Skip to content

TEL : 081-841-5075, 02-258-4050

Facebook Instagram YouTube
Privato Clinic – Innovation Of Beauty  |  Bangkok
  • หน้าหลัก
  • เกี่ยวกับพรีวาโต
  • บริการทั้งหมดExpand
    • ชะลอวัย
    • ยกกระชับผิวExpand
      • XERF
      • Potenza
      • Sofwave
      • Ulthera
      • Thermage-FLX
    • รักษาสิว
    • เลเซอร์
    • โปรแกรมฉีด
    • บำรุงผิว
  • บทความExpand
    • สิว
    • ยกกระชับ
    • ดูแลผิว
    • ทำเลเซอร์
  • ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว
  • โปรโมชั่น
  • ผลลัพธ์การรักษา
  • วิดีโอรีวิวจากเคสจริง
  • สาขาของเรา
  • ไทยExpand
    • ไทย
    • English
    • 中文 (中国)
  • ปรึกษาแพทย์
Privato Clinic – Innovation Of Beauty  |  Bangkok
Consult a Doctor
Skincare

ฝ้าแดด คืออะไร สาเหตุ ลักษณะอาการ และวิธีรักษาให้หายขาด

Byadmin พฤศจิกายน 30, 2025
By แพทย์หญิงนัชชนก หุ่นวิจิตร Updated on พฤศจิกายน 30, 2025
✦ Medically reviewed by  นายแพทย์เลอพงษ์ กรุดเงิน
ฝ้าแดด คืออะไร สาเหตุ ลักษณะอาการ และวิธีรักษาให้หายขาด

ฝ้าแดด คือฝ้าที่เกิดจากการกระตุ้นของรังสียูวีในแสงแดดเป็นหลักทำให้เกิดรอยปื้นสีน้ำตาลบนใบหน้า และบทความนี้จะอธิบายถึงสาเหตุ อาการ พร้อมวิธีรักษาที่ถูกต้องเพื่อลดเลือนรอยฝ้าให้จางลง

Table of Contents

Toggle
  • ฝ้าแดดคืออะไร
    • ลักษณะของฝ้าแดดเป็นแบบไหน
    • ฝ้าแดด ภาษาอังกฤษเรียกว่าอะไร
  • ฝ้าแดดเกิดจากอะไร
    • สาเหตุการเกิดฝ้าจากแสงแดด UV
    • ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้หน้าเป็นฝ้าแดด
  • อาการเริ่มต้นของฝ้าแดด
    • ฝ้าแดดบนใบหน้าเป็นอย่างไร
    • ฝ้าแดดที่แขนและมือ
  • ฝ้าแดดกับฝ้าเลือดและฝ้าฮอร์โมนต่างกันอย่างไร
    • ฝ้าเลือดคืออะไร เป็นแบบไหน
    • ฝ้าฮอร์โมนคืออะไร เป็นแบบไหน
  • ฝ้าแดดรักษาหายไหม
    • ฝ้าแดดกี่วันหาย
    • ฝ้าหายได้ไหม ถ้าไม่รักษา
  • วิธีรักษาฝ้าแดดให้หายขาด
    • รักษาฝ้าแดดด้วยเลเซอร์
    • ครีมและยารักษาฝ้าแดด
    • วิธีรักษาฝ้าแดดแบบธรรมชาติ
    • รักษาฝ้าแดด ฝ้าฮอร์โมน ฝ้าเลือดต่างกันอย่างไร
  • วิธีแก้ฝ้าแดดสำหรับผู้ชาย
  • วิธีป้องกันฝ้าแดด
    • กันแดดสำหรับคนเป็นฝ้า
    • ครีมกันแดดสำหรับคนเป็นฝ้า ใช้อะไรดี
  • คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับฝ้าแดด
    • หน้าเป็นฝ้าแดดรักษายังไง
    • ฝ้าแดดทาลําไยดีไหม
    • ฝ้าแดดทำไงหาย

ฝ้าแดดคืออะไร

ฝ้าแดด คือฝ้า (melasma) ชนิดหนึ่งที่เกิดจากการกระตุ้นของแสงแดดเป็นหลัก โดยมีลักษณะเป็นรอยปื้นสีน้ำตาลหรือสีน้ำตาลเทาบนใบหน้า เกิดขึ้นเมื่อรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) กระตุ้นให้เซลล์สร้างเม็ดสีผลิตเมลานินออกมามากเกินไป แม้ว่าฝ้าทุกชนิดจะไวต่อแสงแดด แต่คำว่า “ฝ้าแดด” มักใช้เรียกฝ้าที่ไม่มีปัจจัยกระตุ้นจากฮอร์โมนที่ชัดเจน เช่น การตั้งครรภ์ (American Academy of Dermatology, 2023)

ลักษณะของฝ้าแดดเป็นแบบไหน

ฝ้าแดดมีลักษณะเป็นปื้นสีน้ำตาลหรือสีน้ำตาลเทาที่มีขอบเขตไม่ชัดเจน โดยมักปรากฏเป็นแผ่นกระจายตัวอย่างสมมาตรบนใบหน้า โดยเฉพาะบริเวณโหนกแก้ม หน้าผาก และเหนือริมฝีปาก ทั้งนี้ฝ้าแดดจะเข้มขึ้นเมื่อโดนแสงแดด (Melasma: Causes & Triggers, American Academy of Dermatology, 2023)

ฝ้าแดด ภาษาอังกฤษเรียกว่าอะไร

ฝ้าแดดในภาษาอังกฤษคือ Sun-induced Melasma ซึ่งหมายถึงฝ้าที่เกิดจากแสงแดดเป็นปัจจัยกระตุ้นหลัก ในทางปฏิบัติ ฝ้าส่วนใหญ่มักเกิดจากหลายสาเหตุร่วมกัน ได้แก่ แสงแดด ฮอร์โมน และพันธุกรรม โดยรังสี UV จะกระตุ้นให้ฝ้าปรากฏชัดขึ้นหรือมีสีเข้มขึ้น (Melasma: Causes & triggers, American Academy of Dermatology, 2023)

ฝ้าแดดเกิดจากอะไร

สาเหตุการเกิดฝ้าจากแสงแดด UV

สาเหตุหลักของฝ้าแดดคือรังสียูวี (UV) จากแสงแดด ซึ่งกระตุ้นให้เซลล์สร้างเม็ดสี (melanocytes) ผลิตเม็ดสีเมลานินออกมามากเกินไป

รังสียูวีเป็นตัวกระตุ้นสำคัญที่ทำให้ฝ้าปรากฏขึ้น โดยเฉพาะในผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงทางพันธุกรรมหรือฮอร์โมนอยู่แล้ว เช่น การตั้งครรภ์ หรือการใช้ยาคุมกำเนิด แม้แต่การสัมผัสแสงแดดเพียงเล็กน้อยก็สามารถกระตุ้นให้ฝ้ามีสีเข้มขึ้นหรือเกิดขึ้นมาใหม่ได้ (Harvard Health, 2020)

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้หน้าเป็นฝ้าแดด

ปัจจัยเสี่ยงหลักที่ทำให้เกิดฝ้าแดดคือการสัมผัสรังสียูวี, ปัจจัยทางฮอร์โมน, พันธุกรรม และสีผิว โดยปัจจัยเหล่านี้จะกระตุ้นให้เซลล์สร้างเม็ดสี (melanocytes) ผลิตเมลานินออกมามากเกินไป

  • รังสียูวี (UV): แสงแดดเป็นตัวกระตุ้นที่สำคัญที่สุด ทำให้ฝ้าปรากฏขึ้นหรือมีสีเข้มขึ้น
  • ฮอร์โมน: การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เช่น ระหว่างการตั้งครรภ์ หรือการใช้ยาคุมกำเนิด เป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ
  • พันธุกรรม: ผู้ที่มีประวัติคนในครอบครัวเป็นฝ้าจะมีความเสี่ยงสูงขึ้น
  • สีผิว: ฝ้ามักพบได้บ่อยในผู้ที่มีสีผิวปานกลางถึงเข้ม (Fitzpatrick skin types III–V)
  • เพศ: ฝ้าพบได้ในผู้หญิงบ่อยกว่าผู้ชายอย่างมีนัยสำคัญ (American Academy of Dermatology, 2023)

อาการเริ่มต้นของฝ้าแดด

ฝ้าแดดบนใบหน้าเป็นอย่างไร

ฝ้าแดดคือรอยปื้นสีน้ำตาลหรือสีเทาอมน้ำตาลขนาดใหญ่ ที่มีขอบเขตไม่ชัดเจน ซึ่งมักปรากฏขึ้นอย่างสมมาตรบนใบหน้า บริเวณที่พบบ่อย ได้แก่ โหนกแก้ม หน้าผาก และเหนือริมฝีปากบน ฝ้าแดดเป็นฝ้าชนิดหนึ่งที่เกิดจากการกระตุ้นของแสงแดดเป็นหลัก ทำให้เกิดรอยคล้ำเป็นแผ่นกว้าง ซึ่งแตกต่างจากกระแดด (solar lentigines) ที่เป็นจุดเล็กๆ และมีขอบเขตชัดเจน

ฝ้าแดดที่แขนและมือ

จุดสีน้ำตาลที่เกิดจากแสงแดดบริเวณแขนและมือ โดยทั่วไปคือ กระแดด (solar lentigines) หรือที่เรียกว่า จุดด่างดำแห่งวัย (age spots) ซึ่งเป็นสัญญาณของผิวที่แก่ก่อนวัยจากการได้รับรังสี UV สะสมเป็นเวลานาน

ลักษณะของกระแดดคือเป็นจุดหรือปื้นสีน้ำตาลเรียบ ไม่นูน มีขอบเขตชัดเจน และมักมีขนาดเล็กกว่า 1 เซนติเมตร โดยจะแตกต่างจากฝ้า (melasma) ซึ่งมักเป็นปื้นขนาดใหญ่ มีขอบเขตไม่ชัดเจน และพบบนใบหน้ามากกว่า โดยมีปัจจัยทางฮอร์โมนร่วมด้วย

กระแดดไม่เป็นอันตรายและไม่สามารถพัฒนาไปเป็นมะเร็งผิวหนังได้ แต่จะไม่จางหายไปเองหากไม่ได้รับการรักษา วิธีการรักษาที่ได้ผลดีและรวดเร็วที่สุดคือการใช้เลเซอร์หรือ IPL ซึ่งสามารถกำจัดเม็ดสีส่วนเกินได้อย่างตรงจุด นอกจากนี้ยังมีการรักษาด้วยวิธีอื่น เช่น

  • ยาทา: กลุ่มยาทา เช่น ไฮโดรควิโนน (hydroquinone) และเตรทติโนอิน (tretinoin) สามารถช่วยให้กระแดดจางลงได้ แต่ต้องใช้เวลาหลายเดือน
  • การผลัดเซลล์ผิวด้วยสารเคมี (Chemical peel): ช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวเก่าที่มีเม็ดสีส่วนเกินออกไป
  • การจี้ด้วยความเย็น (Cryotherapy): ใช้ไนโตรเจนเหลวจี้ทำลายเซลล์เม็ดสี

วิธีป้องกันที่ดีที่สุดคือการหลีกเลี่ยงแสงแดดและทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไปเป็นประจำทุกวัน ควบคู่ไปกับการสวมเสื้อผ้าแขนยาวเพื่อปกป้องผิว (Sun damage – Photoaging, Signs & Causes, Mayo Clinic, 2023)

ฝ้าแดดกับฝ้าเลือดและฝ้าฮอร์โมนต่างกันอย่างไร

ฝ้าแดดเกิดจากรังสียูวีเป็นหลัก ในขณะที่ฝ้าฮอร์โมนเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ส่วนฝ้าเลือดไม่มีการกล่าวถึงในข้อมูลที่ให้มา

  • ฝ้าแดด (Sun-induced melasma): เป็นฝ้าที่เกิดจากการสัมผัสรังสียูวีเป็นปัจจัยกระตุ้นหลัก โดยไม่มีปัจจัยจากฮอร์โมนที่ชัดเจน
  • ฝ้าฮอร์โมน (Hormonal melasma): เกิดจากความผันผวนของฮอร์โมน เช่น ระหว่างการตั้งครรภ์ (เรียกว่า “หน้ากากแห่งการตั้งครรภ์”) หรือจากการใช้ยาคุมกำเนิด อย่างไรก็ตาม แสงแดดยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้อาการแย่ลง
  • ฝ้าเลือด (Blood melasma): ข้อมูลที่ให้มาไม่ได้ให้คำจำกัดความหรืออธิบายเกี่ยวกับฝ้าชนิดนี้ (Unmasking the causes and treatments of melasma, Harvard Health, 2020)

ฝ้าเลือดคืออะไร เป็นแบบไหน

ข้อมูลที่ให้มาไม่ได้ให้คำจำกัดความหรือคำอธิบายเกี่ยวกับฝ้าเลือด

อย่างไรก็ตาม เอกสารได้อธิบายถึงฝ้าชนิดที่เกิดจากแสงแดดเป็นหลัก ซึ่งเรียกว่า “ฝ้าแดด” (fah daet) โดยระบุว่าเป็นรอยปื้นสีน้ำตาลหรือสีเทาอมน้ำตาลบนใบหน้า ซึ่งแตกต่างจากจุดด่างดำจากแสงแดด (solar lentigines) ที่มีลักษณะเป็นจุดเล็กๆ และมีขอบเขตชัดเจน (Melasma: Causes & triggers, American Academy of Dermatology, 2023)

ฝ้าฮอร์โมนคืออะไร เป็นแบบไหน

ฝ้าฮอร์โมนคือฝ้าที่มีปัจจัยกระตุ้นหลักมาจากความเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย โดยมักเกิดจากการตั้งครรภ์ (เรียกว่า “หน้ากากแห่งการตั้งครรภ์”) หรือการใช้ยาคุมกำเนิด ฝ้าชนิดนี้มีลักษณะเป็นปื้นสีน้ำตาลหรือสีน้ำตาลเทา ขอบเขตไม่ชัดเจน และมักขึ้นแบบสมมาตรบนใบหน้า เช่น แก้ม หน้าผาก และเหนือริมฝีปาก ทั้งนี้ แสงแดดเป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้ฝ้าฮอร์โมนปรากฏชัดขึ้นหรือมีสีเข้มขึ้น

ฝ้าแดดรักษาหายไหม

ฝ้าแดดกี่วันหาย

โดยทั่วไปแล้วฝ้าแดดไม่สามารถหายได้เองในเวลาไม่กี่วัน เนื่องจากเป็นภาวะเรื้อรังที่ต้องอาศัยการจัดการในระยะยาวและอาจคงอยู่เป็นเวลาหลายปี แม้จะได้รับการรักษาแล้ว ฝ้าก็มักจะกลับมาเป็นซ้ำได้ง่าย โดยเฉพาะเมื่อโดนแดด ดังนั้นเป้าหมายของการรักษาจึงเป็นการควบคุมและทำให้รอยฝ้าจางลงมากกว่าการรักษาให้หายขาด (Mayo Clinic, 2023)

ฝ้าหายได้ไหม ถ้าไม่รักษา

ฝ้าอาจจางลงได้เองในบางกรณี แต่ส่วนใหญ่มักไม่หายขาดหากไม่ได้รับการรักษา เนื่องจากฝ้าเป็นภาวะเรื้อรังที่มักคงอยู่เป็นเวลาหลายปีหรือหลายสิบปี

ในกรณีที่ฝ้าเกิดจากปัจจัยทางฮอร์โมน เช่น การตั้งครรภ์ ฝ้าอาจจางลงได้เองหลังคลอดบุตร หรือหากเกิดจากการใช้ยาคุมกำเนิดก็อาจดีขึ้นเมื่อหยุดยา อย่างไรก็ตาม แม้ปัจจัยกระตุ้นทางฮอร์โมนจะหมดไป แต่การเผชิญกับแสงแดดก็สามารถทำให้ฝ้าคงอยู่ต่อไปได้ และหลายกรณีจำเป็นต้องได้รับการรักษาเพื่อให้อาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด (Unmasking the causes and treatments of melasma, Harvard Health, 2020)

วิธีรักษาฝ้าแดดให้หายขาด

ฝ้าแดดไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่เป็นภาวะเรื้อรังที่สามารถควบคุมและจัดการให้อาการดีขึ้นและจางลงได้ เนื่องจากฝ้ามีแนวโน้มที่จะกลับมาเป็นซ้ำได้ง่าย โดยเฉพาะเมื่อถูกกระตุ้นจากแสงแดด

แนวทางการรักษาและควบคุมฝ้าแดดประกอบด้วยหลายวิธีร่วมกัน ดังนี้

  • การป้องกันแสงแดด เป็นสิ่งสำคัญที่สุดและเป็นพื้นฐานของการรักษาทุกชนิด ควรใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป (แนะนำ SPF 50+) ที่ป้องกันได้ทั้งรังสี UVA และ UVB เป็นประจำทุกวัน และทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมงเมื่ออยู่กลางแจ้ง
  • ยาทาเฉพาะที่ เป็นการรักษาหลักลำดับแรก โดยยาที่นิยมใช้คือ ไฮโดรควิโนน (Hydroquinone) ซึ่งช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสี นอกจากนี้ยังมียาอื่น ๆ เช่น กรดอะซีลาอิก (Azelaic acid) และกรดโคจิก (Kojic acid)
  • ยารับประทาน ในกรณีที่ฝ้าดื้อต่อการรักษา อาจมีการใช้ยารับประทาน เช่น กรดทรานเอกซามิก (Tranexamic acid) ซึ่งช่วยลดความรุนแรงของฝ้าได้
  • เลเซอร์และหัตถการอื่น ๆ การรักษาฝ้าด้วยเลเซอร์และแสงมีความเสี่ยงสูงที่จะกระตุ้นให้ฝ้าเข้มขึ้นหรือเกิดรอยดำหลังการรักษา จึงไม่ใช่วิธีการรักษาแรกและต้องทำอย่างระมัดระวังโดยผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น (Sunspot vs Melasma – Treatment Difficulty, Dermalogique Blog, 2023)

รักษาฝ้าแดดด้วยเลเซอร์

การรักษาฝ้าแดด (Melasma) ด้วยเลเซอร์ ต้องทำด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากไม่ใช่การรักษาหลักและอาจทำให้อาการแย่ลงได้หากใช้วิธีที่ไม่เหมาะสม เซลล์สร้างเม็ดสีในฝ้ามีความไวต่อการกระตุ้นสูง การใช้เลเซอร์ที่รุนแรงอาจทำให้เกิดรอยดำที่เข้มขึ้นกว่าเดิมได้

  • เลเซอร์สำหรับฝ้า: หากจำเป็นต้องใช้ แพทย์มักจะเลือกใช้เลเซอร์พลังงานต่ำ เช่น Q-switched laser ในโหมดที่เรียกว่า “laser toning” เพื่อค่อยๆ ทำให้ฝ้าจางลงอย่างช้าๆ
  • ความแตกต่างจากกระแดด: วิธีการนี้แตกต่างจากการรักษาจุดด่างดำจากแดดหรือกระแดด (Solar Lentigines) ซึ่งเลเซอร์อย่าง Q-switched หรือ IPL สามารถกำจัดออกได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว
  • การรักษาหลัก: การรักษาหลักสำหรับฝ้าคือการใช้ยาทา การป้องกันแสงแดดอย่างเคร่งครัด และในบางกรณีอาจใช้ยารับประทานร่วมด้วย (Eucerin Dermatology Advisory, 2023)

ครีมและยารักษาฝ้าแดด

การรักษาฝ้าแดดด้วยครีมและยาที่ได้ผลดีที่สุดคือ ยาทาเฉพาะที่ เช่น ไฮโดรควิโนน (Hydroquinone) และเตรทิโนอิน (Tretinoin) รวมถึงยารับประทานอย่างกรดทรานเอกซามิก (Tranexamic Acid)

การรักษาฝ้าแดดด้วยยาแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่

  • ยาทาเฉพาะที่ (Topical Agents):
    • ไฮโดรควิโนน (Hydroquinone): เป็นยาทามาตรฐานที่ช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน มีทั้งความเข้มข้น 2% ที่หาซื้อได้เอง และ 4% ที่ต้องสั่งโดยแพทย์
    • เตรทิโนอิน (Tretinoin): หรือกรดวิตามินเอ ช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวและทำให้เม็ดสีกระจายตัว
    • สูตรผสม: การใช้ยาสูตรผสม เช่น ครีมที่มีส่วนผสมของไฮโดรควิโนน เตรทิโนอิน และสเตียรอยด์อ่อนๆ (Tri-Luma) หรือ Mequinol 2% + Tretinoin 0.01% (Solagé) จะให้ผลการรักษาที่ดีมาก
    • ส่วนผสมอื่นๆ: ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ช่วยลดเลือนจุดด่างดำมักมีส่วนผสมอื่น ๆ เช่น กรดอะซีลาอิก (Azelaic acid), กรดโคจิก (Kojic acid), ไนอะซินาไมด์ (Niacinamide) และวิตามินซี ซึ่งเป็นส่วนผสมเสริมที่ช่วยให้ผิวดูสว่างขึ้น
  • ยารับประทาน (Oral Medication):
    • กรดทรานเอกซามิก (Tranexamic Acid): เป็นยาที่ใช้ในการรักษาฝ้าที่ดื้อต่อการรักษา โดยใช้ในปริมาณต่ำภายใต้การดูแลของแพทย์เพื่อช่วยลดความรุนแรงของฝ้า (Treatment of Solar Lentigines: A Systematic Review of Clinical Trials, J. Cosmetic Dermatology, 2025)

ฝ้าแดดใช้ครีมอะไรดี

ครีมที่มีส่วนผสมของไฮโดรควิโนน (Hydroquinone) เทรติโนอิน (Tretinoin) หรือกรดอะซีลาอิก (Azelaic acid) เป็นตัวยาหลักที่แพทย์มักแนะนำสำหรับรักษาฝ้าแดด โดยไฮโดรควิโนนถือเป็นยามาตรฐานในการรักษาฝ้า และมักใช้ในรูปแบบครีมผสม 3 ชนิดร่วมกับเทรติโนอินและสเตียรอยด์อ่อนๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมอื่นๆ ที่ช่วยให้ฝ้าจางลงได้ เช่น กรดโคจิก (Kojic acid) และไนอะซินาไมด์ (Niacinamide)

สิ่งสำคัญที่สุดในการรักษาและป้องกันฝ้าแดดคือการใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไปอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากแสงแดดเป็นปัจจัยกระตุ้นหลักที่ทำให้ฝ้าเข้มขึ้น (Harvard Health, 2020)

ยาทาแก้ฝ้าแดด

ยาทาแก้ฝ้าแดดที่เป็นมาตรฐานและมีประสิทธิภาพสูงสุดคือ ยาที่มีส่วนผสมของไฮโดรควิโนน (Hydroquinone) ซึ่งมักใช้ร่วมกับส่วนผสมอื่น ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา

ไฮโดรควิโนนเป็นยาที่ออกฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนส (Tyrosinase) ซึ่งเป็นเอนไซม์สำคัญในกระบวนการสร้างเม็ดสีเมลานิน ทำให้ฝ้าจางลง โดยสูตรยาที่นิยมใช้และมีประสิทธิภาพสูงคือครีมผสม 3 ชนิด (Triple Combination Cream) ซึ่งประกอบด้วยไฮโดรควิโนน, เตรติโนอิน (Tretinoin), และสเตียรอยด์ชนิดอ่อน นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมอื่น ๆ ที่สามารถช่วยลดฝ้าแดดได้ เช่น

  • กรดอะซีลาอิก (Azelaic acid)
  • กรดโคจิก (Kojic acid)
  • สารสกัดจากชะเอมเทศ (Licorice extract)
  • ไนอะซินาไมด์ (Niacinamide)
  • วิตามินซี (Vitamin C)

การใช้ยาทาแก้ฝ้าควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ และจำเป็นต้องใช้ครีมกันแดดที่มีประสิทธิภาพสูงควบคู่กันไปเสมอเพื่อป้องกันไม่ให้ฝ้าเข้มขึ้นหรือเกิดใหม่ (Treatment of solar lentigines: A systematic review of clinical trials, J. Cosmetic Dermatology, 2025)

วิธีรักษาฝ้าแดดแบบธรรมชาติ

ยังไม่มีวิธีรักษาฝ้าแดดแบบธรรมชาติที่ได้รับการพิสูจน์ทางการแพทย์ว่าสามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่วิธีการบางอย่างอาจช่วยให้รอยดำดูจางลงได้เล็กน้อยเมื่อใช้เป็นเวลานาน โดยส่วนใหญ่มักใช้เป็นเพียงการรักษาเสริมเท่านั้น

ส่วนผสมจากธรรมชาติที่อาจมีคุณสมบัติช่วยลดเลือนเม็ดสี ได้แก่

  • สารสกัดจากรากชะเอมเทศ (Licorice root extract): มีสารกลาบริดิน (glabridin) ที่อาจช่วยยับยั้งการผลิตเม็ดสี
  • สารสกัดจากเมล็ดลำไย (Longan seed extract): เป็นสมุนไพรไทยที่มีสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งอาจช่วยให้ผิวสว่างขึ้น
  • น้ำมะนาว: มีกรดซิตริกที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว แต่ควรใช้อย่างระมัดระวังเพราะอาจทำให้ผิวระคายเคืองและไวต่อแสงแดดมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ที่ได้จากวิธีธรรมชาติมักไม่ชัดเจนและช้ากว่าการรักษาทางการแพทย์ เช่น การใช้ยาหรือเลเซอร์ และสิ่งสำคัญที่สุดคือต้องใช้ครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันไม่ให้ฝ้าแดดเข้มขึ้นหรือเกิดใหม่ (Natural remedies in melasma – an Asian perspective, Journal of Cosmetic Dermatology, 2017)

รักษาฝ้าแดด ฝ้าฮอร์โมน ฝ้าเลือดต่างกันอย่างไร

โดยหลักการแล้ว การรักษาฝ้าแต่ละชนิดมีแนวทางหลักที่คล้ายคลึงกัน โดยเน้นการป้องกันแสงแดดอย่างเข้มงวดและใช้ยาทาเป็นพื้นฐาน แต่จะมีการปรับกลยุทธ์เพิ่มเติมตามสาเหตุและลักษณะของฝ้า

  • ฝ้าแดด: การรักษาจะเน้นไปที่การใช้ครีมกันแดดประสิทธิภาพสูงเป็นหัวใจสำคัญ เพื่อป้องกันตัวกระตุ้นหลัก ควบคู่ไปกับการรักษามาตรฐาน
  • ฝ้าฮอร์โมน: นอกจากการรักษามาตรฐานแล้ว การจัดการปัจจัยด้านฮอร์โมนก็เป็นสิ่งสำคัญ เช่น การพิจารณาหยุดยาคุมกำเนิด หรือรอให้ฝ้าจางลงเองหลังคลอดบุตร
  • ฝ้าเลือด: เป็นฝ้าที่มีองค์ประกอบของเส้นเลือดร่วมด้วย การรักษาอาจรวมถึงการใช้ยารับประทานกลุ่ม Tranexamic Acid หรือการใช้เลเซอร์ที่จำเพาะต่อเส้นเลือดอย่างระมัดระวัง ควบคู่ไปกับการรักษาฝ้าทั่วไป (Unmasking the causes and treatments of melasma, Harvard Health, 2020)

วิธีแก้ฝ้าแดดสำหรับผู้ชาย

การรักษาฝ้าแดดในผู้ชายจะใช้วิธีการคล้ายกับผู้หญิง โดยเน้นที่การป้องกันแสงแดดอย่างเคร่งครัด การใช้ยาทา และอาจมียารับประทานร่วมด้วย ซึ่งแพทย์มักจะปรับแผนการรักษาให้ง่ายขึ้นเพื่อให้ผู้ชายสามารถปฏิบัติตามได้สะดวก

แนวทางการรักษามีดังนี้:

  • การป้องกันแสงแดด: เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการรักษาและป้องกันฝ้า ควรทาครีมกันแดดชนิด Broad-spectrum ที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไปเป็นประจำทุกวัน
  • การใช้ยาทา: ยามาตรฐานที่ใช้คือ ไฮโดรควิโนน (Hydroquinone) และเตรทติโนอิน (Tretinoin) เพื่อช่วยลดการสร้างเม็ดสี นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมอื่นๆ เช่น กรดอะซีลาอิก (Azelaic acid)
  • ยารับประทาน: ยาทรานเอกซามิก (Tranexamic acid) ในรูปแบบรับประทานเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพและอาจเหมาะกับผู้ชายที่ไม่สะดวกทาครีมหลายขั้นตอน
  • เลเซอร์และหัตถการอื่นๆ: การรักษาฝ้าด้วยเลเซอร์ต้องทำอย่างระมัดระวังโดยผู้เชี่ยวชาญ เนื่องจากเลเซอร์บางชนิดอาจกระตุ้นให้ฝ้าเข้มขึ้นได้ จึงไม่ใช่วิธีการรักษาแรกสำหรับฝ้า (Melasma management and tranexamic acid – review, Dermatol Surg, 2020)

วิธีป้องกันฝ้าแดด

การป้องกันฝ้าแดดที่ดีที่สุดคือการป้องกันผิวจากรังสียูวีอย่างเคร่งครัด ซึ่งสามารถทำได้โดยการใช้ครีมกันแดดเป็นประจำและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อหลีกเลี่ยงแสงแดด

  • ทาครีมกันแดด: ใช้ครีมกันแดดชนิด Broad-spectrum ที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไปทุกวัน และควรทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง หรือทันทีหลังเหงื่อออกหรือว่ายน้ำ
  • หลีกเลี่ยงแสงแดด: พยายามหลีกเลี่ยงการเผชิญแสงแดดในช่วงเวลาที่แดดจัดที่สุด (ประมาณ 10.00 – 16.00 น.)
  • สวมเสื้อผ้าป้องกัน: สวมเสื้อแขนยาว กางเกงขายาว และหมวกปีกกว้างเพื่อป้องกันผิวจากแสงแดด
  • เลือกครีมกันแดดที่เหมาะสม: สำหรับผู้ที่เป็นฝ้าโดยเฉพาะ แนะนำให้ใช้ครีมกันแดดชนิดมีสี (tinted sunscreen) ที่มีส่วนผสมของ Iron Oxide เพื่อช่วยป้องกันแสงที่มองเห็นได้ (visible light) ซึ่งสามารถกระตุ้นฝ้าได้เช่นกัน (Melasma: why visible light and heat matter, Harvard Health, 2020)

กันแดดสำหรับคนเป็นฝ้า

ครีมกันแดดที่เหมาะสำหรับคนเป็นฝ้าคือครีมกันแดดชนิดผสมสี (tinted sunscreen) ที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป และสามารถป้องกันได้ทั้งรังสี UVA และ UVB ครีมกันแดดชนิดนี้มักมีส่วนผสมของ Iron Oxides ซึ่งช่วยป้องกันแสงที่มองเห็นได้ (Visible Light) ที่เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการกระตุ้นให้ฝ้าเข้มขึ้น ซึ่งครีมกันแดดทั่วไปอาจป้องกันได้ไม่ครอบคลุม (Harvard Health, 2020)

ครีมกันแดดสำหรับคนเป็นฝ้า ใช้อะไรดี

คนเป็นฝ้าควรเลือกใช้ ครีมกันแดดชนิดทินท์ (tinted) ที่เป็นแบบ Broad-spectrum และมีค่า SPF 30 ขึ้นไป โดยแนะนำให้ใช้ SPF 50+ เพื่อการป้องกันสูงสุด ครีมกันแดดชนิดทินท์มีส่วนผสมของ Iron Oxides ซึ่งช่วยป้องกันแสงที่มองเห็นได้ (Visible Light) ที่เป็นอีกหนึ่งตัวกระตุ้นสำคัญของฝ้า นอกเหนือจากรังสี UV การทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวันเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการควบคุมฝ้า เพราะแม้แต่การโดนแสงแดดเพียงเล็กน้อยก็สามารถทำให้ฝ้าเข้มขึ้นได้ (Unmasking the causes and treatments of melasma, Harvard Health, 2020)

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับฝ้าแดด

หน้าเป็นฝ้าแดดรักษายังไง

การรักษาฝ้าแดดให้ได้ผลดีที่สุดคือการใช้ยาทาเฉพาะที่ร่วมกับการป้องกันแสงแดดอย่างเคร่งครัด เนื่องจากฝ้าแดดเป็นภาวะที่กลับมาเป็นซ้ำได้ง่ายและต้องอาศัยการดูแลระยะยาว การรักษาจึงเน้นไปที่การควบคุมมากกว่าการรักษาให้หายขาด

วิธีการรักษาหลักๆ มีดังนี้

  1. การป้องกันแสงแดด เป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุด ควรทาครีมกันแดดชนิด Broad-spectrum ที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป (แนะนำ SPF 50+) ทุกวัน และทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมงหากต้องอยู่กลางแจ้ง การใช้ครีมกันแดดชนิดมีสี (Tinted sunscreen) จะช่วยป้องกันแสงที่มองเห็นได้ ซึ่งเป็นอีกปัจจัยที่กระตุ้นฝ้า
  2. การใช้ยาทา ยาทาเฉพาะที่เป็นการรักษาหลักสำหรับฝ้า ตัวยาที่นิยมใช้คือ ไฮโดรควิโนน (Hydroquinone) ซึ่งมักใช้ร่วมกับเตรทติโนอิน (Tretinoin) และสเตียรอยด์ชนิดอ่อนๆ นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมอื่นที่ช่วยได้ เช่น กรดอะซีลาอิก (Azelaic acid) และกรดทรานเอกซามิก (Tranexamic acid) ในรูปแบบทา
  3. ยารับประทาน ในกรณีที่ฝ้าดื้อต่อการรักษา แพทย์อาจพิจารณาให้รับประทานกรดทรานเอกซามิก (Oral Tranexamic Acid) ซึ่งมีผลการศึกษาว่าช่วยให้ฝ้าจางลงได้อย่างมีนัยสำคัญ
  4. เลเซอร์และหัตถการอื่นๆ การรักษาด้วยเลเซอร์และแสงความเข้มสูง (IPL) ไม่ใช่ทางเลือกแรกสำหรับฝ้าแดด เพราะอาจกระตุ้นให้ฝ้าเข้มขึ้นได้ หากจำเป็นต้องทำ ควรทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้วยการตั้งค่าพลังงานที่เหมาะสมและระมัดระวังเป็นพิเศษ (Melasma management and tranexamic acid – review, Dermatol Surg, 2020)

ฝ้าแดดทาลําไยดีไหม

ยังไม่มีข้อพิสูจน์ทางการแพทย์ที่ชัดเจนว่าลำไยสามารถรักษาฝ้าแดดได้ สารสกัดจากเมล็ดลำไยมีสารต้านอนุมูลอิสระที่อาจช่วยให้ผิวสว่างขึ้นได้เล็กน้อย แต่ยังขาดการศึกษาทางคลินิกในมนุษย์เพื่อยืนยันประสิทธิภาพ การใช้ลำไยจึงเป็นเพียงการดูแลเสริมและไม่สามารถให้ผลลัพธ์เทียบเท่าการรักษาทางการแพทย์ (Journal of Cosmetic Dermatology, 2017)

ฝ้าแดดทำไงหาย

การรักษาฝ้าแดดที่ได้ผลดีที่สุดคือการใช้เลเซอร์ เช่น Q-switched laser หรือ IPL (Intense Pulsed Light) ซึ่งสามารถกำจัดเม็ดสีส่วนเกินได้อย่างจำเพาะเจาะจง ทำให้จุดด่างดำจางลงหรือหายไปได้ภายใน 1-2 ครั้ง

อย่างไรก็ตาม การวินิจฉัยประเภทของรอยดำให้ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากวิธีการรักษาจะแตกต่างกัน:

  • กระแดด (Solar Lentigines): มีลักษณะเป็นจุดสีน้ำตาลแบนๆ ที่แยกจากกันชัดเจน ตอบสนองต่อการรักษาด้วยเลเซอร์ได้ดีมาก
  • ฝ้า (Melasma): มีลักษณะเป็นปื้นสีน้ำตาลขอบเขตไม่ชัดเจน การรักษาจะซับซ้อนกว่า โดยมักใช้ยาทา เช่น ไฮโดรควิโนน (Hydroquinone) ร่วมกับการรับประทานยา เช่น กรดทรานเอกซามิก (Tranexamic acid) และต้องทาครีมกันแดดอย่างเคร่งครัด ส่วนการใช้เลเซอร์ต้องทำด้วยความระมัดระวังเพื่อป้องกันไม่ให้ฝ้าเข้มขึ้น

ไม่ว่าจะรักษาด้วยวิธีใด การป้องกันแสงแดดด้วยการทาครีมกันแดดเป็นประจำคือสิ่งจำเป็นที่สุดเพื่อป้องกันไม่ให้รอยดำกลับมาเป็นซ้ำหรือเกิดใหม่ (Treatment of solar lentigines: A systematic review of clinical trials, J. Cosmetic Dermatology, 2025)

แนะแนวเรื่อง

Previous Previous
ผิวขาดน้ำแก้ยังไงดี? วิธีดูแลให้กลับมานุ่มชุ่มชื้น
NextContinue
ฝ้าตื้นคืออะไร รักษาอย่างไรให้หายขาด? เจาะลึกสาเหตุและวิธีรักษา

สาขาพรีวาโต คลินิก

    สาขาอโศก ตั้งอยู่ที่ ชั้น 2 อาคารมิดทาวน์
    Phone: 02-258-4050 , 081-841-5075
    สาขาสีลม ตั้งอยู่ที่ ชั้น 1 อาคารซี.พี.ทาวเวอร์
    Phone: 02-780-2011 , 098-272-5244
    สาขาราชพฤกษ์ ตั้งอยู่ที่ ชั้น 2 ศูนย์การค้า เดอะคริสตัล เอสบี (ด้านบนร้านสตาร์บัคส์)
    Phone: 02-102-2778 , 098-272-5244

ติดต่อเรา

    Facebook: Privato Clinic
    Messenger: Privato Clinic
    Instagram: privatoclinic
    Email: privatoclinic@gmail.com
    Line: @privatoclinic

Copyright© 2022-2024. All Rights Reserved

Scroll to top
  • หน้าหลัก
  • เกี่ยวกับพรีวาโต
  • บริการทั้งหมด
    • ชะลอวัย
    • ยกกระชับผิว
      • XERF
      • Potenza
      • Sofwave
      • Ulthera
      • Thermage-FLX
    • รักษาสิว
    • เลเซอร์
    • โปรแกรมฉีด
    • บำรุงผิว
  • บทความ
    • สิว
    • ยกกระชับ
    • ดูแลผิว
    • ทำเลเซอร์
  • ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว
  • โปรโมชั่น
  • ผลลัพธ์การรักษา
  • วิดีโอรีวิวจากเคสจริง
  • สาขาของเรา
  • ไทย
    • ไทย
    • English
    • 中文 (中国)
  • ปรึกษาแพทย์
Facebook Instagram YouTube