Skip to content

TEL : 081-841-5075, 02-258-4050

Facebook Instagram YouTube
Privato Clinic – Innovation Of Beauty  |  Bangkok
  • หน้าหลัก
  • เกี่ยวกับพรีวาโต
  • บริการทั้งหมดExpand
    • ชะลอวัย
    • ยกกระชับผิวExpand
      • XERF
      • Potenza
      • Sofwave
      • Ulthera
      • Thermage-FLX
    • รักษาสิว
    • เลเซอร์
    • โปรแกรมฉีด
    • บำรุงผิว
  • บทความExpand
    • สิว
    • ยกกระชับ
    • ดูแลผิว
    • ทำเลเซอร์
  • ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว
  • โปรโมชั่น
  • ผลลัพธ์การรักษา
  • วิดีโอรีวิวจากเคสจริง
  • สาขาของเรา
  • ไทยExpand
    • ไทย
    • English
    • 中文 (中国)
  • ปรึกษาแพทย์
Privato Clinic – Innovation Of Beauty  |  Bangkok
Consult a Doctor
Acne

สิวเสี้ยนตรงจมูกใช้อะไรดี แก้ไขอย่างไรให้ตรงจุด

Byadmin กันยายน 28, 2025
By แพทย์หญิงนัชชนก หุ่นวิจิตร Updated on กันยายน 28, 2025
✦ Medically reviewed by  นายแพทย์เลอพงษ์ กรุดเงิน
สิวเสี้ยนตรงจมูกใช้อะไรดี แก้ไขอย่างไรให้ตรงจุด

สิวเสียนเยอะตรงจมูกใช้อะไรดี คือการเลือกแนวทางลดการอุดตันของรูขุมขนด้วย BHA 2% และเรตินอยด์ควบคู่การทำความสะอาดอย่างอ่อนโยนและหลีกเลี่ยงการกดลอก เพื่อให้สิวเสี้ยนมองเห็นน้อยลงผิวเรียบขึ้นและลดการกลับมาใหม่ โดยแพทย์แนะนำประเมินสภาพผิวและปรับสูตรหรือเสริมทรีตเมนต์คลินิกตามความจำเป็น

Table of Contents

Toggle
  • ทำความเข้าใจสิวเสี้ยน: สาเหตุและลักษณะที่แตกต่างจากสิวทั่วไป
    • สิวเสี้ยนเกิดจากอะไร: การสะสมของเคราตินและไขมัน
    • ความแตกต่างระหว่างสิวเสี้ยน (Trichostasis Spinulosa) และสิวหัวดำ
  • ส่วนผสมในสกินแคร์ที่แนะนำสำหรับลดสิวเสี้ยนที่จมูก
    • BHA (Salicylic Acid): ละลายไขมันที่อุดตันในรูขุมขน
    • AHA (Glycolic Acid): ผลัดเซลล์ผิวชั้นนอกที่ตายแล้ว
    • Retinoids: ควบคุมการผลัดเซลล์ผิวและลดการอุดตันระยะยาว
    • Niacinamide: ช่วยควบคุมความมันและเสริมเกราะป้องกันผิว
  • วิธีจัดการสิวเสี้ยนโดยผู้เชี่ยวชาญในคลินิก
    • การกดสิวอย่างถูกวิธีโดยผู้เชี่ยวชาญ
    • ทรีตเมนต์ผลัดเซลล์ผิวทางการแพทย์ (Medical Peels)
    • การใช้เลเซอร์เพื่อปรับสภาพผิวและกระชับรูขุมขน
  • ก่อนตัดสินใจ: ปัจจัยสำคัญในการเลือกวิธีที่เหมาะสมกับคุณ
    • การประเมินความรุนแรงและสภาพผิวของตนเอง
    • ความคาดหวังต่อผลลัพธ์และระยะเวลาที่ใช้ในการรักษา
    • การดูแลต่อเนื่องเพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ
  • ข้อควรระวังและวิธีที่ควรหลีกเลี่ยงในการกำจัดสิวเสี้ยน
    • ความเสี่ยงจากการใช้แผ่นลอกสิวเสี้ยนบ่อยเกินไป
    • อันตรายจากการบีบเค้นสิวเสี้ยนด้วยตัวเอง
    • การใช้สูตรธรรมชาติที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง
  • คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการรักษาสิวเสี้ยน
    • สิวเสี้ยนสามารถหายขาดถาวรได้หรือไม่?
    • การกดสิวเสี้ยนทำให้รูขุมขนกว้างขึ้นจริงไหม?
    • ควรใช้เวลานานเท่าไรจึงจะเห็นผลจากการใช้สกินแคร์?
    • ทำไมสิวเสี้ยนถึงกลับมาเป็นซ้ำที่เดิมบ่อยๆ?
    • จำเป็นต้องพบแพทย์เพื่อรักษาสิวเสี้ยนหรือไม่?
    • ทำอย่างไรให้ผิวจมูกเรียบเนียนหลังสิวเสี้ยนลดลง?
  • References:

ทำความเข้าใจสิวเสี้ยน: สาเหตุและลักษณะที่แตกต่างจากสิวทั่วไป

สิวเสี้ยนเกิดจากอะไร: การสะสมของเคราตินและไขมัน

สิวเสี้ยน (Sebaceous filaments) คือการสะสมตามธรรมชาติของซีบัม (ไขมัน) และเซลล์ผิวที่ตายแล้ว (เคราติน) ภายในรูขุมขน สิวเสี้ยนไม่ใช่สิว แต่เป็นโครงสร้างคล้ายท่อขนาดเล็กที่ทำหน้าที่นำน้ำมันจากต่อมไขมันขึ้นมาสู่ผิวหนังเพื่อรักษาความชุ่มชื้น ซึ่งเป็นส่วนประกอบปกติของผิวหนังและจะเกิดขึ้นใหม่อย่างต่อเนื่องตามธรรมชาติ

ความแตกต่างระหว่างสิวเสี้ยน (Trichostasis Spinulosa) และสิวหัวดำ

สิวเสี้ยน (Trichostasis Spinulosa) คือกระจุกของเส้นขนเล็กๆ ที่อุดตันอยู่ในรูขุมขน ในขณะที่สิวหัวดำเกิดจากการอุดตันของไขมันและเซลล์ผิวหนัง นอกจากนี้ สิวเสี้ยนยังมีแนวโน้มที่จะมีสีอ่อนกว่า (เช่น สีเทา สีเหลือง หรือสีซีด) และมีลักษณะแบนราบกว่าสิวหัวดำ

ส่วนผสมในสกินแคร์ที่แนะนำสำหรับลดสิวเสี้ยนที่จมูก

BHA (Salicylic Acid): ละลายไขมันที่อุดตันในรูขุมขน

กรดซาลิไซลิก (BHA) ช่วยละลายไขมันและสิ่งอุดตันในรูขุมขน ทำให้ซีบัมฟิลาเมนต์มีขนาดเล็กลงและมองเห็นได้น้อยลง การใช้กรดซาลิไซลิก 2% อย่างสม่ำเสมอเป็นเวลาหลายสัปดาห์ถึงสองสามเดือนจะช่วยสลายไขมันที่อุดตันและทำความสะอาดรูขุมขนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

AHA (Glycolic Acid): ผลัดเซลล์ผิวชั้นนอกที่ตายแล้ว

กรดไกลโคลิก (AHA) ช่วยสลายพันธะที่ยึดเหนี่ยวซีบัมและเคราตินที่สะสมอยู่ในรูขุมขน ซึ่งช่วยทำความสะอาดรูขุมขนที่อุดตันและทำให้ซีบัมฟิลาเมนต์ดูจางลง

Retinoids: ควบคุมการผลัดเซลล์ผิวและลดการอุดตันระยะยาว

เรตินอยด์ช่วยลดการผลิตซีบัม (น้ำมัน) และทำให้การผลัดเซลล์ผิวเป็นปกติ ซึ่งช่วยให้รูขุมขนไม่อุดตันและดูเล็กลง เมื่อใช้ต่อเนื่องเป็นเวลานาน เรตินอยด์สามารถช่วยลดขนาดต่อมไขมันและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น จากกรณีศึกษาพบว่าการใช้เรตินอยด์ทุกวันสามารถกำจัดสิวเสี้ยนได้ภายในเวลาประมาณ 6 สัปดาห์

Niacinamide: ช่วยควบคุมความมันและเสริมเกราะป้องกันผิว

ไนอะซินาไมด์ (Niacinamide) ช่วยลดความมันส่วนเกินและเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว ซึ่งทำให้รูขุมขนมีโอกาสอุดตันน้อยลงและอาจช่วยให้รูขุมขนดูเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ยังช่วยปรับปรุงความยืดหยุ่นของผิวและควบคุมความมันเพิ่มเติมได้อีกด้วย

วิธีจัดการสิวเสี้ยนโดยผู้เชี่ยวชาญในคลินิก

การรักษาสิวเสี้ยนโดยผู้เชี่ยวชาญในคลินิกมี 2 วิธีหลัก คือ การทำเคมีคอลพีลลิ่ง (Chemical Peels) และการใช้เลเซอร์ ซึ่งทั้งสองวิธีนี้จะช่วยลดการมองเห็นของสิวเสี้ยนได้ชั่วคราว

  • เคมีคอลพีลลิ่ง (Chemical Peels): ช่วยผลัดเซลล์ผิวและกำจัดไขมันกับเคราตินที่สะสมอยู่ในรูขุมขน ทำให้สิวเสี้ยนลดลงและผิวเรียบเนียนขึ้น
  • เลเซอร์ (Laser): เทคโนโลยีเลเซอร์ใหม่ๆ เช่น เลเซอร์ความยาวคลื่น 1726 นาโนเมตร สามารถเข้าไปทำลายเซลล์ที่ผลิตไขมันได้โดยตรง ส่งผลให้การผลิตไขมันลดลงในระยะยาว

การกดสิวอย่างถูกวิธีโดยผู้เชี่ยวชาญ

จากข้อมูลที่ให้มา การกดหรือบีบสิวเสี้ยนด้วยตนเองอาจทำให้รูขุมขนกว้างขึ้นและเกิดการอักเสบได้ เนื่องจากเป็นการทำลายเนื้อเยื่อรอบๆ และอาจนำไปสู่รอยแดงหรือรอยแผลเป็นได้

คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญคือควรหลีกเลี่ยงการกดสิวด้วยตนเอง และหันมาใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน เช่น กรดซาลิไซลิก (Salicylic acid) หรือปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม เช่น การทำเลเซอร์หรือการใช้ยาตามใบสั่งแพทย์ ซึ่งจะปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากกว่า

ทรีตเมนต์ผลัดเซลล์ผิวทางการแพทย์ (Medical Peels)

ทรีตเมนต์ผลัดเซลล์ผิวทางการแพทย์ช่วยกำจัดซีบัมและเคราตินที่สะสมอยู่ในรูขุมขน ซึ่งจะช่วยลดการมองเห็นของซีบัมฟิลาเมนต์ และปรับปรุงสภาพผิวโดยรวมให้ดีขึ้นผ่านการเร่งการผลัดเซลล์ผิว

การใช้เลเซอร์เพื่อปรับสภาพผิวและกระชับรูขุมขน

เทคโนโลยีเลเซอร์สามารถช่วยปรับสภาพผิวและกระชับรูขุมขนได้ โดยการทำลายเซลล์ที่ผลิตไขมันโดยตรง หรือใช้เพื่อปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนขึ้น

เทคโนโลยีเลเซอร์แบบใหม่ เช่น เลเซอร์ความยาวคลื่น 1726 nm สามารถกำหนดเป้าหมายไปที่ต่อมไขมันเพื่อทำลายเซลล์ที่ผลิตน้ำมัน (sebocytes) ซึ่งช่วยลดการผลิตไขมันในระยะยาวและทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น นอกจากนี้ การทำเลเซอร์ปรับสภาพผิว (laser resurfacing) ยังเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สามารถช่วยปรับแต่งและกระชับรูขุมขนที่กว้างมากให้ดูเล็กลงได้

ก่อนตัดสินใจ: ปัจจัยสำคัญในการเลือกวิธีที่เหมาะสมกับคุณ

การประเมินความรุนแรงและสภาพผิวของตนเอง

โดยปกติแล้วไม่จำเป็นต้องไปพบแพทย์เพื่อรักษาสิวเสี้ยนหัวเปิด (sebaceous filaments) เนื่องจากคนส่วนใหญ่สามารถจัดการได้ด้วยผลิตภัณฑ์ที่หาซื้อได้ทั่วไปและดูแลผิวอย่างสม่ำเสมอ

อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังหากสิวเสี้ยนหัวเปิดมีความโดดเด่นมาก, ทำให้คุณกังวลใจในด้านความสวยงาม, หรือมาพร้อมกับสิวอักเสบที่ไม่ดีขึ้นหลังจากการดูแลผิวตามปกติ แพทย์สามารถประเมินได้ว่ามีภาวะอื่นร่วมด้วยหรือไม่ และอาจสั่งยาที่แรงขึ้น เช่น เรตินอยด์ตามใบสั่งแพทย์ เพื่อควบคุมปัญหาได้ดีขึ้น

ความคาดหวังต่อผลลัพธ์และระยะเวลาที่ใช้ในการรักษา

การรักษาสิวเสี้ยน (sebaceous filaments) จำเป็นต้องทำอย่างต่อเนื่องเพื่อควบคุมลักษณะที่มองเห็นได้ เนื่องจากไม่สามารถกำจัดให้หายขาดได้อย่างถาวร

โดยทั่วไปจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนหลังจากดูแลผิวอย่างสม่ำเสมอเป็นเวลาหลายสัปดาห์จนถึงสองสามเดือน ตัวอย่างเช่น การใช้เรตินอยด์ทุกวันอาจช่วยลดสิวเสี้ยนส่วนใหญ่ได้ในเวลาประมาณ 6 สัปดาห์

เนื่องจากสิวเสี้ยนเป็นส่วนประกอบตามปกติของผิวหนัง มันจะกลับมาปรากฏอีกครั้งเมื่อรูขุมขนถูกเติมเต็มด้วยซีบัม ซึ่งมักจะเกิดขึ้นภายในเวลาประมาณ 30 วันหลังจากการกำจัด ดังนั้น เป้าหมายของการรักษาคือการลดขนาดและทำให้มองเห็นได้น้อยลง ไม่ใช่การรักษาให้หายขาด และจำเป็นต้องมีวินัยในการดูแลผิวระยะยาวเพื่อคงผลลัพธ์ไว้

การดูแลต่อเนื่องเพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ

การดูแลต่อเนื่องเพื่อป้องกันการกลับมาของสิวเสี้ยนต้องอาศัยการดูแลผิวอย่างสม่ำเสมอในระยะยาว เนื่องจากสิวเสี้ยนเป็นส่วนหนึ่งของผิวและจะกลับมาเป็นซ้ำเมื่อต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมาเติมเต็มรูขุมขนอีกครั้ง

แพทย์ผิวหนังแนะนำแนวทางการดูแลต่อเนื่องดังนี้:

  • ใช้เรตินอยด์: การใช้เรตินอยด์อย่างต่อเนื่องจะช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและปรับการผลัดเซลล์ผิวให้เป็นปกติ ทำให้รูขุมขนดูเล็กลงและผิวเรียบเนียนขึ้น
  • ใช้ไนอะซินาไมด์: ส่วนผสมนี้ช่วยปรับปรุงความยืดหยุ่นของผิวและควบคุมความมัน ทำให้รูขุมขนเกิดการอุดตันได้ยากขึ้น
  • ให้ความชุ่มชื้น: การทามอยส์เจอไรเซอร์อย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ผิวดูอิ่มฟูขึ้น ซึ่งทำให้รูขุมขนมองเห็นได้น้อยลง
  • หลีกเลี่ยงการบีบหรือกด: การบีบเค้นสิวเสี้ยนอาจทำให้รูขุมขนอักเสบและขยายใหญ่ขึ้นในระยะยาว ควรใช้วิธีผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยนแทน

ข้อควรระวังและวิธีที่ควรหลีกเลี่ยงในการกำจัดสิวเสี้ยน

ความเสี่ยงจากการใช้แผ่นลอกสิวเสี้ยนบ่อยเกินไป

ความเสี่ยงจากการใช้แผ่นลอกสิวเสี้ยนบ่อยเกินไปคืออาจทำให้ผิวแห้ง เกิดการระคายเคือง สิวอักเสบ และทำลายเยื่อบุรูขุมขนได้ การกำจัดสิวเสี้ยนบ่อยเกินไปอาจทำให้ผิวแห้งและเปิดโอกาสให้แบคทีเรียเข้าไปในผิวหนัง ซึ่งอาจนำไปสู่การระคายเคืองหรือแม้กระทั่งการเกิดสิวอักเสบได้ จึงควรใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้เท่าที่จำเป็นเพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหาย

อันตรายจากการบีบเค้นสิวเสี้ยนด้วยตัวเอง

การบีบเค้นสิวเสี้ยนอาจทำให้เกิดการอักเสบ รูขุมขนกว้างขึ้นอย่างถาวร และอาจเกิดรอยแผลเป็นได้ เนื่องจากการบีบหรือเค้นจะสร้างความเสียหายต่อเนื้อเยื่อรอบๆ และทำให้รูขุมขนขยายตัวอย่างรุนแรง

ผลเสียที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่:

  • รูขุมขนกว้างขึ้น: การอักเสบและการบาดเจ็บจากการบีบเค้นมักทำให้รูขุมขนยืดออกและดูกว้างขึ้นอย่างถาวร
  • การอักเสบและรอยแดง: การบีบเค้นทำให้ผิวหนังระคายเคืองและอักเสบ
  • การติดเชื้อ: การบีบเค้นบ่อยๆ อาจทำให้แบคทีเรียเข้าสู่ผิวหนังและก่อให้เกิดสิวอักเสบได้
  • รอยแผลเป็น: ในบางกรณีอาจทำให้เกิดรอยแผลเป็นได้

แพทย์ผิวหนังแนะนำให้หลีกเลี่ยงการบีบเค้น และหันมาใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยนแทน

การใช้สูตรธรรมชาติที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง

ควรใช้ความระมัดระวังกับสูตรหรือวิธีดูแลผิวที่เป็นกระแสบนอินเทอร์เน็ต เช่น “skin gritting” (การขัดผิวอย่างรุนแรง) เนื่องจากการนวดหรือพยายามเค้นเอาสิวเสี้ยนออกอย่างรุนแรงเกินไปอาจทำลายเกราะป้องกันผิวได้ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ใช้วิธีการที่อ่อนโยนและผ่านการพิสูจน์แล้วจะปลอดภัยกว่า เพื่อหลีกเลี่ยงการระคายเคือง การอักเสบ หรือทำให้รูขุมขนกว้างขึ้นในระยะยาว

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการรักษาสิวเสี้ยน

สิวเสี้ยนสามารถหายขาดถาวรได้หรือไม่?

สิวเสี้ยนไม่สามารถหายขาดถาวรได้ เนื่องจากเป็นส่วนประกอบตามปกติของผิวหนังและจะก่อตัวขึ้นใหม่เรื่อยๆ เพราะต่อมไขมันจะผลิตน้ำมันออกมาอย่างต่อเนื่อง แม้จะสามารถดูแลให้ดูจางลงได้ แต่ก็จะกลับมาใหม่เมื่อรูขุมขนเต็มไปด้วยไขมันอีกครั้งตามวงจรธรรมชาติของผิว

การกดสิวเสี้ยนทำให้รูขุมขนกว้างขึ้นจริงไหม?

จริง การบีบหรือกดสิวเสี้ยนอาจทำให้รูขุมขนกว้างขึ้นได้ เนื่องจากการกระทำดังกล่าวเป็นการขยายรูขุมขนอย่างรุนแรงและอาจทำลายเนื้อเยื่อโดยรอบ ซึ่งการอักเสบที่เกิดขึ้นมักนำไปสู่ปัญหารูขุมขนกว้าง รอยแดง หรือแม้กระทั่งรอยแผลเป็นได้

ควรใช้เวลานานเท่าไรจึงจะเห็นผลจากการใช้สกินแคร์?

โดยทั่วไปแล้ว ต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์ในการดูแลผิวอย่างสม่ำเสมอ จึงจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน

ตัวอย่างเช่น การใช้เรตินอยด์เฉพาะที่ทุกวันอาจเห็นผลในเวลาประมาณ 6 สัปดาห์ ในขณะที่การใช้กรดซาลิไซลิกเป็นประจำอาจต้องใช้เวลาสองสามสัปดาห์ถึงสองสามเดือนจึงจะเห็นผลลัพธ์ที่น่าพอใจ เนื่องจากปัญหานี้ไม่สามารถแก้ไขได้ในชั่วข้ามคืน แต่จะดีขึ้นเรื่อยๆ หากมีวินัยในการดูแลผิวอย่างต่อเนื่อง

ทำไมสิวเสี้ยนถึงกลับมาเป็นซ้ำที่เดิมบ่อยๆ?

เพราะบริเวณดังกล่าวมีต่อมไขมันหนาแน่นที่สุด ทำให้รูขุมขนผลิตและเติมซีบัม (น้ำมัน) ขึ้นมาใหม่อย่างต่อเนื่อง

การกลับมาเป็นซ้ำจึงเป็นเรื่องปกติและเป็นสัญญาณว่าผิวทำงานได้ดี โดยทั่วไปแล้วแม้จะกำจัดออกไปแล้ว สิวเสี้ยนจะกลับมาเต็มรูขุมขนอีกครั้งภายในเวลาประมาณ 30 วัน เนื่องจากต่อมไขมันต้องผลิตน้ำมันเพื่อให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว

จำเป็นต้องพบแพทย์เพื่อรักษาสิวเสี้ยนหรือไม่?

โดยปกติแล้วไม่จำเป็น เนื่องจากสิวเสี้ยนส่วนใหญ่สามารถจัดการได้ด้วยผลิตภัณฑ์ที่หาซื้อได้ทั่วไปและการดูแลผิวอย่างสม่ำเสมอ

อย่างไรก็ตาม หากสิวเสี้ยนมีขนาดใหญ่มากจนรบกวนความมั่นใจ หรือมีสิวอักเสบร่วมด้วยซึ่งไม่ดีขึ้นแม้จะดูแลผิวเป็นอย่างดีแล้ว ก็ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรับการประเมินและรับการรักษาที่เหมาะสมยิ่งขึ้น เช่น ยาทาในกลุ่มเรตินอยด์ที่สั่งโดยแพทย์

ทำอย่างไรให้ผิวจมูกเรียบเนียนหลังสิวเสี้ยนลดลง?

การทำให้ผิวจมูกเรียบเนียนหลังสิวเสี้ยนลดลงทำได้โดย การใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ช่วยปรับสภาพผิวและกระชับรูขุมขนอย่างต่อเนื่อง ร่วมกับการรักษาความชุ่มชื้นของผิว

เพื่อให้ผิวบริเวณจมูกดูเรียบเนียนขึ้นหลังจากจัดการสิวเสี้ยนแล้ว ควรปฏิบัติดังนี้:

  • ใช้เรตินอยด์ (Retinoids): ส่วนผสมนี้ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและปรับการผลัดเซลล์ผิวให้เป็นปกติ ทำให้รูขุมขนดูเล็กลงและผิวเรียบเนียนขึ้น
  • ใช้ไนอะซินาไมด์ (Niacinamide): ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของผิวและควบคุมความมัน ซึ่งทำให้รูขุมขนดูกระชับขึ้น
  • เพิ่มความชุ่มชื้น: การทามอยส์เจอไรเซอร์อย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ผิวดูอิ่มฟูขึ้น ทำให้รูขุมขนมองเห็นได้น้อยลง
  • พิจารณาการรักษาโดยผู้เชี่ยวชาญ: หากรูขุมขนกว้างมาก อาจพิจารณาทำเลเซอร์หรือทรีตเมนต์อื่นๆ เพื่อช่วยให้ผิวเรียบเนียนยิ่งขึ้น

References:

  1. Cleveland Clinic. (n.d.). Sebaceous Filaments: Difference From Blackheads & Treatment. Cleveland Clinic. clevelandclinic.org
  2. Giorgi, A. (n.d.). Sebaceous Filaments on Face: Treatments for Large Pores. Verywell Health. verywellhealth.com
  3. Schneider, J. (n.d.). Sebaceous Filaments: What Are These Blackhead Look-Alikes + 5 Ways To Get Rid Of Them. Mindbodygreen. mindbodygreen.com
  4. Portugal, K. (n.d.). Should Niacinamide Be In Your Skincare Routine? Alamo Heights Dermatology. alamoheightsderm.com
  5. Jayawardene, S. (n.d.). What is the Hidden Power of Niacinamide? Sequential Bio. sequential.bio
  6. Willson, A. (n.d.). Clear skin. forever? What you need to know about the latest in laser tech. American Society of Plastic Surgeons. plasticsurgery.org

แนะแนวเรื่อง

Previous Previous
สิวที่แก้มไม่หายสักที เกิดจากอะไร รักษาอย่างไรดี
NextContinue
รอยสิวกี่วันหาย? รวมวิธีรักษารอยดำ รอยแดงจากสิวให้จางเร็ว

สาขาพรีวาโต คลินิก

    สาขาอโศก ตั้งอยู่ที่ ชั้น 2 อาคารมิดทาวน์
    Phone: 02-258-4050 , 081-841-5075
    สาขาสีลม ตั้งอยู่ที่ ชั้น 1 อาคารซี.พี.ทาวเวอร์
    Phone: 02-780-2011 , 098-272-5244
    สาขาราชพฤกษ์ ตั้งอยู่ที่ ชั้น 2 ศูนย์การค้า เดอะคริสตัล เอสบี (ด้านบนร้านสตาร์บัคส์)
    Phone: 02-102-2778 , 098-272-5244

ติดต่อเรา

    Facebook: Privato Clinic
    Messenger: Privato Clinic
    Instagram: privatoclinic
    Email: privatoclinic@gmail.com
    Line: @privatoclinic

Copyright© 2022-2024. All Rights Reserved

Scroll to top
  • หน้าหลัก
  • เกี่ยวกับพรีวาโต
  • บริการทั้งหมด
    • ชะลอวัย
    • ยกกระชับผิว
      • XERF
      • Potenza
      • Sofwave
      • Ulthera
      • Thermage-FLX
    • รักษาสิว
    • เลเซอร์
    • โปรแกรมฉีด
    • บำรุงผิว
  • บทความ
    • สิว
    • ยกกระชับ
    • ดูแลผิว
    • ทำเลเซอร์
  • ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว
  • โปรโมชั่น
  • ผลลัพธ์การรักษา
  • วิดีโอรีวิวจากเคสจริง
  • สาขาของเรา
  • ไทย
    • ไทย
    • English
    • 中文 (中国)
  • ปรึกษาแพทย์
Facebook Instagram YouTube