Skip to content

TEL : 081-841-5075, 02-258-4050

Facebook Instagram YouTube
Privato Clinic – Innovation Of Beauty  |  Bangkok
  • หน้าหลัก
  • เกี่ยวกับพรีวาโต
  • บริการทั้งหมดExpand
    • ชะลอวัย
    • ยกกระชับผิวExpand
      • XERF
      • Potenza
      • Sofwave
      • Ulthera
      • Thermage-FLX
    • รักษาสิว
    • เลเซอร์
    • โปรแกรมฉีด
    • บำรุงผิว
  • บทความExpand
    • สิว
    • ยกกระชับ
    • ดูแลผิว
    • ทำเลเซอร์
  • ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว
  • โปรโมชั่น
  • ผลลัพธ์การรักษา
  • วิดีโอรีวิวจากเคสจริง
  • สาขาของเรา
  • ไทยExpand
    • ไทย
    • English
    • 中文 (中国)
  • ปรึกษาแพทย์
Privato Clinic – Innovation Of Beauty  |  Bangkok
Consult a Doctor
Skincare

หน้ามันช่วงทีโซน สาเหตุและวิธีแก้รูขุมขนกว้างถาวร

Byadmin ธันวาคม 1, 2025
By แพทย์หญิงนัชชนก หุ่นวิจิตร Updated on ธันวาคม 1, 2025
✦ Medically reviewed by  นายแพทย์เลอพงษ์ กรุดเงิน
หน้ามันช่วงทีโซน สาเหตุและวิธีแก้รูขุมขนกว้างถาวร

หน้ามันช่วงทีโซนคือภาวะที่บริเวณหน้าผาก จมูก และคางมีความมันมากกว่าส่วนอื่นของใบหน้าเนื่องจากมีต่อมไขมันหนาแน่น และบทความนี้อธิบายสาเหตุพร้อมวิธีแก้รูขุมขนกว้างอย่างได้ผล

Table of Contents

Toggle
  • หน้ามันช่วงทีโซน (T-Zone) คืออะไร สังเกตได้อย่างไร
    • T-Zone คือบริเวณไหนของใบหน้า
    • ลักษณะของผิวผสมและหน้ามันช่วงทีโซน
  • สาเหตุที่ทำให้หน้ามันช่วงทีโซนและรูขุมขนกว้าง
    • ฮอร์โมนกับความมันบนใบหน้า
    • พฤติกรรมและปัจจัยภายนอกที่กระตุ้นต่อมไขมัน
  • ปัญหาผิวที่มักเกิดร่วมกับหน้ามันช่วงทีโซน
    • สิวอุดตันและสิวอักเสบบริเวณ T-Zone
    • รูขุมขนกว้างและผิวไม่เรียบเนียน
  • วิธีแก้หน้ามันช่วงทีโซนและดูแลผิวผสมด้วยตัวเอง
    • การเลือกใช้สกินแคร์และมอยเจอร์ไรเซอร์สำหรับผิวผสม
    • วิธีล้างหน้าและซับมันที่ถูกต้อง
    • การปรับพฤติกรรมเพื่อลดหน้ามันถาวร
  • รักษาหน้ามันเองไม่หาย ควรพบแพทย์เมื่อไหร่
  • โปรแกรมรักษาหน้ามันและกระชับรูขุมขนทางการแพทย์
    • เลเซอร์ลดความมันและกระชับรูขุมขน
    • โปรแกรมฉีดหน้าใสและรักษาสิว
  • คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับหน้ามันช่วงทีโซน
    • หน้ามันช่วงทีโซนแต่แก้มแห้ง ควรดูแลอย่างไร
    • หน้ามันไม่ควรใช้อะไรทาหน้า
    • กินอะไรช่วยลดหน้ามันได้บ้าง

หน้ามันช่วงทีโซน (T-Zone) คืออะไร สังเกตได้อย่างไร

หน้ามันช่วงทีโซนคือบริเวณหน้าผาก จมูก และคางที่มีลักษณะมันวาว เนื่องจากเป็นบริเวณที่มีต่อมไขมันหนาแน่นกว่าส่วนอื่น ๆ ของใบหน้า ทำให้มีการผลิตน้ำมันออกมามากกว่าปกติ

เราสามารถสังเกตได้จากลักษณะดังนี้

  • ผิวบริเวณหน้าผาก จมูก และคางจะดูมันเงา
  • รูขุมขนในบริเวณทีโซนจะมองเห็นได้ชัดเจนกว่าส่วนอื่น
  • มักพบในคนที่มีสภาพผิวผสม คือทีโซนมันแต่บริเวณแก้มจะแห้งหรือปกติ

T-Zone คือบริเวณไหนของใบหน้า

T-Zone คือบริเวณกลางใบหน้า ซึ่งประกอบด้วยหน้าผาก จมูก และคาง เมื่อลากเส้นเชื่อมต่อกันจะมีลักษณะคล้ายรูปตัว “T”

ลักษณะของผิวผสมและหน้ามันช่วงทีโซน

ผิวผสมคือสภาพผิวที่มีความมันบริเวณทีโซน (หน้าผาก จมูก และคาง) แต่บริเวณแก้มกลับแห้งหรือเป็นปกติ ลักษณะนี้เกิดจากต่อมไขมันที่หนาแน่นกว่าในบริเวณทีโซน ทำให้ผลิตน้ำมันออกมามากกว่าส่วนอื่นของใบหน้า วิธีสังเกตง่ายๆ คือหลังล้างหน้า 30 นาที บริเวณทีโซนจะเริ่มมันวาว ในขณะที่แก้มยังคงแห้งหรือรู้สึกตึง (Regional and seasonal variations in facial sebum secretions: A proposal for the definition of combination skin type, Skin Research and Technology, 2005)

สาเหตุที่ทำให้หน้ามันช่วงทีโซนและรูขุมขนกว้าง

ฮอร์โมนกับความมันบนใบหน้า

ฮอร์โมนเป็นปัจจัยหลักที่ควบคุมความมันบนใบหน้า โดยเฉพาะฮอร์โมนกลุ่มแอนโดรเจนที่กระตุ้นการผลิตน้ำมัน ในขณะที่ฮอร์โมนชนิดอื่น ๆ ก็มีผลต่อความมันเช่นกัน

ฮอร์โมนแต่ละชนิดมีผลต่อการผลิตน้ำมัน (ซีบัม) แตกต่างกันไป ดังนี้

  • แอนโดรเจน (Androgens) เช่น เทสโทสเตอโรน (Testosterone) และ DHT เป็นตัวกระตุ้นหลักที่ทำให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมามากขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้วัยรุ่นมีหน้ามัน
  • เอสโตรเจน (Estrogen) มีผลตรงกันข้าม คือช่วยยับยั้งการทำงานและลดขนาดของต่อมไขมัน ทำให้การผลิตน้ำมันลดลง
  • โปรเจสเตอโรน (Progesterone) อาจเพิ่มการผลิตน้ำมันได้เล็กน้อยและเป็นเพียงชั่วคราว ผู้หญิงบางคนจึงรู้สึกหน้ามันขึ้นในช่วงก่อนมีประจำเดือน
  • อินซูลิน (Insulin) และ IGF-1 ระดับอินซูลินที่สูงขึ้นจากการบริโภคอาหารที่มีน้ำตาลสูง สามารถกระตุ้นการทำงานของต่อมไขมันและฮอร์โมนแอนโดรเจน ทำให้หน้ามันขึ้นได้
  • คอร์ติซอล (Cortisol) หรือฮอร์โมนความเครียด สามารถกระตุ้นให้หน้ามันมากขึ้นได้ โดยเฉพาะเมื่อมีความเครียดเรื้อรัง (Regional difference in sebum production by androgen susceptibility in human facial skin, Experimental Dermatology, 2014)

พฤติกรรมและปัจจัยภายนอกที่กระตุ้นต่อมไขมัน

พฤติกรรมและปัจจัยภายนอกที่กระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากขึ้น ได้แก่ ความเครียด สภาพแวดล้อม อาหาร และการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสม ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลต่อการทำงานของต่อมไขมันโดยตรงและโดยอ้อม

  • อาหาร: อาหารที่มีค่าดัชนีน้ำตาลสูง เช่น น้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตขัดสี รวมถึงผลิตภัณฑ์จากนม สามารถกระตุ้นการผลิตซีบัมได้
  • ความเครียดและการใช้ชีวิต: ความเครียดเรื้อรัง การพักผ่อนไม่เพียงพอ และการสัมผัสใบหน้าบ่อยๆ สามารถทำให้น้ำมันบนใบหน้าแย่ลงได้
  • สภาพแวดล้อม: อากาศที่ร้อนและชื้น รวมถึงมลภาวะในอากาศ สามารถเพิ่มการผลิตซีบัมได้
  • ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและเครื่องสำอาง: การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่อุดตันรูขุมขน (Comedogenic) เช่น น้ำมันมะพร้าว หรือโกโก้บัตเตอร์ จะทำให้ซีบัมถูกกักเก็บและเกิดการอุดตันได้ (Influence of exposure to summer environments on skin properties, Journal of Eur. Acad. Dermatol. Venereol, 2019)

ปัญหาผิวที่มักเกิดร่วมกับหน้ามันช่วงทีโซน

สิวอุดตันและสิวอักเสบบริเวณ T-Zone

ความมันส่วนเกินในบริเวณ T-zone เป็นปัจจัยหลักที่ก่อให้เกิดทั้งสิวอุดตันและสิวอักเสบ โดยน้ำมัน (sebum) ที่ผลิตออกมามากเกินไปจะรวมตัวกับเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ทำให้เกิดการอุดตันในรูขุมขน กลายเป็นสิวอุดตัน (comedones) เช่น สิวหัวดำและสิวหัวขาว เมื่อรูขุมขนอุดตัน จะสร้างสภาวะที่เหมาะแก่การเจริญเติบโตของแบคทีเรีย Cutibacterium acnes ซึ่งกระตุ้นให้เกิดการอักเสบและกลายเป็นสิวอักเสบในที่สุด เช่น ตุ่มแดง (papules) และตุ่มหนอง (pustules) (Acne pathogenesis and treatment, Reviews in Medicine, 2013)

รูขุมขนกว้างและผิวไม่เรียบเนียน

รูขุมขนกว้างและผิวไม่เรียบเนียนเกิดจาก 3 สาเหตุหลัก คือ การผลิตน้ำมัน (ซีบัม) มากเกินไป, การสูญเสียคอลลาเจนรอบรูขุมขนตามวัยหรือจากแสงแดด, และการอุดตันของเซลล์ผิวเก่า ปัจจัยเหล่านี้ทำให้ผนังรูขุมขนขยายตัว, หย่อนคล้อย, และดูกว้างขึ้น

สาเหตุหลักของรูขุมขนกว้าง ได้แก่

  • การผลิตน้ำมันมากเกินไป น้ำมันที่ถูกผลิตออกมามากจะดันให้ผนังรูขุมขนยืดและขยายตัวออก
  • การเสื่อมสภาพของคอลลาเจน เมื่ออายุมากขึ้นหรือโดนแสงแดดทำร้าย คอลลาเจนและอีลาสตินที่พยุงผิวรอบรูขุมขนจะเสื่อมลง ทำให้รูขุมขนหย่อนคล้อยและดูกว้างขึ้น
  • การอุดตัน การสะสมของน้ำมัน, เซลล์ผิวเก่า, และสิ่งสกปรก ทำให้เกิดการอุดตันและดันรูขุมขนให้ขยายขนาด

สำหรับการรักษาและดูแล สามารถทำได้ทั้งที่บ้านและโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

  • การดูแลที่บ้าน
    • Salicylic Acid (BHA) ช่วยละลายไขมันที่อุดตันในรูขุมขน
    • Niacinamide ช่วยควบคุมความมันและเสริมความแข็งแรงให้เกราะป้องกันผิว
    • Retinoids (เรตินอยด์) ช่วยผลัดเซลล์ผิวและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้รูขุมขนกระชับขึ้น
  • การรักษาโดยแพทย์
    • Fractional Laser กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวเรียบเนียนและรูขุมขนเล็กลง
    • RF Microneedling ใช้พลังงานความร้อนเพื่อกระชับผิวและลดขนาดต่อมไขมัน
    • Chemical Peels (การผลัดเซลล์ผิว) ช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่าและลดการอุดตัน (Regional and seasonal variations in facial sebum secretions: A proposal for the definition of combination skin type, Skin Research and Technology, 2005)

วิธีแก้หน้ามันช่วงทีโซนและดูแลผิวผสมด้วยตัวเอง

การดูแลผิวผสมและแก้ปัญหาหน้ามันช่วงทีโซนด้วยตัวเองทำได้โดยการทำความสะอาดอย่างเหมาะสม ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมควบคุมความมัน และดูแลผิวแต่ละส่วนแตกต่างกัน ซึ่งสามารถทำตามขั้นตอนพื้นฐานได้ดังนี้

  • ทำความสะอาด: ล้างหน้าวันละ 2 ครั้งด้วยคลีนเซอร์สูตรอ่อนโยนและมีค่า pH สมดุล เพื่อขจัดความมันส่วนเกินโดยไม่ทำให้ผิวแห้งตึง
  • ใช้ส่วนผสมที่ช่วยควบคุมความมัน: มองหาผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสม เช่น กรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) ที่ช่วยละลายไขมันในรูขุมขน, ไนอะซินาไมด์ (Niacinamide) ที่ช่วยลดการผลิตซีบัม หรือเรตินอยด์ (Retinoids) ที่ช่วยปรับการทำงานของต่อมไขมัน
  • ให้ความชุ่มชื้น: เลือกใช้มอยส์เจอไรเซอร์เนื้อบางเบา เช่น เจลครีม หรือโลชั่นที่ปราศจากน้ำมัน (Oil-Free) และไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน (Non-Comedogenic) เพื่อเติมความชุ่มชื้นโดยไม่เพิ่มความมัน
  • ดูแลผิวเฉพาะจุด: ใช้วิธี “Multi-masking” โดยพอกมาสก์โคลนเพื่อดูดซับความมันเฉพาะบริเวณทีโซน และใช้มาสก์เติมความชุ่มชื้นบริเวณแก้มที่แห้งกว่า
  • จัดการความมันระหว่างวัน: ใช้กระดาษซับมันเพื่อซับความมันส่วนเกินเฉพาะบริเวณทีโซนได้ตามต้องการ (30% supramolecular salicylic acid peels effectively treat acne vulgaris and reduce facial sebum, Journal of Cosmetic Dermatology, 2022)

การเลือกใช้สกินแคร์และมอยเจอร์ไรเซอร์สำหรับผิวผสม

การเลือกสกินแคร์สำหรับผิวผสมควรใช้วิธีดูแลเฉพาะโซน (zone-specific) โดยเลือกผลิตภัณฑ์ที่ควบคุมความมันสำหรับบริเวณทีโซน (หน้าผาก จมูก คาง) และใช้ผลิตภัณฑ์ที่เน้นให้ความชุ่มชื้นสำหรับบริเวณแก้มที่แห้งกว่า

หลักการเลือกผลิตภัณฑ์สำหรับผิวผสมมีดังนี้:

  • มอยเจอร์ไรเซอร์: ควรเลือกสูตรที่บางเบา ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน (non-comedogenic) เช่น เจลครีม โลชั่นปราศจากน้ำมัน หรือเซรั่มที่มีส่วนผสมของสารให้ความชุ่มชื้นอย่างไฮยาลูรอนิกแอซิด (Hyaluronic Acid) และกลีเซอรีน (Glycerin)
  • การดูแลเฉพาะโซน: ใช้ผลิตภัณฑ์ควบคุมความมัน เช่น โทนเนอร์หรือเซรั่มที่มีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) หรือไนอะซินาไมด์ (Niacinamide) เฉพาะบริเวณทีโซน และใช้ผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื้นมากกว่าบนแก้ม
  • การทำความสะอาด: เลือกใช้คลีนเซอร์ที่อ่อนโยนในรูปแบบเจลโฟมหรือของเหลว เพื่อขจัดความมันส่วนเกินโดยไม่ทำให้ผิวแห้งตึง
  • มัลติมาสก์ (Multi-masking): เป็นเทคนิคที่แนะนำ โดยใช้มาสก์โคลนเพื่อดูดซับความมันบนทีโซน และใช้มาสก์เติมความชุ่มชื้นบนบริเวณแก้มไปพร้อมกัน (Regional and seasonal variations in facial sebum secretions: A proposal for the definition of combination skin type, Skin Research and Technology, 2005)

วิธีล้างหน้าและซับมันที่ถูกต้อง

วิธีที่ถูกต้องคือการล้างหน้าวันละ 2 ครั้งด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อ่อนโยน และใช้กระดาษซับมันตามความจำเป็น การล้างหน้าบ่อยเกินไปอาจทำให้ผิวระคายเคืองได้ ส่วนการใช้กระดาษซับมันเป็นเพียงการกำจัดน้ำมันบนผิวหน้าและไม่ได้กระตุ้นให้ผิวผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น

  • การล้างหน้า: ควรล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง (เช้าและเย็น) ด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อ่อนโยนและมีค่า pH ที่สมดุล เช่น โฟมหรือเจลล้างหน้า เพื่อขจัดความมันส่วนเกินโดยไม่ทำให้ผิวแห้งตึงเกินไป
  • การซับมัน: สามารถใช้กระดาษซับมันได้บ่อยเท่าที่ต้องการเพื่อดูดซับความมันส่วนเกินบนใบหน้าระหว่างวัน ซึ่งเป็นวิธีที่ช่วยลดความมันวาวได้ทันทีโดยไม่รบกวนเครื่องสำอาง (BMC Public Health, 2021)

การปรับพฤติกรรมเพื่อลดหน้ามันถาวร

การปรับพฤติกรรมไม่สามารถลดความมันบนใบหน้าได้อย่างถาวร เนื่องจากปัจจัยหลักที่ควบคุมการผลิตไขมันคือพันธุกรรมและฮอร์โมน อย่างไรก็ตาม การปรับพฤติกรรมสามารถช่วยจัดการความมันและลดปัญหาผิวที่ตามมาได้

พฤติกรรมที่แนะนำเพื่อช่วยควบคุมความมัน ได้แก่

  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้าบ่อยๆ เพื่อไม่ให้เป็นการกระจายน้ำมันและเชื้อโรค
  • ทำความสะอาดหน้าจอโทรศัพท์เป็นประจำ
  • เปลี่ยนปลอกหมอนบ่อยๆ เพื่อป้องกันการสะสมของน้ำมันและแบคทีเรีย
  • ไม่ขัดหรือถูใบหน้าแรงเกินไป เพราะอาจทำให้ผิวระคายเคืองและกระตุ้นการอักเสบ
  • จัดการความเครียด เนื่องจากความเครียดสามารถกระตุ้นให้ผิวมันมากขึ้นได้

รักษาหน้ามันเองไม่หาย ควรพบแพทย์เมื่อไหร่

ควรพบแพทย์เมื่อมีสิวระดับปานกลางถึงรุนแรง เกิดรอยแผลเป็น หรือเมื่อการดูแลผิวด้วยตัวเองไม่ได้ผลหลังจากลองมาแล้ว 2-3 เดือน

แพทย์ผิวหนังสามารถประเมินและวินิจฉัยเพื่อแยกโรคอื่นที่มีอาการคล้ายกันได้ โดยเกณฑ์ที่ควรพิจารณาเพื่อไปพบแพทย์ ได้แก่

  • มีสิวอักเสบรุนแรง เช่น สิวหัวช้างที่เจ็บปวด หรือสิวที่เริ่มทิ้งรอยแผลเป็น
  • ปัญหาหน้ามันและสิวไม่ดีขึ้น แม้จะใช้ผลิตภัณฑ์ที่หาซื้อได้เอง (Over-the-counter) อย่างสม่ำเสมอแล้ว
  • มีสัญญาณของภาวะฮอร์โมนไม่สมดุลร่วมด้วย เช่น ประจำเดือนมาไม่ปกติ หรือมีขนขึ้นเยอะผิดปกติในผู้หญิง ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงภาวะ PCOS
  • ต้องการการวินิจฉัยที่แน่ชัดเพื่อแยกโรคอื่น เช่น โรคผิวหนังอักเสบเซบเดิร์ม (Seborrheic Dermatitis) หรือ โรคโรซาเชีย (Rosacea) (American Academy of Dermatology, 2018)

โปรแกรมรักษาหน้ามันและกระชับรูขุมขนทางการแพทย์

เลเซอร์ลดความมันและกระชับรูขุมขน

เลเซอร์ที่ช่วยลดความมันและกระชับรูขุมขน ได้แก่ Fractional Laser, 1450 nm Diode Laser และ RF Microneedling เทคโนโลยีเหล่านี้ทำงานโดยการส่งพลังงานความร้อนลงไปใต้ผิวหนังเพื่อลดการทำงานของต่อมไขมันและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน

  • Fractional Laser (เช่น CO₂, Er:YAG): ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้โครงสร้างผิวรอบรูขุมขนกระชับและดูเล็กลง นอกจากนี้ยังช่วยลดความมันบนใบหน้าได้ในระยะสั้น
  • 1450 nm Diode Laser: เป็นเลเซอร์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อมุ่งเป้าไปที่การทำลายต่อมไขมันโดยเฉพาะ ทำให้การผลิตน้ำมัน (sebum) ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
  • RF Microneedling (คลื่นวิทยุแบบมีเข็ม): เป็นการใช้พลังงานคลื่นวิทยุส่งผ่านปลายเข็มขนาดเล็กเพื่อทำลายต่อมไขมันโดยตรง ทำให้ต่อมไขมันหดตัวและผลิตน้ำมันน้อยลง พร้อมทั้งกระตุ้นคอลลาเจนเพื่อกระชับรูขุมขน

นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีแสงอื่นๆ เช่น Intense Pulsed Light (IPL) และ Photodynamic Therapy (PDT) ที่สามารถช่วยลดการอักเสบและทำลายต่อมไขมันได้เช่นกัน (Effects of a 1,450 nm diode laser on facial sebum excretion, Lasers in Surgery and Medicine, 2009)

โปรแกรมฉีดหน้าใสและรักษาสิว

การฉีดโบทูลินัมท็อกซินเข้าไปในชั้นผิวหนังแบบตื้นๆ (MicroBotox) เป็นโปรแกรมการฉีดที่ช่วยลดการผลิตไขมันและกระชับรูขุมขนได้ชั่วคราว นอกจากนี้ยังมีโปรแกรมการรักษาอื่นๆ ที่ช่วยให้หน้าใสและรักษาสิวได้โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

  • เลเซอร์และแสงบำบัด (Laser and Light Therapies): เช่น Fractional Laser ช่วยลดขนาดรูขุมขนและรอยแผลเป็น, 1450 nm Diode Laser และ Photodynamic Therapy (PDT) ช่วยทำลายต่อมไขมันและลดความมัน
  • คลื่นวิทยุแบบมีเข็ม (RF Microneedling): ใช้พลังงานความร้อนเพื่อลดการผลิตไขมันและกระชับรูขุมขน
  • การผลัดเซลล์ผิวด้วยสารเคมี (Chemical Peels): การใช้กรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) ความเข้มข้นสูงช่วยผลัดเซลล์ผิว ลดการอุดตัน และควบคุมความมัน
  • ยารับประทาน (Oral Medications): สำหรับกรณีรุนแรง ยา เช่น Isotretinoin สามารถลดขนาดและการทำงานของต่อมไขมันได้อย่างมีนัยสำคัญ หรือยา Spironolactone ที่ช่วยต้านฮอร์โมนเพศชายเพื่อลดความมันในผู้หญิง (Microbotox for improving pore size and sebum production, Journal of Cosmetic and Clinical Dermatology, 2021)

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับหน้ามันช่วงทีโซน

หน้ามันช่วงทีโซนแต่แก้มแห้ง ควรดูแลอย่างไร

การดูแลผิวผสมที่มีหน้ามันช่วงทีโซนแต่แก้มแห้งคือการดูแลผิวแต่ละส่วนของใบหน้าแตกต่างกันไป โดยเน้นการใช้ผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกันในแต่ละบริเวณ หรือที่เรียกว่า “การดูแลผิวแบบเฉพาะโซน” (Zone-specific care)

  • บริเวณทีโซน (หน้าผาก จมูก คาง): ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยควบคุมความมันและทำความสะอาดรูขุมขน เช่น ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) หรือไนอะซินาไมด์ (Niacinamide)
  • บริเวณแก้ม: ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เน้นการให้ความชุ่มชื้น เช่น มอยส์เจอไรเซอร์ที่มีส่วนผสมของกรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) หรือกลีเซอรีน (Glycerin) เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวแห้งหรือระคายเคือง
  • การทำความสะอาด: เลือกใช้คลีนเซอร์ที่อ่อนโยนและมีค่า pH ที่สมดุลกับผิว เพื่อทำความสะอาดความมันส่วนเกินโดยไม่ทำให้บริเวณแก้มแห้งตึง
  • การมาสก์หน้า: ใช้วิธี “มัลติมาสก์” (Multi-masking) คือใช้มาสก์โคลนเพื่อดูดซับความมันบนทีโซน และในขณะเดียวกันก็ใช้มาสก์ที่ให้ความชุ่มชื้นบนบริเวณแก้ม (Mdpi, 2024)

หน้ามันไม่ควรใช้อะไรทาหน้า

ผู้ที่มีผิวหน้ามันควรหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่อุดตันรูขุมขน (comedogenic) และผลิตภัณฑ์ที่รุนแรงต่อผิว เช่น โทนเนอร์ที่มีแอลกอฮอล์ความเข้มข้นสูง เพราะอาจกระตุ้นให้ผิวมันยิ่งขึ้น

ผลิตภัณฑ์และส่วนผสมที่ควรหลีกเลี่ยง ได้แก่

  • ส่วนผสมที่ก่อให้เกิดการอุดตัน (Comedogenic Ingredients): เช่น น้ำมันมะพร้าว (coconut oil), โกโก้บัตเตอร์ (cocoa butter), ลาโนลิน (lanolin) และ Isopropyl Myristate ซึ่งมักพบในครีมเนื้อหนัก
  • ผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์ความเข้มข้นสูง: โทนเนอร์หรือแอสตริงเจนต์ที่รุนแรงสามารถทำลายเกราะป้องกันผิวและก่อให้เกิดการระคายเคืองได้
  • เครื่องสำอางเนื้อหนัก: รองพื้นเนื้อครีมหรือผลิตภัณฑ์ที่ให้ความฉ่ำวาว (dewy finish) อาจทำให้ผิวดูมันเยิ้มและอุดตันรูขุมขนได้ง่ายขึ้น (Comedogenic ingredients (pore-clogging ingredients list), AcneClinicNYC, 2021)

กินอะไรช่วยลดหน้ามันได้บ้าง

การรับประทานอาหารที่มี ดัชนีน้ำตาลต่ำและจำกัดการบริโภคผลิตภัณฑ์จากนม สามารถช่วยลดความมันบนใบหน้าได้ เนื่องจากอาหารที่มีน้ำตาลสูงและผลิตภัณฑ์จากนมบางชนิดอาจกระตุ้นการผลิตไขมันบนผิวหนัง

อาหารที่แนะนำให้รับประทานเพื่อช่วยควบคุมความมัน ได้แก่

  • อาหารที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 เช่น น้ำมันปลา
  • ผักและผลไม้ ที่อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ
  • อาหารที่มีสังกะสีและวิตามินเอ เช่น เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน และผักสีเหลืองหรือสีแดง

แนะแนวเรื่อง

Previous Previous
ขี้แมลงวัน เกิดจากอะไร สาเหตุและวิธีกำจัด

สาขาพรีวาโต คลินิก

    สาขาอโศก ตั้งอยู่ที่ ชั้น 2 อาคารมิดทาวน์
    Phone: 02-258-4050 , 081-841-5075
    สาขาสีลม ตั้งอยู่ที่ ชั้น 1 อาคารซี.พี.ทาวเวอร์
    Phone: 02-780-2011 , 098-272-5244
    สาขาราชพฤกษ์ ตั้งอยู่ที่ ชั้น 2 ศูนย์การค้า เดอะคริสตัล เอสบี (ด้านบนร้านสตาร์บัคส์)
    Phone: 02-102-2778 , 098-272-5244

ติดต่อเรา

    Facebook: Privato Clinic
    Messenger: Privato Clinic
    Instagram: privatoclinic
    Email: privatoclinic@gmail.com
    Line: @privatoclinic

Copyright© 2022-2024. All Rights Reserved

Scroll to top
  • หน้าหลัก
  • เกี่ยวกับพรีวาโต
  • บริการทั้งหมด
    • ชะลอวัย
    • ยกกระชับผิว
      • XERF
      • Potenza
      • Sofwave
      • Ulthera
      • Thermage-FLX
    • รักษาสิว
    • เลเซอร์
    • โปรแกรมฉีด
    • บำรุงผิว
  • บทความ
    • สิว
    • ยกกระชับ
    • ดูแลผิว
    • ทำเลเซอร์
  • ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว
  • โปรโมชั่น
  • ผลลัพธ์การรักษา
  • วิดีโอรีวิวจากเคสจริง
  • สาขาของเรา
  • ไทย
    • ไทย
    • English
    • 中文 (中国)
  • ปรึกษาแพทย์
Facebook Instagram YouTube