7 วิธีแก้ผิวไหม้แดดเร่งด่วน ลดอาการแสบแดง-ผิวลอก อัปเดต 2568

ผิวไหม้แดด คือภาวะอักเสบของผิวหนังที่ทำให้เกิดอาการแสบแดงและเจ็บปวด ซึ่งในระดับที่ไม่รุนแรงสามารถดูแลเบื้องต้นได้ด้วยการประคบเย็นเพื่อลดความร้อนและจะหายได้เองภายใน 3-7 วัน
ทำความเข้าใจผิวไหม้แดด: อาการและระดับความรุนแรง
ระดับที่ไม่รุนแรง: ผิวแดง แสบร้อนเล็กน้อย
ผิวไหม้แดดระดับไม่รุนแรง (First-Degree) จะมีลักษณะ ผิวหนังอักเสบเป็นสีแดงหรือชมพู รู้สึกอุ่นเมื่อสัมผัส และมีอาการเจ็บหรือปวดเล็กน้อย อาการเหล่านี้มักปรากฏภายใน 3-5 ชั่วโมงหลังจากโดนแดด และจะรุนแรงที่สุดใน 24 ชั่วโมงแรก โดยจะส่งผลกระทบแค่ผิวหนังชั้นนอกและมักจะหายได้เองภายใน 3-7 วัน ซึ่งอาจมีอาการผิวลอกเล็กน้อยตามมา
ระดับปานกลาง: ผิวบวมแดง มีตุ่มน้ำใส
ผิวไหม้แดดระดับปานกลาง (Second-Degree) จะมีอาการแดงจัด บวม เจ็บปวดอย่างเห็นได้ชัด และมีตุ่มน้ำใสเกิดขึ้น ซึ่งเป็นการบาดเจ็บของผิวหนังที่ลึกกว่าระดับปกติ บริเวณที่ไหม้อาจดูมันวาวหรือชื้น และโดยทั่วไปจะใช้เวลาในการรักษาประมาณ 1–2 สัปดาห์
ระดับรุนแรง: สัญญาณอันตรายที่ต้องพบแพทย์ทันที
สัญญาณอันตรายของผิวไหม้แดดรุนแรงที่ต้องพบแพทย์ทันที ได้แก่ การเกิดตุ่มน้ำพุพองเป็นบริเวณกว้าง มีไข้สูง หนาวสั่น และสับสนมึนงง ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของภาวะเจ็บป่วยจากความร้อน (heat illness) ที่เป็นภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์
อาการที่ต้องสังเกตและควรรีบไปพบแพทย์ มีดังนี้
- ตุ่มน้ำพุพองกระจายเป็นวงกว้าง
- มีไข้ (โดยเฉพาะสูงกว่า 39°C) และหนาวสั่น
- ปวดศีรษะ คลื่นไส้ วิงเวียน หรือสับสนมึนงง
- อาการขาดน้ำ เป็นลม หรือหมดสติ
- สัญญาณของการติดเชื้อ เช่น มีหนองในตุ่มน้ำ
7 วิธีปฐมพยาบาลผิวไหม้แดด ลดการอักเสบและฟื้นฟูผิวเร่งด่วน
1. ประคบเย็นหรืออาบน้ำเย็นเพื่อลดอุณหภูมิผิว
การประคบเย็นหรืออาบน้ำเย็น ช่วยลดอุณหภูมิผิวและลดการอักเสบ หลังจากโดนแดดเผาได้
ควรใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำประปาที่เย็น (ไม่ใช่น้ำแข็ง) ประคบบริเวณที่ไหม้ครั้งละ 10-20 นาที หรืออาบน้ำเย็นที่ไม่เย็นจัดเป็นเวลาสั้นๆ ข้อสำคัญคือห้ามใช้น้ำแข็งหรือน้ำที่เย็นจัดโดยตรง เพราะอาจทำให้ผิวหนังเสียหายมากขึ้น หลังจากนั้นให้ซับผิวเบาๆ จนแห้งและหลีกเลี่ยงการถู
2. ทามอยส์เจอไรเซอร์สูตรอ่อนโยนเพื่อเติมความชุ่มชื้น
ควรทามอยส์เจอไรเซอร์สูตรอ่อนโยนที่ปราศจากน้ำหอม เพื่อช่วยปลอบประโลมผิวและฟื้นฟูความชุ่มชื้นหลังจากประคบเย็น
ผลิตภัณฑ์ที่แนะนำ ได้แก่ โลชั่นที่ไม่ก่อให้เกิดการแพ้ (hypoallergenic) หรือเจลที่มีส่วนผสมของว่านหางจระเข้บริสุทธิ์ สารสกัดจากถั่วเหลือง หรือข้าวโอ๊ต เพื่อช่วยลดการอักเสบ การแช่เย็นมอยส์เจอไรเซอร์ก่อนทาจะช่วยเพิ่มความรู้สึกเย็นสบาย และควรทาบ่อยๆ เพื่อให้ผิวชุ่มชื้นอยู่เสมอ ซึ่งจะช่วยลดความแห้งและอาการลอกของผิวได้
3. ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของว่านหางจระเข้หรือคาโมมายล์
ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของว่านหางจระเข้บริสุทธิ์และคาโมมายล์สามารถช่วยปลอบประโลมผิวที่ไหม้แดดได้ เนื่องจากมีคุณสมบัติต้านการอักเสบ
- ว่านหางจระเข้ (Aloe Vera): เจลว่านหางจระเข้บริสุทธิ์ (ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์หรือน้ำหอม) มีคุณสมบัติต้านการอักเสบและให้ความเย็น ซึ่งช่วยบรรเทาอาการปวดและช่วยในการฟื้นฟูผิว การใช้เจลใสจากต้นสดก็ปลอดภัยเช่นกัน แต่ควรหลีกเลี่ยงยางสีเหลืองที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง
- คาโมมายล์ (Chamomile): การใช้ผ้าสะอาดชุบชาคาโมมายล์ที่ชงเข้มข้นและปล่อยให้เย็นแล้วมาประคบบริเวณผิวไหม้แดด สามารถช่วยบรรเทาอาการระคายเคืองเล็กน้อยได้ เนื่องจากมีสารฟลาโวนอยด์ที่ช่วยต้านการอักเสบ ควรหลีกเลี่ยงหากมีประวัติแพ้พืชในวงศ์เดียวกับเดซี่หรือเบญจมาศ
4. ดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ
ควรดื่มน้ำให้มากขึ้น เนื่องจากผิวไหม้แดดจะดึงของเหลวไปที่ผิวหนังและทำให้ร่างกายสูญเสียความชุ่มชื้น ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะขาดน้ำ การดื่มน้ำให้เพียงพอจะช่วยควบคุมอุณหภูมิของร่างกายและสนับสนุนกระบวนการฟื้นฟูผิว โดยควรดื่มน้ำเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเวลา 2-3 วัน และหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพราะจะยิ่งทำให้ร่างกายขาดน้ำมากขึ้น
5. พิจารณายาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการ (ปรึกษาเภสัชกร)
สามารถรับประทานยาแก้ปวดที่หาซื้อได้เอง โดยเฉพาะยาในกลุ่มต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) เช่น ไอบูโพรเฟน (ibuprofen) เพื่อช่วยลดอาการปวด บวม และการอักเสบจากผิวไหม้แดด
ยาในกลุ่ม NSAIDs ควรรับประทานโดยเร็วที่สุดหลังมีอาการและอาจต้องทานต่อเนื่อง 48 ชั่วโมงเพื่อควบคุมการอักเสบ หากไม่สามารถใช้ยาในกลุ่มนี้ได้ สามารถใช้พาราเซตามอล (paracetamol) เพื่อบรรเทาอาการปวดแทนได้ แต่ยาชนิดนี้ไม่ช่วยลดการอักเสบ ทั้งนี้ ไม่ควรให้ยาแอสไพรินแก่เด็กหรือวัยรุ่น และควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรหากไม่แน่ใจเกี่ยวกับชนิดหรือขนาดยาที่เหมาะสม
6. หลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดเพิ่มเติมโดยเด็ดขาด
วิธีที่ดีที่สุดในการหลีกเลี่ยงแสงแดดเพิ่มเติมโดยเด็ดขาดคือการอยู่ในที่ร่มและสวมเสื้อผ้าปกปิดผิวหนังบริเวณที่ไหม้ การอยู่ในอาคารเป็นวิธีที่ดีที่สุดจนกว่าผิวจะหายดี หากจำเป็นต้องออกไปข้างนอก ให้ปกป้องผิวด้วยการสวมเสื้อผ้าที่หลวมและระบายอากาศได้ดี หากไม่สามารถปกปิดผิวด้วยเสื้อผ้าได้ ให้ใช้ครีมกันแดดชนิดมิเนอรัล (mineral-based) ที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป ซึ่งจะระคายเคืองผิวน้อยกว่า แต่การใช้สิ่งกีดขวางทางกายภาพ เช่น เสื้อผ้า ยังคงเป็นวิธีที่ดีกว่า
7. สวมใส่เสื้อผ้าหลวมๆ เพื่อลดการเสียดสี
การสวมเสื้อผ้าหลวมๆ ช่วยปกป้องผิวที่ไหม้แดดและป้องกันการระคายเคืองเพิ่มเติม ควรเลือกใช้เสื้อผ้าที่นุ่มและระบายอากาศได้ดี เช่น ผ้าฝ้าย เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียดสี ในขณะที่เสื้อผ้าที่รัดแน่นหรือมีเนื้อหยาบจะทำให้อาการระคายเคืองรุนแรงขึ้น
วิธีดูแลและฟื้นฟูผิวหลังไหม้แดด (ระยะยาว)
การดูแลผิวไหม้แดดในระยะยาวคือ ปล่อยให้ผิวลอกและตุ่มน้ำใสหายเองตามธรรมชาติ หลีกเลี่ยงการขัดถู และป้องกันผิวจากแสงแดดอย่างเคร่งครัดเพื่อป้องกันรอยดำ
เพื่อการฟื้นฟูผิวอย่างเหมาะสม ควรปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้:
- จัดการผิวลอกและตุ่มน้ำใสอย่างถูกวิธี: ไม่ควรดึงหรือแกะผิวหนังที่กำลังลอกออกเอง ควรปล่อยให้หลุดลอกไปตามธรรมชาติ และห้ามเจาะตุ่มน้ำใสเด็ดขาด เพราะตุ่มน้ำจะช่วยป้องกันการติดเชื้อและทำให้ผิวหนังด้านล่างได้ฟื้นตัว หากตุ่มน้ำแตกเอง ให้ล้างด้วยสบู่อ่อนๆ และน้ำสะอาด ทายาปฏิชีวนะ แล้วปิดแผลด้วยผ้าก๊อซที่สะอาด
- งดการขัดหรือสครับผิว: ผิวหนังที่สร้างขึ้นมาใหม่หลังไหม้แดดจะบอบบางมาก การใช้สครับหรือผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวจะยิ่งทำร้ายผิวและอาจนำไปสู่การติดเชื้อหรือเกิดแผลเป็นได้
- ป้องกันรอยดำหลังการอักเสบ (PIH): ผิวที่กำลังฟื้นตัวจะไวต่อแสงแดดมาก ควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไปและเป็นชนิด Broad-spectrum ทุกวัน และสวมเสื้อผ้าปกปิดผิวบริเวณนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้สีผิวคล้ำขึ้นหรือเกิดเป็นรอยด่างดำ
- ปรึกษาแพทย์ผิวหนังเมื่อมีข้อกังวล: ควรไปพบแพทย์หากผิวไหม้แดดไม่ดีขึ้นภายใน 2 สัปดาห์, มีสัญญาณของการติดเชื้อ (เช่น มีหนอง บวมแดงหรือปวดมากขึ้น), หรือมีความกังวลเกี่ยวกับสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอหรือแผลเป็นที่ยังคงอยู่
ผิวไหม้แดดใช้เวลากี่วันจึงจะหายเป็นปกติ?
ผิวไหม้แดดที่ไม่รุนแรงมักจะหายได้เองภายใน 3-7 วัน ในขณะที่อาการไหม้แดดที่รุนแรงขึ้นซึ่งมีตุ่มน้ำใสอาจใช้เวลาในการฟื้นตัวนานถึง 2 สัปดาห์
โดยทั่วไปแล้ว อาการแดงและปวดจะเริ่มดีขึ้นภายใน 48 ชั่วโมงแรก หลังจากนั้นผิวจะเริ่มลอกในช่วง 3-7 วันหลังเกิดอาการ และจะค่อยๆ หายเป็นปกติ
วิธีป้องกันรอยดำและสีผิวไม่สม่ำเสมอหลังผิวหายดี
วิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันรอยดำและสีผิวไม่สม่ำเสมอหลังผิวไหม้แดดหายดีแล้วคือ การป้องกันผิวจากแสงแดดอย่างเคร่งครัด เนื่องจากผิวที่เพิ่งหายใหม่จะไวต่อรังสียูวีมาก
- ทาครีมกันแดด: ใช้ครีมกันแดดชนิด broad-spectrum ที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไปทุกวันบนผิวบริเวณที่เคยไหม้แดด
- ปกป้องผิว: หลีกเลี่ยงการให้ผิวบริเวณนั้นสัมผัสแดดโดยตรง และปกป้องด้วยการสวมเสื้อผ้าหรือหมวก
- หลีกเลี่ยงการขัดถู: งดการใช้สครับหรือผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวบนบริเวณดังกล่าวจนกว่าผิวจะแข็งแรงเป็นปกติ
เมื่อไหร่ที่อาการผิวไหม้แดดควรปรึกษาแพทย์ผิวหนัง?
ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังหากผิวไหม้แดดไม่ดีขึ้นภายใน 2 สัปดาห์, มีสัญญาณของการติดเชื้อ, หรือมีความกังวลเกี่ยวกับรอยดำและแผลเป็นหลังจากที่อาการระยะเฉียบพลันผ่านไปแล้ว
สถานการณ์ที่ควรไปพบแพทย์ผิวหนัง ได้แก่:
- แผลไม่หาย: บริเวณที่ผิวไหม้แดดไม่ดีขึ้นตามปกติภายในระยะเวลาประมาณ 2 สัปดาห์
- สัญญาณการติดเชื้อ: มีอาการแดง, ร้อน, มีหนอง หรือเจ็บปวดบริเวณแผลเพิ่มขึ้น
- ผิวไหม้แดดบ่อยครั้ง: หากคุณมีอาการผิวไหม้แดดรุนแรงหรือเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหาความเสียหายของผิวและคัดกรองมะเร็งผิวหนัง
- ความกังวลเรื่องรอยดำหรือแผลเป็น: หากมีรอยดำหรือแผลเป็นคงอยู่หลังจากที่ผิวหายดีแล้ว แพทย์สามารถให้คำแนะนำเกี่ยวกับการรักษาได้
ข้อควรระวังและสิ่งที่ไม่ควรทำเมื่อผิวไหม้แดด
ห้ามเจาะตุ่มน้ำหรือแกะลอกผิวหนังที่กำลังลอก
ไม่ควรเจาะตุ่มน้ำหรือแกะผิวหนังที่กำลังลอกออก เนื่องจากตุ่มน้ำทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันการติดเชื้อตามธรรมชาติ และการแกะผิวหนังอาจทำให้ผิวใหม่ที่บอบบางข้างใต้ฉีกขาดได้
- ตุ่มน้ำ: ทำหน้าที่เหมือนพลาสเตอร์ปลอดเชื้อ ช่วยปกป้องผิวที่กำลังฟื้นตัวอยู่ข้างใต้ การเจาะตุ่มน้ำจะเปิดทางให้แบคทีเรียเข้าไป ทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อ
- ผิวลอก: เป็นกระบวนการของร่างกายในการกำจัดเซลล์ผิวที่เสียหาย ควรปล่อยให้ผิวลอกออกเอง การขัดหรือดึงผิวที่ยังไม่พร้อมจะหลุดออก อาจทำให้ผิวหนังชั้นใหม่ที่ยังบอบบางเกิดการฉีกขาดและนำไปสู่การติดเชื้อหรือแผลเป็นได้
หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์ น้ำหอม หรือกรดผลไม้
ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์ น้ำหอม หรือกรดผลไม้ (AHA/BHA) เนื่องจากส่วนผสมเหล่านี้จะทำให้ผิวที่ไหม้แดดระคายเคือง แสบ และแห้งมากยิ่งขึ้น โลชั่นที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และน้ำหอมจะทำให้ผิวที่อักเสบอยู่แล้วแห้งและแสบ ส่วนกรดต่างๆ เช่น AHA และ BHA เป็นสารเร่งการผลัดเซลล์ผิว ซึ่งจะยิ่งซ้ำเติมผิวที่เสียหายให้ระคายเคืองรุนแรงกว่าเดิม
งดการสครับหรือขัดผิวบริเวณที่ไหม้แดด
ไม่ควรสครับหรือขัดผิวบริเวณที่ไหม้แดด เนื่องจากผิวใหม่ที่กำลังสร้างขึ้นมาทดแทนนั้นบอบบางและไวต่อการระคายเคืองอย่างมาก การขัดถูจะทำลายผิวใหม่นี้ ทำให้เกิดความเสียหายเพิ่มเติม และอาจนำไปสู่การติดเชื้อหรือเกิดแผลเป็นได้ ควรปล่อยให้ผิวที่ลอกหลุดออกไปเองตามธรรมชาติ ซึ่งเป็นกระบวนการของร่างกายในการกำจัดเซลล์ผิวที่เสียหาย
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการดูแลผิวไหม้แดด
ใช้ครีมหรือผลิตภัณฑ์อะไรทาผิวไหม้แดดได้บ้าง?
ผลิตภัณฑ์ที่แนะนำสำหรับผิวไหม้แดดคือมอยส์เจอไรเซอร์ที่อ่อนโยนและปราศจากน้ำหอม, เจลว่านหางจระเข้บริสุทธิ์, หรือครีมไฮโดรคอร์ติโซน 1% เพื่อช่วยปลอบประโลมผิว ให้ความชุ่มชื้น และลดการอักเสบ
ผลิตภัณฑ์ที่ควรใช้:
- มอยส์เจอไรเซอร์: เลือกสูตรที่ไม่ผสมน้ำหอมและแอลกอฮอล์ หรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากถั่วเหลืองหรือข้าวโอ๊ตเพื่อช่วยปลอบประโลมผิว
- เจลว่านหางจระเข้: ควรเลือกใช้เจลว่านหางจระเข้บริสุทธิ์ (มีส่วนผสมของว่านหางจระเข้สูง ไม่มีแอลกอฮอล์หรือน้ำหอม) เพื่อช่วยให้ความเย็นและลดการอักเสบ
- ครีมไฮโดรคอร์ติโซน 1%: สามารถใช้ทาบางๆ เพื่อลดอาการคันและบวมได้ในช่วง 1-2 วันแรก
ผลิตภัณฑ์ที่ควรหลีกเลี่ยง:
- ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ น้ำหอม หรือยาชาเฉพาะที่ (เช่น เบนโซเคน) เพราะอาจทำให้ผิวระคายเคืองมากขึ้น
- ครีมหรือขี้ผึ้งเนื้อหนัก เช่น ปิโตรเลียมเจลลี ในช่วงแรก เพราะจะกักเก็บความร้อนไว้ในผิวหนัง
ผิวไหม้แดดสามารถอาบน้ำด้วยสบู่ปกติได้หรือไม่?
ไม่แนะนำให้อาบน้ำด้วยสบู่ปกติ เนื่องจากสบู่ทั่วไปอาจมีความรุนแรงและทำให้ผิวที่ไหม้แดดระคายเคืองและแห้งมากขึ้น ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อ่อนโยนและไม่มีส่วนผสมของสบู่ (soap-free) หรือล้างด้วยน้ำเย็นเปล่าๆ ก็เพียงพอ
การใช้ว่านหางจระเข้สดจากต้นปลอดภัยหรือไม่?
โดยทั่วไปแล้ว การใช้เจลว่านหางจระเข้สดจากต้นนั้นปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการรักษาผิวไหม้แดด
เจลใสที่อยู่ด้านในของใบว่านหางจระเข้มีสารต้านการอักเสบและให้ความชุ่มชื้น ซึ่งช่วยบรรเทาอาการปวดแสบปวดร้อนและเร่งการฟื้นฟูผิว วิธีใช้คือตัดใบสดแล้วปล่อยให้ยางสีเหลือง (ซึ่งอาจก่อให้เกิดการระคายเคือง) ไหลออกจนหมด จากนั้นจึงนำเจลใสมาทาบริเวณที่ผิวไหม้ เจลสดมักจะอ่อนโยนกว่าผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปเนื่องจากไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์หรือน้ำหอม
หลังผิวหายไหม้แดดแล้ว จะกลับมาขาวเหมือนเดิมไหม?
โดยส่วนใหญ่แล้ว ผิวจะกลับมามีสีเหมือนเดิม หลังจากหายจากการไหม้แดดที่ไม่รุนแรง
โดยทั่วไป รอยแดงจะจางลงภายในไม่กี่วัน และสีผิวที่เข้มขึ้นชั่วคราวจะค่อยๆ กลับสู่ภาวะปกติ อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ผิวไหม้แดดอย่างรุนแรง หรือในผู้ที่มีสีผิวเข้ม อาจเกิดรอยดำ (Post-Inflammatory Hyperpigmentation) ซึ่งอาจใช้เวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนกว่าจะจางหายไป การปกป้องผิวจากแสงแดดอย่างเคร่งครัดในระหว่างที่ผิวฟื้นฟูเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่จะช่วยให้สีผิวกลับมาสม่ำเสมอเหมือนเดิม
จำเป็นต้องทาครีมกันแดดบนผิวที่กำลังไหม้แดดหรือไม่?
ตามหลักการแล้ว ควรหลีกเลี่ยงไม่ให้ผิวที่ไหม้แดดโดนแสงแดดซ้ำ แต่หากจำเป็นต้องออกไปข้างนอก การทาครีมกันแดดเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันความเสียหายเพิ่มเติม
ควรเลือกใช้ครีมกันแดดชนิดมิเนอรัล (mineral-based) ที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป ซึ่งระคายเคืองต่อผิวที่บอบช้ำน้อยกว่า และควรทาหลังจากที่อาการแดงและความร้อนเริ่มลดลงแล้ว อย่างไรก็ตาม วิธีที่ดีที่สุดคือการปกป้องผิวด้วยเสื้อผ้าและหลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง
References:
- Osu, 2025, health.osu.edu
- Skincancer, 2025, skincancer.org
- Ation, 2025, ation.org
- Mayo Clinic, 2025, mayoclinic.org
- American Academy of Dermatology, 2025, aad.org
- Britishskinfoundation, 2025, britishskinfoundation.org
- Org, 2025, britishskinfoundation.org.uk
