ผู้หญิงกังวลใจ ผิวหน้าเป็นสิวฮอร์โมน

เข้าใจปัญหาสิวฮอร์โมน พร้อมรู้วิธีรักษาอย่างเหมาะสม

เมื่อเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น หลายคนอาจคุ้นเคยกับสิวที่ขึ้นมาบ่อย ๆ บนใบหน้า หรือที่เราเรียกกันว่า “สิวฮอร์โมน” แต่ความจริงแล้ว สิวประเภทนี้เป็นสิวที่เกิดขึ้นได้ในทุกช่วงวัย ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย อีกทั้งความเครียดสะสม ก็เป็นจุดเริ่มต้นของการเกิดสิวฮอร์โมนได้เช่นเดียวกัน

บทความนี้ชวนมาทำความเข้าใจ สาเหตุของการเกิดสิวประจำเดือน สิวฮอร์โมน พร้อมวิธีรับมือแก้ยังไงให้หายได้แบบไม่ทิ้งรอยดำไว้บนผิว เพื่อบอกลาปัญหาสิวกวนใจ

สิวฮอร์โมน คืออะไร ?

สิวฮอร์โมน คือ สิวที่เกิดขึ้นจากความเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนภายในร่างกาย โดยทั่วไปแล้วมักเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดิมซ้ำ ๆ เช่น ช่วงที่กำลังเป็นประจำเดือน ช่วงหลังหมดประจำเดือน หรือ ช่วงที่เผชิญกับความเครียด ซึ่งหลายคนอาจเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า สิวประจำเดือน

สาเหตุของการเกิดสิวฮอร์โมน

สิวฮอร์โมนเป็นปัญหาผิวที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะในช่วงวัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่ตอนต้น ซึ่งสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดสิวฮอร์โมนจะมีอยู่ด้วยกัน 3 ข้อหลัก ๆ ดังนี้

  • ฮอร์โมนในร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลง: เมื่อฮอร์โมนของเราเปลี่ยนแปลง จะไปกระตุ้นต่อมไขมันให้ผลิตน้ำมันออกมามากจนเกินไป ส่งผลให้รูขุมขนเกิดการอุดตันและอักเสบ นำไปสู่การเกิดสิวฮอร์โมน และสิวประจำเดือน หรือช่วงตั้งครรภ์ได้
  • ความเครียด: เมื่อเกิดความเครียด ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนคอร์ติซอลเพิ่มขึ้น แล้วไปกระตุ้นการสร้างน้ำมันบนผิวหนัง อีกทั้งยังจะทำให้ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ จนไม่สามารถสู้กับแบคทีเรียได้ ทำให้เกิดการสะสมและเกิดเป็นสิวได้
  • การพักผ่อนไม่เพียงพอ: ทำให้ระดับฮอร์โมนแปรปรวน ส่งผลให้เกิดการอักเสบ และการสะสมของน้ำมันส่วนเกินบนผิว ทำให้เป็นสิวในที่สุด

ลักษณะของสิวฮอร์โมน

สิวฮอร์โมนมีหลากหลายรูปแบบ ทั้งสิวอุดตัน สิวอักเสบ โดยจะแสดงอาการแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ซึ่งสามารถแยกลักษณะของสิวได้ทั้งหมด ดังนี้

  • สิวอุดตัน (Comedones) : มีทั้งสิวหัวดำ (Blackheads) ที่เป็นสิวอุดตันหัวเปิด มีการฝังตัวของเคราติน (Keratin) และลิพิด (Lipid) ที่เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน (Oxidation) กับอากาศ และสิวหัวขาวที่เป็นสิวอุดตันขนาดเล็ก มีความนูน และมีหัวสีขาวที่สังเกตเห็นได้ยาก
  • สิวอักเสบ (Inflammatory acne) : สิวฮอร์โมนอักเสบ รู้สึกเจ็บเมื่อสัมผัส มีความตึงนิด ๆ บริเวณผิวที่เป็นสิว โดยสามารถแบ่งเป็นลักษณะย่อยได้อีก 2 แบบ ได้แก่
    • สิวตุ่มนูนแดง (Papule) : สิวฮอร์โมนแบบไม่มีหัว มีอาการอักเสบ ลักษณะเม็ดกลม แดง มีขนาดเล็ก และไม่มีหนอง แต่จะมีความเจ็บเล็กน้อยเมื่อสัมผัส
    • สิวหัวหนอง (Pustule) : สิวแดงที่ตรงกลางเป็นหนองสีขาวเหลือง จะรู้สึกเจ็บปวดเมื่อสัมผัสโดน
    • สิวตุ่มแดงขนาดใหญ่ (Nodule) : สิวอักเสบระดับรุนแรงที่มีความเจ็บปวดมาก และเป็นสิวขนาดใหญ่ แต่จะแข็งเป็นก้อน และไม่มีหัวสิว หรือหนองภายใน แต่จะเกิดลึกถึงระดับชั้นใต้ผิวหนัง และควรไปเข้ารับการรักษาก่อนกลายเป็นปัญหาหลุมสิว

รักษาสิวประจำเดือน สิวฮอร์โมนให้หายแบบไม่ทำลายชั้นผิว

แนวทางการรับมือกับสิวฮอร์โมนอย่างถูกต้อง

สิวฮอร์โมน เป็นปัญหาผิวที่สร้างความรำคาญใจให้กับหลายคน โดยเฉพาะผู้หญิงที่จะพบเจอได้บ่อย ๆ ในช่วงมีประจำเดือน หรือช่วงตั้งครรภ์ ที่มีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเพศ ใครที่กังวลใจ อยากทำการรักษาให้ทุเลาลง หรือหายขาด เรามีแนวทางการรับมือที่ได้ผลดีมาฝาก

1. ทำการรักษาด้วยยา

สามารถดูแลสิวฮอร์โมนให้ดีขึ้นได้ง่าย ๆ ด้วยการรักษาแบบใช้ยา ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งยาทาสิวอย่าง กรดซาลิไซลิก เรตินอยด์ หรือยาทาตามแพทย์สั่ง เพื่อลดการอักเสบ ฆ่าเชื้อสิว ในขณะเดียวกันก็สามารถรับประทานยาร่วมด้วยได้

2. การฉีดสิว

สำหรับผู้ที่ต้องการรีบใช้ผิว อยากให้สิวอักเสบยุบเร็ว ๆ ก็สามารถเลือกทำการรักษาด้วยวิธีการฉีดสิวได้ แต่จะต้องทำภายใต้การดูแลของแพทย์ผิวหนังที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อฆ่าเชื้อ และลดอาการอักเสบของสิวขนาดใหญ่ ซึ่งวิธีนี้จะนิยมใช้กับสิวอักเสบแบบไม่มีหัว

3. การฉายแสง

แต่สำหรับผู้ที่มีสิวอุดตันและสิวอักเสบปะปนกันไป หากต้องการรักษาให้หายอย่างอ่อนโยน ไม่รบกวนผิว ไม่เจ็บตัว ก็สามารถเลือกวิธีฉายแสงฆ่าเชื้อสิวได้ โดยจะมีทั้งโปรแกรมเลเซอร์ลดการอักเสบ ฆ่าเชื้อสิว และโปรแกรม Laser ที่ดูแลผิวหลังเกิดสิว เพื่อลดรอยดำ รอยแดง และรอยแผลจากสิว ให้ผิวใสอย่างต่อเนื่อง

4. การผลัดเซลล์ผิว

บอกลาสิวฮอร์โมนชนิดสิวอุดตันได้อย่างมั่นใจ ด้วยการรักษาแบบการผลัดเซลล์ผิว ซึ่งจะเป็นการใช้กรดผลไม้ หรือสารเคมีทางการแพทย์เข้ามาช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ของผิว เพื่อให้ลดการอุดตันของรูขุมขน ในขณะเดียวกันก็ยังช่วยจัดการกับรอยดำ รอยแดง รอยแผลได้เป็นอย่างดี

ปัญหาสิวฮอร์โมน เป็นปัญหาที่ควรได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ เพราะสิวประเภทนี้มีสาเหตุมาจากฮอร์โมนที่อยู่ภายในร่างกาย หากรักษาเองอย่างไม่ถูกวิธี ด้วยการแกะหรือบีบสิว อาจทำให้เกิดรอยดำฝังลึก และทำให้ชั้นผิวหนังถูกทำลายได้

Privato Clinic คลินิกรักษาสิวในกรุงเทพฯ ที่พร้อมดูแลทุกปัญหาสิว ด้วยการบริการที่ครบวงจร พร้อมด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ควบคู่ไปกับการดูแลโดยแพทย์ผิวหนังที่เชี่ยวชาญ เข้ารับบริการได้ที่ Privato Clinic ทั้ง 3 สาขาในกรุงเทพฯ

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือนัดหมายเข้ารับบริการได้เลย

ข้อมูลอ้างอิง:

  1. Hormonal Acne. สืบค้นวันที่ 4 กรกฎาคม 2567 จาก https://my.clevelandclinic.org/health/diseases/21792-hormonal-acne

Author

  • นายแพทย์เลอพงษ์ กรุดเงิน

    แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณและเลเซอร์ที่มีประสบการณ์ด้านการรักษามากกว่า 15 ปี จบการศึกษาจากวิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า ผ่านการฝึกอบรมด้านนวัตกรรมความงามอย่างครอบคลุม ทั้งนวัตกรรม Anti-Aging, นวัตกรรมเติมเต็มและลดเลือนริ้วรอย, นวัตกรรมยกกระชับ ปรับรูปหน้า และนวัตกรรมด้านเลเซอร์ อีกทั้งเป็นแพทย์ที่ได้รับความไว้วางใจ จาก celebrity และดาราระดับ A list ในการดูแลผิวพรรณ.

    View all posts

Similar Posts