Skip to content

TEL : 081-841-5075, 02-258-4050

Facebook Instagram YouTube
Privato Clinic – Innovation Of Beauty  |  Bangkok
  • หน้าหลัก
  • เกี่ยวกับพรีวาโต
  • บริการทั้งหมดExpand
    • ชะลอวัย
    • ยกกระชับผิวExpand
      • XERF
      • Potenza
      • Sofwave
      • Ulthera
      • Thermage-FLX
    • รักษาสิว
    • เลเซอร์
    • โปรแกรมฉีด
    • บำรุงผิว
  • บทความExpand
    • สิว
    • ยกกระชับ
    • ดูแลผิว
    • ทำเลเซอร์
  • ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว
  • โปรโมชั่น
  • ผลลัพธ์การรักษา
  • วิดีโอรีวิวจากเคสจริง
  • สาขาของเรา
  • ไทยExpand
    • ไทย
    • English
    • 中文 (中国)
  • ปรึกษาแพทย์
Privato Clinic – Innovation Of Beauty  |  Bangkok
Consult a Doctor
Skincare

ขั้นตอนการลงสกินแคร์ 10 สเตป ลงอะไรก่อน-หลัง ให้ผิวสวยใสถูกวิธี

Byadmin กันยายน 22, 2025กันยายน 22, 2025
By นายแพทย์พนิต อุนรัตน์ Updated on กันยายน 22, 2025
✦ Medically reviewed by  นายแพทย์เลอพงษ์ กรุดเงิน

ขั้นตอนการลงสกินแคร์

ขั้นตอนการลงสกินแคร์ คือการเรียงลำดับผลิตภัณฑ์จากเนื้อบางเบาสู่เข้มข้นเพื่อให้ซึมดีและป้องกันการทับกัน ทำให้ผิวชุ่มชื้นและได้ประสิทธิภาพสูงสุด

Table of Contents

Toggle
  • หลักการสำคัญของการเรียงลำดับสกินแคร์: จากเนื้อบางเบาสู่เข้มข้น
  • 10 ขั้นตอนการลงสกินแคร์พื้นฐานสำหรับกิจวัตรกลางคืน
    • ขั้นตอนที่ 1: ทำความสะอาดเครื่องสำอาง (Cleansing Oil/Balm)
    • ขั้นตอนที่ 2: ล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์สูตรอ่อนโยน (Gentle Cleanser)
    • ขั้นตอนที่ 3: ผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน (Exfoliator)
    • ขั้นตอนที่ 4: ปรับสภาพผิวด้วยโทนเนอร์ (Toner)
    • ขั้นตอนที่ 5: เติมความชุ่มชื้นด้วยเอสเซนส์หรือน้ำตบ (Essence)
    • ขั้นตอนที่ 6: บำรุงเฉพาะทางด้วยเซรั่ม (Serum/Treatment)
    • ขั้นตอนที่ 7: ดูแลผิวรอบดวงตาด้วยอายครีม (Eye Cream)
    • ขั้นตอนที่ 8: จัดการปัญหาสิวด้วยยาแต้มสิว (Spot Treatment)
    • ขั้นตอนที่ 9: ล็อกความชุ่มชื้นด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ (Moisturizer)
    • ขั้นตอนที่ 10: บำรุงขั้นสุดด้วยมาสก์หรือออยล์ (Sleeping Mask/Face Oil)
    • หลักเกณฑ์การเลือกใช้และลำดับของทรีตเมนต์เฉพาะทาง
  • ความแตกต่างของขั้นตอนลงสกินแคร์ตอนเช้าและตอนกลางคืน
    • ขั้นตอนสกินแคร์ตอนเช้า: เน้นการป้องกันและเตรียมผิว
    • ขั้นตอนสกินแคร์ตอนกลางคืน: เน้นการซ่อมแซมและฟื้นฟู
  • การปรับขั้นตอนให้เหมาะกับสภาพผิวและเป้าหมายของคุณ
    • ลำดับการลงสกินแคร์สำหรับผิวเป็นสิวและผิวแพ้ง่าย
    • เทคนิคการลงสกินแคร์ก่อนแต่งหน้าให้ติดทนนาน
    • ควรเว้นระยะเวลานานเท่าไหร่ระหว่างการลงสกินแคร์แต่ละขั้นตอน
  • ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยในการลงสกินแคร์และวิธีหลีกเลี่ยง
  • คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเรียงลำดับสกินแคร์
    • เอสเซนส์กับเซรั่มควรลงตัวไหนก่อนกัน?
    • มอยส์เจอไรเซอร์กับครีมกันแดดควรลงอะไรก่อน?
    • การลงสกินแคร์ผิดลำดับส่งผลเสียต่อผิวอย่างไร?
    • จำเป็นต้องรอให้สกินแคร์ซึมเข้าผิวก่อนลงขั้นตอนถัดไปหรือไม่?
    • ขั้นตอนการลงสกินแคร์สำหรับคนเป็นสิวแตกต่างกันอย่างไร?
    • ตอนเช้าไม่ทาครีมบำรุงได้หรือไม่?
  • References:

หลักการสำคัญของการเรียงลำดับสกินแคร์: จากเนื้อบางเบาสู่เข้มข้น

หลักการสำคัญของการเรียงลำดับสกินแคร์จากเนื้อบางเบาสู่เข้มข้น คือการลงผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อเหลวและซึมซาบง่ายก่อน เพื่อให้ส่วนผสมสำคัญสามารถซึมลึกสู่ผิวได้อย่างเต็มที่ จากนั้นจึงตามด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อหนักหรือมีความเป็นน้ำมันสูงเป็นลำดับสุดท้ายเพื่อทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันและกักเก็บความชุ่มชื้น

การเรียงลำดับเช่นนี้ช่วยให้สกินแคร์แต่ละชั้นซึมซาบได้อย่างเหมาะสมและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด หากลงผลิตภัณฑ์เนื้อหนักก่อน จะเป็นการสร้างชั้นฟิล์มที่ขัดขวางการดูดซึมของผลิตภัณฑ์ที่บางเบากว่า ทำให้ประสิทธิภาพของสกินแคร์ลดลง

10 ขั้นตอนการลงสกินแคร์พื้นฐานสำหรับกิจวัตรกลางคืน

ขั้นตอนที่ 1: ทำความสะอาดเครื่องสำอาง (Cleansing Oil/Balm)

การใช้คลีนซิ่งออยล์หรือบาล์มเป็นขั้นตอนแรก เพื่อล้างเครื่องสำอาง ครีมกันแดด และสิ่งสกปรกที่ละลายในน้ำมันออกไปก่อน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการทำความสะอาดสองขั้นตอน (Double Cleansing) ในตอนกลางคืน ขั้นตอนนี้จะช่วยขจัดสิ่งสกปรกที่เกาะอยู่บนผิวตลอดทั้งวันออกไป ทำให้ผิวพร้อมรับการทำความสะอาดในขั้นตอนต่อไปด้วยคลีนเซอร์ชนิดเจลหรือโฟม เพื่อให้ผิวสะอาดอย่างแท้จริงและเปิดรับการบำรุงในลำดับถัดไป

ขั้นตอนที่ 2: ล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์สูตรอ่อนโยน (Gentle Cleanser)

การล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์สูตรอ่อนโยนเป็นขั้นตอนที่สองของการทำความสะอาดผิวหน้าแบบสองขั้นตอน (double cleansing) ในตอนกลางคืน เพื่อให้แน่ใจว่าผิวสะอาดหมดจดอย่างแท้จริง ขั้นตอนนี้จะช่วยขจัดสิ่งสกปรกที่หลงเหลืออยู่ออกจากรูขุมขนโดยไม่ทำให้ผิวแห้งตึงเกินไป โดยทั่วไปแล้ว การทำความสะอาดแบบสองขั้นตอนมักจะทำเฉพาะในตอนเย็น ส่วนในตอนเช้าการล้างหน้าเพียงขั้นตอนเดียวก็เพียงพอแล้ว

ขั้นตอนที่ 3: ผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน (Exfoliator)

การผลัดเซลล์ผิวเป็นขั้นตอนที่ช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้นและเตรียมผิวให้พร้อมรับการบำรุงในขั้นตอนต่อไป โดยควรทำ 1-3 ครั้งต่อสัปดาห์ในตอนกลางคืน หลังจากการล้างหน้าและก่อนลงโทนเนอร์

เพื่อป้องกันการระคายเคือง ควรหลีกเลี่ยงการผลัดเซลล์ผิวในคืนที่ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมออกฤทธิ์รุนแรง เช่น เรตินอล

ขั้นตอนที่ 4: ปรับสภาพผิวด้วยโทนเนอร์ (Toner)

โทนเนอร์ช่วยขจัดสิ่งสกปรกที่ตกค้างจากการล้างหน้า พร้อมทั้งให้ความชุ่มชื้นและเตรียมผิวให้พร้อมรับการบำรุงในขั้นตอนต่อไป การใช้โทนเนอร์จะช่วยทำความสะอาดรูขุมขนและปรับสภาพผิวให้พร้อมดูดซึมผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอื่นๆ ได้ดียิ่งขึ้น ควรใช้โทนเนอร์ในขณะที่ผิวยังชื้นอยู่เล็กน้อยโดยการตบเบาๆ หรือใช้สำลีเช็ดให้ทั่วใบหน้า

ขั้นตอนที่ 5: เติมความชุ่มชื้นด้วยเอสเซนส์หรือน้ำตบ (Essence)

เอสเซนส์หรือน้ำตบคือขั้นตอนการเติมความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างล้ำลึก เพื่อเตรียมผิวให้พร้อมรับการบำรุงในขั้นตอนต่อไป ผลิตภัณฑ์นี้มีลักษณะเป็นของเหลวเนื้อบางเบาที่ช่วยเติมน้ำให้ผิวดูอิ่มฟูขึ้น การตบเบาๆ ให้ทั่วใบหน้าจะช่วยให้เซรั่มที่ใช้ในขั้นตอนถัดไปซึมซาบได้ดียิ่งขึ้น

ขั้นตอนที่ 6: บำรุงเฉพาะทางด้วยเซรั่ม (Serum/Treatment)

เซรั่มคือขั้นตอนการบำรุงผิวที่เน้นการใช้ส่วนผสมออกฤทธิ์ (active ingredients) ที่มีความเข้มข้นสูง เพื่อจัดการปัญหาผิวเฉพาะจุด เช่น ริ้วรอย หรือการสร้างคอลลาเจน

ควรทาเซรั่มหลังจากโทนเนอร์หรือเอสเซนส์ และก่อนมอยส์เจอไรเซอร์ หากใช้เซรั่มหลายตัว ให้เริ่มจากตัวที่เนื้อบางที่สุดก่อน เพื่อหลีกเลี่ยงการระคายเคือง แนะนำให้ใช้ทรีตเมนต์หลักเพียงหนึ่งตัวในตอนกลางคืน เช่น เรตินอล และควรระมัดระวังการใช้ส่วนผสมที่อาจทำปฏิกิริยาต่อกัน

ขั้นตอนที่ 7: ดูแลผิวรอบดวงตาด้วยอายครีม (Eye Cream)

การใช้อายครีมมีจุดประสงค์เพื่อดูแลปัญหาผิวรอบดวงตาโดยเฉพาะ เช่น ริ้วรอย ความบวม หรือรอยคล้ำ

ควรใช้นิ้วนางแตะครีมในปริมาณเท่าเมล็ดถั่วเบาๆ บริเวณใต้ตาและหางตา การทาอายครีมก่อนมอยส์เจอไรเซอร์เป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากอายครีมมักมีเนื้อบางเบากว่า จึงสามารถซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ดีโดยไม่ถูกเนื้อครีมที่หนักกว่าปิดกั้นการดูดซึม

ขั้นตอนที่ 8: จัดการปัญหาสิวด้วยยาแต้มสิว (Spot Treatment)

ให้แต้มยาปริมาณเล็กน้อยลงบนสิวหรือบริเวณที่มีปัญหาโดยตรง และทิ้งไว้ประมาณหนึ่งนาทีเพื่อให้ยาแห้งก่อนที่จะทามอยส์เจอไรเซอร์ทับ เพื่อให้ยาเกาะติดผิวได้ดี

สำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายมาก สามารถทามอยส์เจอไรเซอร์บางๆ ก่อนเพื่อเป็นเกราะป้องกันผิว (buffering) ซึ่งจะช่วยลดการระคายเคืองได้ แต่โดยทั่วไปแล้ว การใช้ยาแต้มสิวก่อนมอยส์เจอไรเซอร์จะให้ผลดีที่สุด เนื่องจากตัวยาสามารถสัมผัสกับผิวและรูขุมขนได้โดยตรง

ขั้นตอนที่ 9: ล็อกความชุ่มชื้นด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ (Moisturizer)

การทามอยส์เจอไรเซอร์คือขั้นตอนการให้ความชุ่มชื้นและสร้างชั้นเคลือบผิวเพื่อล็อกผลิตภัณฑ์บำรุงที่ทาก่อนหน้าไว้ ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพตลอดคืน

ควรใช้มอยส์เจอไรเซอร์ในปริมาณเท่าเหรียญนิกเกิล นวดเบาๆ ทั่วใบหน้า โดยหลีกเลี่ยงบริเวณที่แต้มยารักษาสิวเพื่อไม่ให้ยาเจือจาง การไม่ข้ามขั้นตอนนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้ผิวผลิตน้ำมันออกมามากเกินไปและยังช่วยรักษาสมดุลของเกราะป้องกันผิวขณะนอนหลับ

  • ผิวมันหรือเป็นสิวง่าย: ควรเลือกใช้มอยส์เจอไรเซอร์เนื้อบางเบาและไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน (non-comedogenic)
  • ผิวแห้ง: สามารถเลือกใช้ไนท์ครีมที่ให้ความชุ่มชื้นสูงได้

ขั้นตอนที่ 10: บำรุงขั้นสุดด้วยมาสก์หรือออยล์ (Sleeping Mask/Face Oil)

การใช้สลีปปิ้งมาสก์หรือเฟซออยล์เป็นขั้นตอนสุดท้ายของการบำรุงผิวตอนกลางคืน เพื่อสร้างชั้นเคลือบผิวที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นและล็อคสกินแคร์ขั้นตอนก่อนหน้าไว้ทั้งหมด

ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันการสูญเสียน้ำของผิวในขณะนอนหลับ (Transepidermal Water Loss) ทำให้ผิวสามารถดูดซึมทรีตเมนต์ต่างๆ ได้อย่างเต็มที่ตลอดทั้งคืน ควรใช้ผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้เป็นลำดับสุดท้ายเสมอ หลังจากผลิตภัณฑ์ที่เป็นน้ำและทรีตเมนต์ เพื่อไม่ให้ไปขัดขวางการดูดซึมของผลิตภัณฑ์เหล่านั้น

หลักเกณฑ์การเลือกใช้และลำดับของทรีตเมนต์เฉพาะทาง

ควรใช้ทรีตเมนต์เฉพาะทางหลังขั้นตอนโทนเนอร์แต่ก่อนมอยส์เจอไรเซอร์ โดยเรียงลำดับจากเนื้อบางเบาที่สุดไปหาเนื้อที่ข้นกว่า และหลีกเลี่ยงการใช้ส่วนผสมออกฤทธิ์แรงหลายชนิดพร้อมกัน เพื่อป้องกันการระคายเคืองและให้ผลิตภัณฑ์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

หลักเกณฑ์เพิ่มเติมสำหรับการใช้ทรีตเมนต์มีดังนี้:

  • หากใช้เซรั่มหลายตัว: ให้ทาตัวที่เนื้อบางที่สุดก่อน แล้วตามด้วยตัวที่เนื้อข้นกว่า
  • ยารักษาสิวเฉพาะจุด: ควรทาลงบนผิวที่สะอาดโดยตรงบริเวณที่เป็นสิว ก่อนทามอยส์เจอไรเซอร์ เพื่อให้ตัวยาได้สัมผัสกับผิวเต็มที่
  • การใช้ส่วนผสมออกฤทธิ์แรง: ไม่ควรใช้เรตินอลร่วมกับกรดผลัดเซลล์ผิวหรือวิตามินซีความเข้มข้นสูงในเวลาเดียวกัน ควรแยกใช้ เช่น ใช้วิตามินซีในตอนเช้า และใช้เรตินอลหรือกรดผลัดเซลล์ผิวในตอนกลางคืน

ความแตกต่างของขั้นตอนลงสกินแคร์ตอนเช้าและตอนกลางคืน

ขั้นตอนสกินแคร์ตอนเช้า: เน้นการป้องกันและเตรียมผิว

ขั้นตอนการดูแลผิวตอนเช้าเน้นการให้ความชุ่มชื้น ปกป้องผิวจากมลภาวะและรังสียูวี โดยมีเป้าหมายเพื่อเตรียมผิวให้พร้อมสำหรับตลอดทั้งวัน ซึ่งแตกต่างจากการดูแลผิวตอนกลางคืนที่เน้นการซ่อมแซม

ลำดับขั้นตอนการดูแลผิวตอนเช้าโดยทั่วไปมีดังนี้:

  1. ล้างหน้า (Cleanse): ใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่อ่อนโยนเพื่อขจัดความมันและสิ่งสกปรกที่เกิดขึ้นระหว่างนอนหลับ
  2. โทนเนอร์ (Toner): เป็นขั้นตอนเสริมที่สามารถข้ามได้ ช่วยเตรียมผิวและปรับสมดุล
  3. เซรั่ม (Serum): ใช้เซรั่มที่เน้นการป้องกัน เช่น เซรั่มวิตามินซี เพื่อต่อต้านอนุมูลอิสระ
  4. อายครีม (Eye Cream): ทาครีมบำรุงผิวรอบดวงตาเพื่อจัดการปัญหาริ้วรอยหรือความหมองคล้ำ
  5. มอยส์เจอไรเซอร์ (Moisturizer): ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว ควรเลือกเนื้อบางเบาที่ไม่ทำให้ผิวมันเยิ้ม
  6. ครีมกันแดด (Sunscreen): เป็นขั้นตอนสุดท้ายที่สำคัญที่สุดเสมอ ควรใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป เพื่อปกป้องผิวจากรังสียูวี

ขั้นตอนสกินแคร์ตอนกลางคืน: เน้นการซ่อมแซมและฟื้นฟู

ขั้นตอนการดูแลผิวตอนกลางคืนเน้นที่ การทำความสะอาดอย่างล้ำลึก การใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อซ่อมแซมและแก้ไขปัญหาผิว และการเติมความชุ่มชื้นอย่างเข้มข้น เพื่อฟื้นฟูผิวจากความเสียหายที่เผชิญมาตลอดทั้งวัน

โดยมีลำดับขั้นตอนดังนี้:

  1. ทำความสะอาดสองขั้นตอน (Double Cleanse): เริ่มด้วยคลีนซิ่งออยล์หรือไมเซล่า วอเตอร์ เพื่อล้างเครื่องสำอางและสิ่งสกปรก ตามด้วยเจลหรือโฟมล้างหน้า
  • ผลัดเซลล์ผิว (Exfoliate): ทำ 1-3 ครั้งต่อสัปดาห์หลังล้างหน้า (ควรเว้นในวันที่ใช้ผลิตภัณฑ์กลุ่มเรตินอล)
  • โทนเนอร์/เอสเซนส์ (Toner/Essence): ช่วยปรับสภาพผิวและเตรียมผิวให้พร้อมรับการบำรุงในขั้นตอนต่อไป
  • ทรีตเมนต์ (Treatments): ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยแก้ปัญหาผิวโดยเฉพาะ เช่น เรตินอล, เซรั่มลดเลือนริ้วรอย หรือผลิตภัณฑ์รักษาสิว
  • อายครีม (Eye Cream): ทาบริเวณผิวรอบดวงตาที่บอบบาง
  • ยาแต้มสิว (Spot Treatment): ใช้แต้มเฉพาะจุดที่เป็นสิว (หากมี)
  • มอยส์เจอไรเซอร์ (Moisturizer): ใช้ครีมบำรุงที่เข้มข้นกว่าตอนเช้าเพื่อล็อกความชุ่มชื้นและส่วนผสมต่างๆ
  • มาสก์นอนหรือเฟซออยล์ (Sleeping Mask/Face Oil): เป็นขั้นตอนสุดท้าย (เลือกใช้อย่างใดอย่างหนึ่ง) เพื่อช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นอย่างสูงสุดตลอดคืน

การปรับขั้นตอนให้เหมาะกับสภาพผิวและเป้าหมายของคุณ

ลำดับการลงสกินแคร์สำหรับผิวเป็นสิวและผิวแพ้ง่าย

ลำดับการลงสกินแคร์สำหรับผิวเป็นสิวคือการลงผลิตภัณฑ์รักษาสิวก่อนมอยส์เจอไรเซอร์ ส่วนผิวแพ้ง่ายควรเน้นการให้ความชุ่มชื้นและอาจใช้วิธีลงมอยส์เจอไรเซอร์ก่อนทรีตเมนต์เพื่อลดการระคายเคือง

หลักการลงสกินแคร์สำหรับผิวทั้งสองประเภทมีดังนี้

ผิวเป็นสิว:

  • ลำดับพื้นฐาน: ทำความสะอาด → ทรีตเมนต์รักษาสิว → มอยส์เจอไรเซอร์ → ครีมกันแดด (ตอนเช้า)
  • หัวใจสำคัญ: ควรลงผลิตภัณฑ์รักษาสิว เช่น เจลแต้มสิว หรือเซรั่มที่มีส่วนผสมอย่าง Salicylic Acid (BHA) *ก่อน* ลงมอยส์เจอไรเซอร์ เพื่อให้ตัวยาซึมซาบเข้าสู่ผิวและทำงานได้อย่างเต็มที่
  • คำแนะนำ: เลือกใช้มอยส์เจอไรเซอร์และครีมกันแดดสูตร non-comedogenic ที่ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน
  • ผิวแพ้ง่าย:
  • ลำดับพื้นฐาน: ทำความสะอาด → เซรั่มให้ความชุ่มชื้น → ทรีตเมนต์ (ถ้ามี) → มอยส์เจอไรเซอร์
  • หัวใจสำคัญ: เน้นการเสริมเกราะป้องกันผิว โดยอาจลงเซรั่มที่ให้ความชุ่มชื้น (เช่น Hyaluronic Acid) ก่อนทรีตเมนต์ที่มีฤทธิ์แรงเพื่อเตรียมผิว
  • คำแนะนำ: สำหรับทรีตเมนต์ที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง เช่น เรตินอล อาจใช้วิธี “Sandwich” คือการลงมอยส์เจอไรเซอร์บางๆ ก่อนและหลังลงเรตินอล เพื่อลดการระคายเคือง

เทคนิคการลงสกินแคร์ก่อนแต่งหน้าให้ติดทนนาน

เทคนิคสำคัญในการเตรียมผิวเพื่อให้เครื่องสำอางติดทนนานคือ การทำความสะอาดผิว ลงมอยส์เจอไรเซอร์ที่เหมาะสม และรอให้สกินแคร์ซึมเข้าสู่ผิวก่อนเริ่มแต่งหน้า การเตรียมผิวที่ชุ่มชื้นอย่างพอเหมาะจะช่วยให้เครื่องสำอางยึดเกาะได้ดีขึ้น ไม่ตกร่อง และไม่เป็นคราบระหว่างวัน

ขั้นตอนพื้นฐานมีดังนี้:

  1. ทำความสะอาดผิว: เริ่มต้นด้วยการล้างหน้าเพื่อขจัดความมันและสิ่งสกปรก
  • ลงมอยส์เจอไรเซอร์: เลือกใช้มอยส์เจอไรเซอร์ที่เหมาะกับสภาพผิว เช่น เนื้อบางเบาสำหรับผิวมัน หรือเนื้อครีมสำหรับผิวแห้ง เพื่อให้ผิวชุ่มชื้นและเครื่องสำอางไม่เป็นคราบ
  • รอให้สกินแคร์ซึม: ขั้นตอนนี้สำคัญมาก ควรรอประมาณ 5 นาทีให้มอยส์เจอไรเซอร์ซึมเข้าสู่ผิวจนหมดก่อนลงไพรเมอร์หรือรองพื้น เพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องสำอางเลื่อนหรือเป็นขุย

ควรเว้นระยะเวลานานเท่าไหร่ระหว่างการลงสกินแคร์แต่ละขั้นตอน

โดยทั่วไป ควรรอประมาณ 30 วินาทีถึง 1 นาที ระหว่างการลงสกินแคร์แต่ละขั้นตอน

การเว้นระยะเวลาสั้นๆ นี้จะช่วยให้ผลิตภัณฑ์แต่ละชั้นซึมซาบลงสู่ผิวได้ดีขึ้นและป้องกันไม่ให้ผลิตภัณฑ์จับตัวเป็นก้อน (pilling) หรือเจือจางกันเอง คุณไม่จำเป็นต้องรอนานเกินไป เพียงแค่รู้สึกว่าผิวหมาดๆ ไม่เปียกก็สามารถลงขั้นตอนต่อไปได้ ยกเว้นผลิตภัณฑ์บางชนิด เช่น ยาแต้มสิว ที่อาจต้องใช้เวลามากขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้ผลิตภัณฑ์แห้งสนิท

ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยในการลงสกินแคร์และวิธีหลีกเลี่ยง

ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยในการลงสกินแคร์ ได้แก่ การลงผิดลำดับ การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมออกฤทธิ์ (actives) มากเกินไป การทาครีมกันแดดผิดขั้นตอน และการไม่รอให้สกินแคร์ซึมเข้าสู่ผิว

เพื่อหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดเหล่านี้ ควรปฏิบัติดังนี้:

  • เรียงลำดับให้ถูกต้อง: ควรลงสกินแคร์จากเนื้อบางเบาที่สุดไปหาเนื้อหนักที่สุดเสมอ เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ซึมซาบได้อย่างเต็มที่
  • เลือกใช้ส่วนผสมออกฤทธิ์อย่างพอเหมาะ: หลีกเลี่ยงการใช้ส่วนผสมที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองร่วมกันในครั้งเดียว เช่น วิตามินซีกับเรตินอล ควรแบ่งใช้คนละเวลา เช่น วิตามินซีในตอนเช้า และเรตินอลในตอนกลางคืน
  • ทาครีมกันแดดเป็นขั้นตอนสุดท้าย: ในตอนเช้า ครีมกันแดดควรเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการบำรุงผิว (ก่อนแต่งหน้า) เสมอ เพื่อสร้างเกราะป้องกันผิวจากรังสียูวีอย่างมีประสิทธิภาพ
  • รอสักครู่ระหว่างแต่ละขั้นตอน: ควรรอประมาณ 30-60 วินาที หรือจนกว่าผลิตภัณฑ์ชั้นแรกจะเริ่มซึมเข้าสู่ผิว ไม่เหนียวเหนอะหนะ ก่อนที่จะลงผลิตภัณฑ์ตัวต่อไป เพื่อป้องกันไม่ให้สกินแคร์จับตัวเป็นก้อนและช่วยให้การดูดซึมดีขึ้น

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเรียงลำดับสกินแคร์

เอสเซนส์กับเซรั่มควรลงตัวไหนก่อนกัน?

ควรลงเอสเซนส์ก่อนเซรั่ม เนื่องจากเอสเซนส์มีเนื้อสัมผัสที่บางเบาและเป็นน้ำมากกว่า จึงช่วยเตรียมผิวให้ชุ่มชื้น ทำให้เซรั่มซึ่งมีความเข้มข้นสูงกว่าสามารถซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้น

มอยส์เจอไรเซอร์กับครีมกันแดดควรลงอะไรก่อน?

ควรทามอยส์เจอไรเซอร์ก่อนครีมกันแดด เนื่องจากครีมกันแดดถูกออกแบบมาเพื่อสร้างชั้นป้องกันบนผิวหนังเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการบำรุงผิวในตอนเช้า การทามอยส์เจอไรเซอร์ทับครีมกันแดดอาจทำให้ประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UV ลดลงได้

อย่างไรก็ตาม หากครีมกันแดดของคุณมีคุณสมบัติให้ความชุ่มชื้นเพียงพออยู่แล้ว คุณอาจไม่จำเป็นต้องใช้มอยส์เจอไรเซอร์แยกต่างหากก็ได้

การลงสกินแคร์ผิดลำดับส่งผลเสียต่อผิวอย่างไร?

การลงสกินแคร์ผิดลำดับทำให้ผลิตภัณฑ์มีประสิทธิภาพลดลงและสิ้นเปลือง เนื่องจากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อหนักอย่างครีมหรือออยล์ก่อน จะสร้างชั้นเคลือบผิวขึ้นมาขัดขวางไม่ให้สกินแคร์เนื้อบางเบาอย่างเซรั่มซึมซาบลงสู่ผิวได้

นอกจากนี้ยังอาจทำให้ผลิตภัณฑ์ไม่ซึมและจับตัวเป็นขุยบนผิวหนังได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การทามอยส์เจอไรเซอร์หลังครีมกันแดดจะลดประสิทธิภาพในการป้องกันรังสียูวีลงอย่างมาก

จำเป็นต้องรอให้สกินแคร์ซึมเข้าผิวก่อนลงขั้นตอนถัดไปหรือไม่?

จำเป็นต้องรอสักครู่ เพื่อให้สกินแคร์แต่ละชั้นเริ่มซึมเข้าสู่ผิวก่อนลงขั้นตอนถัดไป

การเว้นระยะเวลาสั้นๆ (ประมาณ 30 วินาทีถึง 1 นาที) จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมของผลิตภัณฑ์ ป้องกันการเจือจางของส่วนผสม และลดการเกิดขุย (pilling) ไม่จำเป็นต้องรอนานจนเกินไป เพียงแค่รู้สึกว่าผิวไม่เปียกแฉะก็สามารถลงสกินแคร์ตัวต่อไปได้

ขั้นตอนการลงสกินแคร์สำหรับคนเป็นสิวแตกต่างกันอย่างไร?

ขั้นตอนการลงสกินแคร์สำหรับคนเป็นสิวจะเน้นการใช้ยารักษาสิวทันทีหลังทำความสะอาด (หรือหลังโทนเนอร์) และก่อนทามอยส์เจอไรเซอร์ เพื่อให้ตัวยาสามารถซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังมีความแตกต่างที่สำคัญอื่นๆ ดังนี้

  • การเลือกผลิตภัณฑ์: เน้นใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยทำความสะอาดรูขุมขน เช่น กรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) และเลือกใช้มอยส์เจอไรเซอร์สูตรที่ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน (non-comedogenic)
  • ความเรียบง่าย: ควรหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์เนื้อหนัก เช่น ออยล์หรือเอสเซนส์เข้มข้น และไม่ควรใช้ส่วนผสมออกฤทธิ์รุนแรงหลายชนิดพร้อมกันเพื่อลดการระคายเคือง
  • การป้องกันแสงแดด: การทาครีมกันแดดในตอนเช้าเป็นขั้นตอนที่จำเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากยารักษาสิวหลายชนิดทำให้ผิวไวต่อแสงแดด

ตอนเช้าไม่ทาครีมบำรุงได้หรือไม่?

คุณสามารถข้ามขั้นตอนการทาครีมบำรุงในตอนเช้าได้ หากครีมกันแดดที่ใช้ให้ความชุ่มชื้นเพียงพอ หากผิวของคุณรู้สึกชุ่มชื้นและไม่แห้งตึงหลังจากทาครีมกันแดดเพียงอย่างเดียว ก็ไม่จำเป็นต้องทาครีมบำรุงเพิ่ม โดยเฉพาะคนที่มีผิวมันอาจพบว่าครีมกันแดดชนิดให้ความชุ่มชื้นนั้นเพียงพอแล้ว แต่หากผิวรู้สึกแห้ง ควรทาครีมบำรุงก่อนทาครีมกันแดด

References:

  1. American Academy of Dermatology. (n.d.). Should I apply my skin care products in a certain order? AAD – Skin Care FAQs. https://aad.org
  2. Fort Wayne Dermatology Consultants. How Your Skincare Routine Differs in the Morning vs. At Night. FW Derm Blog. https://fwderm.com
  3. Sanders, K. Unlocking the Power of Skincare Layering: How Combining Products Can Transform Your Skin. Reviva Labs Blog. https://revivalabs.com
  4. Rud, M. Why Double Cleansing Is Worth the Extra Time and Effort. Shape Magazine. https://shape.com
  5. Dr Sabrina. Skin Care Routine Order: Morning vs. Night. DrSabrina Blog. https://drsabrina.com
  6. Proactiv. How to Perfectly Apply Your Skincare Products. Proactiv Blog (Alchemee LLC). https://proactiv.com
  7. Chemist Confessions. The Chemists’ Occlusives Guide – Should You Be Slugging? https://chemistconfessions.com

แนะแนวเรื่อง

Previous Previous
หน้าดํากว่าตัวแก้ยังไง วิธีแก้เร่งด่วนทำตามได้ทันที
NextContinue
10 วิธีกู้ผิวคล้ำหมองดำให้ขาวใส ฟื้นฟูผิวแบบเร่งด่วน

สาขาพรีวาโต คลินิก

    สาขาอโศก ตั้งอยู่ที่ ชั้น 2 อาคารมิดทาวน์
    Phone: 02-258-4050 , 081-841-5075
    สาขาสีลม ตั้งอยู่ที่ ชั้น 1 อาคารซี.พี.ทาวเวอร์
    Phone: 02-780-2011 , 098-272-5244
    สาขาราชพฤกษ์ ตั้งอยู่ที่ ชั้น 2 ศูนย์การค้า เดอะคริสตัล เอสบี (ด้านบนร้านสตาร์บัคส์)
    Phone: 02-102-2778 , 098-272-5244

ติดต่อเรา

    Facebook: Privato Clinic
    Messenger: Privato Clinic
    Instagram: privatoclinic
    Email: privatoclinic@gmail.com
    Line: @privatoclinic

Copyright© 2022-2024. All Rights Reserved

Scroll to top
  • หน้าหลัก
  • เกี่ยวกับพรีวาโต
  • บริการทั้งหมด
    • ชะลอวัย
    • ยกกระชับผิว
      • XERF
      • Potenza
      • Sofwave
      • Ulthera
      • Thermage-FLX
    • รักษาสิว
    • เลเซอร์
    • โปรแกรมฉีด
    • บำรุงผิว
  • บทความ
    • สิว
    • ยกกระชับ
    • ดูแลผิว
    • ทำเลเซอร์
  • ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว
  • โปรโมชั่น
  • ผลลัพธ์การรักษา
  • วิดีโอรีวิวจากเคสจริง
  • สาขาของเรา
  • ไทย
    • ไทย
    • English
    • 中文 (中国)
  • ปรึกษาแพทย์
Facebook Instagram YouTube