA Approved – Is It Safe? DoctorMedica Blog. doctormedica.co
Medica Depot. (n.d.). Rejuran Microneedling: How It Compares to Injections. Medica Depot Blog. medicadepot.com
SkinBox Clinic. (n.d.). Rejuran Polynucleotide Treatment FAQs. SkinBox East Fremantle. skinboxclinics.com.au
MINE Plastic Surgery. (n.d.). Complete Guide to Rejuran Treatment – Benefits, Effects, Recovery. MineClinic Blog. mineclinic.com
Romrawin Clinic. (n.d.). Rejuran คืออะไร รักษาหลุมสิวได้จริงไหม? Romrawin Aesthetic Clinic. romrawinclinic.com