สิวที่คางเกิดจากอะไร รักษาอย่างไรให้ตรงจุด ?
ปัญหาสิว คือปัญหาที่เกิดขึ้นได้หลากหลายบริเวณบนใบหน้า และบางครั้งอาจเกิดขึ้นตามแผ่นหลังและหน้าอกอีกด้วย โดยหนึ่งในจุดที่สิวมักขึ้นบ่อย ๆ ก็คือบริเวณคาง ซึ่งมาพร้อมกับความรู้สึกเจ็บปวดที่ทำให้รำคาญใจ แถมยังทิ้งรอยดำที่ยากจะรักษา แล้วปัญหาสิวที่คางเกิดจากอะไร ? เรามาทำความเข้าใจสาเหตุของการเป็นสิวที่คาง พร้อมวิธีรับมือที่ถูกต้องได้ที่นี่เลย
สิวที่คางเกิดจากอะไร ?
- ฮอร์โมน
โดยส่วนใหญ่ การเป็นสิวที่คางมักเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมน Androgen หรือฮอร์โมนเพศชาย ซึ่งเมื่อฮอร์โมนชนิดนี้มีมากขึ้น จะกระตุ้นให้ต่อมไขมันทำงานมากกว่าปกติ และยังส่งผลให้เซลล์ผิวหนังในรูขุมขนเพิ่มจำนวนมากขึ้น จนเสี่ยงต่อการอุดตันและเป็นสิวได้ง่าย - การระคายเคือง
นอกจากระดับฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงแล้ว การเป็นสิวที่คางยังเกิดได้จากการระคายเคือง ซึ่งมีสาเหตุมาจากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะกับผิว หรือการที่ผิวเสียดสีกับหน้ากากอนามัย - อาหารที่รับประทาน
อาหารที่เรารับประทานในทุกวัน ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่อการเกิดสิวโดยตรง โดยเฉพาะอาหารที่มีไขมันสูง อาหารรสหวานจัด เค็มจัด และเผ็ดจัด รวมถึงอาหารและเครื่องดื่มที่ทำจากนม หรือมีส่วนผสมของนม - การสัมผัสใบหน้า
การใช้มือสัมผัสใบหน้าบ่อย ๆ ในระหว่างวัน จะทำให้เชื้อโรคและสิ่งสกปรกบนมือเข้าไปเกาะตัวอยู่บนผิวหน้า และอุดตันอยู่ในรูขุมขน จนกลายเป็นสิวที่คางและบริเวณอื่น ๆ ทั่วใบหน้า - มลภาวะและฝุ่นละอองต่าง ๆ
มลภาวะและฝุ่นละอองที่เราต้องเผชิญ ล้วนเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดสิวที่คาง ยิ่งถ้าหากเราล้างหน้าไม่สะอาด ก็ยิ่งทำให้สิวที่อุดตันอยู่แล้วจำนวนมาก กลายเป็นสิวอักเสบที่ทำให้รู้สึกเจ็บและทิ้งรอยเอาไว้ได้
3 ประเภทของสิวที่คางที่ต้องรู้จัก
สิวไม่มีหัว
สิวไม่มีหัว (Papule) คือ สิวที่มีลักษณะเป็นตุ่มนูนแดง แข็งเป็นไต มีขนาดเล็ก และไม่มีหัวหนอง สิวประเภทนี้มักไม่สามารถบีบออกได้ หากพยายามกดหรือบีบ อาจทำให้เกิดรอยแผลเป็นบนผิวหนัง
สิวอุดตัน
สิวอุดตัน (Comedones) คือ สิวที่มีลักษณะเป็นตุ่มนูนออกมาจากผิวหนัง คล้ายสิวไม่มีหัว แต่จะไม่มีความแดง เกิดจากการที่ไขมันส่วนเกินในชั้นผิว จับตัวกับสิ่งสกปรก และเข้าไปอุดตันอยู่ในรูขุมขน
สิวอักเสบ
สิวอักเสบ (Inflammatory acne) คือ สิวที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อว่า P.acnes ทำปฏิกิริยากับสิ่งสกปรกและไขมันที่สะสมอยู่ในรูขุมขน จนกลายเป็นการอักเสบ และทำให้รู้สึกเจ็บ ซึ่งหากใครที่เป็นสิวอักเสบที่คางเรื้อรัง และไม่รีบรักษา อาจทำให้เกิดหลุมสิวได้
สิวอักเสบที่คาง รักษายังไง ?
- ทำความสะอาดผิวให้หมดจด
ขั้นตอนสำคัญในการรักษาสิวที่คาง ก็คือการล้างหน้าให้สะอาดที่สุด เพื่อช่วยลดการสะสมของไขมันและสิ่งสกปรกบนผิวหน้า โดยใช้วิธีการล้างหน้าแบบ Double Cleansing ซึ่งเป็นการขจัดคราบไขมัน ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เครื่องสำอาง และฝุ่นละอองต่าง ๆ ด้วยผลิตภัณฑ์ Cleansing จากนั้นจึงทำความสะอาดผิวอีกครั้ง ด้วยผลิตภัณฑ์ Cleanser และหลังจากล้างหน้าแล้ว เราอาจใช้ผลิตภัณฑ์ Toner เช็ดเบา ๆ ให้ทั่วใบหน้าอีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีสิ่งสกปรกหลงเหลืออยู่ - หลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้ผิวระคายเคือง
เพราะการเป็นสิวที่คาง มักมีสาเหตุมาจากการที่ผิวระคายเคือง ดังนั้นเราจึงต้องสังเกตว่า มีปัจจัยใดบ้างที่ทำให้ผิวของเราเกิดการระคาย เช่น การสวมหน้ากากอนามัย การใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิว หรือการเผชิญกับมลภาวะ เพื่อให้เราสามารถหลีกเลี่ยงปัจจัยเหล่านี้ และช่วยลดโอกาสเกิดสิวได้มากขึ้น - งดการสัมผัสบริเวณคาง
ในช่วงที่เราเป็นสิวอักเสบที่คางเรื้อรัง สิ่งที่ต้องระวังเป็นพิเศษก็คือการใช้มือสัมผัสบริเวณคาง เพราะอาจทำให้สิวที่เป็นอยู่มีความรุนแรงมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการจับคาง หรือ การเท้าคาง ทั้งนี้ นอกจากการพยายามไม่ใช้มือจับที่คางแล้ว เราควรหมั่นล้างมือบ่อย ๆ เพื่อลดการสะสมของเชื้อโรคและแบคทีเรีย ซึ่งอาจทำให้เกิดสิวในบริเวณอื่น ๆ ตามไปด้วย - ปรึกษาแพทย์
นอกจากการทำความสะอาดผิวและการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม อีกหนึ่งวิธีที่สามารถรักษาสิวที่คางได้อย่างตรงจุด ก็คือการปรึกษาแพทย์ผิวหนัง เพื่อให้แพทย์ประเมินปัญหาและสภาพผิว และวางแผนการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสม เช่น การรักษาด้วยยาทา ยารับประทาน และหัตถการอื่น ๆ ซึ่งนอกจากจะช่วยรักษาสิวเรื้อรังได้แล้ว ยังช่วยลดรอยสิว ลดโอกาสเกิดสิวใหม่ และช่วยให้ผิวหน้าของเราแข็งแรงยิ่งขึ้น
จบทุกปัญหาสิวและรอยสิว ไปกับ Privato Clinic คลินิกรักษารอยสิวและปัญหาสิวในกรุงเทพฯ ที่พร้อมดูแลทุกปัญหาสิว ด้วยการบริการที่ครบวงจร พร้อมด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ควบคู่ไปกับการดูแลโดยแพทย์ผิวหนังที่เชี่ยวชาญ เข้ารับบริการได้ที่ Privato Clinic ทั้ง 3 สาขาในกรุงเทพฯ
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือนัดหมายเข้ารับบริการได้เลย